กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-11-2023, 19:56
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,611
ได้ให้อนุโมทนา: 216,886
ได้รับอนุโมทนา 747,326 ครั้ง ใน 36,390 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-11-2023, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เมื่อคืนท่านที่เป็นเวรยามก็คงจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพกลับมาช้า เหตุเพราะว่าคู่เจรจาเจตนาถ่วงเวลา คือกะว่าถ้าไม่ไปสถานีตำรวจแล้ว จะเจรจากับกระผม/อาตมภาพได้ง่ายขึ้น

บุคคลผู้นี้ก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว ตามที่ท่านผู้กำกับมนตรี แตงโต ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิท่านไปสืบมา แต่ว่ารอดคดีมาได้ทุกครั้ง เพราะว่าทางด้านเจ้าทุกข์ยอมประนีประนอมด้วย แล้ว
กระผม/อาตมภาพก็เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าทุกข์ถึงยอมประนีประนอมด้วย เพราะว่าพ่อเจ้าประคุณ "เล่นของ" มาถึงศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายนี่แล้วยังเล่นอีกต่างหาก..!

เพียงแต่ว่าเป็นการเล่นของเด็กอนุบาล ก็คือเป็นไปทางสายพวกเสน่ห์ยาแฝด ในลักษณะทำให้รัก ทำให้หลง ทำให้เมตตา ตามใจเขาทุกประการ แม้กระทั่งวันที่เขานัดมา ก็เป็นวันที่เขาเลือกแล้วว่าเป็นวันพุธ ซึ่งทางโบราณเขาถือว่าเป็นวันที่เจรจาได้ง่ายที่สุด เพราะตามหลักของโหราศาสตร์ เขาถือว่าวันพุธเป็นปาก แต่เขาก็คงไม่รู้ว่า
กระผม/อาตมภาพเป็นใคร..!

ดังนั้น..เมื่ออยู่ภายในห้องสอบสวนกัน แล้วเขาขอความเมตตา กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ได้เมตตาให้มาตลอดแล้ว ก็คือเวลามึงทำของใส่แล้วกูไม่สวนให้คว่ำไปตรงนั้นเลย..! ต่อไปให้เลิกเสีย เพราะว่าหาความก้าวหน้าไม่ได้หรอก เนื่องจากว่ากูนี่แหละเป็นต้นตำรับ..!" เขาก็เลยนั่งตะลึงไปประมาณเกือบ ๕ นาที พูดไม่ออกบอกไม่ถูก คาดว่ากลับไปอาจจะ "วิชาเสื่อม" ไปเลย เพราะว่าหมดความมั่นใจ นอกจากเขาจะไม่รู้ว่ากระผม/อาตมภาพเป็นใครแล้ว ยังไม่รู้ว่าภายในศาลา ๑๐๐ ปีฯ แห่งนี้ กระผม/อาตมภาพเอาเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วใส่พานไว้คู่หนึ่ง..!

คำว่า เบี้ยแก้ พวกเราต้องเข้าใจว่า คำว่า แก้ คืออะไร ? ส่วนใหญ่คือแก้พวกคุณไสย ไสยเวทย์มนต์ดำอะไรพวกนี้ทุกเรื่อง ถ้าหากว่าบ้านเราอาจจะไม่ชัดเจน แต่ว่าทางพม่าเขาเล่นของพวกนี้หนักกว่าบ้านเรามาก ทุกอย่างทางด้านนั้นถือโชคถือลาง ถือเคล็ด ถือเวทมนตร์ไสยศาสตร์เป็นหลัก กระผม/อาตมภาพเจอเข้าหลายครั้ง ต้องบ่นภาษาวัยรุ่นว่า "กูจะบ้า..!"

เนื่องเพราะว่าด้วยความเคยชิน พอถึงเวลาจะเดินทาง
กระผม/อาตมภาพก็กำหนดวันไปวันกลับแน่นอนแล้ว วันนี้จะต้องกลับถึงเมืองไทยให้ได้ แต่พอไปเช่ารถ เขาบอกว่า "วันนี้ไม่วิ่งรถ เพราะว่าเป็นวันจม" คือสมัยก่อนส่วนใหญ่เป็นการสัญจรทางน้ำ วันจมวันลอยจึงเกี่ยวกับเรื่องของเรือ แต่แม้กระทั่งมาใช้รถแล้ว เขาก็ก็ยังถือวันจมวันลอยอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2023 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-11-2023, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกต แต่คงไม่มีโอกาสสังเกตหรอกกระมัง ? บรรดาผู้หญิงที่มี "อาชีพอย่างว่า" ทางฝั่งโน้น พกแมลงภู่คำทุกคนเลย ส่วนใหญ่ก็มัดติดกับสายยกทรงไว้ เพราะว่าแมลงภู่คำก็อยู่ในลักษณะเดียวกับเบี้ยแก้ ก็คือบรรจุปรอท ซึ่งส่วนใหญ่จะล้างพวกอาถรรพ์ไสยศาสตร์ต่าง ๆ ได้ ช่วยป้องกันการกระทำของผู้ชายได้..!

เนื่องเพราะว่าแม้แต่ในบ้านเราก็เหมือนกัน พวกบาร์ผู้ชาย หรือว่าพวกไนท์คลับที่มีผู้หญิงอยู่
ไม่มีใครที่ไม่เล่นของพวกนี้ เพราะว่าต้องการดึงให้ลูกค้าติด จะได้มาหาบ่อย ๆ แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นประเภทไสยศาสตร์ฝ่ายต่ำ ประเภทเด็กอนุบาลอย่างที่กระผม/อาตมภาพว่าไป คือถ้ากำลังใจของเรามีสมาธิทรงตัวก็รอดแล้ว ยกเว้นประเภทที่ทำให้กินเข้าไป

คราวนี้ของพวกนี้มีทั้งไสยเวทย์อาคม วัตถุอาถรรพ์ต่าง ๆ แม้กระทั่งน้ำมันพราย ถ้าจะเอาตัวรอดกันจริง ๆ ก็พกเบี้ยแก้ หรือว่าแมลงภู่คำที่บรรจุปรอทป่าเอาไว้บ้าง กระผม/อาตมภาพก็พกเบี้ยแก้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าพกเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ถามว่าทำไมพกเบี้ยแก้หลวงปู่เจือ ทั้ง ๆ ที่ของหลวงปู่รอด วัดนายโรงก็มี ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วก็มี ? ก็เพราะว่าของเหล่านั้น "เอาไว้ขาย" เป็นของแพง เนื่องจากคนต้องการมาก..!

ในเรื่องของเบี้ยแก้นั้น ถ้าหลัก ๆ เลยบ้านเรามาจากตำราวัดประดู่โรงธรรม ซึ่งสืบสายมาจากสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว หรือถ้าหากว่านามเดิมก็คือพระมหาเถรคันฉ่อง พระมหาเถระชาวพม่า ที่ถือว่าเป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาก่อน

บ้านเราถ้าหากว่าเบี้ยแก้นี่ แยกออกเป็นสายหลัก ๆ ได้เลยก็สามสายด้วยกัน ก็คือสายหลวงปู่รอด วัดนายโรง กับสายวัดกลางบางแก้ว แล้วก็สายหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ ที่เขาเรียกว่า "สายอ่างทอง" แต่ว่าสายของหลวงปู่รอด วัดนายโรงกับสายวัดกลางบางแก้วนั้น ถือว่าเป็นสายเดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2023 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-11-2023, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้พระครูธรรมวิจารณ์ หรือหลวงปู่ชุ่ม วัดชีปะขาว ซึ่งปัจจุบันชื่อวัดศรีสุดารามวรวิหาร ท่านเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ที่เป็นครูบาอาจารย์สอนวิชาเบี้ยแก้ให้หลวงปู่รอด วัดนายโรงนั้น เป็นพระภิกษุชาวนครชัยศรี ธุดงค์ขึ้นไปทางด้านบางบำหรุแล้วชอบใจพื้นที่ ก็เลยอยู่จำพรรษาที่นั่น จนคนไม่รู้ที่มาที่ไปแล้วว่าเป็นคนมาจากที่ไหน

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่รู้ว่าในสมัยรัชกาลที่ ๒ ที่ ๓ ทางด้านธนบุรีของเราเป็นป่าขนาดไหน เอาแค่สมัยที่กระผม/อาตมภาพเป็นวัยรุ่นก็พอ เพราะว่าบ้านยายอยู่ตรงสามแยกไฟฉาย พอเดินเข้าหลังบ้านไป ก็จะเป็นสวนลักษณะที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่าสวนสมรม ก็คือปลูกสารพัดพืชผักด้วยกัน แล้วแต่ละสวนบางทีก็ต่อเนื่องกันไปหลาย ๆ ร้อยไร่..! ดูแลกันไม่ทั่วถึงก็มีสภาพเป็นป่าดี ๆ นี่เอง

ถ้าถามว่าบ้านคนอยู่ที่ไหน ? ส่วนใหญ่บ้านคนจะปลูกอยู่ริมคลอง มีท่าน้ำยื่นลงไปในคลอง เป็นที่อาบน้ำอาบท่า ซักผ้า ใส่บาตร หรือว่าผูกเรือแพของตนเอง นี่ขนาดช่วงกระผม/อาตมภาพเป็นวัยรุ่นแล้วยังเป็นป่าดี ๆ นี่เอง พวกเสือปลา ชะมด อีเห็นเต็มไปหมด โดยเฉพาะเหี้ย ตัวใหญ่อย่างกับจระเข้ แล้วสมัยรัชกาลที่ ๒ ที่ ๓ จะเป็นป่าขนาดไหน พระท่านถึงไปธุดงค์กันที่นั่น..!

ดังนั้น..ในส่วนของหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา หลวงปู่ปาน วัดกลางบางแก้ว แล้วก็หลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ท่านน่าจะศึกษาวิชาจากสายเดียวกัน เพราะว่าต้องเลือกเบี้ยแก้ที่มีฟัน ๓๒ ซี่ และบรรจุปรอทน้ำหนัก ๑ บาท แต่ทางสายอ่างทองของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์นั้น ต้องบอกว่าด้วยความที่ท่านเป็นพระอภิญญา ดัดแปลงวิชาการเอง ทางด้านโน้นก็เลยบรรจุปรอทตามขนาดของเบี้ย ไม่ได้สนใจว่าจะหนักเท่าไร ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ถือว่าหายากที่สุด ราคาแพงมาก กระผม/อาตมภาพบูชามาตัวสุดท้ายหลายปีก่อน ราคา ๔๐,๐๐๐ บาท..!

เบี้ยแก้สายอ่างทองรองลงไปเป็นของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ แล้วก็หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน เบี้ยแก้ของสองท่านนี้แยกจากกันยากมาก เพราะว่าซื้อหอยเบี้ยจากร้านเดียวกันมาทำ แล้วถึงเวลาลูกศิษย์เอาไปเลี่ยม ก็ร้านเดียวกันอีก แต่คราวนี้เป็นที่สังเกตว่า ถ้าเป็นเบี้ยแก้ของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ เวลาเราเขย่าจะมีเสียงเหมือนมีทรายอยู่ข้างใน ถ้าเป็นของหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ก็จะเป็นเสียงปรอทขลุก ๆ ตามปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2023 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-11-2023, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วยังมีครูบาอาจารย์อีกสองท่านก็คือหลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ ซึ่งจะว่าไปแล้ว ถือว่าเป็นครูบาอาจารย์ที่อาวุโสสูงมาก แต่ของหลวงพ่อซำนั้นจุดเด่นชัดเจน ก็คือ หลังจากที่อุดชันโรงแล้ว ท่านปิดด้วยตะกั่วซองบุหรี่ รุ่นพวกท่านไม่ทันว่าซองบุหรี่เขาใช้ตะกั่วหุ้มภายนอกเพื่อกันชื้น ถึงเวลาจับก็จะยับ เสียงกรอบแกรบ ๆ ไม่ใช่กระดาษเคลือบสีเงินเหมือนรุ่นหลัง ๆ รุ่นนั้นเป็นกระดาษตะกั่วจริง ๆ

ส่วนเบี้ยแก้ของหลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง เบี้ยแก้ครูบาอาจารย์สายอ่างทองอีกท่านหนึ่ง เมื่อ
ท่านอุดชันโรงแล้วจะปิดทอง ถ้าเจอเบี้ยแก้สายนี้ ลักษณะความเก่าและขนาดไล่เลี่ยกัน ก็มีข้อแยกแยะออกได้เหมือนกัน

ทางด้านภาคกลางของเรา ถ้าหากว่าเป็นหลวงปู่แขก วัดบางบำหรุ ลูกศิษย์ท่านคือหลวงปู่รอด วัดนายโรง เบี้ยแก้มีประสบการณ์สูงมาก จนกระทั่งวงการจัดอยู่ ๑ ใน ๙ เครื่องรางสะท้านแผ่นดิน ก็คือ "เบี้ยขลังวัดนายโรง" ที่บอกว่า "ติดกายยามยาตรา ภัยไม่กล้ามาแผ้วพาน"

หลวงปู่รอดถ่ายทอดวิชามา มีลูกศิษย์ที่ปรากฏชัดสองท่านก็คือ หลวงปู่ม่วง วัดคฤหบดี และหลวงปู่ทัต วัดคฤหบดี กลายเป็นเบี้ยแก้ "สายเหนียว" เพราะว่ามาถึงยุคหลวงปู่ทัต วัดคฤหบดี ท่านเพิ่มเฑาะว์มหาอุดเข้าไปด้วย ลูกศิษย์คนไหนไปขอเบี้ยแก้หลวงปู่ทัต วัดคฤหบดี ให้รู้เลยว่าขาออกโดน "ลองของ" แน่นอน เพราะว่าลูกศิษย์หลวงปู่ทัต รุ่นเก่า ๆ จะไปดักตรงทางออก ถึงเวลาก็ทั้งตี ทั้งแทง ทั้งฟันก่อนเลย..! ไม่ได้สนใจว่ามึงจะตายหรือเปล่า..!? พอเห็นทำอะไรไม่ได้ก็หัวเราะว่า "หลวงพ่อเรายังเก่งเหมือนเดิม..!" พอสิ้นหลวงปู่ทัตแล้ว ไม่มีใครสืบต่อวิชา มาเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันนี้จึงเริ่มฟื้นขึ้นมาใหม่

ส่วนสายวัดกลางบางแก้วของเรานี่ สืบทอดมาเป็นรุ่น ๆ ตั้งแต่หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่ใบ มาถึงหลวงปู่เจือ ที่กระผม/อาตมภาพใช้เบี้ยแก้หลวงปู่เจือ ทั้ง ๆ ที่มีของครูบาอาจารย์ทุกระดับ ก็เพราะว่าของหลวงปู่เจือก็ถือว่าความขลังเหมือนของครูบาอาจารย์ทุกประการ โดยเฉพาะเคยสั่นเตือนเวลามีเรื่องด้วย ตอนแรกกระผม/อามภาพก็ "เอ๊ะ..เราไม่ได้พกโทรศัพท์ ทำไมอยู่ ๆ สั่นได้ ?" คิดว่าแผ่นดินไหวไปโน่น..! พอจับตำแหน่งได้ ล้วงลงไปเป็นเบี้ยแก้ตัวเล็ก ๆ ของท่านเอง..!

แต่คราวนี้เบี้ยแก้ของหลวงปู่เจือ ถ้าท่านทั้งหลายจะซื้อหากัน น่าจะมีอยู่สองรุ่นที่พอจะแยกแยะได้ง่าย รุ่นหนึ่งก็มีคือรุ่นเก่าที่ท่านเคลือบรักหนามาก ดำเงาวาววับมาเลย อีกรุ่นหนึ่งเป็นรุ่นทำฉลองอายุ ๘๐ ปี มีโค้ดตัวเลข ๘๐ ตอกอยู่ที่ห่วง ส่องให้ดี ๆ นอกนั้นถ้าไม่ใช่ที่มาดีจริง ๆ ไม่ต้องไปแตะเลยครับ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2023 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 17-11-2023, 00:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพไปกราบหลวงปู่เจือ ตั้งใจว่าจะไม่รบกวนท่าน ตั้งท่าไปบูชาวัตถุมงคลในตู้เอง ท่านกวักมือเรียก บอกว่า "จะเอาเบี้ยให้มาเอาที่ผมนี่..!" ถึงท่านไม่พูดอีก ก็เป็นอันว่ารู้กันว่าในตู้นั่นปลอมทั้งนั้น..! เพราะว่าไอ้คนขายก็คือคนที่ทำเบี้ยแก้ให้ท่านนั่นแหละ แล้วก็ทำขายเองด้วย เพียงแต่หลวงปู่ไม่ได้เสก ไม่ได้ลงให้..!

คราวนี้ถ้าหากว่าเป็นเบี้ยแก้สายอื่นที่มีหลุดรอดออกไปจากสายวัดกลางบางแก้ว มีหลวงพ่อกา วัดแค นครชัยศรี อันนี้ก็สายเหนียว สังเกตง่าย เบี้ยแก้มีห่วงเดียว แล้วห่อด้วยผ้ามุ้งชุบรัก เพราะฉะนั้น..จะเป็นตาข่ายยิบ ๆ แล้วก็มีห่วงเดียว ถัดจากนั้นก็หลุดไปโน่นเลย หลวงพ่อไพล วัดบางแคกลาง สมุทรสงคราม ไม่รู้ว่ามาได้อย่างไร ? ไม่รู้ว่าใครเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน แต่เบี้ยแก้ของท่าน แถวนั้นนิยมมาก บอกว่ากันผีเด็ดขาดที่สุด..!

แล้วถ้าจะเอาหายากสุด ๆ ก็เบี้ยแก้พอกครั่ง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพราะว่าเบี้ยแก้พอกครั่งของท่านก็มาจากการที่ท่านทำในเรื่องครั่งจนกระทั่งดังแล้ว ก็เลยเอามาใช้กับเบี้ยแก้ด้วย แต่ในชีวิตของกระผม/อาตมภาพ ได้มาแค่ ๕ - ๖ ตัว ต้องบอกว่าได้มาน้อยกว่าของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ที่หายากเสียอีก..!

คราวนี้ในเรื่องของเบี้ยแก้ ถ้าหากว่าเราพกติดตัว ไม่ว่าจะอยู่ในป่า อยู่ในบ้าน ต้องปลุกไว้เป็นปกติ ไม่ใช่ว่าพกเอาไว้เฉย ๆ เหมือนอย่างกับพกสากกะเบือ..! วัตถุมงคลทุกอย่าง ถ้าเราจะใช้ให้เกิดผล จะต้องมีการปลุกเป็นปกติ คาถาไปหาเอาได้ ตาม "กูเกิ้ล" มีเยอะแยะไป ชอบใจบทไหนก็ว่าไปเลย อานุภาพมีครบแต่เน้นด้านใดเท่านั้น มีของสายวัดกลางบางแก้วที่หลากหลายหน่อย จะใช้ประเภทปกติทั่วไป หรือจะเอาประเภทเหนียว หรือจะเอาประเภทถอนคุณถอนของนั่นมีหมด ส่วนใหญ่ของสายอื่นจะไปเน้นเรื่องความเหนียวมากกว่า

ดังนั้น..ไอ้ตัวแสบไม่รู้ว่า นอกจากเบี้ยแก้ตัวครู หลวงปู่เจือในศาลานี้แล้ว กระผม/อาตมภาพยังพกเบี้ยแก้ติดตัวด้วย ทำไปก็เหนื่อยเปล่า รำคาญก็เลยเตือนไป บอกว่า "ให้เลิกซะ..ไม่มีประโยชน์หรอก เหมือนอย่างกับเด็กอนุบาลจะมาเล่นอะไรกับคนจบปริญญา คุณก็หาเรื่องเดือดร้อนเอง..!"

แต่คราวนี้พอไกล่เกลี่ยเสร็จ แต่คาดว่าเขาคงทำไม่ได้หรอก เพราะว่าผู้กำกับท่านคงเห็นแล้วว่า ไม่มีทางหรอกที่จะทำงานเราให้เสร็จ แต่ว่าถ้าหากว่าเขาไม่ทำตามสัญญาภายในสิ้นเดือนมกราคม แล้วส่งหัวรถจักรให้เรา เราสามารถฟ้องในข้อหาฉ้อโกงได้เลย เพราะว่าเขาตั้งเจตนาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2023 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว