กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-12-2023, 18:25
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 346
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,904 ครั้ง ใน 824 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (ช่วงเช้า)

ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ (ช่วงเช้า)



แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 10-12-2023 เมื่อ 00:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-12-2023, 15:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,701 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๖

(ผู้ปฏิบัติธรรมยังเข้าศาลามากันไม่ครบ) แล้วที่เหลือจะรอดไหมจ๊ะ ? ก็คือถ้ากรอบเวลาแค่นี้เราไม่สามารถที่จะปรับให้เข้ากันได้ อย่างอื่นก็ยากกว่านี้อีกเยอะ นักปฏิบัติธรรมที่ดี ส่วนสำคัญคือความตรงต่อเวลา แสดงออกซึ่งสัจบารมีในใจของเราเอง

ดังนั้น..นักปฏิบัติธรรมที่ดีทุกอย่างมีแต่ก่อนเวลาไม่มีหลัง เพราะต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ก่อนตายขอสร้างความดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าหลุดพ้นได้เลยก็ยิ่งดี ถ้าหลุดพ้นไปไม่ได้ ขอให้หนทางการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารของเรา เหลือให้สั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้

ดังนั้น..นักปฏิบัติธรรมที่ดีทุกวินาทีจึงมีค่าอย่างยิ่ง เป็นการช่วงชิงกันระหว่างกุศลและอกุศล ใจของเราเหมือนเก้าอี้ที่นั่งได้แค่คนเดียว ถ้ากุศลเข้าไปนั่งไว้ อกุศลก็มาไม่ได้ แต่ถ้าอกุศลเข้าไปนั่งเมื่อไร ก็ไล่ออกยากมาก..! จึงต้องชิงเวลาทุกวินาที ที่จะนำเอากุศลเข้ามาใส่ใจของเรา

ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมพอถึงระยะท้าย ๆ ก็เป็นการชิงกันระหว่างตัวเรากับกิเลส ว่าแต้มนี้ใครจะได้ สนุกสนานอย่างชนิดที่มีหนังมีละครอะไรมาอยู่ตรงหน้าก็ไม่สนใจแล้ว

หลวงตามหาบัวเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนท่านปฏิบัติธรรม พอช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม ปัญญากับกิเลสกำลังฟัดกันหมุนติ้ว ๆ อยู่ในอก ขาก็เดินจงกรมตามปกติ เสียงดังโครม..! สุดทางเดินจงกรมตอนไหนก็ไม่รู้ เดินเลยไปชนต้นไม้ คลายกำลังใจออกมาหน่อยหนึ่ง หันหลังกลับเข้าทางจงกรมเดินต่อ ข้างในก็รบกันต่อ อีกสักพักก็โครม..! อีกแล้ว

คือต้องสนใจข้างในมากกว่าข้างนอก โดยปกติแล้วทั่ว ๆ ไปก็นั่ง แต่ด้วยความที่ท่านอยากจะปฏิบัติให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน ท่านก็เลยเดิน คราวนี้เดินพอสภาพจิตดำเนินอยู่ภายใน สู้รบกับกิเลสอย่างชนิดตายกันไปข้างหนึ่ง จึงไม่ได้สนใจภายนอก ท่านก็เดินชนต้นไม้ไปเลย..!

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-12-2023, 15:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,701 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..พอนักปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง ตอนท้าย ๆ นี่จะสนใจโลกภายนอกน้อยมาก จะหนังจะละครจะอะไรสนุกแค่ไหนก็ทิ้งหมด เพื่อที่จะลุ้นว่าแต้มนี้ใครได้ ? ถ้าเราพลาดก็ต้องศึกษาไว้ว่าพลาดตรงไหน ? คราวหน้าอย่าได้พลาดอีก ถ้าหากว่าเราชนะก็ต้องระมัดระวังไว้ว่า คะแนนต่อไปอย่าให้เขาตีคืนไปได้

ช่วงที่แพ้ชนะก้ำกึ่งกัน มึงบ้างกูบ้าง มึงทีกูที เป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ แต่เป็นเรื่องสนุกที่หัวเราะไม่ออก เล่าให้คนอื่นฟังก็สนุก เจอด้วยตัวเองแล้วจะรู้ ว่าประเภทสายตัวแทบขาดเป็นอย่างไร ? เพราะว่ากิเลสนั้นถอนออกจากใจเรายากสุด ๆ ฝังรากลึกชนิดที่ปัญญาไม่ถึงก็ค้นไม่เจอ..!

พวกเราแค่ลองถามตัวเองดู คนที่เรารักมีไหม ? ของที่เรารักมีไหม ? ทรัพย์สมบัติมีไหม ? ถ้าต้องทิ้งทั้งหมดลงไปในวันนี้ทำได้ไหม ? มาตายตรงข้อนี้แหละ..! จะต้องหาข้ออ้างสักอย่างหนึ่งที่จะไม่ทิ้ง เพราะว่ากิเลสมีมายามาก "โอ๊ย..อย่าเพิ่งเลย ยังไม่แก่ ทิ้งไปหมดได้อย่างไร ยังต้องเหลือเอาไว้ใช้ เดี๋ยวชีวิตตอนแก่จะลำบากนะ..!" รู้ได้อย่างไรว่าจะอยู่ยันแก่..?! ถ้าเกิดตายไปวันนี้ล่ะ..?

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านปราภว่าอยากได้พระบวช ๓ รูป จะบวชให้ท่านได้ไหม ? อาตมาก็กราบเรียนท่านว่า "ขอคิดดูก่อนครับ" ซึ่งความจริงได้คือได้ ไม่ได้คือไม่ได้ แต่วันนั้นหลวงพ่อใจดี ไปส่งท่านที่สนามบินดอนเมืองไปนิวซีแลนด์ ท่านก็เลยหัวเราะ "เออ..เดี๋ยวพ่อกลับจากนิวซีแลนด์ ค่อยให้คำตอบก็ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 11-12-2023, 15:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,701 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอตัดสินใจได้เรียบร้อย วันท่านกลับก็ไปรับท่าน พอเจอหน้าก็กราบเรียนว่า "ตกลงผมจะบวชครับ หลวงพ่อจะให้ผมไปวัดวันไหนครับ ?" ท่านบอกว่า "ถ้าไปวันนี้ได้ก็ไปเลยสิ..!" อาตมาก็โดดขึ้นรถไปกับท่านตอนนั้นแหละ..! นอกจากสตางค์ติดตัว ๒๐๐ - ๓๐๐ บาทแล้ว ไม่มีอะไรติดตัวเลย ไปหาเอาข้างหน้า ถ้าเป็นพวกเราตัดสินใจแบบนี้ได้ไหม ?

โยมแม่นั้น อาตมาอายุยังไม่ทันจะครบบวชก็รบเช้ารบเย็น "เมื่อไรจะบวชให้แม่สักที ?" ปรากฏว่าท่านไปโดนรถชน ดูแลอยู่ ๓ ปีกว่าจะหายเป็นปกติ พอปรารภบอกว่า "หลวงพ่อท่านจะขอให้บวช" แม่ที่รบเช้าเร้าเย็นว่าเมื่อไรจะบวชให้ ถามกลับมาว่า "ถ้าเอ็งไปบวชแล้วข้าจะอยู่กับใคร ?" อ้าว..เก่งมาก..! ก็เลยบอกว่า "แม่มีลูกตั้ง ๑๒ คน ถ้าผมไม่อยู่สักคนแล้วแม่อยู่ไม่ได้ แม่ก็ตาย ๆ ไปเถอะ..! ผมไปล่ะ" นี่ไม่ใช่เรื่องอกตัญญูนะ นั่นคือการตัดสินใจ

ถ้าเราขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจ เคยสงสัยไหมว่าสมัยนี้ทำไมปฏิบัติแล้วได้มรรคผลยากแท้..? ก็เพราะว่าขาดการตัดสินใจ สมัยพุทธกาลพอพระพุทธเจ้าท่านเทศน์ พระท่านกฟังแล้วตัดสินใจตามไปเลย "ตรงนี้เราทำได้ เราจะทำเดี๋ยวนี้"
เขาได้มรรคได้ผลกันเพราะอย่างนั้น ก็คือตัดสินใจว่าเอา ตัดสินใจว่าทำ

สำหรับพวกเราคำนี้ไม่เคยอยู่ในหัว พอจะให้ตัดใจจากอะไรสักอย่าง "โอ๊ย..ใจจะขาด..!" ให้ขาดลงไปจริง ๆ สักทีสิน่า..! พ่อแม่เลี้ยงมาตั้งหลายสิบปี เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอะไรไปน้ำตาสักหยดก็ไม่มี ห่างแฟนแค่ไม่กี่วัน ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า..! เคยกินเต่าไหม ? ก่อนที่จะกินได้ต้องโยนเข้ากองไฟเผาเสียก่อน เพื่อให้เนื้อเต่าล่อนออกจากกระดอง เต่าก็ร้องไห้น้ำตาไหลน้ำตาร่วง เขาก็เลยว่าร้องไห้เหมือนเผาเต่า..!

บอกให้พวกเราสำนึก จดจำ และก็ได้รู้ไว้ว่า ทุกวันนี้ที่ยากเพราะอะไร ? แม้กระทั่งมาปฏิบัติธรรมให้ตรงเวลายังยากเลย แล้วอย่างอื่นจะง่ายนั้นไม่มีหรอก นี่เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดแล้ว

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ
ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2023 เมื่อ 17:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว