กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-11-2022, 17:39
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,649
ได้ให้อนุโมทนา: 216,898
ได้รับอนุโมทนา 747,590 ครั้ง ใน 36,419 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-11-2022, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพได้ไปเป็นประธานสงฆ์ในงานทอดกฐินสามัคคีของวัดวังปะโท่ หมู่ที่ ๘ ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งลูกศิษย์รุ่นแรก คือ พระครูปลัดปรีชา จิรนาโค, ดร. ไปเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นั่น

เมื่อไปถึง ปรากฏว่าทางพระครูปลัดปรีชา, ดร. ได้จัดให้พระทั้งหมดนั่งอยู่บนอาสนะสงฆ์ กระผม/อาตมภาพจึงต้องให้พระครูปลัดปรีชา, ดร. ท่านนั่งหัวแถว

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเป็นธรรมเนียมเลยว่า ในพิธีรับกฐินนั้น ไม่ว่าจะมีผู้อาวุโสพรรษามากกว่าเท่าใดก็ตาม เจ้าอาวาสต้องนั่งหัวแถวเสมอ

พระครูปลัดปรีชา, ดร. ตอนแรกก็ไม่ยอมนั่งหัวแถว จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพต้องดุเอาว่า "นี่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาช้านานแล้ว ถ้าหากว่าต้องการให้ผมนั่งเป็นประธาน ก็ต้องจัดที่นั่งไว้ต่างหากข้างล่าง แต่ถ้าให้นั่งรวมกันข้างบนทั้งหมด คุณก็ต้องอยู่หัวแถวตามธรรมเนียม"
เรื่องพวกนี้บางทีเราท่านทั้งหลายก็นึกไม่ถึง เพราะว่าเรื่องบางอย่างก็เป็นแบบธรรมเนียมเฉพาะของทางคณะสงฆ์ ซึ่งญาติโยมทั้งหลายบางทีก็ไม่เข้าใจ แล้วอาจจะคิดว่าพระสงฆ์ของเราปฏิบัติผิดพลาดไปอีกต่างหาก

อีกส่วนหนึ่งก็คือว่า กระผม/อาตมภาพนั้นใส่หน้ากากอนามัยติดตัวอยู่เสมอ เนื่องเพราะว่าระยะนี้งานทอดกฐินสามัคคีทำให้หลายวัดเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แล้วพระสงฆ์วัดท่าขนุนที่ไปช่วยงานในวัดสาขาต่าง ๆ ก็นำเอาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ กลับมาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่พระภิกษุ สามเณร แม่ชี และฆราวาสที่วัดท่าขนุน ซึ่งตอนนี้ก็มีพระภิกษุสามเณรติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จำนวน ๖ รูป และฆราวาสอีก ๑ คน

ทางด้านคณะ อสม.ตำบลท่าขนุน นำโดยคุณสายใจ สินค้าประเสริฐ หัวหน้าคณะ อสม.ได้มาทำการตรวจคัดกรองให้อยู่เนือง ๆ ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ต้องขอเจริญพรขอบพระคุณทางคณะ อสม.ตำบลท่าขนุนเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-11-2022 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-11-2022, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายก็คือว่า กระผม/อาตมภาพได้ซื้อแคชเชียร์เช็คมอบให้กับทางวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ เป็นเงิน ๒๗๖,๐๕๐ บาท เพื่อช่วยจ่ายค่าเทอมให้กับนิสิต ทั้งพระภิกษุ สามเณร แม่ชีและฆราวาส ที่ค้างจ่ายค่าเทอมจนไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าสอบ จึงเท่ากับว่า กระผม/อาตมภาพเหมาจ่ายค่าเทอมตกค้างทั้งหมดให้ ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ก็จะไม่มีการติดบัญชีตัวแดงอีก ก็เหลืออยู่แต่ว่าคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ชุดใหม่ ซึ่งมาแทนที่กระผม/อาตมภาพนั้น จะมาบริหารจัดการให้เป็นไปในด้านใด

แต่ก็มีงานอีกส่วนหนึ่งก็คือการทำวารสาร มจร.กาญจนปริทรรศน์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพรับผิดชอบอยู่เต็มตัว โดยมอบหมายให้พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ แต่ว่ากำลังใหญ่ก็คือ ดร.สุรชัย พุดชู ซึ่งก็คืออดีตพระมหาสุรชัย ชยาภิวฑฺฒโน ซึ่งกระผม/อาตมภาพให้ทุนเรียนปริญญาเอกที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) นั่นเอง พร้อมกับ ดร.แม่ชีกุลภรณ์ แก้ววิลัย พระสมุห์สิปปภาส มหาสิปฺโป ซึ่งเป็นนิสิตปริญญาโทที่กระผม/อาตมภาพได้สอนให้ที่วัดไร่ขิง และพระมหาอินทรปกรณ์ ฐิตสุโภ วัดท่าขนุน ช่วยกันดูแลงานวารสารด้านต่าง ๆ

ท่านทั้งหลายเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกำลังหลัก ในการผลักดันจนกระทั่งวารสาร มจร.กาญจนปริทรรศน์ดำเนินมาจนถึงฉบับที่ ๖ แล้ว ปีหน้าเราก็จะดันขึ้นฐานทีซีไอ ฐาน ๒ หลังจากนั้นแล้วถ้าหากว่าทางวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์มีผู้รับผิดชอบได้ กระผม/อาตมภาพก็จะมอบงานนี้ให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นรับผิดชอบต่อไป

เนื่องเพราะว่าเมื่อวารสารขึ้นฐานแล้วก็จะมีแต่รายรับเข้ามา ผู้ใดที่ต้องการนำเรื่องลงตีพิมพ์ ก็ต้องจ่ายค่าตีพิมพ์ให้กับทางวารสารทุกคนไป ซึ่งตอนนี้ของเรายังอยู่ในระยะที่เรียกว่าลด แลก แจก แถม ก็คือมีการพิจารณาเรื่องโดยเร็วขึ้น เมื่อได้เรื่องที่เหมาะสมแล้ว ก็ยังมีการแจกรางวัลให้อีกด้วย..!

แล้วกระผม/อาตมภาพก็ยังพินิจพิจารณาว่า จะมีการมอบรางวัลใหญ่ให้กับเรื่องที่ตีพิมพ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัย หรือว่างานวิชาการ ซึ่งตลอด ๖ ฉบับที่ผ่านมา จะให้ทางคณะกรรมการคัดเลือกเรื่องที่ถือว่ายอดเยี่ยมออกมา แล้วก็มอบรางวัลให้อีกต่างหาก แต่ว่าหลังจากนี้แล้ว ท่านทั้งหลายก็จะต้องจ่ายค่าตีพิมพ์ให้กับทางวารสาร โดยที่วันดีคืนดีกระผม/อาตมภาพก็จะมาพิจารณาว่ามีเรื่องไหนที่เป็นผลงานเด่น แล้วก็จะมอบรางวัลให้อีกตามเคย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-11-2022 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-11-2022, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการบริหารจัดการต่าง ๆ นั้น สำคัญที่สุดก็คือเราต้องมีหลักอิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ ความพอใจที่จะทำงานนั้น ๆ แล้วประกอบด้วยวิริยะ พากเพียรทำไปไม่ท้อถอย มีจิตตะ กำลังใจปักมั่นแน่วแน่ต่อเป้าหมาย ไม่คลอนคลาย และวิมังสา ไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอว่าเราทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ทำไปถึงไหน ? ตรงต่อเป้าหมาย หรือว่ายังใกล้ไกลต่อเป้าหมายที่วางไว้เท่าไร ?

โดยเฉพาะถ้าเป็นการบริหารคนแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตอบสนองต่อความหวังของคนทั้งหลายเหล่านั้น เพราะว่าบุคคลทุกคนก็ย่อมหวังความก้าวหน้า ต่อให้เป็นพระภิกษุสามเณรก็ตาม ถ้ายังไม่ถึงระดับอนาคามิผลแล้ว ก็ยังมีความหวังความก้าวหน้าอยู่เช่นกัน

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าสามารถหายศ หาตำแหน่ง หาสมณศักดิ์ ให้แก่พระภิกษุสามเณรที่เป็นบุคคลที่เรียกหาใช้สอยอยู่เสมอได้ ก็จะรีบขอ รีบหา รีบจัดการให้ เพื่อให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้เห็นว่า งานที่เขาทำนั้นมีความก้าวหน้าไปตามลำดับ

ตรงจุดนี้เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เราจะไปพินิจพิจารณาแบบคนอื่นที่บอกว่า "พระอาจารย์เล็กรวยแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินตรงนี้" แล้วก็ยึดเอารางวัลที่กระผม/อาตมภาพควรจะได้ไปใช้จ่ายกันเองนั้น อยากจะถามว่า "บอกกับผมสักคำก่อนดีไหม ? ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพเห็นด้วยแล้วค่อยทำอย่างนั้น" ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าท่านทั้งหลายเป็นพระภิกษุ ก็เสี่ยงต่อการต้องอาบัติปาราชิกเป็นอย่างยิ่ง..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พระผู้ใหญ่ซึ่งท่านสังเกตอยู่ โดยเฉพาะพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์จากพระราชวิสุทธิเมธี ขึ้นเป็นพระเทพปริยัติโสภณ กระผม/อาตมภาพก็ได้ขอฐานานุกรมของท่านไว้ ๒ ตำแหน่ง ซึ่งเมื่อขอไป ทางด้านพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณก็ได้บอกว่า "ถ้าท่านอาจารย์เล็กขอ ผมต้องรีบให้ เพราะว่าท่านไม่เคยขอเพื่อตัวเองเลย" แล้วทั้ง ๒ ตำแหน่งนั้น กระผม/อาตมภาพก็มอบให้กับหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) และครูบาหน่อแก้วฟ้า (พระครูสมุห์เจษฎา โชติปญฺโญ) ไป ดังที่ท่านทั้งหลายได้รู้เห็นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-11-2022 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-11-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,190 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความจริงตอนแรกนั้นหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีท่านจะให้สมณศักดิ์ที่สูงกว่านั้น แต่ว่ามีบุคคลที่ท่านต้องการจะเรียกใช้งานมาขอในตำแหน่งนั้น ๆ ทีหลัง กระผม/อาตมภาพจึงตัดแบ่งให้ไป โดยที่บอกกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพปริยัติโสภณว่า "หลวงพ่อเอาคนทำงานไว้ก่อน เรื่องของกระผมนั้นเมื่อไรก็ได้ เพราะว่ากระผมไม่ได้ต้องการเสริมตนเองด้วยสมณศักดิ์เหล่านี้ เพียงแต่ว่าขอให้เป็นกำลังใจแก่บุคคลที่ตั้งใจทำงานเท่านั้น" ซึ่งท่านเองก็ขอโทษขอโพย ขออภัย เนื่องจากว่ารับปากเอาไว้ว่าจะให้สูงกว่านั้น แต่ท้ายที่สุดก็ต้องลดลงมา เพื่อมอบตำแหน่งที่สูงกว่าให้แก่บุคคลที่ท่านจำเป็นจะต้องเรียกหาใช้งานแทน

กระผม/อาตมภาพเองนั้นเป็นคนที่ไม่คิดอะไร หลวงพ่อนิลและครูบาหน่อแก้วฟ้าก็เช่นกัน เพราะเราทั้งหลายถือหลักที่ว่า "ยศช้าง ขุนนางพระ" ให้มาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นอกจากจะมี "ปลอกคอ" เพิ่มขึ้นมาเส้นหนึ่ง ซึ่งคำว่า "ปลอกคอ" นี้อาจจะหยาบคายอยู่สักหน่อย แต่เนื่องจากว่าโลกยุคนี้สมัยนี้เขาต้องการ

ถ้าหากว่ามียศมีตำแหน่ง คนก็จะนับหน้าถือตามากกว่า ให้ความเชื่อถือศรัทธามากกว่า แล้วในขณะเดียวกัน บรรดาลูกศิษย์ลูกหาก็ดีใจว่า หลวงพ่อของตนเอง ครูบาอาจารย์ของตนเองนั้น มีความเจริญก้าวหน้าในทางพระพุทธศาสนา

ดังนั้น..ในส่วนที่ว่าการบริหารคนนั้น ต้องตอบสนองต่อความหวังของเขา ไม่ว่าจะเป็นยศ เป็นตำแหน่ง เป็นขั้นเงินเดือนก็ตาม เราจะละเว้นเสียไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วเราก็ไม่สามารถที่จะผูกใจคนให้แน่วแน่อยู่กับเราได้ เนื่องจากว่าท่านทั้งหลายยังไม่ได้มีกำลังใจที่มั่นคงถึงระดับที่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งหนึ่งประการใด ซึ่งท่านทั้งหลายที่ทำได้แบบนั้น กระผม/อาตมภาพก็ขอยกเอาไว้เหนือเศียรเหนือเกล้าว่า ท่านเป็นบุคคลที่เหนือโลก และอาจจะพ้นโลกไปแล้ว เป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าโมทนาเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-11-2022 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว