กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-03-2024, 21:20
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,566
ได้ให้อนุโมทนา: 216,968
ได้รับอนุโมทนา 748,282 ครั้ง ใน 36,440 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-03-2024, 23:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,731
ได้ให้อนุโมทนา: 152,099
ได้รับอนุโมทนา 4,419,505 ครั้ง ใน 34,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพวิ่งออกจากวัดท่าขนุนตั้งแต่เช้ามืด ตรงไปยังวัดนพเก้าทายิการาม หมู่ที่ ๖ ตำบลห้วยเขย่ง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่เลยวัดท่าขนุนขึ้นไปทางบ้านปิล็อก ห่างไปประมาณ ๔๐ กิโลเมตร ถนนหนทางก็ค่อนข้างที่จะแคบ เนื่องเพราะว่ายังไม่ได้รับงบประมาณในการที่จะขยายไหล่ทาง

แต่ถ้าเปรียบกับสมัยที่กระผม/อาตมภาพมาถึงอำเภอทองผาภูมิใหม่ ๆ ก็นับว่าดีเลิศประเสริฐศรีมากแล้ว เนื่องเพราะว่าสมัยนั้นเป็นทางฝุ่น วิ่งผ่านไปแต่ละครั้ง กลายเป็นคนแก่ไปตาม ๆ กัน เนื่องเพราะว่าฝุ่นเกาะหัวขาวกันไปหมด..! สมัยนี้เป็นทางลาดยางแล้ว ๒ เลน แม้ว่าจะไม่มีเสริมไหล่ทางเหมือนกับช่วงอื่น แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีมากแล้ว

เหตุที่ต้องไปแต่เช้าโดยไม่ได้ออกบิณฑบาต ก็เพราะว่าจะไปเยี่ยมคณะอาจารย์และนิสิตพระวิปัสสนาจารย์โครงการทุนเล่าเรียนหลวง จากวิทยาลัยบาฬีศึกษาพุทธโฆส ซึ่งฝึกเดินธุดงค์ธรรมยาตรา แล้วมาพักอยู่ที่วัดนพเก้าทายิการาม

เมื่อไปถึง ปรากฏว่ารถพยาบาลพร้อมด้วยเครื่องมือปฐมพยาบาล จากโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ในตัวจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างออกไป ๑๘๐ กิโลเมตร มาถึงเกือบจะพร้อมกัน บรรดาแพทย์พยาบาล พอเห็นกระผม/อาตมภาพก็ลงมากราบ

กระผม/อาตมภาพต้องเจริญพรขอบพระคุณด้วยความจริงใจ เนื่องเพราะว่าตนเองนั้นได้ประสานกับหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ ขอให้ส่งรถที่มีเครื่องมือปฐมพยาบาลและแพทย์พยาบาลอยู่ประจำ มาติดตามคณะธุดงค์ธรรมยาตราทุกวัน ในช่วงที่อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิแห่งนี้ ทางด้านหมอนุ้ยก็ประสานต่อไปยังโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และได้รับการอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี ต้องขอเจริญพรขอบพระคุณท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนามา ณ ที่นี้ด้วย

อีกท่านหนึ่งที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือท่านนายกฯ ปาล์ม (นายศราวุธ ศรีทันดร) นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ ซึ่งเป็นตำบลที่ไม่มีตำบลทางราชการอยู่ในโลก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าแต่เดิมนั้นก็คือตำบลท่าขนุน แล้วก็โดนแบ่งส่วนหนึ่งออกไปเป็นตำบลสหกรณ์นิคม และแบ่งอีกส่วนหนึ่งออกไปเป็นตำบลห้วยเขย่ง

ขนาดนั้นแล้ว ตำบลท่าขนุนก็ยังใหญ่โตมโหฬาร เมื่อมีการขอตั้งเทศบาลขึ้นมา จึงมีการตั้งเทศบาลตำบลทองผาภูมิขึ้นมาก่อน ในบริเวณที่ถือว่าเป็นส่วนกลางที่มีความเจริญ ก็คือใจกลางของอำเภอทองผาภูมิ โดยมีวัดท่าขนุนอยู่ในเขตนั้นด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2024 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-03-2024, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,731
ได้ให้อนุโมทนา: 152,099
ได้รับอนุโมทนา 4,419,505 ครั้ง ใน 34,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนตำบลท่าขนุนนั้น ก็เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขนุน ครั้นเมื่อคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบราชการแล้ว จึงมีการยกเอาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าขนุน ขึ้นมาเป็นเทศบาลตำบลท่าขนุนอีกตำบลหนึ่ง ดังนั้น..วัดท่าขนุนของเราจึงเป็นวัดที่โชคดีมาก เพราะว่ามีเทศบาลตำบลคอยดูแลอยู่ถึง ๒ ตำบลด้วยกัน

เนื่องเพราะว่าตัวนายกเทศมนตรี ก็คือท่านนายกฯ ปาล์ม (นายศราวุธ ศรีทันดร) ของเทศบาลตำบลทองผาภูมิก็ดี ท่านนายกฯ หนุ่ม (นายจิตรกร ว่องประเสริฐ) นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุนก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์หลวงปู่สาย วัดท่าขนุนทั้งสิ้น เมื่อขอความร่วมมือไปว่า ขอรถที่บรรทุกน้ำดื่มมาคอยติดตามคณะธุดงค์ธรรมยาตราด้วย ทางด้านท่านนายกฯ ปาล์มก็ส่งรถยนต์ พร้อมด้วยพลขับ และถังแช่น้ำมาให้ด้วยความทันอกทันใจ และจะติดตามขบวนธุดงค์ธรรมยาตราไปแบบนี้ทุกวัน จนกว่าจะจบโครงการ

ส่วนที่จะลืมไม่ได้ก็คือ ทางเจ้าคณะปกครองอำเภอทองผาภูมิ ได้แก่ ท่านพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เจ้าอาวาสวัดปรังกาสี ท่านพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิรราลงกรณ ซึ่งโดนบรรดาเพื่อนพระสังฆาธิการแซวกันอยู่เสมอทุกครั้งที่ออกงาน ว่าทำไมพระสังฆาธิการอำเภอทองผาภูมิถึงได้รักกันขนาดนี้ เนื่องเพราะว่าเจ้าคณะอำเภอก็ดี รองเจ้าคณะอำเภออีก ๒ รูปก็ตาม ตลอดจนกระทั่งบรรดาเจ้าคณะตำบล ถึงเวลาก็ออกงานของส่วนกลางในจังหวัดโดยพร้อมเพรียงกัน

งานนี้ก็เช่นกัน กระผม/อาตมภาพแค่ติดต่อประสานงานกับพระครูสุตกาญจนวัฒน์. ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ ท่านพระครูกิตติกาญจนคุณ เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม และพระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ว่าขอนำพระธุดงค์ธรรมยาตราจากโครงการพระวิปัสสนาจารย์ทุนเล่าเรียนหลวง เข้าไปอาศัยพักอยู่แต่ละวัด แล้วก็ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นภัตตาหารเช้า หรือว่าภัตตาหารเพล จากเจ้าสำนักแต่ละแห่ง

ส่วนท่านเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะอำเภอ เมื่อได้ข่าวก็ขอเป็นเจ้าภาพน้ำปานะตลอดโครงการ ตอนแรกก็ว่าจะไปตั้งจุดจ่ายน้ำปานะอยู่ตามระหว่างทาง แต่กระผม/อาตมภาพแจ้งว่าให้ยกเข้าไปในแต่ละวัดเลย เพราะว่าระยะการเดินนั้นก็ไม่ได้ไกลมาก และมีรถน้ำคอยตามอยู่แล้ว ในส่วนที่จะถวายภัตตาหารและน้ำปานะนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม ถ้าไปอยู่ในวัดแต่ละแห่ง หรือว่าสำนักสงฆ์แต่ละแห่ง ก็เป็นเรื่องที่สะดวกมากกว่า ก็ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคณะอำเภอ และรองเจ้าคณะอำเภอ ทำตามที่ได้บอกกล่าวเป็นอย่างดียิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2024 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-03-2024, 23:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,731
ได้ให้อนุโมทนา: 152,099
ได้รับอนุโมทนา 4,419,505 ครั้ง ใน 34,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนวันนี้ท่านพระครูกิตติกาญจนคุณเองนั้น แม้ว่าท่านต้องไปเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ซึ่งไปเปิดห้องเรียนวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ที่วัดปรังกาสี มีผู้เข้าเรียนในห้องเรียนนี้ ๔๗ รูปด้วยกัน โดยที่กระผม/อาตมภาพรับถวายค่าเทอมแต่ละรูป ประมาณ ๕,๔๕๐ บาทต่อรูป ทั้ง ๒ เทอม ระหว่างที่เรียนอยู่ เทอมที่ ๒ นี้ก็เพิ่งจะซื้อเช็คจ่ายในนามของวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ไปเมื่อวานนี้เอง

ตัวท่านเองแม้ว่าจะต้องไปเรียน แต่ก็ยังมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องภัตตาหารเช้าเป็นอย่างดีมาก กระผม/อาตมภาพเพิ่งไปถึง ทางผู้ดูแลก็วิ่งมากราบมาไหว้ นิมนต์เข้าไปฉันด้วย แต่กระผม/อาตมภาพเองไม่ได้ฉันตามที่นิมนต์ เนื่องเพราะว่าได้ฉันอะไรรองท้องมาเล็กน้อยแล้ว จึงจับไมโครโฟนคุยกับทางด้านพระวิปัสสนาจารย์และพระพี่เลี้ยง ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ของวิทยาลัยบาฬีศึกษาพุทธโฆส ที่ควบคุมการเดินธุดงค์ครั้งนี้

บอกกล่าวให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่าการที่กระผม/อาตมภาพไม่ได้เข้าร่วมการเดินครั้งนี้ เพราะว่าติดธุระจำเป็นจริง ๆ อย่างวันนี้ เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็ต้องรีบวิ่งต่อไปที่วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร เพื่อบรรยายถวายความรู้แก่ผู้เข้าสอบพระอุปัชฌาย์ของจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี ๒๕๖๗ ต่ออีก

บรรดานิสิตทั้งหลาย ซึ่งเคยศึกษาเล่าเรียนมาด้วยกันก็ดี หรือว่าเคยได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อวัดท่าขนุนก็ตาม ล้วนแล้วแต่ดีอกดีใจที่เห็นหน้ากัน แม้ว่าจะได้เห็นหน้ากันแค่พักเดียว ก็รู้สึกว่า "ใจฟู" มีกำลังใจเป็นอย่างยิ่ง พยายามนิมนต์ให้กระผม/อาตมภาพปลีกตัวมาบรรยายถวายความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมทางด้านนี้บ้าง ก็ได้แต่รับปากไปว่า ถ้าปลีกตัวได้เมื่อไร ก็จะมาทันที

เมื่อทักทายกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัววิ่งลงไปยังวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว ๆ เกือบ ๒๐๐ กิโลเมตร ไปถึงประมาณ ๙ โมงครึ่ง เห็นท่านเจ้าคุณพระเมธีปริยัติวิบูล (ศิริ สิริธโร ป.ธ. ๙, ดร.) เจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี กำลังบรรยายถวายความรู้อยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2024 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-03-2024, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,731
ได้ให้อนุโมทนา: 152,099
ได้รับอนุโมทนา 4,419,505 ครั้ง ใน 34,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อทักทายบรรดาพระสังฆาธิการที่มาร่วมงาน ตลอดจนกระทั่งผู้เข้ารับการสอบในปีนี้แล้ว เวลา ๑๐ โมงตรง กระผม/อาตมภาพก็รับหน้าที่บรรยายถวายความรู้แก่บรรดาว่าที่พระอุปัชฌาย์ของจังหวัดกาญจนบุรี โดยที่พยายามบอกว่าแนวข้อสอบนั้นจะออกอะไรบ้าง หรือว่าออกแบบไหน แล้วในขณะเดียวกัน มีเทคนิควิธีการอย่างไร ในการที่จะสวดอนุสาวนาเพื่อที่จะยกอนุปสัมบัน ขึ้นเป็นอุปสัมบันในพระพุทธศาสนา มีการเว้นวรรคและออกเสียงอักขระฐานกรณ์อย่างไร ที่จะทำให้คณะกรรมการเขายอมรับว่าเราสวดได้ถูกต้อง

เทคนิคเหล่านี้บางทีท่านก็ไม่รู้ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็สวดตาม ๆ กันมา จากที่ได้ยินจังหวะจากพรรคพวกเพื่อนฝูงบ้าง จากรุ่นพี่บ้าง จากรุ่นครูบาอาจารย์บ้าง เมื่อต้องมาอยู่ในกรอบอย่างชัดเจน เพราะว่าพระอุปัชฌาย์นั้น จำเป็นที่จะต้องไปถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับสัทธิวิหาริก ก็คือลูกศิษย์ที่ตนเองบวชให้ หรือแม้กระทั่งอันเตวาสิก คือผู้ที่มาพึ่งพาอาศัยในวัดนั้น ๆ เมื่อเป็นต้นแบบ ก็ต้องทำให้ถูกต้องที่สุดเท่าที่จะทำได้

กระผม/อาตมภาพจึงให้ทุกท่านได้ลองสวดขึ้นพร้อมกัน เมื่อสวดแล้วก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่า การตั้งนะโมฯ ในการสวดอนุสาวนา ที่เรียกกันว่า นะโมฯ ๕ ชั้นนั้น บรรดาว่าที่พระอุปัชฌาย์ทั้งหลาย ยังมีความเข้าใจที่ไม่ชัดเจน

การตั้งนะโมฯ ของพระภิกษุสงฆ์ของเรานั้น ถ้าหากว่าเป็นการสวดพระอภิธรรม เขาเรียกว่านะโมฯ ชั้นเดียว คือว่ารวดเดียว ๓ จบไปเลย แทบจะไม่ต้องหยุดหายใจเสียด้วยซ้ำไป ส่วนนะโมฯ ในการแสดงพระธรรมเทศนาก็ดี แสดงพระปาฏิโมกข์ก็ดี หรือว่าสวดอนุสาวนาก็ตาม เขาเรียกว่านะโมฯ ๕ ชั้น ส่วนนะโมฯ ในการเจริญพระพุทธมนต์ นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นนะโมฯ ๙ ชั้น

คราวนี้นะโมฯ ๕ ชั้นนี้ยังมีความแตกต่างกันอยู่อีก ระหว่างนะโมฯ ๕ ชั้นของการสวดอนุสาวนา กับนะโมฯ ๕ ชั้น ในการแสดงพระธรรมเทศนา แล้วก็ยกตัวอย่างให้กับท่านทั้งหลายว่า นะโมฯ ๕ ชั้น ที่แท้จริงนั้นตั้งอย่างนี้คือ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นะโมตัสสะ นี่เป็นชั้นที่ ๑

ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นี่เป็นชั้นที่ ๒

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต นี่เป็นชั้นที่ ๓

อะระหะโต สัมมา นี่เป็นชั้นที่ ๔

สัมมาสัมพุทธัสสะ นี่เป็นชั้นที่ ๕
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2024 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 08-03-2024, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,731
ได้ให้อนุโมทนา: 152,099
ได้รับอนุโมทนา 4,419,505 ครั้ง ใน 34,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ท่านทั้งหลายจะดูว่าความต่างของนะโมฯ เทศน์ก็คือ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะนะโมตัสสะ ซึ่งนะโมฯ เทศน์นั้น เมื่อสัมมาสัมพุทธัสสะ แล้วก็ต่อด้วยนะโมตัสสะซ้อนกันไปเลย แทบจะลงท้ายด้วยว่าธัสสะนะโม จึงทำให้ต่างจากนะโมฯ ๕ ชั้น ในการสวดอนุสาวนา ซึ่งต้องเว้นวรรคเพื่อที่จะให้ถูกต้องตามแบบประโยคบาลี

เนื่องเพราะว่าการสวดกรรมวาจานั้น เป็นสมบัติอย่างหนึ่งของพิธีการอุปสมบทกรรม เพื่อที่จะไม่ให้ผิดเพี้ยน ส่วนการตั้งนะโมฯ ในการเทศน์นั้น เป็นลูกเล่น เป็นทริก หรือว่าเป็นวิธีการที่ครูบาอาจารย์ท่านดึงความสนใจของบุคคลให้มาอยู่กับการฟังเทศน์ แต่ว่าเวลามีน้อยเกินไป ยังไม่ทันที่จะต่ออะไรได้มากมาย ก็เพลเสียแล้ว

กระผม/อาตมภาพจึงได้ร่วมฉันเพลกับหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ.๖) เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี พระครูวิบูลกาญจโนภาส, (สมบัติ ปริปุณฺโณ ป.ธ.๔, ดร.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร เจ้าคณะอำเภอท่ามะกา ท่านเจ้าคุณพระเมธีปริยัติวิบูล (ศิริ สิริธโร ป.ธ. ๙, ดร.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตัวเดินทาง เนื่องเพราะว่าพรุ่งนี้และมะรืนนี้ ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ มาสอบภาคปฏิบัติของว่าที่พระอุปัชฌาย์นั้น กระผม/อาตมภาพติดงานพุทธาภิเษกทั้ง ๒ วัน ซึ่งงานที่เขาขอให้เป็นประธานก็ดี งานพุทธาภิเษกก็ตาม กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะให้ผู้อื่นไปแทนได้ เนื่องเพราะว่าเป็นศรัทธาเฉพาะตน จึงได้แต่กราบขอโทษหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ที่ไม่สามารถมาช่วยงานได้มากกว่านี้ หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ที่พัก แล้วมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ในขณะนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2024 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว