กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-07-2022, 19:28
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,652
ได้ให้อนุโมทนา: 216,916
ได้รับอนุโมทนา 747,896 ครั้ง ใน 36,439 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-07-2022, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,506 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปร่วมงานอบรมพระนวกะของคณะสงฆ์อำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งปีนี้จัดที่วัดอุดมมงคล หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดเขาน้อย อยู่ข้างแยกวังสารภี ถนนสายเลี่ยงเมือง

การจัดอบรมพระนวกะ จุดมุ่งหมายใหญ่ก็คือให้บรรดาพระบวชใหม่ได้พบเจ้าคณะปกครองชั้นสูงในจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เป็นต้น

ประการที่สองก็คือ ตั้งใจจะให้พระใหม่ของแต่ละวัด ในเขตอำเภอเดียวกันได้ทำความรู้จักกันไว้ ถ้าหากว่าบวชอยู่ต่อไปในภายหน้าได้ ก็จะได้มีพรรคพวกเพื่อนฝูงที่รู้จักมักคุ้น คบหากันมาตั้งแต่เริ่มบวชไม่กี่วัน

แต่ว่าข้อนี้ดูท่าว่าจะไปไม่รอด เพราะว่าพระใหม่แต่ละรูปก็มักจะระมัดระวัง แล้วก็สำรวมตัวเอง คาดว่าถ้าไม่ใช่ประเภทมนุษยสัมพันธ์ดีจริง ๆ ยากมากที่จะได้เพื่อนในงานแบบนี้ ถึงเวลาแม้แต่ร่วมวงฉันก็จะเลือกวัดเดียวกัน ถ้าที่นั่งไม่พอ ต้องไปร่วมวงกับวัดอื่นก็ก้มหน้าก้มตาฉัน แล้วจะไปหาเพื่อนในงานนี้ได้อย่างไร ?

ประการที่สามก็คือ ได้ฟังประสบการณ์ของเจ้าคณะปกครองชั้นสูงที่ส่วนใหญ่ก็อยู่กันมาเกิน ๒๐ พรรษาเป็นอย่างน้อย

เรื่องของประสบการณ์เป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นการเรียนลัด ของบางอย่างเราอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี หรือว่าหลายปี กว่าที่จะเข้าใจถ่องแท้ แต่ถ้าท่านที่เคยผ่านมา แล้วมาบอกกล่าวพวกเราแค่ไม่กี่นาที เราก็จะเข้าใจ และสามารถรู้เท่ากับบุคคลที่เสียเวลาเนิ่นนานขนาดนั้นถึงเข้าใจได้ แต่ว่าตรงนี้ต้องการบุคคลที่ฉลาดในการเรียนรู้มากกว่าผู้อื่น เพราะว่าถ้าหากไม่ใช่บุคคลที่ฉลาดในการเรียนรู้ มีไหวพริบปฏิภาณจริง ๆ ต่อให้มีผู้บอกมาเท่าไรก็ไม่เข้าใจ

กระผม/อาตมภาพเองในสมัยที่ปฏิบัติธรรมใหม่ ๆ ถ้าหากว่ามีรุ่นพี่ หรือว่ารุ่นครูบาอาจารย์ทำอะไรได้แล้วเล่าให้ฟัง แค่ไม่กี่นาที กระผม/อาตมภาพจะทำได้เท่ากับเขา แล้วไม่ใช่ทำได้แค่คนเดียว มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งทำได้ด้วย

เพื่อนผู้หญิงคนนี้คบหาสมาคมกันมานานมาก จนกระทั่งบวชแล้วถึงได้ย้ายแยกกันไป เหตุที่คบหาสมาคมกันได้นานขนาดนั้น เพราะถือว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคู่แข่ง เราทำอะไรได้เขาต้องทำอย่างนั้นได้บ้าง เขาทำอะไรได้ เราก็ต้องทำอย่างนั้นได้บ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2022 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-07-2022, 23:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,506 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เป็นเรื่องอัศจรรย์มากตรงที่ว่า ถ้าเขาทำอะไรได้ อีกไม่กี่วันกระผม/อาตมภาพก็จะทำได้ หลังจากซักซ้อมจนคล่องตัว อีกไม่กี่วันก็จะเจอกัน แล้วก็มาไล่อารมณ์ปฏิบัติกัน ทุกครั้งก็จะเป็นแบบนี้ ที่แน่ที่สุดก็คือ เขาเป็นนักปฏิบัติที่สุดยอดมาก กระผม/อาตมภาพทำอะไรได้ เขาก็ทำอย่างนั้นได้

ท้ายที่สุดในสิ่งที่ทำได้ ถ้าเป็นหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านใช้คำว่า "ความรู้ยันกัน" ก็คือต่างคนต่างหมดกระเป๋า ถ้าเขารุกมาได้อีกหนึ่งก้าว
กระผม/อาตมภาพก็เสร็จ กระผม/อาตมภาพเองไม่มีทางถอยแล้ว ต้องบอกว่าติดกำแพงแล้ว แต่เขาก็ก้าวต่อมาไม่ได้ เพราะว่าหมดกระเป๋าเหมือนกัน

อยากให้ท่านทั้งหลายมีคู่หูแบบนี้บ้าง แต่อย่าให้เป็นเพศตรงข้าม เพราะว่าช่วงนั้นมีคนเข้าใจผิดกันเยอะมาก แม้แต่พ่อของเขาก็แบบนั้น คิดว่ากระผม/อาตมภาพไปชอบลูกสาวเขา ถึงขนาดประเภทหิ้วกาน้ำชามานั่งฟังว่าพวกเราคุยอะไรกัน แล้วท้ายที่สุด ๒ ชั่วโมงผ่านไป น้ำชาหมดไปหลายกา ก็หิ้วกาน้ำชาเดินหนีไป พร้อมกับบ่นว่า "คุยอะไรกันฟังไม่รู้เรื่อง..!"

เนื่องเพราะว่าในระหว่างผู้ปฏิบัติธรรมด้วยกัน บางทีเราต้องการกัลยาณมิตร คือบุคคลที่เป็นเพื่อนฝูง เป็นครูบาอาจารย์ หรือว่าเป็นคู่แข่ง ที่จะกระตุ้นให้เราแสวงหาความก้าวหน้าให้มากขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายมีในลักษณะอย่างนั้น การปฏิบัติธรรมจะมีความก้าวหน้าสูงมาก เพราะว่านอกจากแข่งกับตัวเองแล้ว ยังต้องแข่งกับคนอื่นด้วย คำว่าแข่งกับตัวเองก็คือ คะแนนนี้เราจะได้ หรือว่ากิเลสจะได้ แข่งกับคนอื่นก็คือ เราจะทำได้ดีเท่าเขา หรือว่าดีกว่าเขาไหม ?

ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพถือว่าโชคดีที่ได้พบกับเพื่อนคนนี้ ก็เลยทำให้มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติมากตั้งแต่เป็นฆราวาส แล้วเพื่อนฝูงทั้งหมดก็แอบจับคู่ให้ คิดว่าไอ้คู่นี้ชอบกันแน่ ๆ เจอหน้ากันเมื่อไรก็นั่งสุมหัว คุยกันได้ข้ามวันข้ามคืน

ความจริงต่างคนต่างล้วงกระเป๋าอีกฝ่ายหนึ่งดูว่ามีอะไรบ้าง แล้วท้ายที่สุดก็ "ยันกัน" ทุกครั้ง เขาก็ก้าวขึ้นหน้าอีกก้าวไม่ได้
กระผม/อาตมภาพก็ไม่มีที่ให้ถอย แล้วเขาก็จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทุกครั้ง หาว่ากระผม/อาตมภาพมีอะไรมากกว่าแล้วไม่ยอมบอกเขา ก็เพราะว่าทุกครั้งที่เขาทำอะไรใหม่ ๆ ได้ พอเอามาอวด กระผม/อาตมภาพสามารถบอกได้หมดว่าเขาทำอะไรได้บ้าง ก็เพราะว่าเพิ่งจะทำได้เหมือนกัน ในเมื่อทุกครั้งเป็นเช่นนี้ เขาก็เลยคิดว่ากระผม/อาตมภาพทำได้มากกว่า แต่ไม่ยอมบอก ปล่อยให้เข้าใจผิดไป..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2022 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-07-2022, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,506 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพียงแต่ว่าบรรดาเจ้าคณะปกครองที่ท่านมาแสดงทัศนคติ หรือว่าความรู้ ประสบการณ์ ที่ท่านผ่านมาในการดำรงสมณเพศว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะ "อยู่เป็น"

ตรงนี้สำคัญมากครับ "ต้องอยู่เป็น" เพราะว่าบุคคลบางประเภท ถ้าหากว่าเป็นโกวเล้ง นักเขียนนิยายกำลังภายใน เขาเปรียบเอาไว้ว่าเหมือนกับเม่น ต่อให้เป็นเม่นด้วยกันเองก็อยู่ร่วมกับเขาไม่ได้ เพราะว่าเวลาเบียดเข้าหาคนอื่นเมื่อไร ขนก็จะไปทิ่มแทงเขา เราต้องพิจารณาดูว่าตัวเราเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ?

ในช่วงของการบวชใหม่ ๆ ประมาณพรรษาที่ ๒ ที่ ๓ กระผม/อาตมภาพถึงได้เขียนเอาไว้หน้าสมุดบันทึกประจำวันของตัวเองว่า "ขอให้เราอย่าได้เป็นทุกข์โทษเวรภัยต่อผู้อื่น แม้ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจเลย"

นี่คือเรื่องที่เราต้องระวัง เพราะว่าการก่อกรรมด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ประการใดประการหนึ่งก็ตาม จะทำให้กรรมนั้นมาผูก แล้วก็มีการสนองยาวนานไปอีกนับชาติไม่ถ้วน..!

ในเมื่อเราแสวงหาทางหลุดพ้น ก็มีทางเดียวคือ พยายามลดกรรมของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ การลดกรรมตัวเองลง ไม่ใช่แยกออกจากสังคม ไม่ใช่ไปปลีกวิเวกชนิดไม่เอาใครเลย มนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม แม้ว่าการปฏิบัติธรรมเป็นไปเพื่อความสงบของกาย ของวาจา ของใจก็ตาม แต่ว่าความสงบนั้นต้องสามารถทดสอบได้ในท่ามกลางคนหมู่มาก ไม่ใช่ไปหลบอยู่เงียบ ๆ คนเดียวในป่า ในเขา ในถ้ำ แล้วก็คิดว่าเราทำได้แล้ว นั่นเป็นแค่ความคิด เจอของจริงเข้า อาจโดนกิเลสตีหงายท้องตอนไหนก็ไม่รู้ !?

ประสบการณ์ที่คนอื่นสั่งสอนเรามา บอกกล่าวเรามาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นทางลัดที่จะทำให้เราไปได้เร็วขึ้นโดยไม่เสียเวลามาก แต่เราก็ต้องมีปัญญาในการจำแนกแยกแยะ ที่เมื่อครู่บอกแล้ว วิวะระติ วิภะชะติ ต้องจำแนกให้ได้ ต้องแยกแยะให้ได้ว่า สิ่งนี้เป็นประโยชน์ สิ่งนี้เป็นโทษ แล้วละทิ้งในสิ่งที่เป็นโทษ ไขว่คว้าในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2022 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-07-2022, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,506 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหมือนกับบรรดานักขุดเพชรขุดพลอย ต้องมีความสามารถในการแยกเพชรพลอยออกจากกรวดหินดินทรายทั่วไปได้ ถ้าความสามารถไม่ถึง เราก็อาจจะทิ้งโคตรเพชรไปโดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นของที่ดีที่สุด แล้วที่แย่กว่านั้นก็คือ ไปไขว่คว้าเอาสิ่งที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวมาแทน แล้วก็ทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน ถ้าตนเองต้องเดือดร้อน ครูบาอาจารย์ก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย แล้วยิ่งไปกว่านั้น ก็คือวัดวาอารามอาจจะเสียหาย พระพุทธศาสนาอาจจะเสียหายไปด้วย

ดังนั้น...ในเรื่องของการอบรมพระนวกะ จะว่าไปแล้วมีจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ที่ดีมาก แต่ว่าต้องการคนมีปัญญาจริง ๆ ถ้าไม่มีปัญญาจริง ๆ ก็ต้องเป็นคนที่ใฝ่รู้ หวังความก้าวหน้าจริง ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วก็ยากนักที่จะได้ประโยชน์จากในงาน ดีไม่ดีก็อาจจะก่อกรรมทำเข็ญ ทั้งบ่น ทั้งด่า ทั้งว่า "ทำไมกูต้องมานั่งทนอยู่เป็นวัน ๆ เพื่อฟังไอ้เรื่องที่ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวพวกนี้ ?" ก็เพราะว่าไม่เห็นประโยชน์ แล้วคัดเลือกเอาสิ่งที่ดีไม่เป็น

แต่ละอำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีของเรา ต้องมีการจัดอบรมพระนวกะ แต่ว่าอำเภอที่มีพระใหม่น้อย อย่างพนมทวนและห้วยกระเจา เคยรวบรวมจัดงานด้วยกันมาแล้ว ก็แปลว่าอย่างน้อยกระผม/อาตมภาพต้องไปงานเขา ๑๒ ครั้ง รวมของตัวเองด้วย ยกเว้นว่าปีไหน อำเภอห้วยกระเจากับอำเภอบ่อพลอย หรือพนมทวน หรือเลาขวัญ ต่างมีพระใหม่มากพอก็อาจจะแยกกันจัดของตนเอง

ส่วนอำเภอทองผาภูมิได้รับกำหนดตายตัวว่า จัดงานอบรมพระนวกะทุกวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙ วันเวลาที่กำหนดเป็นขึ้นแรม เพื่อจะไม่ให้ยุ่งยากมากความกับกิจการต่าง ๆ ที่พระเณรของเราต้องประพฤติปฏิบัติอยู่ จึงมีการกำหนดตายตัวมาตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และทำสืบเนื่องกันมาหลายสิบปีแล้ว

วันนี้ก็รบกวนเวลาพวกเรามามาก ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2022 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว