กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-01-2023, 19:51
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,564
ได้ให้อนุโมทนา: 216,954
ได้รับอนุโมทนา 748,141 ครั้ง ใน 36,432 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-01-2023, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,078 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ อากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างแรง จากหนาวก็กลายเป็นฝน ผ้าห่มที่พวกเรารับมาตอนบิณฑบาต ใครจะเอาไปใช้ก็ไปขอที่คลังได้ เพราะว่าสีน้ำตาลเหมาะกับพระมากกว่า บางคนใช้ผ้าห่มสีชมพูหรือสีแดง กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วจะขาดใจตาย..!

คราวนี้ถ้าพวกเราสังเกตจะเห็นว่า ร้านสังฆภัณฑ์ที่ถวายผ้าห่มมาเป็นจำนวนมากนั้นเป็นคนต่างด้าว จะเห็นว่าระยะหลังนี้บรรดาคนต่างด้าว ซึ่งปกติเคยเป็นลูกจ้างบ้าง เอากระจาดเทินหัวเดินขายของบ้าง เป็นเจ้าของร้านไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะรายที่เซ้งร้านลัดดาวัลย์ คุณรู้ไหมว่าร้านลัดดาวัลย์ติดต่อกระผม/อาตมภาพมาก่อน ว่าให้หลวงพ่อหาลูกศิษย์มาซื้อกิจการพร้อมกับลูกค้าทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่คนเขาต้องการในกิจการนี้คือฐานลูกค้า เขาขายในราคา ๒๐ ล้านบาท ปรากฏว่าคนซื้อไปที่ใส่บาตรอยู่ทุกวัน พวกคุณก็เห็นว่าเป็นต่างด้าว..!

พวกเราจะเห็นอยู่สองประการ ประการแรกก็คือคนต่างด้าวส่วนใหญ่แล้วเห็นว่าการอยู่บ้านเรานี่เป็นโอกาสทอง ค้าขาย เก็บเงินเก็บทองเอาไว้ มีโอกาสก็ซื้อกิจการ ถ้าพวกท่านช่างสังเกตหน่อยจะเห็นว่า ร้านขายโทรศัพท์มือถือเกือบ ๑๐ ร้านในตัวตลาดทองผาภูมิ เจ้าของเป็นต่างด้าวเกือบหมด..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านี้สำนึกตัวว่าอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ถ้าไม่ขยัน ประหยัดกิน ประหยัดใช้ นอกจากตัวเองและญาติพี่น้องจะไม่รอดแล้ว โอกาสที่จะลืมตาอ้าปากเป็นหลักเป็นฐานก็ไม่มีอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2023 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-01-2023, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,078 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตั้งแต่กระผม/อาตมภาพมาทองผาภูมิใหม่ ๆ เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว เห็นพี่น้องมอญพม่าส่วนใหญ่เมื่อรับเงินเดือน ถ้าพอซื้อทองคำครึ่งสลึงก็ซื้อครึ่งสลึง พอซื้อ ๑ สลึงก็ซื้อ ๑ สลึง แทบจะไม่เก็บเงินสดไว้กับตัวเองเลย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตอนที่อยู่ประเทศพม่า การเงินขึ้นอยู่กับความพอใจของรัฐบาล นึกอยากจะยกเลิกธนบัตรรุ่นไหนก็สั่งยกเลิกเอาเฉย ๆ เขาถือเงินรุ่นนั้นไว้เท่าไรก็ถือว่าเป็นความซวยของเขาเอง..!


นึกอยากจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ก็ขึ้นที ๕๐๐ เปอร์เซ็นต์..! เพราะฉะนั้น..เงินธนบัตรจึงเป็นอะไรที่ผันผวนมาก เขาจึงเก็บเป็นทองคำแทน และโดยเฉพาะถ้าซื้อทองคำไทย ๑๐ บาท จะได้ทองคำพม่า ๑๑ บาท เพราะว่าทองคำไทยน้ำหนักมากกว่าทองคำพม่า

อีกประการหนึ่งก็คือ คนทั้งหลายเหล่านี้ไม่เคยเว้นในเรื่องการทำบุญ พวกเราจะเห็นว่าเขาใส่บาตรกันเป็นประจำ ตลาดทองผาภูมิของเรามีทั้งวัดท่าขนุน วัดทองผาภูมิ วัดเวฬุวัน วัดป่าผาตาดธารสวรรค์ และวัดจวบจันทร์วนาราม มาบิณฑบาตด้วยกัน ถ้าคนไม่ใส่บาตรเยอะจริง ๆ เลี้ยงพระเณร ๕ วัดไม่ไหวหรอก

พี่น้องต่างด้าวทั้งหลายเหล่านี้ทำบุญเป็นปกติ เราจะเห็นว่าบางทีเขาปิดร้านหายไปเลย ก็คือไปงานทำบุญ โดยเฉพาะเจ้าของร้านสังฆภัณฑ์ที่ถวายผ้าห่มมา พวกท่านต้องคิดนะครับว่าผ้าห่มผืนละเท่าไร ? แล้วถวายมาทีละเป็นโหล เขาไม่ได้สนใจในเรื่องของกำไรขาดทุน เขาสนใจในเรื่องของบุญ ก็คือรู้สึกว่าตนเองขาดบุญส่วนนี้ก็จะทำบุญในส่วนนี้ อย่าลืมว่าผ้าห่มเป็น ๑๐ ผืนนี่ ไม่รู้ว่าเขาต้องค้าขายนานเท่าไรจึงมีกำไรเพียงพอกับราคาผ้าห่ม แต่เขาก็ถวายพระมาก่อนเพื่อเอาบุญ..!

เราดูแค่กำลังใจในการให้ทานของพี่น้องต่างด้าวเหล่านี้ก็รู้อยู่แล้วว่าเราสู้เขาไม่ได้ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่ได้สนใจชีวิตปัจจุบัน เขาลำบากมามากแล้ว อยู่เมืองไทยอย่างไรก็มีกินมีใช้ สบายกว่ากัน จึงไม่กลัวลำบาก แต่กลัวว่าบุญน้อยแล้วเกิดชาติต่อไปจะลำบาก ทุกคนจึงมีการทำบุญเป็นปกติ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เพียงแต่ว่า ถ้าใครจะทำในลักษณะนี้เราก็ต้องคิดหน้าคิดหลังบ้าง ไม่ใช่ว่ามีกำลังใจเราก็ทำโดยที่ไม่ได้ดูว่าคนรอบข้างของเราว่าจะเดือดร้อนหรือเปล่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2023 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-01-2023, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,078 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือ ท่านที่เข้าไปในเว็บไซต์วัดท่าขนุน จะเห็นว่าระยะนี้กระผม/อาตมภาพนำเอาวัตถุมงคลส่วนตัวชิ้นระดับสุดยอดมาลง ซึ่งราคาก็ค่อนข้างแพงตามปกติ บางองค์อย่างเช่นว่าพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์เนื้อดินเผา ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หนีกลับมาหากระผม/อาตมภาพอีกต่างหาก แล้วถ้าหากว่าใครได้เห็นของจริงจะรู้ว่าสวยเหมือนเพิ่งจะพิมพ์เสร็จใหม่ ๆ เลย

ในเรื่องของวัตถุมงคลนี่ ถ้าหากว่าเราอยู่ในวงการ นาน ๆ ถึงจะเจอองค์ที่สวยชนิด "หูตากะพริบ" สักที แล้วท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า ไม่ว่าจะเหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงปู่ภู วัดดอนรัก หลวงพ่อกุ่ม วัดฝาง สภาพล้วนแล้วแต่สวยส่งประกวดได้ทั้งนั้น นั่นเป็นเรื่องที่หลายสิบปีกว่าที่จะหาได้แบบนั้นสักเหรียญหนึ่ง แล้วไม่ต้องห่วงครับ ราคาหลักหมื่นหลักแสนทั้งนั้น

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้ ของท่านดีจริง องค์ท่านเก่งจริง บรรดาลูกศิษย์ลูกหาแขวนติดตัว ชนิดที่ถ้าไม่ใช่สายตรง บางคนจะจำไม่ได้ว่านี่เป็นเหรียญครูบาอาจารย์ตัวเอง เพราะว่าสึกจนไม่เห็นอะไรเลยก็มี ร้อยวันพันปีถึงจะมีประเภทสวยมีหน้ามีตาหลุดมาสักเหรียญหนึ่ง

อย่างเหรียญหลวงปู่ภู วัดดอนรัก หรือว่าหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ โดยปกติแล้วก็คือใช้สึกจนหาหน้าหาตาไม่ได้ นาน ๆ หลุดมาสักเหรียญหนึ่งก็แทบจะตีกันตาย แล้วเจ้าของก็ค่อนข้างหวง บางทีตามแล้วตามอีก ตื๊อแล้วตื๊ออีก แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพวนเวียนอยู่หลายรอบ กว่าที่จะได้ตะกรุดหนังเสือของหลวงพ่อแพ วัดกลางราชครูธารามมา เพราะว่าเจ้าของใช้แล้วมีประสบการณ์จึงหวงมาก

อย่างของหลวงปู่ภู วัดดอนรัก เจ้าของแขวนติดเอวไปแล้วไปล่าสัตว์ ยิงเท่าไรก็ยิงไม่ออก กันแม้กระทั่งปืนตัวเอง..! ในเมื่อเป็นของดี อยู่ในลักษณะที่ท้าพิสูจน์ได้ในลักษณะอย่างนั้น คนที่ได้ไปก็แขวนติดตัว ไม่ยอมปล่อยให้ห่าง

หรืออย่างสมเด็จหูของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ชื่อเสียงโด่งดังในสงครามเวียดนามมาก แม้กระทั่งเสี่ยใหญ่ของอ่างทองที่โดนระเบิดตาย ร่างกายไม่มีรอยแผลแม้แต่นิดเดียว นั่นขนาดแขวนเหรียญที่สึกจนมองหน้าตาไม่เห็นแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2023 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 13-01-2023, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,078 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ของพวกนี้ต้องบอกว่า ถึงราคาแพง แต่ว่าสวยคุ้มค่า ส่งประกวดได้ทุกองค์ ซึ่งโดยปกติแล้วกระผม/อาตมภาพก็ใช้ติดตัวอยู่ ถามว่ามีอย่างอื่นไหม ? มี..แต่ไปค้นไม่ทัน เพราะฉะนั้น..มีอะไรติดตัวอยู่ก็ถ่ายรูปส่งให้ไอ้ตัวเล็กไปก่อน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่มีของลงแล้วเว็บไซต์จะเหงา ของตัวเองบางทีถึงเสียดาย แต่ก็คิดว่านานไปน่าจะมีอีก เพียงแต่ราคาจะอยู่ในระดับไหนก็ไม่รู้ ?

โดยเฉพาะพระหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ตอนนี้กระผม/อาตมภาพน่าจะมีมากที่สุดในประเทศไทย แต่ว่าเป็นของที่พี่อรรณพ (พ.ต.อ.อรรณพ กอวัฒนา) ท่านถวายมาให้ใช้ประโยชน์ในพระพุทธศาสนา ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงต้องรักษาเอาไว้ ที่เอาออกไปจำหน่ายนั่นก็คือของที่ตัวเองสะสมมานาน แล้วที่ออกไปงวดนี้ก็เป็นองค์สุดท้ายที่มีอยู่ด้วย ก็เหลือแต่องค์ของที่พี่อรรณพถวายมาล่าสุดพร้อมกับพระชุดใหญ่ บอกว่า "องค์นี้ถวายหลวงพี่เป็นส่วนตัว" ไม่อย่างนั้นแล้วกระผม/อาตมภาพเองก็จะไม่เหลืออีกแล้ว

ถ้าถามว่าหามาโดยยากแล้วตัดใจได้อย่างไร ? ตรงนี้แหละสำคัญ เพราะว่าถ้าหากว่าสภาพจิตของเราสามารถตัดสิ่งที่เรารักเราชอบได้ ท้ายสุดก็จะตัดร่างกายที่เรารักที่สุดได้

กระผม/อาตมภาพเคยลืมมีดหมอชาตรี ด้ามงา ฝักไม้ ใบมีด ๗ นิ้วของหลวงพ่อวัดท่าซุง รุ่นแรกด้วย เพราะว่าหามาเข้าพิธีเอง ๔๐ กว่าเล่ม กวาดมาหมดตลาดเลย..! แล้วก็เก็บเอาไว้เล่มเดียว เพราะว่าเป็นเล่มที่สวยถูกใจที่สุด ติดย่ามเพื่อใช้งานมาตลอด

ปรากฏว่าวันนั้นมีอธิกรณ์ที่วัดทองผาภูมิ มัวแต่ไปยุ่ง ๆ อยู่ จึงลืมย่ามที่ใส่มีดหมอไว้ที่นั่น กลับมานอนพักแล้วถึงนึกขึ้นมาได้ว่าลืมมีดหมอ ขยับตัวลุกขึ้นมาได้นิดเดียวก็ทิ้งตัวนอนต่อไปตามเดิม ถามว่าทำไม ? คือความคิดตอนนั้นแวบขึ้นมาว่า "ถ้ามีดหมอเล่มเดียว เอ็งตัดไม่ได้ ร่างกายนี้เอ็งก็ตัดไม่ได้หรอก"

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ชัดเลย ว่าสิ่งที่เราปฏิบัติมามีผลหรือไม่มีผล ถึงแม้ว่า
กระผม/อาตมภาพจะชอบวัตถุมงคลทั้งหลายทั้งปวงมาตั้งแต่ตอนเป็นฆราวาส เพราะว่าโดนบรรดารุ่นปู่ย่าตาทวด กระทั่งพี่ ๆ เขาอบรมกันมาในสภากาแฟตั้งแต่เด็ก แต่พอมาปฏิบัติธรรม ก็สามารถที่จะตัด จะละได้ อยู่ในลักษณะที่ว่าไม่ตายก็หาใหม่ได้ ถ้าตายก็เป็นอันว่าจบกัน

ดังนั้น..กำลังใจพวกนี้ เราสามารถใช้ได้ในทุกเรื่อง ถ้าหากว่าเราสามารถตัดในสิ่งที่เรารักเราชอบได้ ก็ไม่มีอะไรที่เราจะตัดไม่ได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2023 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว