กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-09-2012, 21:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,041
ได้รับอนุโมทนา 4,418,091 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕

ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบาย ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติทั้งหมดอยู่เฉพาะหน้า เวลาหายใจเข้า..เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป เวลาหายใจออก..เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ตามความถนัดมาแต่เดิมของเรา

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันสุดท้ายของเดือนนี้ จากเมื่อครู่ที่มีการถามปัญหาต่าง ๆ นั้น ทำให้สามารถรู้ได้ว่า ในเรื่องของการปฏิบัติภาวนานั้น พวกเราส่วนหนึ่งยังขาดความจริงจังเป็นอย่างมาก

การที่เราขาดความจริงจัง จริงใจในการปฏิบัติ ทำแล้วไม่สม่ำเสมอ มีลักษณะทำ ๆ ทิ้ง ๆ นอกจากจะทำให้การปฏิบัติของเราไม่ก้าวหน้าแล้ว ยังอาจจะถอยหลังเสียด้วยซ้ำไป เพราะการปฏิบัติธรรมนั้นเป็นการทวนกระแสโลก เหมือนกับเราว่ายทวนน้ำ เมื่อว่ายไประยะหนึ่งแล้วเราก็รามือ ปล่อยให้กระแสโลกพาเราไหลตามไป เมื่อได้เวลาที่กำหนดไว้ก็ตั้งหน้าตั้งตาว่ายทวนน้ำขึ้นมาใหม่ หลังจากนั้นก็รามือปล่อยให้กระแสน้ำพัดกลับไปอีก

กลายเป็นว่าทุกวันเราทำงานด้วยความขยัน แต่ไม่ได้มีผลงานเลย ยิ่งถ้าวันใดเหนื่อยมาก เพลียมาก ไม่สามารถจะภาวนาได้ในระยะเวลาเท่าเดิม ก็เท่ากับว่าเราว่ายทวนกระแสขึ้นมาได้ไม่เท่าเดิม กลายเป็นขาดทุนไปอีก เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราจึงต้องสังวรเอาไว้ ว่าการปฏิบัตินั้นควรจะทำให้เห็นผลจริง ๆ

การที่เราจะทำให้เห็นผลจริงนั้น เราจะใช้คำภาวนาอย่างไรก็แล้วแต่ อยู่ที่เราถนัดและชอบใจ ไม่ต้องเปลี่ยนคำภาวนา ให้ใช้ตามของเดิมที่เราเคยมาก่อน สภาพจิตมีความเคยชิน จะได้ทำให้เข้าสู่สมาธิได้ง่าย และโดยเฉพาะตัวที่ขวางการเข้าสู่สมาธิของเราก็คือ การอยากให้เกิดผลดีไว ๆ ตัวที่อยากให้เกิดผลดีนั่นแหละ แสดงออกซึ่งความฟุ้งซ่าน แสดงออกซึ่งความที่จิตของเราไม่รวมตัวเป็นหนึ่ง แล้วผลของสมาธิจะเกิดได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2012 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-10-2012, 14:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,041
ได้รับอนุโมทนา 4,418,091 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเราต้องการให้ผลการปฏิบัติของเราปรากฏขึ้นโดยไว เราต้องวางกำลังใจว่า เรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนผลจะเกิดหรือไม่เกิดอย่างไรก็ช่างเถิด ถ้าสามารถปล่อยวางกำลังใจอย่างนี้ได้ จิตจะกลายเป็นทรงสมาธิภาวนาได้เร็ว เนื่องจากว่าอัปปนาสมาธิทุกขั้น ตั้งแต่ปฐมฌานหยาบขึ้นไป จะมีตัวเอกัคคตารมณ์ คืออารมณ์ที่ตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวอยู่ด้วยทุกระดับ ตัวอารมณ์ตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียวเป็นตัวอุเบกขาในแต่ละฌาน

เมื่อต้องมีตัวอุเบกขา ถ้าเราไปอยากได้ใคร่ดี จิตย่อมไม่สามารถจะเข้าถึงฌานสมาบัติได้ การที่เราปล่อยว่าเรามีหน้าภาวนา ส่วนจะเป็นสมาธิหรือไม่เป็นก็ช่างเถอะ ลักษณะนั้นแหละคือการวางอุเบกขา

เมื่อรู้เคล็ดลับแล้วเราก็จะปฏิบัติให้สมาธิทรงตัวได้เร็ว แต่หลายท่านก็เป็นที่น่าเสียดายว่าเคยทำ เคยปฏิบัติ จนสมาธิทรงตัวแล้วก็ทิ้งไปเสียนาน บุคคลที่เคยภาวนาจนสมาธิทรงตัวแล้วทิ้งไปนาน ๆ จะโดนท่วมทับด้วยกระแสกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ต่างเจริญงอกงามมากกว่าปกติ เพราะเคยโดนกดด้วยอำนาจของสมาธิเจียนตายมาแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง กลัวว่าจะต้องตายไป จึงต้องงอกงามให้มากกว่าปกติ เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงว่าตัวเองไม่ตายแน่

เมื่อเป็นดังนั้น บุคคลที่เคยทรงสมาธิภาวนาได้แล้วทิ้งไปนาน ๆ จะตีอารมณ์กลับคืนมาได้ยากมาก ๆ เท่าที่เคยมีประสบการณ์มานั้น บุคคลที่ทิ้งการปฏิบัติภาวนาไปนาน ๆ แล้วจะกลับมาให้มีอารมณ์ใจทรงตัวเหมือนเดิมดังแต่ก่อนนั้น จะต้องเหตุฉุกเฉินขึ้นในชีวิต และเหตุฉุกเฉินนั้นต้องหนักหนาสาหัสถึงระดับถึงแก่ชีวิตเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นสมาธิจะทรงตัวเร็วมาก เพราะถ้าสมาธิไม่ทรงตัวคติของตนก็ไม่แน่นอน สภาพจิตที่มีความเคยชิน ถึงวาระรู้ว่าการเข้าสู่สมาธิระดับนั้นจะปลอดภัยที่สุด ก็จะวิ่งกลับเข้าสู่สมาธิภาวนานั่นเองโดยอัตโนมัติ

แต่ถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉินหนัก ๆ เป็นต้นว่าเกิดอุบัติเหตุหรือว่าเจ็บไข้ได้ป่วยปางตาย กำลังใจยากนักที่จะรวมตัวกลับคืนมาได้ เพราะรัก โลภ โกรธ หลงย่อมต้องต่อต้านสุดชีวิต พวกเราทั้งหลายเมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่เราเคยพลาดพลั้ง เคยบกพร่องไปอย่างไร ก็ให้รีบแก้ไขโดยด่วน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2012 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-10-2012, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,696
ได้ให้อนุโมทนา: 152,041
ได้รับอนุโมทนา 4,418,091 ครั้ง ใน 34,286 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งที่เราจำเป็นต้องศึกษาและปฏิบัติประกอบไปด้วยศีล ถ้าศีลของเราบกพร่อง ด่างพร้อย ขาด ทะลุ อย่างไรก็ตาม ให้ตั้งใจเดี๋ยวนั้นว่า ศีลของเราทุกสิกขาบทบัดนี้บริสุทธิ์บริบูรณ์ แล้วก็ตั้งใจระมัดระวังรักษาของเราต่อไป ในแต่ละวันพยายามทบทวนดูว่า วันนี้ศีลของเรามีข้อใดที่บกพร่องบ้าง ถ้ามีข้อบกพร่องก็พยายามแก้ไขให้ดีขึ้น ถ้าหากว่าดีอยู่แล้วก็รักษาความดีนั้นให้ทรงตัวยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ในส่วนของสมาธิภาวนานั้น เมื่อท่านทั้งหลายภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว อย่าปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ ส่วนใหญ่แล้วเราปฏิบัติภาวนาเสร็จ เมื่อเลิกแล้วเราก็ทิ้งเลย ทำให้อารมณ์ใจของเราไม่ทรงตัว ไม่ก้าวหน้า ถ้าปฏิบัติภาวนาจนสมาธิทรงตัวแล้ว ให้ใช้สติสัมปชัญญะของเรา ประคับประคองอารมณ์สมาธินั้น ให้อยู่กับเราให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าสภาพจิตเคยชิน กระทำอย่างนี้บ่อย ๆ ต่อไปก็สามารถที่จะทรงสมาธิต่อเนื่องได้เป็นวัน ๒ วัน ๓ วัน ๕ วัน ๑๐ วัน ครึ่งเดือน ๑ เดือน เป็นต้น

ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้สภาพจิตที่เคยชินกับการที่อำนาจของรัก โลภ โกรธ หลงไม่สามารถที่จะครอบงำได้ ก็จะมีความผ่องใสเป็นพิเศษ เราก็สามารถใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นว่า สภาพร่างกายของเราก็ดี ของบุคคลอื่นก็ดี สรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ก็ดี มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนไปในท่ามกลาง สลายตัวไปในที่สุด

ระหว่างที่ดำรงชีวิตอยู่ก็มีแต่ความทุกข์ เราไม่พึงปรารถนาอัตภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์เช่นนี้อีกแล้ว ร่างกายของคนอื่นเราก็ไม่ต้องการ โลกนี้เราก็ไม่ต้องการ เราปรารถนาแห่งเดียวคือพระนิพพาน หลังจากนั้นก็ให้ส่งกำลังใจขึ้นไปเกาะพระนิพพาน หรือเกาะภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบเอาไว้ จากนั้นก็ภาวนาให้กำลังใจทรงตัวมั่นคง แล้วประคับประคองความมั่นคงในอารมณ์นั้นเอาไว้

ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้บ่อย ๆ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติก็จะมีขึ้นจนถึงระดับที่น่าพอใจ ลำดับต่อไปนี้ ก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๕
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2012 เมื่อ 04:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-12-2013, 15:12
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 259
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,418 ครั้ง ใน 1,284 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

สามารถรับชมได้ที่

http://www.sapanboon.com/vdo/demo.ph...ame=2555-09-02

ป.ล.
- สามารถชมบนไอโฟนและแอนดรอยด์ได้
- ห้ามคัดลอกไฟล์ไปเผยแพร่ที่อื่นเด็ดขาด !
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:12



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว