กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-01-2024, 17:40
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 346
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,901 ครั้ง ใน 824 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-01-2024, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,520 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพออกจากที่พัก คือเฮือนฮิมน้ำรีสอร์ท ตรงไปยังสำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทอง พอไปถึงก็เป็นเรื่องเลย ก็คือเขาให้ไปจอดที่ลานพระไพรีพินาศ กระผม/อาตมภาพก็เลยต้อง "ของขึ้น" อาละวาดอยู่ตรงนั้นเอง..!

เนื่องเพราะว่าการจัดงานออกนิโรธกรรมของครูบาเหนือชัย โฆสิโตนั้น จัดมานับสิบปีแล้ว แต่ว่าไม่เคยแก้ไขปัญหาอะไรให้ดีขึ้นกว่าเดิมเลย ถ้าหากว่าเป็นทางวัดท่าขนุน
เมื่อถึงเวลาเลิกงานแล้ว ก็จะมีการสรุปข้อผิดพลาด หรือสิ่งที่ควรจะปรับปรุงแก้ไข เพื่อความคล่องตัวของงานให้มากขึ้น

แต่นี่ไม่เคยคิดเลยว่าบรรดาพระเถระนั้น เมื่อถึงเวลารับไทยธรรมมาแล้ว ซึ่งบางทีก็มาเป็นเข่ง เป็นตะกร้า ๓ ชิ้น ๔ ชิ้นด้วยกัน..! แล้วไล่ให้รถไปจอดไกลลิบ ผู้ที่รับไทยธรรมไปส่งส่วนใหญ่ก็คือคนขับรถ ต้องเดินแบกของกันปางตาย แต่ว่าเก็บสถานที่ใกล้ ๆ เอาไว้สำหรับประธานฝ่ายฆราวาส กระผม/อาตมภาพจึงต้องบอกว่า "กูสั่งให้จอดตรงนี้..!" เรื่องถึงจะได้จบลง

เนื่องเพราะว่าบรรดาผู้ที่รับงานนั้น น่าจะไม่มีการประสานงานกันมาก่อน เมื่อครูบาเหนือชัยท่านเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่สามารถที่จะลงมาสั่งงานได้ถนัด ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีการมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบแต่ละฝ่ายโดยเด็ดขาดลงไป อะไร ๆ ก็ "ต้องถามแม่อี๊ด" อะไร ๆ ก็ "ต้องถามท่านสุทธิพงษ์" หรือไม่ก็ "ขอเรียนถามครูบาก่อน" ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพไม่อาละวาดไป ก็ไม่จดจำกัน แต่เชื่อเถอะ..ถึงอาละวาดไปแล้วก็ตาม ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะจำถึง ๓ วันหรือเปล่า..!?

เนื่องเพราะว่าผู้จัดงานนั้น ส่วนใหญ่แล้วไปเอาใจฆราวาส กลัวเขาจะไม่มาให้การสนับสนุนทางวัด กลัวว่าเขาจะไม่มาทำบุญอีก จึงต้องอำนวยความสะดวกให้ฆราวาสมีความคล่องตัวมากที่สุด ส่วนพระจะเป็นอย่างไรก็ได้..! แล้วท่านทั้งหลายลองนึกดูว่า ถ้าปีนี้ตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ซึ่งอายุ ๘๖ ปี หรือว่าครูบาบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น ซึ่งอายุ ๘๕ ปี ต้องเดินทางขึ้นมาลานพระไพรีพินาศ แล้วถึงเวลาก็ต้องเดินกลับไป ถ้าท่านทั้งหลายนึกไม่ออกว่าไกลแค่ไหน ก็ประมาณครึ่งกิโลเมตรเท่านั้น..! แล้วพระแก่ขนาดนั้นจะเดินไหวไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2024 เมื่อ 03:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-01-2024, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,520 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาญาติโยมทั้งหลายส่วนหนึ่งที่ไปวัดท่าขนุน โดยเฉพาะบรรดา "มเหสักโข" ประกอบไปด้วยยศศักดิ์ยิ่งใหญ่ ฐานะร่ำรวย ไปแล้วมักจะไม่ค่อยชอบใจ เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพให้ความสำคัญกับพระก่อน เมื่อถึงเวลาเตรียมสถานที่ทุกอย่างให้พระโดยพร้อมสมบูรณ์ สำหรับญาติโยมก็นั่งแบกับดินไป ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากที่ไหนก็ตาม ก็พบการต้อนรับในระดับเดียวกันทั้งหมด..!

ความจริงก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ว่าญาติโยมส่วนหนึ่งคิดว่าทางวัดจำเป็นจะต้องง้อ เนื่องจากว่าตนเองมาเป็นประธานทำบุญ ตนเองมาเป็นประธานเปิดงาน ตนเองเป็น "ขาใหญ่" ที่คอยให้การทะนุบำรุงวัด โดยที่ลืมไปว่า พระภิกษุสงฆ์นั้นอยู่ในสถานะของปูชนียบุคคล ควรที่จะให้ความเคารพนับถือ ควรที่จะอำนวยความสะดวกให้มากกว่า แล้วพระภิกษุสงฆ์ของเราก็พลอยหลงประเด็นไปด้วย ลืมไปว่าตนเองมีศีลที่ต้องรักษา คือ "ห้ามประทุษร้ายตระกูลด้วยการประจบคฤหัสถ์" แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ร้อยละ ๙๐ เป็นอย่างน้อย ล้วนแล้วแต่ประจบผู้มีเงิน ประจบผู้มีอำนาจทั้งสิ้น..!

แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพเอง ก็ได้รับการขอร้องจากเพื่อนพระสังฆาธิการว่า "อาจารย์เล็ก..ช่วยแนะนำลูกศิษย์รวย ๆ ให้ผมบ้าง วัดวาอารามของผมจะได้เจริญขึ้นเหมือนกับวัดท่าขนุน" กระผม/อาตมภาพต้องเรียนท่านไปว่า "วัดท่าขนุนทำงานอะไรไม่เคยมีเจ้าภาพใหญ่ หากแต่ว่าญาติโยมทำบุญกันมา คนละ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท เมื่อสะสมรวมกันแล้วก็เพียงพอที่จะใช้งาน ไม่เคยประจบคนรวย ไม่เคยเอาใจคนรวย ดังนั้น..จึงไม่มีคนรวยที่จะแนะนำให้ท่านทั้งหลายได้..!"

โดยเฉพาะการทำบุญกับวัดท่าขนุนนั้น ถ้ามาผิดท่าผิดทางก็โดนไล่กลับไปเลย ไม่ว่าเงินจำนวนนั้นจะมากเท่าไรก็ตาม ตัวอย่างก็คือมีโยมท่านหนึ่ง ปวารณาขอเป็นเจ้าภาพสร้างหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกหน้าวัดท่าขนุน โดยที่กระผม/อาตมภาพมีทุนอยู่แล้ว ๑,๗๐๐,๐๐๐ บาท จากทั้งหมด ๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ท่านปวารณาขอถวาย ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อให้พอดีกับเงินที่ต้องการใช้ในงานนั้น

กระผม/อาตมภาพบอกว่า
"ยังไม่รับ ให้เวลากลับไปคิดก่อน ๑ อาทิตย์ ถ้าหากว่าโยมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนนี้ หรือว่าถวายเงินก้อนนี้ให้กับอาตมภาพแล้ว โยมไม่เดือดร้อน คนรอบข้างไม่เดือดร้อน ถ้าอย่างนั้นถึงจะรับเอาไว้"

ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บางทีก็เป็นการมากเรื่องโดยใช่เหตุ แต่กระผม/อาตมภาพไม่ใช่บุคคลที่รับเงินจากญาติโยมแบบหน้าชื่นตาบาน ขณะที่โยมอาจจะต้องกลับไปกินบะหมี่สำเร็จรูปกันทั้งเดือน..! แต่ยังโชคดีที่ว่า โยมท่านนั้นเมื่อผ่านไป ๗ วันแล้ว ติดต่อกลับมาใหม่ บอกว่า "พิจารณาถี่ถ้วนแล้วว่า เงินก้อนนี้สามารถที่จะสละออกเพื่อการทำบุญได้ โดยที่ตนเองและคนรอบข้างไม่เดือดร้อน" กระผม/อาตมภาพถึงได้อนุโมทนาและรับเงินส่วนนั้นเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2024 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-01-2024, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,520 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกอย่างหนึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของงานต่าง ๆ นั้น ต้องบอกว่าสับสนวุ่นวายมาก เมื่อมีการนำครูบาท่านออกจากนิโรธกรรมแล้ว ครั้นแห่มาถึงบริเวณสถานที่ตั้งเครื่องบวงสรวงอยู่ ซึ่งพร้อมแล้วทุกประการ ถ้าเราให้ความสำคัญกับพระ ก็ต้องลงไปบวงสรวงบอกกล่าว ถวายสักการะให้เรียบร้อยเสียก่อน แต่นี่กลับแห่ครูบาไปเพื่อให้เป็นเนื้อนาบุญแก่ญาติโยมที่รออยู่ก่อน..!

เรื่องของการทำบุญนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าให้กระผม/อาตมภาพลำดับเรื่องเองแล้ว ย่อมเอาเรื่องของพระสำคัญกว่า ดังนั้น..การถวายสักการะ การกราบขออนุญาตพระ ในการทำงานต่าง ๆ จึงเป็นเรื่องที่ควรจะทำก่อน แต่ว่านี่กลับไปให้ญาติโยมทั้งหลายได้เข้าทำบุญกันก่อน

โดยเฉพาะบรรดา "ขาใหญ่" ที่อุปถัมภ์วัด ต้องค่อย ๆ ประเคน ค่อย ๆ ถวายทีละคน จึงทำให้ระยะเวลาล่วงเลยไปนานเป็นชั่วโมง ๆ จากที่กระผม/อาตมภาพคาดว่าจะได้ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัยไม่เกิน ๘ โมงเช้า ก็ลากยาวไปจนเกือบจะ ๙ โมง..! เหล่านี้เป็นต้น
ซึ่งการลำดับเรื่องแบบนี้ถือว่าเป็นการเอาใจญาติโยมก็จริง แต่ว่ากลับไปลดความสำคัญของพระลง กระผม/อาตมภาพเองไม่เห็นด้วยแม้แต่น้อย..!

แต่ว่าเรื่องพวกนี้ ถึงตักเตือนไปก็อาจจะไม่มีการแก้ไข เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องนั่งรอ เมื่อทำการบวงสรวงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงไปนั่งอธิษฐานจิตอยู่ด้านใน ซึ่งเรื่องนี้ถ้าทำตั้งแต่แรก ก็คือบวงสรวงเสร็จแล้ว กระผม/อาตมภาพและคณะครูบาอาจารย์ไปอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล ครูบาท่านก็ไปนั่งรับศรัทธาญาติโยม งานทั้งสองก็จะเสร็จสิ้นลงในระยะเวลาใกล้เคียงกัน สามารถที่จะต่อด้วยงานสืบชะตาต่ออายุไปเลย แต่นี่กลับทำให้งานนั้นช้าลงไปอีก เกือบจะ ๑๐ โมงถึงได้เริ่มงานกันอีกครั้งหนึ่ง

แต่ว่ากระผม/อาตมภาพมีเวลาให้แค่ ๑๐ โมงเท่านั้น เมื่อนำครูบาเหนือชัยขึ้นสู่อาสนะ ซึ่งเป็นซุ้มสืบชะตาเรียบร้อยแล้ว ก็ได้นำท่านอาจารย์หนึ่ง(พระครูนาคดิตถ์วรรักษ์) เจ้าอาวาสวัดท่าโขลง จังหวัดลพบุรี ซึ่งท่านเจ็บไข้ได้ป่วย คล้ายคลึงกับครูบาเหนือชัย ขึ้นสู่ซุ้มสืบชะตาอีกด้านหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2024 เมื่อ 13:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-01-2024, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,520 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพระเถระให้ศีลเรียบร้อย ก่อนที่จะเจริญพระพุทธมนต์ กระผม/อาตมภาพก็กราบลาทุกท่าน แล้วเดินทางออกจากสำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทอง ไปตามตารางเวลาของตน ก็คือเพื่อที่จะไม่ให้งานต่อไปนั้นเสียหาย โดยที่แวะลงที่จังหวัดเชียงใหม่เสียก่อน

หลังจากที่อนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ญาติโยมแล้ว จึงเดินทางฝ่าฝนกลับ โดยที่เจอกับฝนตลอดทาง ตั้งแต่เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตอนนี้กำลังจะถึงจังหวัดตาก ฝนก็ไม่ได้เบาลงเลย คาดว่าถ้าทำความเร็วขึ้นอีกนิด อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อไรก็ได้..!

ในการเดินทางลักษณะแบบนี้ จำเป็นที่ต้องใช้ความระมัดระวัง โดยที่ต้องท่องเอาไว้ในใจเลยว่า "ปมาโท มจฺจุโน ปทํ ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย อปฺปมาโท อมตํ ปทํ ความไม่ประมาทเป็นหนทางแห่งความไม่ตาย" ตามพุทธพจน์บทพระบาลีซึ่งองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเอาไว้

สำหรับวันนี้กว่าที่จะถึงที่หมายก็น่าจะไม่ต่ำกว่า ๔ ทุ่ม กระผม/อาตมภาพจึงได้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้ ให้สำหรับญาติโยมทั้งหลายได้ฟังก่อน ไม่ต้องรอกันเป็นระยะเวลายาวนาน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2024 เมื่อ 13:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:46



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว