กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 20-07-2023, 19:53
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,652
ได้ให้อนุโมทนา: 216,921
ได้รับอนุโมทนา 747,942 ครั้ง ใน 36,439 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-07-2023, 00:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งของวัดท่าขนุนเรา ที่ช่วยกันอัญเชิญพระแก้วประจำพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน น้ำหนัก ๙๕๐ กิโลกรัม ขึ้นสู่ที่ประดิษฐานได้สำเร็จ ชนิดที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้รับเหมา หรือว่านายช่าง ตลอดจนกระทั่งคนของเราเอง ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ เพราะว่าส่วนใหญ่ของเขาต้องมีรอกชัก ต้องมีรอกกระดกให้ยุ่งไปหมด ส่วนของเรามีแต่แรง..!

แต่ทุกท่านก็เห็นแล้วว่า ถ้าหากว่าใช้
แรงงานได้ถูกที่ถูกทาง เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้ และโดยเฉพาะถ้ามีปัญหาขึ้นมา ปัญญาจะเกิดเอง เพียงแต่ว่าให้ฟังคนอื่นบ้าง ถ้าเรารู้สึกว่า เรามีแนวทางที่ดีในการแก้ไขปัญหานั้น ๆ แต่คนอื่นเสนอแนวทางที่ดีกว่า เราต้องยอมรับ อย่าไปแบกทิฏฐิมานะอยู่ ถ้าแบกทิฏฐิมานะอยู่ นอกจากงานไม่สำเร็จแล้ว ยังจะขัดแย้งกันเสียเปล่า ๆ

ต้องขอบคุณขอบใจทุกท่านทุกคน ที่ช่วยกันออกเรี่ยวออกแรงจนแทบจะหมดสภาพไปตาม ๆ กัน ขอบคุณแม้กระทั่งเวรยามที่ไม่ละหน้าที่มา เนื่องเพราะว่าตอนที่เราระดมพลมาจนหมด บางทีอาจจะมีมิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ เราใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มิจฉาชีพก็ใช้ปัญญาเช่นกัน ก็คือเขาจะเลือกจังหวะที่เราทำวัตร
บิณฑบาต เจริญกรรมฐาน ในการที่จะแทรกเข้ามา แล้วก็ลักขโมย หรือก่ออาชญากรรม

ต้องบอกว่าคนดีก็มีความฉลาด ถ้าหากว่ากุสโล ก็คือฉลาดในการสร้างบุญสร้างกุศล โกวิโท ก็คือฉลาดหลักแหลมในการแก้ไขแก้ปัญหาต่าง ๆ ไอ้เจ้าพวกมิจฉาชีพนั้นเป็นเฉโก ฉลาดในการโกง บาลีมีความหมายว่าฉลาดเหมือนกัน แต่ฉลาดไปคนละอย่าง

เมื่อเช้านี้กระผม/อาตมภาพก็ต้องบอกว่าหมดสภาพ เพราะปกติจะตื่นประมาณตี ๒ เมื่อเช้านี้เสียงระฆังดังแล้วถึงตื่น หมดสภาพจริง ๆ เพียงแต่ว่าพอเรียกตัวเองให้ลุก ปลุกตัวเองให้ฟื้น กลับเข้ามาก็เจริญพระกรรมฐาน ทำวัตร บิณฑบาตกับพวกเราได้ตามปกติ เรื่องของร่างกายเราอย่าไปเชื่อมากนัก ถึงบอกว่าไม่ไหว ก็ให้เราพยายามไหวหน่อย เพราะว่าเราเองก็ไม่ได้ต้องการร่างกายนี้อยู่แล้ว "มึงจะพังลงไปก็เรื่องของมึง กูจะทำงาน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2023 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-07-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ช่วงเช้าที่เจริญพระกรรมฐาน กระผม/อาตมภาพขึ้นไปกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขออนุญาตพระองค์ท่านเป็นกรณีพิเศษว่า ถ้าหากญาติโยมล้นหลาม จนรับกันไม่ไหวจริง ๆ จะขออนุญาตเป่ายันต์เกราะเพชรรอบพิเศษ แม้ว่าพระองค์ท่านจะอนุญาต แต่สิ่งที่ไม่อนุญาตนั้นมีเยอะมาก

ที่แรกเลยก็โดนก็คือวัดสี่แยกเจริญพร นิมนต์กระผม/อาตมภาพไปปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านสั่งเลย "ห้ามรับของคนนอกมาเข้าพิธี" แม้กระทั่งในวัดท่าขนุนของเรา พวกท่านก็จะเห็นว่าระยะหลัง ๆ ในช่วงของการเป่ายันต์เกราะเพชร จะไม่มีการรับฝากวัตถุมงคลเข้าพิธี ท่านบอกว่าหากินกันจนเกินงาม..!

ในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น สิ่งที่พระองค์ท่านจะสงเคราะห์ให้ ก็คือวัตถุมงคลที่เราติดตัวอยู่ แต่คราวนี้คำว่า "ติดตัวอยู่" ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ประมาณ ๒ ชิ้น ๓ ชิ้นก็พอได้ แต่ถ้ามึงเล่นขนมาเป็นร้อยเป็นพัน ท่านก็ไม่อนุเคราะห์สงเคราะห์ให้เหมือนกัน แต่ก็จะมีไอ้พวกปัญญามากแบบเฉโก ก็คือฝากเขามาคนละ ๕ องค์ ๑๐ องค์ แบบนั้นก็รอไปเถอะ..!

เรื่องของพระ เรื่องของพรหม เรื่องของเทวดา ท่านตรงไปตรงมา ไม่ใช่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาแล้วจะรอดไปได้ ก็แปลว่าในเรื่องที่พวกเราทั้งหลายพยายามที่จะทำกัน ไม่ว่าจะเป็นในพิธีที่วัดท่าขนุนก็ดี ที่บ้านก็ตาม ถ้าหากว่าไม่ใช่ของที่คิดจะใช้คู่ตัวแค่ชิ้นสองชิ้น ทำขึ้นมาด้วยความเคารพในพระรัตนตรัย แต่ตั้งใจทำขึ้นมาขาย ท่านไม่สงเคราะห์ให้ ฉะนั้น..ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ จะตั้งพิธียิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็นิมนต์เรียนเชิญท่านเอาเองก็แล้วกัน กระผม/อาตมภาพไม่เกี่ยว

ส่วนในเรื่องของวัตถุมงคลต่าง ๆ ของวัดเราก็ต้องบอกว่าเหลือน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าวันงานจะมีเพียงพอให้กับญาติโยมที่มาหรือเปล่า ? แต่ว่าส่วนที่มีแน่ ๆ ก็คือน้ำมนต์เสาร์ ๕ ซึ่งจะว่าไปแล้ว เป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพถนัดที่สุด เนื่องเพราะว่าภาวนาชักยันต์น้ำมนต์อยู่ ๓ ปีเต็ม ๆ มีใครลองทำดูบ้างไหม ? หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยืนยันว่า ถ้าใครสามารถทำได้ จะบรรเทาวาระกรรมลงไปได้มาก กระผม/อาตมภาพลองทำดู ก็จริงตามนั้น เพราะว่าร่างกายดีขึ้น เจอหมอเจอยาที่ถูกโรคมากขึ้น

คราวนี้ทำไมการที่เราภาวนาชักยันต์น้ำมนต์แล้วถึงสามารถที่จะลดวาระกรรมลงไปได้ ? ก็เพราะว่าท่านภาวนา ทาน ศีล ภาวนา ภาวนาอานิสงส์สูงที่สุด แล้วการที่นึกถึงภาพยันต์ก็คือการทรงทิพจักขุญาณ หรือว่าทรงกสิณนั่นเอง เท่ากับว่าเราทำกองกรรมฐานใหญ่ ยิ่งถ้าทำสม่ำเสมอ ผลดีก็ยิ่งเกิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2023 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-07-2023, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้พวกเราทั้งหลายส่วนใหญ่มีสองอย่าง อย่างแรกก็คือฟังแล้วไม่เชื่อก็เลยไม่ทำ อย่างที่สองก็คือฟังแล้วเชื่อ แต่ไม่มีอารมณ์จะทำ เป็นเรื่องที่แปลกมาก บุคคลที่ปฏิบัติธรรมแล้วจะประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่แล้วก็คือบุคคลที่ต้องจริงจังและสม่ำเสมอ ไม่ใช่ทำบ้างทิ้งบ้าง ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกฝนซักซ้อมอยู่ทุกวัน

ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพทำวัตรไป อ่านหนังสือไป แล้วรู้เรื่องได้อย่างไร ? ถ้าหากพวกเราสามารถแยกจิตทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ อย่างพระอินทร์ ท่านทำงานทีละพันอย่างพร้อมกันได้ เขาถึงได้เรียกท่านว่า "สหัสนัยน์" ผู้มีตาตั้งพัน ก็คือสามารถพินิจพิจารณาเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งพันเรื่องพร้อม ๆ กัน

เพียงแต่ว่าการแยกจิตแยกกายทำงานหลายอย่างพร้อมกันนั้น มีข้อเสียเหมือนกัน ก็คือถ้าเราควบคุมรักษาไม่เป็น แม้แต่ขณะที่เราภาวนาจนกระทั่งลมหายใจทรงตัว อีกใจหนึ่งมันยังฟุ้งซ่านได้ เพราะว่าเราไปแยกจิตจนชิน

วิธีที่ดีที่สุดก็คือ รวมความรู้สึกทั้งหมดกลับมาหาลมหายใจเข้าออกตรงหน้า อย่าปล่อยให้หลุดไปไหน ไม่เช่นนั้นแล้วเผลอเมื่อไรก็แยกใจหนึ่งไปภาวนา ใจหนึ่งไปฟุ้งซ่าน กลายเป็นทำดีกับชั่วพร้อม ๆ กัน ถ้าหากว่ากำลังความดีมีมากว่าก็กำไร กำลังความชั่วมีมากกว่าก็ขาดทุน ที่เสมอ ๆ กันนั้นหายากมาก

สำหรับพวกเรา พรุ่งนี้ออกบิณฑบาตแล้วแจ้งงดออกบิณฑบาตวันเสาร์หนึ่งวัน และวันเสาร์ต้องงดทำวัตรเช้าไปด้วย ไม่มีที่ให้พวกท่านทำหรอก เชื่อเถอะ..! ก็แปลว่าเช้าวันเสาร์ พวกเราต้องเข้าประจำตำแหน่งหน้าที่กันเลย ได้ยินเสียงระฆังสัญญาณเมื่อไร ก็รีบแบ่งกันไปฉันเช้า แล้วก็กลับเข้าสู่งานของตัวเอง

ตั้งใจว่าถ้าพระท่านสงเคราะห์ในเรื่องเป่ายันต์เกราะเพชรเมื่อไร เราขอน้อมรับด้วย แล้วก็ทำงานไป จะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องไปใส่ใจว่าสมาธิจะทรงตัวหรือไม่ ? จะภาวนาได้ต่อเนื่องหรือไม่ ? ถ้าพระท่านสงเคราะห์แล้ว ต้องการหรือไม่ต้องการท่านก็ให้ เพียงแต่ว่าให้แล้วเรารักษาไว้ได้หรือเปล่า ? นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กระผม/อาตมภาพเองรับยันต์เกราะเพชรจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงสิบกว่าครั้ง ไม่เคยได้มีโอกาสนั่งอย่างเป็นทางการสักครั้งเดียว เพราะว่าวิ่งทำงานตลอด แต่ก็รับรู้ได้ตลอดว่าตอนนี้ยันต์กำลังเข้าตัวเอง บางทีขนลุกเป็นหนามขนุน ลูบไม่ลงเลย เป็นตุ่ม ๆ เหมือนหนังไก่ เห็นชัดมาก แล้วก็อยู่เป็นชั่วโมงเลย เพื่อที่จะยืนยันว่า "เอ็งรับได้แน่" จะได้ไม่เสียกำลังใจว่าเรามัวแต่ทำงานอยู่ แล้วไม่ได้รับอะไรเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2023 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 21-07-2023, 01:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,694 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะท่านที่ตั้งใจรับด้วยความเคารพ จะอยู่มุมไหนของโลกก็รับได้ เพียงแต่ว่าต้องมีความเคารพในพระรัตนตรัยจริง ๆ แล้วก็เตรียมธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม เมื่อตรงเวลากับทางวัด ไม่ว่าจะเป็น ๑๐ โมงเช้า หรือว่าบ่ายโมงตรง ก็ให้ตั้งใจภาวนาพุทโธสัก ๓๐ นาที มีแค่นี้เอง

ถ้าหากรู้สึกว่าร้อนหู ร้อนหน้า หนักตัว หนักไหล่ ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลงอะไรก็ปล่อยไป ให้รู้ว่านั่นเป็นอาการของยันต์ที่กำลังเข้าตัว บางส่วนทำให้ปีติเกิด อาการพวกนี้ถึงได้เกิดขึ้น


บางท่านที่ดื้อมาก ๆ อย่างกระผม/อาตมภาพก็ไข้จับไปสองวันสามวัน เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "เกิดจากสาเหตุอะไรครับ ?" ท่านบอกว่า "เอ็งดื้อเกินไป ยันต์จะเข้าตัว แต่กำลังใจป้องกันตัวไปต่อต้านอัตโนมัติ ในเมื่ออีกฝ่ายกดลงมา อีกฝ่ายยันออกไป ต้านกันอยู่ กำลังเราน้อยกว่าก็ไข้จับ ยันต์เข้าตัวหมดเมื่อไรก็เป็นอันว่าหายไข้"

บางอย่างนั้นนอกเหตุเหนือผลจนต้องถามครูบาอาจารย์ท่านว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะว่าสังเกตตัวเองมาหลายครั้งว่า ทำไมรับยันต์แล้วต้องเป็นไข้ด้วย ฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครมีจริตนิสัยดื้อด้านแบบกระผม/อาตมภาพ ก็น่าจะโดนในระดับเดียวกัน ก็คือไข้จับไปด้วย

ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะญาติโยมหรืออาคันตุกะมา ใครที่รับผิดชอบหน้าที่ก็จัดการนำเข้าที่พักให้เรียบร้อย ในช่วงแรกก็คงต้องลงทะเบียนกันก่อน วันที่ ๒๒ อย่างไรก็ลงทะเบียนไม่ได้ เพราะว่าแห่กันมามืดฟ้ามัวดินขนาดนั้น ก็เป็นอันว่าวันนี้พรุ่งนี้ลงทะเบียนก่อนก็แล้วกัน

ตอนเย็นวันที่ ๒๒ เลิกงานแล้วค่อยโกนหัวนาค แล้วหาคนเทศน์สอนนาคหลังทำวัตรค่ำด้วย วันที่ ๒๓ จะได้บวชหมู่เข้าพรรษา ส่วนท่านที่มาช้าก็ถือว่าเป็นความเฮง เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่ว่างสักวัน รอไปบวชตอนลอยกระทงก็แล้วกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2023 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว