กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-08-2009, 16:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,306 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default อุปสรรคต้องฝ่าฟัน

ถาม : มีปัญหากับพวกที่ทำงานด้วยกัน ?
ตอบ : การงานทุกอย่างถามว่าอุปสรรคเกิดขึ้นได้อย่างไร โยมบอกว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวร คราวนี้เราก็ต้องมาดูว่า เจ้ากรรมนายเวรนั้น เขาสามารถที่จะมาขัดขวาง กลั่นแกล้งเราได้ด้วยสาเหตุอะไร ก็คือ เราต้องเคยทำสิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นกับเขามาก่อน ถ้าไม่เคยทำผลกรรม ไม่เคยมีกรรมเนื่องกันมา เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็แปลว่าเรารับในสิ่งที่เราทำนั่นเอง ในเมื่อเราทำเอง...ทำไมเราจะรับไม่ได้ จะชาตินี้ ชาติหน้า จะช้า จะเร็วก็ต้องรับอยู่แล้ว มาให้หมดเสียทีเดียว หมดเรื่องไปเลยก็ดี

มีอะไรก็ต่อสู้ฟันฝ่าไป ไม่รู้ว่าเคยได้ยินหรือเปล่า เขาบอกว่า

อุปสรรคมากมีที่ขัดขวาง
ต้องถากถางบุกบั่นไม่หวั่นไหว
ถึงทุกข์ยากลำบากสักเพียงใด
ต้องฝ่าฟันพ้นไปได้สักวัน

ของสิ่งใดการได้มาถ้าลำบาก
ต้องทุกข์ยากมักมีค่ามหาศาล
ดุจเหล็กกล้าผ่านการทุบชุบเป็นนาน
จึงตระการเป็นอาวุธสุดแหลมคม

บอกแล้วว่าอุปสรรคสร้างความแข็งแกร่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าบอกมัชฌิมาปฏิปทา พอดิบพอดี ถ้าเยอะเกินก็เป็นโทษ

ตอนนี้เสียดายอยู่อย่างหนึ่ง เสียดายความบ้าที่หมดไปเยอะ สมัยก่อนออกธุดงค์ สารพัดอุปสรรค โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในป่าแสนจะลำบาก บางทีเดินเป็นวัน ๆ หาน้ำไม่ได้เลย

ตอนขึ้นเขาก็ว่าขึ้นเขาแค่สามยอด แต่ตอนลงเจ็ดสิบกว่ายอดก็ยังไม่ถึงพื้นเสียที กว่าจะรู้เหลียวกลับไป ยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีนเสียอีก แสดงว่าขึ้นผิดข้าง ไปขึ้นด้านที่สูงแล้วไปลงด้านที่ต่ำ ถ้าขึ้นด้านที่สูงตั้งแต่ทีแรกอาจจะไม่ไปก็ได้ บางครั้งเดินอยู่สิบกว่าวันไม่เจอบ้านคนเลย ลำบากขนาดนั้น แต่ใจไม่ได้คิดท้อสักนิด ไปข้างหน้าอย่างเดียว

ความมุ่งมั่นอยู่ที่ว่า ให้รู้ไปว่าจะผ่านได้ไหม ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะมีความดื้อ ความบ้าได้ขนาดนั้น จนกระทั่งสิบกว่าวันผ่านไปเพิ่งมานึกขึ้นได้ว่า แล้วทำไมไม่พิจารณาให้เห็นว่า ความทุกข์นี้เป็นปกติของร่างกาย ในเมื่อมีความทุกข์เป็นปกติของอย่างนี้ ความทุกข์ที่เกิดขึ้นก็แสดงว่าเต้องเคยสร้างกรรมนี้ไว้จึงต้องมารับ ในเมื่อทำมาเอง ทำไมจะรับเองไม่ได้

พอคิดตรงนี้ อ๋อ..เป็นธรรมดาอย่างนี้เอง กว่าจะมายอมรับได้ ยังมานึก ๆ เลยว่า ตกระกำลำบากมาไม่ได้มีคิดสักนิดเดียวว่าจะถอย มีแต่มุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 09:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-08-2009, 17:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,306 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ในสังสารวัฏอันยาวไกลที่หาต้นหาปลายไม่เจอ เมื่อตถาคตปรารถนาพระโพธิญาณไว้ ขึ้นชื่อคำว่าท้อถอยแม้แต่น้อยหนึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในใจ ได้ยินแล้วอยากจะยกท่านขึ้นเหนือหัวไว้ตรงนั้นเลย ของเราเองห่างจากท่านจนประมาณไม่ได้ ยังบ้าได้ขนาดนี้

แล้วกำลังใจที่มุ่งเพื่อคนส่วนใหญ่ พระองค์ท่านตรัสว่าต่อให้เห็นจักรวาลที่ไฟลุกท่วมปราศจากช่องว่าง ยังกล้าเดินลุยไปเพื่อช่วยคนอื่นที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งได้ ถ้าอย่างนั้นจึงควรปรารถนาโพธิญาณ ของอาตมาไม่ได้เศษเสี้ยวของพระองค์ท่านคนเขายังว่าบ้าเลย ของพระองค์ท่านต้องสุดยอดอยู่แล้ว พอได้ยินตรงนี้อยากจะยกพระองค์ท่านไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าเดี๋ยวนั้นเลย กำลังใจของพระองค์ท่านไม่มีอะไรเปรียบได้จริง ๆ พระองค์จึงเป็นพระพุทธเจ้าได้ ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาได้

ดังนั้น..กำลังใจของพวกเราในปัจจุบันนี้ มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ให้คิดว่าอย่างน้อย ๆ เราเกิดมาทั้งทีได้พบพระพุทธศาสนา กำลังใจเราไม่ได้อย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ขอสักส่วนหนึ่งก็ยังดี ๑ เปอร์เซ็นต์ของมหาเศรษฐี คนจนอาจจะใช้ไปทั้งชาติ ดังนั้น..เอาแค่ ๑ เปอร์เซ็นต์นี่แหละ เอาให้รู้ไปเลยว่าจะมีงานอะไรที่เราจะทำไม่ได้

งานทางธรรมยากเสียยิ่งกว่ายาก เรายังตั้งหน้าตั้งตาทำ งานทางโลกจะไปยากอะไร ดังนั้น..กลับไปเข็นข้างฝาไม่ได้ก็เดินให้ทะลุไปเลย ถ้ามั่นใจว่าเราทำดีแล้ว ทำถูกต้องแล้ว พิจารณารอบคอบแล้ว ลุยทำให้เต็มที่ ถึงไม่สำเร็จก็ยังตอบตัวเองได้ว่าเราทุ่มเทสุดชีวิตแล้ว แต่ถ้าสำเร็จจะเป็นความภาคภูมิใจ เป็นความปีติของตัวเอง แล้วจะส่งให้เรามีกำลังใจกระทำในสิ่งที่ยากกว่านั้นขึ้นไปอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-08-2009, 17:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,306 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แต่ผู้นำ...
ตอบ : ไม่เป็นไร ในเวสารัชชการณธรรม มีความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมั่นในผู้นำ เชื่อมั่นในตนเอง ทั้งหมด ๔ ส่วน ใน ๔ ส่วนเราได้ไป ๓ ส่วนก็ลุยไปเลย สมัยก่อนอาตมาต้อง ๘๐-๙๐ ส่วน จึงจะเอา สมัยนี้ ๑ ต่อ ๙๙ ยังเอาเลย ต้องค่อย ๆ สั่งสมกำลังใจให้มากขึ้น ลองทำไปดูก่อน ทำไป ๆ เราอาจจะกลายเป็นคนชักหุ่นกระบอกก็ได้ ทำไป..ยากนักใช่ไหม เราก็อยู่เบื้องหลัง ชักใยไปเลย ผู้นำไม่ได้เรื่อง เราก็อาศัยอำนาจท่านจัดการเองเลย

ถาม : ใช่เลย ใช่เลย หลวงพ่อตอบโจทย์หนูเลย
ตอบ : ให้มั่นใจว่าเราทำดีจริง ทำถูกจริง ไม่เป็นไร เราชักใยได้ ถ้าหากว่าจะเป๋วันไหนก็ถอยออกมา เพราะว่าเราอาจจะสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิด อันนี้อยู่ที่เรารักษากำลังใจ เราจะทำแต่ในสิ่งที่ดี ในเมื่อดีและเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ถึงจะต้องเล่นใครเป็นหุ่นยนต์ก็ต้องยอม

ถาม : ไม่เสี่ยงหรือคะ
ตอบ : ไม่เสี่ยงหรอก เพราะเราทำดี ทุกอย่างอยู่ที่เจตนา จะมีสักกี่ร้อยคนก็ชักใยไปเถอะ


เทศน์ช่วงเช้า ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 10:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-08-2009, 17:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,306 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "จริง ๆ โยมเขาเป็นคนแม่นประเด็น น่าสรรเสริญ แต่เขาไม่เข้าใจเรื่องของธรรมะที่บางอย่างเราบอกตรงไม่ได้ เราเลี้ยวข้าง แกก็โดดไปดักหน้าอีก

เขาลังเลว่าสิ่งที่เขาทำจะผิดหรือเปล่า ในเมื่อผู้นำไม่ได้เรื่อง ก็ให้เขาจับซ้ายหันขวาหันไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 10:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว