กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-08-2022, 19:44
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,660 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-08-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพเหมือนอย่างกับไม่มีงาน แต่ความจริงก็คือดำเนินการล้างอ่างเก็บน้ำสำรอง เพื่อที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำใหม่ลงไป ใช้เวลาเปิดน้ำเก่าทิ้งไป ๗ ชั่วโมงกว่า แต่ว่าตอนที่เปิดน้ำใหม่ลงไปน่าจะใช้เวลาถึง ๒ วันครึ่ง เพราะว่าตอนเปิดทิ้งท่อ ๑๐ นิ้ว ตอนใส่ลงไปเป็นท่อนิ้วเดียว..!

หลายท่านอาจจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพบ้าเรื่องนี้มา ๒ ปีแล้ว พร้อมกับได้เตือนทุกท่านไปแล้วด้วย แต่ว่าพวกเราถ้าไฟไหม้มาไม่ถึงก้น ก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร เรื่องที่เตือนไปก็คือว่า น้ำจะท่วมในที่ไม่ควรท่วมและจะแล้งในที่ไม่ควรแล้ง ที่ต้องทำอ่างเก็บน้ำสำรองไว้ ก็เพื่อว่าอย่างน้อย ๆ ถ้าหากว่าน้ำแล้งมากจนกระทั่งขาดแคลน ทางวัดก็ยังมีสำรองใช้อยู่ประมาณ ๒๐ วัน คงพอที่จะขยับขยายหาส่วนอื่นมาทดแทนกันได้

ญาติโยมจำนวนมากก็ได้ยินที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า ให้หาภาชนะสำรองเก็บน้ำไว้บ้าง แต่ก็มีน้อยคนที่จะทำ โดยเฉพาะช่วงนี้ก็คงเห็นว่าน้ำท่วม แต่โปรดระวัง น้ำท่วมในที่ไม่ควรท่วมและแล้งในที่ไม่ควรแล้ง นี่เป็นเรื่องที่เดือดร้อนง่ายที่สุด เพราะว่าคนมักจะนึกไม่ถึงกัน ก็ถือว่ามาเขย่าขวดด้วยการกระทำ ก็คือเตือนพวกเราอีกรอบหนึ่ง

ในโลกยุคปัจจุบันนี้ คนเก่งไม่แน่ว่าจะอยู่รอด คนที่ปรับตัวเร็วถึงจะอยู่รอดได้ กระผม/อาตมภาพยังไม่ถือว่าเป็นคนเก่ง เพราะว่าในชีวิตเจอคนเก่งกว่ามามากต่อมาก แต่ว่าอะไรที่พระ หรือว่าพรหม หรือว่าเทวดา ครูบาอาจารย์ท่านบอก ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง กระผม/อาตมภาพจะทำตามเสมอ

ตั้งแต่สมัยที่อยู่เกาะพระฤๅษี พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกให้เก็บทองคำสำรองไว้เป็นกองทุนของวัด ๕๐๐ บาท กระผมทำไม่สำเร็จ สมัยนั้นทองคำบาทหนึ่ง ๔,๒๕๐ บาท กระผมทยอยเก็บได้แค่ ๖๓ บาท แล้วก็โดนไอ้ทิดชาติชายที่ตอนนั้นบวชอยู่เอาไปหล่อพระกับวัดท่าซุงไปเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเรื่องเดียวที่ครูบาอาจารย์สั่งแล้วทำไม่สำเร็จ ไม่อย่างนั้นท่านลองคิดดูว่าจากบาทละ ๔,๒๕๐ แล้วปัจจุบันนี้ บาทหนึ่งเกือบ ๓๐,๐๐๐ บาท ต่างกันแค่ไหน ? บางเรื่องไม่มีวี่แววให้เห็นว่าจะเกิดขึ้น ถ้า
กระผม/อาตมภาพพูดไปก่อนก็ลำบาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2022 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-08-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องต่อไปก็คือว่า ท่านทั้งหลายก็น่าจะได้เห็นแล้วว่าบาดแผลของกระผม/อาตมภาพเป็นอย่างไร ความจริงน่าจะเย็บมากกว่า ๕ เข็ม แต่คราวนี้โควต้ามีแค่นั้น ในเมื่อโควต้ามีแค่นั้น ต่อให้แผลใหญ่กว่านี้ ท้าวมหาราชท่านก็ต้องทำตามคำสัญญา ก็คือเย็บไม่เกิน ๕ เข็ม ท่านก็หาวิธีของท่านจนได้..!

ตรงนี้ไม่กล่าวถึง ที่กล่าวถึงก็คือว่า ตัวกระผม/อาตมภาพเอง นอกจากพกวัตถุมงคลเต็มตัวแล้ว ยังภาวนาจับภาพพระเป็นปกติ ยังบาดเจ็บขนาดนี้เลยหรือ ? ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจคำหนึ่งที่ว่า "อิทธิฤทธิ์แพ้บุญฤทธิ์ บุญฤทธิ์แพ้กรรมวิบาก" ถ้าถึงเวลาวิบากกรรมเข้ามา แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องยอมรับ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น วัตถุมงคลก็แค่ผ่อนเรื่องหนักให้เบา แล้วก็ทำเรื่องเบาให้หาย เพียงแต่กระผม/อาตมภาพไม่คิดว่าจะมาในมุมนี้

เรื่องที่ไม่ได้บอกให้พวกท่านตกใจก็คือว่า "วีซ่าหมดอายุ" แล้ว โดนแค่นี้นับว่าเบามาก ในเมื่อวีซ่าหมดอายุแล้วโดนแค่นี้ ก็ถือว่าเรื่องใหญ่เทียมฟ้าลดลงมาเหลือแค่ยอดหญ้า ยังพอรับได้อยู่

เรื่องของวัตถุมงคล เราต้องเข้าใจว่า ถ้าเป็นสายของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านไม่กันนอกข้อให้ นอกข้อมือข้อเท้าออกมานี่ โดนเมื่อไรก็ไปเมื่อนั้น ถ้าพวกท่านรู้จักสังเกต หลายปีที่อยู่ด้วยกันจะเห็นว่า ถ้ากระผม/อาตมภาพจะได้รับบาดแผลก็คือนอกข้อมือข้อเท้าทั้งหมด ส่วนอื่นไม่ได้รับประทานหรอก..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า ลูกศิษย์ของท่านส่วนใหญ่มาสายพุทธภูมิ กำลังใจล้นเกินกว่าชาวบ้านเขา ถ้าไม่ให้มีจุดอ่อนไว้บ้าง เดี๋ยวจะกลายเป็นโจรกันหมด ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดนแล้วโดนอีกทุกครั้งก็นอกข้อทั้งหมด เขาก็ต้องหาทางเอาของเขาจนได้..!

เพียงแต่ว่าของพวกเราเอง อย่าได้คลายกำลังใจลง โดยไปคิดสงสัยว่า ทำไมวัตถุมงคลช่วยไม่ได้ ? ทำไมบารมีพระช่วยไม่ได้ ? ถ้าสงสัยแบบนั้น ครั้งต่อไปอาจจะถึงตาย เพราะกำลังใจไม่มั่นคงแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-08-2022, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบเดียวกับที่บิณฑบาต แล้วหลายท่านที่กระผม/อาตมภาพเคยสอนเกี่ยวกับคาถาห้ามฝน ความจริงจะเรียกว่าห้ามฝนก็ไม่ใช่หรอก ให้ฝนตกช้าหน่อย แล้วพวกท่านพอเห็นเมฆดำติดหัวมาก็กำลังใจตกหมด ยิ่งถ้าเปาะแปะลงมาด้วยก็เป็นอันว่าจบกัน ไม่เหลือกำลังใจเอาไว้เลย

แต่ถ้าท่านสังเกตจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพไม่ได้ใส่ใจเลย เพราะว่ามั่นใจ ในเมื่อมั่นใจก็แปลว่าก็ต้องรอด แล้วท่านก็จะเห็นว่าฝนที่พรำลงมาก็ต้องหลบไปอยู่ดี เพราะว่าความมั่นใจของเราสำคัญที่สุด

อย่าลืมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า มโนปุพพังคมา ธัมมา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มโนเสฏฐา สูงสุดก็ที่ใจ มโนมยา สำเร็จก็ด้วยใจ เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าจะสำเร็จได้ กำลังใจต้องอยู่ในระดับที่ไม่หวั่นไหวกับสิ่งกระทบทั้งปวง ไม่เช่นนั้นแล้ว บรรพบุรุษของเราไม่สามารถที่จะรักษาแผ่นดินนี้เอาไว้ให้ลูกหลานอย่างพวกเราได้อยู่

สมัยก่อนไม่ใช่สมัยนี้ที่ส่งโดรนบินไปสามสี่พันกิโลเมตรถล่มข้าศึก ไอ้คนควบคุมโดรนนั่งอยู่ห้องใต้ดิน กินแฮมเบอร์เกอร์ ซดโค้กไปด้วย มือก็คุมโดรนไป ไม่ได้รู้จักหน้าค่าตาข้าศึกเลยแม้แต่นิดเดียว ถล่มตายเรียบไปแล้ว แต่สมัยก่อนหอกดาบขาววับวิ่งเข้าไปประจัญบานกัน ถ้ากำลังใจไม่มั่นคง แค่เห็นหอกดาบขาววับมา กำลังใจตกก็เรียบร้อย เหนียวแค่ไหนก็ยุ่ย..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องของกำลังใจจึงสำคัญที่สุด

ถ้าหากว่ากล่าวถึงในเวสารัชชกรณธรรม ธรรมที่ทำให้กล้า ประกอบไปด้วยอะไร ? ศรัทธา ศีล พาหุสัจจะ วิริยะ สติปัญญา

ศรัทธา ความเชื่อมั่น ทำให้เรากล้าได้ อันดับแรกเลยคือ เชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัย เป็นเป้าหมายที่ทุกท่านจะต้องทำให้ถึง พระธุดงค์ออกป่า อาวุธอะไรก็ไม่มี นอกจากแผ่เมตตากับภาวนา แต่ถ้าหากว่าผจญภัยผ่านมา ทั้งสัตว์ร้าย ทั้งผี ทั้งเทวดาได้ ความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยจะมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะท้ายสุดก็จะเห็นว่า ไม่มีอะไรที่เกินไปกว่าบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ศรัทธาต่อไปก็คือ ความเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาจจะเป็นวัตถุมงคลอะไรที่เรายึดถืออยู่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเครื่อง

ข้อต่อไปคือ ความเชื่อมั่นศรัทธาในผู้นำ มั่นใจว่าผู้นำดี พาเรารอดแน่นอน สั่งให้ทำอะไรก็กล้าทำ

แล้วท้ายที่สุดก็คือ เชื่อมั่นในตัวเอง จำเป็นต้องมี ไม่เช่นนั้นแล้ว จะเอาอะไรไปสร้างความสำเร็จ ? เวสารัชชกรณธรรมแค่หมวดเดียวก็พอแล้ว "มีศรัทธา ความกล้าเกิด"

เพราะฉะนั้น...ท่านที่เรียนนักธรรมอยู่ บางทีก็อ่านผ่านไปเฉย ๆ ไม่ได้ศึกษาให้ลึกซึ้งว่า หลักธรรมของพระพุทธเจ้าทุกหมวด ถ้าหากว่าเรานำมาประพฤติปฏิบัติ สามารถได้มรรคได้ผลทั้งนั้น เพียงแต่ต้องทำให้ถูก ทำให้เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-08-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องหนึ่งก็คือลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ที่ไปเปิดเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ พาเที่ยวชุมชน ยลวิถี จัดแรลลี่ทัวร์มา ๒ รอบแล้ว ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จล้นหลาม เมื่อวานโทรมาตอนตี ๓ บอกว่าพาคณะทัวร์ไปพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งแล้วเพื่อนโดนผีเข้า ทุกคนแตกตื่นกันหมด เหลือลูกกิฟท์นอนหลับเพลินอยู่คนเดียว..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพมอบวัตถุมงคลให้ไป ถามว่าจะเอาอะไร ? เขาขอแค่ท้าวเวสสุวรรณกับกุมารทอง
กระผม/อาตมภาพก็ให้ท้าวเวสสุวรรณ หลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี กับกุมารทอง หลวงพ่อกวยไป ปรากฏว่ากุมารทองตายสนิท..! ไม่โผล่หน้ามาเลย เพราะดันไปอยู่กับ "เจ้าพ่อใหญ่" แล้วจะกล้าหือไหม ? ไอ้คนขอก็ไม่คิด ถ้าพวกท่านสงสัยว่าหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณีคือใคร ? ก็คืออาจารย์ของหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน

ท้าวเวสสุวรรณ ๒ สำนักที่ดังที่สุด ก็คือสำนักหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี ซึ่งโด่งดังมาจนถึงปัจจุบันนี้รุ่นหลวงพ่ออิฏฐ์ อีกสำนักหนึ่งก็คือสำนักวัดสุทัศนเทพวราราม มาโด่งดังยุคที่ท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร ป.ธ.๗) สร้างขึ้นมา

ในเมื่อมีเจ้านายใหญ่ติดตัวไป ผีที่ไหนจะกล้ากวน ? คืนนั้นเพื่อนทั้งหมดก็เลยแห่มานอนด้วย แต่พอคนมาก ๆ เข้าก็ไม่ได้นอน ต่างคนต่างคุยกัน แล้วก็เดินตาตี่ไปทำงาน เพราะว่าสว่างเสียก่อน..!

ที่เล่าให้พวกเราฟังเพราะว่าลูกกิฟท์เป็นคนแปลกมาก เมื่อรู้ว่ากุมารทองใช้งานไม่ได้ก็ถอดเก็บ ทั้งเนื้อทั้งตัวติดท้าวเวสสุวรรณอยู่องค์เดียว วัตถุมงคลอะไรอื่นแนะนำให้ ไม่เอาทั้งนั้น เพราะว่ามีประสบการณ์เรื่องนี้สูงมากว่าเวลาไปอยู่ในที่แบบนั้น คนอื่นเดือดร้อนกันหมด แต่ตัวเองสบายอยู่คนเดียว

แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ลูกกิฟท์ทำก็คือ พอไปถึงก็จะสวดมนต์ไหว้พระ แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าที่เจ้าทาง หรือท่านที่อยู่ที่นั่น ขออาศัยพักนอน แล้วหลังจากนั้นก็นึกถึงวัตถุมงคลของตัวเอง จะได้ดีอยู่หน่อยเดียวก็ตรงที่นึกถึงหลวงปู่เนื่องกับหลวงตาเล็ก วัดท่าขนุนเท่านั้นแหละ อย่างอื่นก็ไม่ได้รับประทาน อย่างเก่งก็ได้เทวตานุสติไปหน่อยหนึ่ง ดังนั้น..ตรงจุดนี้เราจะเห็นว่า ถ้ามีความมั่นใจ วัตถุมงคลชิ้นเดียวก็เที่ยวได้ ๓ โลกเหมือนกัน

จึงเป็นเรื่องที่พวกเราจะต้องสังวรไว้ว่า ตัวเราเองมีศรัทธาเพียงพอไหม ? โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่เป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า เรามีศรัทธาที่แท้จริงแค่ไหน ?

จึงฝากไว้ให้พระเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายได้ไปคิดเล่นเป็นการบ้าน เพื่อที่จะได้ดูว่ากำลังใจของตัวเองเป็นอย่างไร ?

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2022 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว