กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-03-2023, 19:54
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,597
ได้ให้อนุโมทนา: 216,876
ได้รับอนุโมทนา 747,060 ครั้ง ใน 36,371 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-03-2023, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,137 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ สิ่งที่บอกกล่าวไป เตือนไป ก็คือตั้งใจให้แก้ไขกัน ไม่ใช่ฟังผ่านหูไปเฉย ๆ กระผม/อาตมภาพเคยบอกหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า คนอื่นฟังสิ่งที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงพูดเป็นคำสอน จึงไม่ค่อยสนใจ ปล่อยผ่านหูไปเฉย ๆ ก็ได้ แต่กระผม/อาตมภาพเองฟังเป็นคำสั่ง ก็คือสั่งให้ทำ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ใครที่ฟังคำครูบาอาจารย์เป็นคำสั่งแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำ ก็ย่อมประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า

ส่วนพวกเราบอกไป กล่าวไป โบราณเขาบอกว่า "เหมือนกับสั่งขี้มูก" ก็คือไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย อย่าลืมว่าแม้แต่หมา เวลาเราดุมัน ห้ามมัน มันยังรู้จักหยุด รู้จักแก้ไข คุณไปดูว่าหมารุ่นเก่า ๆ มีตัวไหนกล้าเข้าครัวบ้าง ? เพราะว่ามันโดนดุมาก่อน มีแต่ไอ้รุ่นใหม่ที่ไม่รู้ภาษา นั่นยังไม่โดนไม้..!

ในเมื่อหมายังรู้จักแก้ไข แล้วพวกเราเองผิดแล้วผิดอีก บอกไปแล้วไม่แก้สักที ตกลงว่าเราจะดีกว่าหมาได้ไหม ? เรื่องพวกนี้ความจริงแล้วไม่จำเป็นที่จะต้อง
ให้มา "ปากเปียกปากแฉะ" กันอยู่ทุกบ่อย แต่พวกเราก็มักจะมีจริตนิสัยเป็นคนประเภท "ไฟไหม้ฟาง" ถึงเวลาโดนด่าทีหนึ่งก็ไฟลุกฮือขึ้นมาได้ ผ่านไปสามวันห้าวัน หมดไปอีกแล้ว

การไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์ในโครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐานให้แก่เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่โครงการเพิ่งจะจบลงไป พระหลายรูป เจ้าสำนักหลายรูป พยายามที่จะตื่นให้ทันที่กระผม/อาตมภาพจะเริ่มลงไปเล่าสารพัดเรื่องให้เขาฟังตอนตี ๓ ครึ่ง แต่ก็มีผู้สารภาพว่า "ทำอย่างไรก็ตื่นไม่ทันหลวงพ่อ"

กระผม/อาตมภาพบอกกับเขาไปว่า เหตุที่คุณไม่สามารถจะตื่นได้ทัน เพราะว่าขาดการฝึกฝนขัดเกลา ตั้งแต่อายุ ๑๖ มาจนถึง ๖๔ กระผม/อาตมภาพฝึกตัวเองอยู่ทุกวัน ก็เหมือนอย่างกับคนที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินทางอยู่ทุกวัน แล้วคนอื่นถ้าจะเดินตาม เดินบ้างหยุดบ้าง แล้วเมื่อไรจะตามทัน ?

อย่าลืมว่าพวกเราทั้งหลายบวชเข้ามา เรารู้จุดมุ่งหมายอย่างชัดเจนว่า เราบวชเพื่อหวังความพ้นทุกข์ แล้วสิ่งที่เราทำ คำที่เราพูด ไปได้กับความหวังของเราไหม ? คนบอกว่าอยากจะไปเชียงใหม่ แต่ไม่ตั้งหน้าตั้งตาเดินทางเสียที ก็ย่อมไม่มีทางที่จะไปถึงได้ ไม่ต้องไปคิดถึงภพอื่นภูมิอื่นที่เป็นของละเอียดและไกลกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2023 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-03-2023, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,137 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่าลืมว่าในฐานะของพระภิกษุสามเณร เราต้องเป็นที่พึ่งของชาวบ้านเขาด้วย ไม่ใช่เอาตัวรอดคนเดียวแล้วจบ พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้เป็นบาลีชัดเจน สุทนฺโต วต ทเมถ อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม ผู้ฝึกตนดีแล้วสมควรช่วยฝึกผู้อื่น ชื่อว่าการฝึกตนนั้นช่างยากจริงหนอ ปรากฏว่าเราได้แค่ประโยคหลัง ก็คือฝึกยาก ไม่ต้องไปหวังเลยว่าฝึกดีแล้วจะไปช่วยคนอื่นเขา..!

ตราบใดที่เรายังต้องอาศัยครูบาอาจารย์คอยบอกคอยกล่าว ปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไชอยู่ทุกวัน ตราบนั้นยังเอาดีไม่ได้ ก็แบบเดียวกับในโครงการอบรมที่ผ่านมา ๕ วันแรกกระผม/อาตมภาพนำให้เขาทุกวัน พอวันที่ ๖ วันที่ ๗ บอกให้หากินเอง ก็ไปไม่เป็น ถ้าเป็นตัวกระผม/อาตมภาพเอง บอกแค่วันแรกก็จบไปแล้ว..!

แม้กระทั่งสมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ไม่มีสักวันเดียวที่กระผม/อาตมภาพจะคิดว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านจะอยู่ได้ถึงวันรุ่งขึ้น พอดินฟ้าอากาศผิดปกติขึ้นมา
กระผม/อาตมภาพจะรีบลุกขึ้นนั่งกรรมฐาน ดูว่าหลวงพ่อท่านไปแล้วหรือยัง..! ดังนั้น..ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสอนก่อนที่ท่านจะจากไป กระผม/อาตมภาพต้องกอบโกยเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ติดขัดตรงไหน ท่านยังมีชีวิตอยู่จะได้สอบถามได้

แล้วดูตอนที่หลวงพ่อท่านมรณภาพไป แม้แต่พระเถระระดับ ๑๐ กว่า ๒๐ พรรษายังนั่งร้องไห้ ก็เพราะว่าไปไว้วางใจว่าหลวงพ่อท่านจะอยู่ถึง ๑๒๐ ปี คนที่ตั้งหน้าตั้งตากอบโกยอยู่ทุกวัน กับคนที่ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง อายุ ๑๒๐ ปีหลวงพ่อถึงจะมรณภาพ ใครที่ควรจะได้อะไรมากกว่ากัน ?

ทุกวันนี้หลายท่าน แม้อายุกาลพรรษามากมายขนาดนั้นแล้วก็ยัง "ไม่เป็นโล้เป็นพาย" อยู่เลย ขณะเดียวกันไอ้ที่บวชอยู่ท้าย ๆ เลยอย่างกระผม/อาตมภาพ ต้องมาเป็นหลักให้ชาวบ้านเขา ก็แค่ความสำนึกตัวโดยไม่ประมาท ว่าครูบาอาจารย์จะไม่อยู่กับเราตลอดไป สิ่งหนึ่งประการใดที่ท่านสอน ที่ท่านบอกกล่าว เราจะต้องรีบกอบโกยหรือว่ารีบทำเอาไว้ อย่างน้อยถ้าเวลานั้นมีอะไรติดขัด เราก็จะได้กราบเรียนสอบถามท่านได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2023 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-03-2023, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,137 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอสิ้นท่านไป กระผม/อาตมภาพต้องกลายเป็นกำลังหลักในการจัดงานศพ พระเถระในกรุงเทพฯ หลายท่านถามว่า "ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่หรือ ?" กระผม/อาตมภาพตอบท่านว่า "กระผมเป็นพระใหม่ครับ เพียงแต่อยากจะทำหน้าที่ถวายครูบาอาจารย์ให้ดีเท่านั้น" คาดว่าคำตอบอาจจะทำให้พระเถระในกรุงเทพฯ ท่านมองวัดท่าซุงราคาสูงติดยอดเมฆไปเลย ขนาดพระใหม่ยังทำได้อย่างนี้

แล้วพวกท่านทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันมาหลายต่อหลายปี ไม่ใช่ไปภาคภูมิใจว่าได้รับคำสั่งสอนจากหลวงพ่อมากกว่าคนอื่น หลายท่านก็ถึงขนาดสะสมคำสอนเอาไว้ทุกครั้ง แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าหากว่าเรากอบโกยเอาข้าวปลาอาหารไปตุนไว้ในคลังเฉย ๆ แล้วไม่ได้ทำกินเสียที

อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า วยธมฺมา สงฺขารา สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ ขอท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม คำสอนประโยคเดียวที่เราจะต้องไปใช้ตลอดชีวิต แต่เราก็ไม่คำนึงถึง
อะไรที่ผิดเป็นเรื่องปกติ ผิดแล้วก็แก้ไข แต่ถ้าผิดแล้วผิดเล่า แก้ไขไม่ได้เสียที ก็สมควรโดน..!

การที่คนทั่วไปจะเสียเวลามาบอกมากล่าวว่าเราผิดตรงไหนนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่าทุกคนรักตัวเอง กลัวคนอื่นเขาเกลียดขี้หน้า กระผม/อาตมภาพเอง ถ้าไม่ได้อยู่ในฐานะครูบาอาจารย์ ก็ไม่เสียเวลาที่จะมาจ้ำจี้จ้ำไชพวกเราเหมือนกัน

ดังนั้น..เรื่องพวกนี้จึงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกด้วย โดยเฉพาะหน้าที่ภายนอกของกระผม/อาตมภาพมากมายมหาศาล โอกาสที่จะอยู่วัดแทบจะไม่มี พวกเราต้องรู้จักไขว่คว้าหาเอาเองบ้าง ไม่ใช่รอแต่ให้ป้อนให้เป็นลูกนกเลย ตราบใดที่เรายังยืนมั่นด้วยตนเองไม่ได้ ตราบนั้นก็ยังเอาตัวรอดไม่ได้ แล้วจะไปเป็นที่พึ่งให้แก่ญาติโยมได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2023 เมื่อ 01:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-03-2023, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,681
ได้ให้อนุโมทนา: 151,934
ได้รับอนุโมทนา 4,417,137 ครั้ง ใน 34,271 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะวัดท่าขนุนของเรา หลวงปู่สายท่านสร้างชื่อเสียงเกียรติคุณเอาไว้ดีมาก ๆ แม้กระทั่งทุกวันนี้ ญาติโยมส่วนใหญ่ที่มาก็เพราะจะมากราบสังขารหลวงปู่ท่าน ทำให้ชาวบ้านเขามองเราในลักษณะที่ว่าเป็น "พระวัดท่าขนุน" กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้พวกเรากลายเป็นที่หวัง ซึ่งเขาก็คิดว่าลูกศิษย์หลานศิษย์หลวงปู่ อย่างน้อยก็ต้องมีความดีอะไรของหลวงปู่ไว้บ้าง

ดังนั้น..ถ้าหากว่าวันแล้ววันเล่า เราไม่สามารถที่จะเอาความดีใส่ตัวได้ ก็ต้องพิจารณาตัวเอง ไม่ใช่อ้างว่าติดในเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน ไม่ใช่อ้างว่าติดในเรื่องของภาระหน้าที่การงาน การปฏิบัติธรรมต้องทำได้ทุกเวลา จึงได้แต่หวังว่า ครั้งหน้าคงจะไม่ได้ยินไม่ได้ฟังอะไรที่ไม่ถูกต้องอีก เพราะว่า
แค่เรื่องสวดมนต์ที่เป็นเรื่องง่าย ๆ แล้วเรายังสวดผิด ขาดสติ ไม่ระมัดระวัง ไม่คิดที่จะแก้ไข เรื่องอื่น ๆ ก็เป็นที่พอเดาได้ว่าจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ !??

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-03-2023 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว