กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-01-2024, 17:06
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,724 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-01-2024, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,228 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ต้องขออภัยญาติโยมทุกท่านเป็นอย่างสูง เนื่องจากว่าเมื่อวานนี้ การบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน อาจจะเกิดจากเครื่อง Error ทำให้กดบันทึกแล้วไม่ติดเสียงธรรมมา ในขณะเดียวกัน..ปกติจะมีพระภิกษุในวัดบันทึกซ้ำเอาไว้ฟังเองอีกรอบหนึ่ง แต่เมื่อวานนี้ปรากฏว่าไม่มีใครบันทึกเอาไว้เลย จึงเป็นเหตุให้เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนหายไปหนึ่งวัน..!

แต่ก็เป็นการดี เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อวานนี้เป็นการภายในมากจนเกินไป คือส่วนใหญ่มีการตำหนิ ดุด่าว่ากล่าวเกี่ยวกับความประพฤติของพระภิกษุ ซึ่งถ้าหากว่าญาติโยมฟังแล้วอาจจะรู้สึกไม่ดีก็ได้

แต่ความจริงแล้วญาติโยมทั้งหลายต้องเข้าใจว่า พระที่กระผม/อาตมภาพดุด่าว่ากล่าวไปนั้น ศีลของท่านไม่ได้บกพร่อง แต่ว่ามีเรื่องของความประพฤติบางอย่าง ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสื่อมศรัทธา จึงต้องมีการตำหนิติเตียนกันตั้งแต่เบื้องต้น

อันดับแรกเลยก็คือ ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับวัดวาอาราม หรือพระพุทธศาสนา อันดับต่อไปก็คือให้พระภิกษุสามเณรของเรามีประสบการณ์ จะได้รู้ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำได้หรือว่าทำไม่ได้ เพราะว่าบางอย่างสิ่งที่เราทำไป แม้ว่าจะไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ว่าญาติโยมไม่เข้าใจ ก็จะตำหนิติเตียนเอาได้ เป็นต้น

จึงทำให้เรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นการภายใน ไม่ทราบว่าโดนผู้ใด "ตัดออกจากกองมรดก" พอมาดูการบันทึกแล้ว แม้ว่าเวลาจะครบถ้วน แต่ติดเสียงอยู่ประมาณ ๑๙ วินาทีเท่านั้น จึงทำให้ท่านทั้งหลายขาดการฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนไปหนึ่งวัน

เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพเข้ารับการรักษาจากบรรดาแพทย์แผนไทยของชมรมภัทรเวชสยาม ซึ่งติดต่อมารักษาฟรีให้แก่ประชาชนในเขตอำเภอทองผาภูมินี้เป็นครั้งที่สามแล้ว กระผม/อาตมภาพอยากจะลองดู จึงไปให้รักษาด้วยวิธีการนวดและจัดกระดูก แต่ปรากฏว่าเจอคุณหมอมือหนักมาก ดังนั้น..เมื่อถึงเวลากดไปแล้วจึงระบมไปทั้งตัว จนแทบจะเดินไม่ได้ เมื่อบันทึกเสียงธรรมแล้วก็ไม่มีอารมณ์ที่จะมาบันทึกใหม่ เพราะว่าอยากจะไปนอนระบมแทนมากกว่า จนทำให้เสียงธรรมขาดหายไปหนึ่งวัน

แล้วบรรดายาต่าง ๆ ที่หมอให้มา อย่างเช่นว่ายาถ่ายกษัยเส้น คุณหมอสั่งนักสั่งหนาว่า ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำในตอนเช้า ให้ฉันยาหอมไปก่อนสักถ้วยหนึ่ง เพื่อที่จะได้ช่วยไม่ให้หน้ามืดถ้าเกิดถ่ายมาก แล้วขณะเดียวกันถ้าหากว่าถ่ายมาก กำลังตก ก็อย่าฉันซ้ำ หากแต่ว่าให้เว้นไปก่อนหนึ่งอาทิตย์แล้วค่อยฉันอีกที แต่ปรากฏว่าเมื่อเช้านี้ ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากเดิมเลย นอกจากเมื่อวานเย็นตอนที่ฉัน รู้สึกมวน ๆ ในท้องนิดหน่อย แล้วตอนเช้าก็ถ่ายตามปกติ ไม่มีอาการอะไรที่ผิดปกติว่าเป็นฤทธิ์ของยาถ่ายเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-01-2024 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-01-2024, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,228 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการรักษานั้น ญาติโยมทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ยานั้นรักษาได้เฉพาะโรคทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถที่จะรักษาโรคเวรโรคกรรมได้ กระผม/อาตมภาพนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกเอาไว้แล้วว่า "แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้มาก ชาตินี้เศษกรรมจะทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ให้ไปปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะฆ่าสักเดือนละตัวสองตัว จะบรรเทาอาการตรงนี้ลงไปได้"

กระผม/อาตมภาพจำได้ว่าปล่อยครั้งแรกในวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๙ มาถึงปัจจุบันนี้ก็น่าจะ ๓๙ ปีแล้ว ปรากฏว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ค่อย ๆ เจอหมอเจอยาที่เหมาะกับตนมากขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้ก็มาด้วยความหวังว่าอาจจะเจอหมอเจอยาที่เหมาะกับตน แต่ว่าการรักษาด้วยการนวดและจัดกระดูกแบบนี้นั้น ไม่เหมาะแน่นอน เนื่องเพราะว่าทำให้เจ็บระบมไปทั้งตัว แล้วอาการมาลาเรียก็กำเริบด้วย..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ปกติแล้วกระผม/อาตมภาพใช้กำลังในการข่มโรคเอาไว้ แต่ในเมื่อร่างกายเจ็บปวด ก็ต้องใช้กำลังมาต่อต้านความเจ็บปวดแทน จึงทำให้กำลังที่ใช้ในการข่มโรคหายไป เชื้อโรคก็เลยฉวยโอกาสอาละวาดขึ้นมา เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น Dead lock ที่แก้ไขไม่ได้มาตลอด ตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ จวบจนปัจจุบันนี้ เรียกว่าเป็นมาลาเรียมา ๔๐ กว่าปีแล้ว..!

ยาทุกประเภท หมอทุกประเภท รักษามาจนกระทั่งไม่รู้ว่าจะรักษาแบบใดแล้ว แม้กระทั่งยาสมุนไพรที่ฉันเข้าไปวันนี้แล้วขมติดคอไปอีก ๓ วัน ก็ฉันมาเป็นตันแล้ว ยาสมุนไพรไหนที่ว่าดี ไม่ว่าจะเป็นจันทลีลา ตรีผลา ห้าราก เก้าราก หญ้านางแดง อะไรก็ตาม หมอจ่ายมาก็เป็นอันว่าฉัน บางอย่างฉันลงไป เหงื่อแตกพลั่ก ๆ อยู่ครึ่งค่อนชั่วโมง แล้วอาการก็บรรเทาลงแค่วูบเดียว หลังจากนั้นก็หนักเหมือนเดิม จึงเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่า ถ้าเป็นวาระของกรรมแล้ว เราไม่สามารถที่จะบรรเทาอาการของโรคลงไปได้เลย เพราะว่าทำเขาเอาไว้มาก ถึงเวลาก็ต้องชดใช้เขามาก

แต่กระผม/อาตมภาพต้องบอกว่าโชคดี เพราะว่ารับกรรมใหญ่ตรงนี้มา ดังนั้น..ในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทั้ง ๙ ระลอกอย่างเป็นทางการ และอีก ๑ ระลอกในปัจจุบันนี้ ยังไม่เคยทำให้กระผม/อาตมภาพติดเชื้อได้เลย ทั้ง ๆ ที่ระลอกล่าสุดนั้น พระภายในวัดติดเชื้อกันเกือบจะทั่วไปหมด ทั้ง ๔ รูปที่ฉันอาหารอยู่วงเดียวกันกับ
กระผม/อาตมภาพก็ติดทั้งหมด แต่กระผม/อาตมภาพตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อยู่ ๔ วันต่อเนื่องกันก็ไม่ติด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-01-2024 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-01-2024, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,228 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่งานเล็กขนาดไหน ตลอดจนกระทั่งดูแลผู้ป่วยเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ก็ไม่ติดเชื้อ ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ ถึงขนาดบอกว่า "หลวงพ่ออย่าเข้าไป เดี๋ยวจะติดเชื้อ..!" แล้วทุกคนก็ยืนอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพเข้าไปเยี่ยมดูอาการผู้ป่วยจนครบทุกราย ออกมาแล้วก็ไม่เห็นว่าตนเองจะติดเชื้ออะไร ก็แปลว่าในเมื่อรับกรรมใหญ่ไปแล้ว กรรมที่เล็กกว่า เขาก็ไม่สนใจในตัวเราแล้ว..!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เหลืออยู่อย่างเดียว ก็คือค่อย ๆ สร้างความดี อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าท่านใจอ่อนเสียก่อน ให้อภัยมา การอโหสิกรรมเกิดขึ้น กระผม/อาตมภาพก็น่าจะได้หมอดียาดีที่ตรงกับโรคมากกว่านี้ หรือถ้าหากว่ายังไม่ให้อภัย แต่กระผม/อาตมภาพเสียชีวิตก่อน ก็เป็นอันว่าชาตินี้จบกัน มีปัญญาไปตามทวงเอาที่อื่น ๆ ที่กระผม/อาตมภาพไปก็แล้วกัน..!

สำหรับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น ต้องบอกว่ากระผม/อาตมภาพป่วยจนทำใจได้มานานแล้วว่า การรักษานั้นจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ถ้าหายก็คือหาย ถ้าหากว่าไม่หายก็ยอมรับว่า สภาพร่างกายของเรานี้เป็นรังของโรค เกิดมาเมื่อไร ก็ต้องพบกับความทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ ดังนั้น..ขึ้นชื่อว่าการเกิดเช่นนี้ก็ไม่ต้องการอีกแล้ว เอากำลังใจมุ่งไว้ที่พระนิพพานดีกว่า

ส่วนเมื่อเช้านี้ตอนออกบิณฑบาต แม่ชีที่วัดท่าขนุนท่านหนึ่งได้ทำบุญในช่วงออกบิณฑบาต แล้วอธิษฐานว่า "ขอพระอรหันต์ชาตินี้เร็ว ๆ" กระผม/อาตมภาพฟังแล้วก็ขำอยู่ในใจ เนื่องเพราะว่าแม่ชีอายุ ๘๐ ปีแล้ว ถ้าหากว่าจะเป็นพระอรหันต์เร็ว ๆ ก็คงจะเป็นไปนานแล้ว โดยเฉพาะมาอยู่วัดท่าขนุน ตั้งแต่สมัยของท่านอาจารย์สมพงษ์ (พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต) อดีตเจ้าอาวาส

แล้วแม่ชีก็เรียนมาเกี่ยวกับเรื่องของการแก้ดวง เสริมดวงอะไรให้ยุ่งไปหมด จึงเปลี่ยนชื่อของ "สมพงษ์"กลายเป็นนาย "ธน" ความจริงคำนี้ก็คือธน ซึ่งอ่านว่า ทะ-นะ คือ ทรัพย์สิน แต่กระผม/อาตมภาพอ่านว่า "ทน" ตามภาษาไทยตรง ๆ แล้วบอกกับท่านอาจารย์สมพงษ์ว่า "ถ้าหากว่าชีวิตนี้ต้องทน ผมก็คงไม่เอาด้วย" ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้ ท่านอาจารย์สมพงษ์ก็ต้องสึกหาลาเพศไปตามวาระของกรรม

หลังจากนั้น แม่ชีก็มาขอเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แม้แต่ไปขอเรียนปริญญาเอกที่ศรีลังกา กระผม/อาตมภาพก็ส่งให้เรียนถึง ๕ ปี จบกลับมาแล้วยังใช้คำว่า "ขอพระอรหันต์เร็ว ๆ ในชาตินี้" ซึ่งอันดับแรกก็คือถ้าหากว่าเร็ว ก็คงไม่มาในตอนที่แก่ขนาดนี้

ประการที่สองก็คือ ความเป็นพระอริยเจ้าทุกระดับนั้น อยู่ที่ความพากเพียรพยามยามของเราเองในการปฏิบัติให้ได้ ปฏิบัติให้เป็น ไม่ใช่ว่าถึงเวลาแล้วก็มาเอ่ยปากขอ ถ้าสามารถขอกันแบบนี้ได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็คงพาพวกเราไปพระนิพพานกันหมดแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-01-2024 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว