กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 28-05-2012, 18:32
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

ท่านผู้บริหารระดับสูงท่านที่กล่าวถึงนี้ ท่านมีความสามารถด้านภาษาเป็นอย่างยิ่ง
ดังที่ได้มีโอกาสอ่านร้อยกรองไพเราะยิ่ง ที่ท่านแต่งอยู่เนือง ๆ แต่ไม่เป็นสาธารณะ
คราวหนึ่งเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ท่านส่งข้อความประกอบข้อมูลข่าวสารในงาน มาถึงพวกเรา

"ช่วงนี้ ประเทศที่รักของเรามีการพูดถึงเรื่องปรองดองอย่างแพร่หลาย
มีทั้งการตั้งคณะกรรมการศึกษาและมีสถาบันชั้นนำของประเทศออกผลงานวิจัย
ผมก็ขอส่งกำลังใจให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างสามารถบรรลุผลเพื่อความสมานฉันท์ของพวกเราชาวไทยสืบไป
อนึ่ง ผมนึกถึงคำสอนแสนเรียบง่าย ที่บรรพบุรุษของเราสอนลูกหลานให้รู้จักรักกันนาน ๆ คือ


รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ

Love lasts long,
Only if you chop what is wrong.
Love lasts short,
When you prolong a scathing retort.


(ผมถอดความเป็นภาษาอังกฤษเองครับ)

เห็นไหมครับ บรรพบุรุษของเราสุดยอดมาก ๆ
ผมภูมิใจบรรพบุรุษของชาวไทยเราจัง :-))
"

หมายเหตุ :
กรุณาอย่านำข้อความนี้ออกนอกเว็บ
(ไม่ได้ขออนุญาตนำลงเป็นทางการ)
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 28-05-2012 เมื่อ 19:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 13-09-2012, 17:28
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

ตั้งแต่มีการใช้เฟซบุ๊กกันอย่างแพร่หลาย ก็ได้รับข้อธรรมจากเพื่อน ๆ แต่ละวันหลากหลาย จากต่างกลุ่ม
เลือกสรรจากที่ต่าง ๆ หรือแบ่งปันข้อคิดส่วนตัวบ้าง
ทั้งที่ซ้ำ และไม่ซ้ำ อ่านทันบ้าง อ่านไม่ทันบ้าง ขอขมาข้ามไปบ้าง... ทำให้กระทู้นี้ดูจะเงียบเหงาไป

ทีแรกก็ว่าจะเล่าถึงที่ทำงานจัดกิจกรรมบุญให้พนักงานได้ใส่บาตรทุกเดือน มีการสวดมนต์ และปฏิบัติพระกรรมฐานทุกสัปดาห์
ล่าสุด เช่นเดียวกับปีที่แล้ว คือจัดอุปสมบทหมู่ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง
ปีนี้ฉลองพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ด้วย...
กลุ่มแรกบวชประมาณ ๒ สัปดาห์ แยกเป็นกลุ่มที่ ๒ ไปปฏิบัติธรรมต่ออีกประมาณ ๑ สัปดาห์

...วันนี้ได้รับคลิปจากเพื่อนที่โรงเรียน ชอบใจมากเป็นทำนองสรภัญญะ จึงเอามาฝากไว้ให้ฟังกันที่นี่

__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 25-10-2012, 14:52
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

เนื่องมาจากได้นิทานเซนน่าอ่านมา ๔ เรื่องจากกิจกรรมเจริญปัญญาของที่ทำงาน
เห็นว่ามีกระทู้นิทานเซนโดยเฉพาะ จึงนำไปลงไว้ เมื่อลงครั้งแรก กระทู้ขึ้นปกติ
แต่เมื่อปรับรูปแบบเสร็จ จึงลงเป็นกระทู้ที่สองแล้วจะลบกระทู้แรกทิ้ง
ปรากฏข้อความให้ติดต่อผู้ดูแล และกระทู้ก็ไม่ขึ้นมาอีก
จึงขอนำมาลงไว้ที่นี้แทน... แล้วแต่ผู้ดูแลจะจัดหมวดหมู่ภายหลัง




《神师解梦》

นิทานเซน - อาจารย์เซนทำนายฝัน

ยังมีบัณฑิตผู้หนึ่ง เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อหวังเข้าร่วมการสอบจอหงวน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว
โดยในระหว่างที่รอเวลาสอบ ได้ขออาศัยอยู่ที่วัดเซนแห่งหนึ่ง

ทว่าในคืนก่อนสอบ เมื่อบัณฑิตล้มตัวลงนอนหลับไป เขาได้ฝันถึงเหตุการณ์สามเหตุการณ์ดังนี้
ความฝันที่หนึ่ง คือ เขาปีนขึ้นไปปลูกผักกาดขาวอยู่บนกำแพง
ความฝันที่สองคือ ในฝันฝนตก ส่วนเขาก็สวมงอบทั้งยังกางร่มอีกหนึ่งคัน
ความฝันสุดท้ายเขานอนอยู่คู่กับหญิงสาวที่แอบรัก
ทั้งสองเปลือยเปล่าแต่กลับนอนหันหลังชนกัน

เมื่อตื่นขึ้นมา ความฝันทั้งสามเรื่องรบกวนจิตใจ จนบัณฑิตหนุ่มต้องรีบไปหาหมอดู
เพื่อให้ช่วยทำนายความฝัน ไขปริศนาให้กระจ่าง
เมื่อหมอดูได้ทราบเรื่องราวความฝันทั้งหมดก็กล่าวอย่างมั่นใจว่า
"พ่อหนุ่มจงเดินทางกลับบ้านไปเถิด การสอบครั้งนี้คงไม่ราบรื่น
เจ้าลองคิดดูว่าการปลูกผักบนกำแพงย่อมไม่เห็นผล มิใช่เสียแรงเปล่าดอกหรือ ?
ส่วนการใส่งอบแล้วยังกางร่มก็เป็นการทำสิ่งที่เกินความจำเป็น
และการได้นอนคู่กับหญิงสาวที่รักแต่กลับหันหลังให้กันนั่นก็หมายถึง
อยากกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดแต่กลับไร้ซึ่งความหวังนั่นเอง"

เมื่อฟังคำทำนายจบ บัณฑิตหนุ่มหมดอาลัยตายอยาก
คือว่าความฝันทั้งสามเรื่องคงเป็นลางบอกเหตุล่วงหน้าถึงผลการสอบจอหงวนของตน
สุดท้ายจึงเดินทางกลับวัดเซน เพื่อเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน

เมื่อมาถึงวัด บัณฑิตหนุ่มบังเอิญได้พบกับอาจารย์เซน
จึงถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ทั้งยังกราบลาอาจารย์เซน
ทว่าอาจารย์เซนกลับกล่าวตอบอย่างแย้มยิ้มว่า
"ข้าเองก็สามารถทำนายฝันได้เช่นกัน แต่กลับเห็นว่าความฝันของเจ้าต้องตีความดังนี้
ความฝันแรกการได้ปีนขึ้นไปปลูกผักบนกำแพงสูง
ย่อมหมายถึงเจ้าจะสอบติดในตำแหน่งสูง
(คำว่า 种 ที่แปลว่า "ปลูก" พ้องเสียงกับคำว่า 中 ที่แปลว่า "ได้สำเร็จ")
ความฝันต่อมาการสวมงอบกางร่มก็หมายถึง
การสอบครั้งนี้เจ้าได้เตรียมตัวมาอย่างดีไม่มีทางพลาด และ
ความฝันสุดท้าย การนอนเปลื้องผ้าหันหลังชนกับหญิงที่แอบรัก
มิใช่แปลว่า เพียงแค่พลิกตัวความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อมหรอกหรือ ?"

บัณฑิตหนุ่มได้ฟังก็เห็นว่าการทำนายฝันของอาจารย์เซนก็มีเหตุผล
สุดท้ายจึงตัดสินใจรั้งอยู่เพื่อเข้าร่วมการสอบ และผลออกมาปรากฏว่าเขาทำสำเร็จ
สอบติดในตำแหน่ง "ท่านฮวา" (ชื่อตำแหน่ง ของผู้ที่สอบเข้ารับราชการติดในลำดับที่ ๓ ของประเทศ)


ปัญญาเซน : ความฝันเดียวกันแต่ตีความได้ผิดแผก สาเหตุเกิดจากสภาวะจิตใจที่แตกต่าง
ความกระตือรือล้นและการมองโลกในแง่งามจะเป็นตัวผลักดันพฤติกรรม ให้เลือกกระทำในสิ่งซึ่งนำความสำเร็จมาสู่ตน
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg Image.jpg (41.6 KB, 286 views)
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 26-10-2012, 17:56
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink นิทานเซน - ตรรกะในการใช้ชีวิต

อีกเรื่องจากกิจกรรมเจริญปัญญาของที่ทำงาน
ขอนำมาลงไว้ที่นี้... แล้วแต่ผู้ดูแลจะจัดหมวดหมู่ภายหลัง




《勿念窃生》


นิทานเซน - ตรรกะในการใช้ชีวิต

มีชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมเสื้อผ้าเก่าขาด ท่าทางเฉื่อยชา
เอาแต่นั่งทอดหุ่ยปล่อยให้แสงแดดโลมเลียร่างกาย สลับกับหาวหวอด ๆ เป็นระยะ

เมื่ออาจารย์เซนเดินผ่านมาพบคนผู้นี้เข้า จึงเกิดความประหลาดใจจนต้องเอ่ยถามว่า
"พ่อหนุ่ม อากาศดี ๆ ในฤดูกาลที่นาน ๆ จะเวียนมาถึงเช่นนี้ เหตุใดเอาแต่มานั่งเปล่าประโยชน์
ไยไม่ไปลงมือทำสิ่งที่ต่าง ๆ ควรทำ เจ้าไม่เสียดายช่วงเวลาดี ๆ เช่นนี้หรอกหรือ ?"

ชายหนุ่มถอนใจครั้งหนึ่ง พลางตอบว่า "บนโลกใบนี้ นอกจากร่างกายแล้ว ไม่มีสิ่งใดเป็นของข้าสักอย่าง
เช่นนั้นไยต้องสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจไปกระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยเล่า ?"

"เจ้าไม่มีบ้านหรือ ?" อาจารย์เซนถาม
"ไม่มี หากมีบ้านก็ต้องเป็นภาระคอยดูแล เช่นนั้นไม่ต้องมีเสียเลยดีกว่า" ชายหนุ่มตอบ

"เจ้าไม่มีคนที่เจ้ารักหรือ ?" อาจารย์เซนถามต่อ
"ไม่มี หากมีคนรัก เมื่อหมดรักก็กลายเป็นความเกลียดชัง สู้ไม่มีเสียเลยดีกว่า" ชายหนุ่มว่า

"แล้วมิตรสหายเล่า มีหรือไม่ ?" อาจารย์เซนไม่ละความพยายาม
"ไม่มี เมื่อมีเพื่อน สักวันก็ต้องสูญเสียเพื่อน แล้วจะมีไปทำไม" ชายหนุ่มท้วง

"เจ้าไม่คิดจะทำงานหาเงินบ้างหรือ ?" อาจารย์เซนยังคงถามต่อไป
"ไม่คิด ได้เงินมาสุดท้ายก็ต้องจับจ่ายออกไป เช่นนั้นไยต้องไปสิ้นเปลืองพลังงานหามาตั้งแต่ต้น" ชายหนุ่มกล่าวแย้ง

"อ้อ" สุดท้ายอาจารย์เซนพยักหน้ารับรู้ แต่ยังคงกล่าวว่า
"ท่าทางข้าต้องรีบไปหาเชือกมามอบให้เจ้าสักเส้นหนึ่งแล้ว"
"เหตุใดต้องมอบเชือกให้ข้า ?" ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัยใจ
"ให้เจ้าผูกคอตาย" อาจารย์เซนตอบ
ชายหนุ่มได้ยินก็ถามกลับไปด้วยความโมโหว่า "ท่านอยากให้ข้าตายหรืออย่างไร ?"

อาจารย์เซนจึงตอบว่า "ถูกแล้ว เพราะคนเราทุกคนล้วนต้องตาย
หากคิดตามตรรกกะของเจ้า ในเมื่อสุดท้ายต้องตายแล้วคนเราจะเกิดมาทำไม
และหากเป็นเช่นนั้น ก็แปลว่าการมีชีวิตมีตัวตนของเจ้าในวันนี้นับเป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์ด้วยเช่นกัน
ก็ในเมื่อเปล่าประโยชน์แล้ว ไยไม่รีบผูกคอตายไปเสียเลยเล่า ?
"
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg Zen2min.jpg (28.3 KB, 255 views)
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 01-10-2014, 18:14
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สายท่าขนุน อ่านข้อความ
ยายนำเรื่องนี้มาคั่นไว้ เพราะเพิ่งไปกราบฟังข้อธรรมจากหลวงพ่อวิชามา
...อันเนื่องมาจากธรรมสัญจรของน้อง ญ.ผู้หญิง เมื่อวันหยุดที่เพิ่งผ่านมานี่เอง

"ร่วมบุญมหากุศลงานเข้านิโรธกรรม ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร จ.นครสวรรค์-งานอายุวัฒนมงคล ๙๐ ปี หลวงปู่พระครูสันติธรรมาภิรม (ครูบาอ่อน รตนวณฺโณ) จ.พะเยา วันที่ ๑๗-๑๘ ก.ย."
"หลวงพ่อวิชา รติยุตฺโต วัดชอนทุเรียน ซึ่งองค์นี้ไม่ธรรมดา ถือเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่ง และที่สำคัญท่านเป็นสหธรรมิกของพระราชพรหมยาน พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ"

และด้วยเหตุที่ยายไม่ได้บันทึกเสียงของหลวงพ่อไว้
ใช้เพียงสัญญาอันไม่เที่ยงและความเข้าใจส่วนตัว
จึงกราบขอขมาหากประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัยประการใดก็ตาม

หลวงพ่อเมตตาต่อพวกเรามาก... หลังจากเราถวายสังฆทานแล้ว ท่านก็ว่า
ใครจะถามอะไร ว่ามา มาแล้วก็อย่าให้ขาดทุน
แล้วท่านก็เมตตาเทศน์ให้พวกเราพักใหญ่ อาทิเช่น
เรื่องละโกรธ ละความไม่พอใจ... ไม่เห็นว่าใครทำผิด เห็นทุกคนเป็นเพื่อน
เรื่องการทำบุญ การวางบุญ การไปนิพพาน...
"การทำใจอยู่เหนือบุญเหนือบาป"

เมื่อมีคนกราบเรียนถามถึงท่านกับหลวงพ่อฤๅษี...
มีรูปท่านนั่งอยู่ด้วยกันที่ผนังด้วย
ท่านว่ารู้จักกัน ตอนยังเป็นหนุ่ม เคยไปกิน ไปนอนอยู่ด้วยกันที่วัด...
แต่ก็ไม่ได้ไปแล้วตั้งแต่หลวงพ่อฤๅษีมรณภาพ
ท่านว่าตอนนั้นเหมือนว่าท่านแบ่งหน้าที่กัน
ท่านเข้าป่าเพราะท่านชอบอยู่ป่า
ส่วนหลวงพ่อฤๅษีเข้าเมือง

มีคนกราบเรียนถามเรื่องเหตุการณ์ภัยพิบัติว่า
หากอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย ควรทำตัวอย่างไร...
ไม่มีเลวหรอก เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ธรรมชาติของโลกก็มีธรรมดาเป็นอย่างนั้นเอง

เราอยู่ที่ไหน ก็อยู่ตรงนั้น "ให้เป็นปกติ"
ที่สำคัญ คือ "อย่ากลัว"...
กลัวแล้วก็ขาดทุน เพราะเราเริ่มผ่อนส่งความกลัวไปก่อนเรื่อย ๆ


เมื่อจะกราบลาออกมา ก็จะกล่าวคำขอขมากัน
...ท่านว่า ไม่ต้องขอขมาหรอก ไม่มีโทษ... กราบ กราบ กราบ
เข้ามาที่ห้องนี้ เพื่อมาลบรูปที่ห้ามเผยแพร่ออกจากบางข้อความ แล้วก็มาเห็นข้อความนี้เข้า
จากวันที่ไปกราบหลวงพ่อวิชาครั้งนั้น ถึงวันนี้ประมาณ ๓ ปีแล้ว โดยที่ได้ไปกราบท่านเป็นครั้งคราวเสมอมา ไม่ถี่นัก
มานึกทบทวนว่าเราได้มีความก้าวหน้าในข้อธรรมใดที่ท่านเมตตาสั่งสอนบ้างหรือไม่ ?
...ขอเก็บคำตอบของคำถามนี้ไว้กับตัวเอง

จะเล่าเรื่องที่ได้กราบรับมาจากกัลยาณมิตร ดังที่พระอาจารย์เคยบอกไว้ว่าผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นกัลยาณมิตรได้นั้น เห็นจะมีก็แต่ครูบาอาจารย์เท่านั้น
ทั้งนี้ ขอไม่กล่าวอ้างนามท่านทั้งหลาย แต่เพียงจะเล่าถึงเนื้อหาที่ตัวเองได้ข้อพระธรรมมา เป็นบางส่วน โดยย่อ...


เรื่องเกิดขึ้นเนื่องจากที่เราพยายามจะถวายยารักษาโรคแก่ครูบาอาจารย์ที่เคารพด้วยความเป็นห่วง และได้ไปกราบเรียนหารือเรื่องยากับหลวงพ่อวิชา
หลวงพ่อเมตตาให้ข้อแนะนำเรื่องการถวายยาและอุปสรรคการรักษา ท่านว่าเป็นกรรมของครูบาอาจารย์ท่านนั้น แล้วให้ข้อพระธรรม โดยเริ่มจากประโยคที่ว่า

"จะทุกข์ไปทำไม ไม่เห็นจะได้บุญตรงไหนเลย !!"

เมื่อกราบเรียนถามว่าจะไปกราบขอความช่วยเหลือจากครูบาอาจารย์อีกท่านหนึ่งได้หรือไม่ ท่านว่าไม่ใช่ไปขอความช่วยเหลือ แต่ให้ช่วยเหลือท่าน ท่านให้ทำอย่างไรก็ให้ทำตามท่าน

แม้หลวงพ่อจะเมตตาให้รายละเอียด และบอกให้อ้างหลวงพ่อได้ว่ายามาจากท่าน อีกทั้งบอกว่าครูบาอาจารย์ท่านที่จะไปกราบหารือนี้รู้จักหลวงพ่อ... วัด... นี้ และบอกให้จดบันทึกไว้อ้างอิง

เมื่อกราบเรียนถามว่า จะถวายวัตถุมงคลเพื่อกำจัดโรคกำจัดอาการป่วยได้หรือไม่ คำตอบคือ

"ทุกข์เนาะ !!!"

หลังจากนั้น เมื่อเรามีโอกาสได้กราบเรียนหารือครูบาอาจารย์ท่านที่ตั้งใจแล้ว ท่านเมตตาให้ใช้เวลากับเรื่องนี้นานพอสมควร ทั้งลงรายละเอียดอุปสรรคต่าง ๆ และเรามีโอกาสเล่าเรื่องที่ได้กราบรับพระธรรมมาจากหลวงพ่อดังข้างต้น ท่านว่า

"ที่จริงเรื่องนี้ เป็นเรื่องความละเอียดของใจนะ"


...จึงได้แต่กราบเรียนว่า

"ทราบว่าใจยังหยาบอยู่มาก จะพยายามฝึกฝนให้ละเอียดขึ้นโดยเร็วเจ้าค่ะ"
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 16-04-2015, 09:33
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,002
ได้รับอนุโมทนา 133,158 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

เหตุเกิดเมื่อวานนี้ หลังจากที่เรากลับมาจากวัดท่าขนุน...
โทรศัพท์มือถือเต็มไปด้วยข้อความในไลน์
โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมารวมสมาชิกทั้งรุ่นที่โรงเรียน
...เพื่อน ๆ คุยกันเป็นปกติ วันละหลายข้อความ คุยเล่นกันบ้าง นัดกันบ้าง ลงรูปที่นัดกันบ้าง
ส่วนใหญ่ก็ไปกินอาหารเพื่อสังสรรค์กัน
เราก็คอยเข้าไปลบ อ่านทันบ้างไม่ทันบ้าง... ล่าสุดเพื่อนกลุ่มย่อยไปกินอาหาร ดูพระอาทิตย์ตกริมทะเลกัน
ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก นกที่กำลังบินกลับรัง รูปเพื่อน ๆ ต่างทำท่านั้นท่านี้ เป็นที่สนุกสนานประสาคนวัยกำลังเกษียณ

มีเพื่อนคนหนึ่งมาร่วมคุยด้วย โดยลงข่าวชาวอินเดียที่มีเมีย ๓๙ คน ลูก ๙๔ คน และหลาน ๔๗ คน
ในข่าวว่าหัวหน้าครอบครัวมีฐานะดี มีบ้านให้อยู่ด้วยกันทั้งหมด ๑๘๑ คน และเลี้ยงดูครอบครัวใหญ่นี้ได้
เพื่อนที่ลงข่าวจึงแซวเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า '<เพื่อน๑> น่าไปสมัครเป็นเมียคนที่ ๔๐ นะจ๊ะนี่ ท่าจะรุ่ง'
<เพื่อน๑> ตอบขอบคุณ แล้วว่า 'ชาติหน้าก็แล้วกัน'

ทันใดนั้น มีเพื่อนแทรกแซงเข้ามาเป็นมือที่สาม พร้อมคำถามเด็ด...

'นี่หวังจะเกิดอีกหรือคะ <เพื่อน๑> ขา'

...สิ้นสุดเรื่องเล่านี้... อันเนื่องมาจากกัลยาณมิตร
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 16-04-2015 เมื่อ 10:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว