|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#121
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าลาศีล ๘ เพื่อมาถือศีล ๕ ชั่วคราว ?
ตอบ : จริงแล้ว ๆ ทำได้ แต่ต้องดูด้วยว่ามีจุดมุ่งหมายอะไร ถ้าเราลามาเพื่อที่จะกินข้าวเย็นแล้วไปรักษาศีล ๘ ใหม่ อย่างนั้นจะมีโทษปรามาสพระรัตนตรัย เพราะทำเป็นเล่น ๆ แบบที่บาลีเรียกว่าสีลัพพตปรามาส รักษาศีลแบบลูบ ๆ คลำ ๆ ถ้าหากว่าจะทำก็ทำให้เด็ดขาดไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 12:57 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#122
|
||||
|
||||
ถาม : หลุมดำมีจริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มีจริง ถาม : รูปร่างเหมือนกับที่เขาเห็นหรือเปล่าครับ ? ตอบ : เขาว่าได้ตามที่เขารู้สึกว่าเป็นอย่างนั้น ตัดสินกันไม่ได้เพราะว่าอยู่ไกลมาก แต่ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะของหลุมดำเหมือนกะลาคว่ำ ด้วยความที่ว่าอากาศไปถึงตรงนั้นแล้วเหมือนเจอน้ำวน บรรดาดวงดาวต่าง ๆ เลยถูกดูดอยู่เข้าไปในกะลาคว่ำ เสียเวลาคุย..ต้องไปดูเอง ถาม : ผมเห็นแต่ทฤษฎีของฮอว์กิ้ง ? ตอบ : ที่อาตมาตั้งใจไปอ่าน เพราะอยากรู้ว่าเขารู้แค่ไหน ถาม : ตกลงว่าใกล้เคียงใช่ไหมครับ ? ตอบ : ทฤษฎีต่าง ๆ ที่เขาตั้งไว้นั้นไม่ใช่ ที่เขาบอกว่าโดนดูดกลืนหายไปหมด ก็ไม่ได้หายไปหมด เพียงแต่นานเหลือเกินกว่าจะหลุดออกมา เพราะคลื่นอากาศที่หมุนวน พอหมุนไปนานเข้า ๆ สมมติว่าเป็นดวงดาวดวงหนึ่ง พอหลุดเข้าไป ในที่สุดก็ต้องออกมา อาจจะเป็นหลายร้อยปี ซึ่งเขาไม่มีปัญญาที่จะเฝ้าดูได้นานขนาดนั้น เขาก็เลยสรุปว่าไม่มีอะไรหลุดออกมาได้ ถาม : ตอนแรกมีมวลก้อนหนึ่งก้อนเล็ก แล้วกลายเป็นเหมือนน้ำวน ? ตอบ : เราต้องลองนึกดูว่า ถ้าเป็นมวลสาร เมื่อดึงอย่างอื่นเข้าไปแล้วหายไป ฉะนั้น..จะเป็นมวลสารไม่ได้ ต้องเป็นพลังงาน เมื่อเป็นพลังงานแล้วแหล่งกำเนิดมาจากไหน ? เถียงกันไปก็ไม่จบ เพราะว่าเขาไม่ได้ไปเห็นจริง ๆ นั่นคือลักษณะที่คิดว่าคาดว่า จนกำหนดเป็นทฤษฎีขึ้นมา ถ้าตราบใดที่หาหลักฐานที่ดีกว่านั้นมาค้านไม่ได้ ก็ใช้ทฤษฎีนั้นไปเรื่อย ๆ พอถึงเวลาที่มีคนคัดค้านได้ ยกทฤษฎีใหม่ที่น่าเชื่อถือกว่าขึ้นมา ก็เอามาใช้ต่อ ทฤษฎีเก่าก็ตกไป นี่ก็คือหลักของวิทยาศาสตร์ทั่ว ๆ ไป แต่หลักพุทธศาสตร์ของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ทฤษฎี เป็นอริยสัจ ถ้าหากภาษาอังกฤษ ทฤษฎีเขาเรียกว่า Theory แต่ของพุทธศาสตร์ต้องเป็น Theorem ทฤษฎีสมบูรณ์ ไม่สามารถที่จะคัดค้านได้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นความจริง อัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ที่พระองค์ท่านประกาศว่ารู้ธรรม ไม่มีใครคัดค้านได้ เพราะสิ่งที่พระองค์ท่านรู้เป็นความจริงแท้ ต้องไปอธิบายให้ฝรั่งเขาเข้าใจให้ได้ พระองค์ท่านบอกว่าทุกคนเกิดมาไม่เที่ยง ก็ไม่เที่ยงจริง ๆ เพราะไม่มีใครอยู่ได้ในลักษณะเดิม อย่าชวนคุยเรื่องนี้ เดี๋ยวน้ำลายแตกฟอง..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 13:02 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#123
|
||||
|
||||
ถาม : ผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็น ผมจะทำลายความอยากรู้อยากเห็นได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : ต้องรู้เห็นได้จริง ถ้ารู้เห็นได้จริง ๆ ก็หมดอยากแล้ว ฝึกทิพจักขุญานให้ประเภทใช้งานได้จริงไปเลย อยากรู้อยากเห็นไม่ใช่ความผิด แต่ต้องมีสติว่า สิ่งที่เรารู้เห็น จะช่วยให้เราพ้นทุกข์ได้อย่างไร ไม่ใช่รู้แล้วไปติดแหง็ก เหมือนแมลงติดใยแมงมุม ยิ่งดิ้นก็ยิ่งพันแน่นไปเรื่อย ไม่มีโอกาสหลุดได้เลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 13:03 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#124
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยโบราณ อาจจะเป็นเพราะจิตคนสงบไม่วุ่นวาย ความเป็นทิพย์เกิดง่าย เขาก็เลยเห็นผี เห็นเปรต เห็นเทวดา เป็นปกติ คนสมัยก่อนเวลาไปถามว่าเป็นใคร จะบอกว่าเป็นคน อย่างคำว่า "ไท" แปลตรง ๆ ก็แปลว่าคน ภาษาโบราณเขาว่า "มึงเป็นไทบ้านได๋ ?" มึงเป็นคนบ้านไหน "กูเป็นไทหนองบัว" กูเป็นคนหนองบัว
ก็แปลกที่ว่าคนทุกชาติทุกภาษาเรียกตัวเองว่าคน แม้กระทั่งพวกมอร์แกน ที่เราเรียกชาวเล เขาเรียกตัวเองว่า "อูรักลาโว้ย" แปลว่า "ข้าคือคน" เป็นเรื่องที่ประหลาดดีเหมือนกัน เพราะว่าเขาเห็นภพภูมิอื่นด้วย ก็ต้องยืนยันว่าตัวเองเป็นคน คงกลัวเขาเข้าใจผิดว่าเป็นนางฟ้าเทวดา หรือไม่ก็พวกเปรตอสุรกายไปเลย..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 16:27 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#125
|
||||
|
||||
ถาม : คนที่ได้ทิพจักขุญาณในด้านทิพโสต มักจะเจอผีแกล้ง โดยเขาจะใช้ความเป็นทิพย์ทางการได้ยินของเราเป็นช่องทางในการโจมตีเรา เราจะมีวิธีป้องกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : อย่าไปสนใจเท่านั้นเอง ดูว่ามีเรื่องเกี่ยวอะไรกับเราหรือเปล่า ถ้าไม่เกี่ยวก็ไม่ต้องไปสนใจ ถาม : คนที่มีนิสัยเป็นเด็กอย่างผม มีวิธีแก้นิสัยที่ติดความเป็นเด็ก ให้เป็นผู้ใหญ่ไหมครับ ? ตอบ : ถ้าติดเป็นนิสัยจริง ๆ แก้ไม่ได้ พระอรหันต์ยังแก้ไม่ได้เลย ดูตัวอย่างพระสารีบุตร เรื่องของทิพจักขุหรือทิพโสต ถ้าเรารำคาญ ใช้วิธีเข้าสมาธิที่เกินกว่าอุปจารสมาธิ แต่อย่าให้ถึงฌาน ๔ ต้องมีความชำนาญในการเข้าออกฌานในแต่ละระดับ ในเมื่อเราขึ้นเกินอุปจารสมาธิแต่ไม่ถึงฌาน ๔ ความรู้เห็นต่าง ๆ จะไม่มา แต่ถ้าป้องกันตัวเองไม่ให้กิเลสกินได้ จำเป็นต้องเข้าสมาธิในระดับสูง ๆ ก็จะไม่ต้องไปสนใจ ถาม : อย่างนี้ความสามารถด้านการรับรู้ที่เราได้ที่เรามี ก็เป็นดาบสองคมสิครับ ? ตอบ : อยู่ที่ว่าคุณจะทำตัวอย่างไร ถ้าทำตัวผิดก็เป็นดาบสองคม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 20:18 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#126
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามีเครื่องวัดอากาศประจำตัวคือโรคมาลาเรีย อากาศเปลี่ยนทีไรเป็นไข้จับ ก็ต้องบอกว่าเป็นความเมตตา เพราะถ้าไม่ป่วยก็อาจจะหลงตัวเอง
พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนเราเกิดมาเมา ๓ อย่าง ก็คือ เมาในความเป็นหนุ่มเป็นสาว เรียกว่าเมาวัย ไม่คิดว่าจะแก่ เมาในความไม่มีโรค ร่างกายแข็งแรงก็ประมาท และเมาในชีวิต คิดว่าจะอยู่จนอายุเท่านั้นเท่านี้่โดย ไม่ตาย ดังนั้น..ในเมื่อมีโรคประจำตัวก็ถือว่าเขาคอยเตือนอยู่เรื่อย มีคนโพสต์รูปโลงศพลงอินเตอร์เน็ตแล้วเขียนว่า “พัสดุจากพระยามัจจุราช” เราส่งคำเตือนมาถึงท่านแล้ว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 20:19 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#127
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้อาตมากำลังไล่เก็บประวัติตนเอง ต้องบอกว่าประวัติพระครูวิลาศกาญจนธรรมฉบับตัดปะ คือไปดูตามเว็บที่พูดเรื่องต่าง ๆ ไว้ แล้วจับมาต่อกันเป็นชีวิตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นต้องเขียนประวัติตนเองใหม่ นี่เล่าไว้เยอะแล้ว
เดี๋ยวพออายุ ๖๐ ปีแล้วจะลงประวัติให้ดู ลงแล้วไม่มีอะไรใหม่เลย เพราะเล่าให้ฟังหมดแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 20:20 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#128
|
||||
|
||||
ถาม : ผมมีพระวิสุทธิเทพเนื้อเงินยวง เอามาถวายเป็นพระสังฆทานเวียนได้ไหมครับ ?
ตอบ : เอามาจากไหน ? ถาม : จำชื่อวัดไม่ได้ครับ ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นพระที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ไม่ควรเอามาเป็นพระสังฆทาน เพราะว่ามีเทวดาท่านรักษาประจำอยู่แล้ว ไปยกขึ้นลง ข้ามไปมา เดี๋ยวท่านรำคาญจะสวนเอา..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2014 เมื่อ 03:18 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#129
|
||||
|
||||
ถาม : ระหว่างผลของกรรมที่ทำมากับคำสอนของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา อย่างไหนมีผลมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : กรรมในอดีตมีผลในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบันมักจะมีผลในอนาคต แต่ว่าวินาทีข้างหน้าก็เป็นอนาคตแล้ว เพราะฉะนั้น..ให้ตั้งใจทำความดีให้ต่อเนื่องเข้าไว้ โดยเฉพาะบุญใหญ่จาก ทาน ศีล ภาวนา มีโอกาสที่จะได้รับผลในอนาคตคือชาตินี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2014 เมื่อ 03:19 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#130
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนธันวาคมปี ๕๗ หมดแล้วค่ะ ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|