กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 17-02-2011, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : กว่าที่เราจะมาถึงตรงจุดนี้ เราสร้างบุญสร้างกรรมมานับไม่ถ้วน ในเมื่อเราสร้างบุญสร้างกรรมมานับไม่ถ้วน ถึงเวลาแล้วของเก่าจะย้อนคืนมาเอง ตั้งหน้าตั้งตาทำสายตรง ๆ นี่แหละ จะได้ไม่เสียเวลา

ถาม : หนูอธิษฐานจิตมาเกิดเป็นผู้หญิง ปฏิบัติยากจริง
ตอบ : เป็นผู้หญิงดีตรงที่เห็นทุกข์ง่ายกว่าผู้ชาย สังเกตไหม..? พวกที่บรรลุธรรมง่ายมักจะเป็นผู้หญิง

เนื่องจากผู้ชายมีความเข้มแข็งของจิตมาก ถ้าพูดในภาษาชาวบ้านก็คือดื้อ ในเมื่อดื้อ เชื่ออะไรยาก กว่าจะยอมทำตามก็เสียเวลานาน แต่ผู้หญิงโดยพื้นฐานวิสัยแล้วจะไม่ดื้อ ความเข้มแข็งของจิตมีน้อยกว่า ความอ่อนโยนของจิตมีมากกว่า ถึงเวลาเปิดรับอะไรได้ง่าย การเข้าถึงธรรมจะง่ายกว่า

ถาม : หนูก็คงรู้ใช่ไหมว่าจะมาเจออะไร ?
ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจตรงนั้นหรอกจ้ะ เรามีหน้าที่ทำ ก็ทำของเราไป จะเป็นของเก่าของใหม่อย่างไรก็ช่าง ถือว่าเราไม่รับรู้ ทำตอนนี้เอาให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

ถาม : ตอนนี้จะดีขึ้นไหม ?
ตอบ : จะดีขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่เรา สำคัญว่าเราใจแข็งจริงหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2011 เมื่อ 12:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 17-02-2011, 11:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันมาฆบูชาควรไปทำบุญที่ไหน ?
ตอบ : บ้านอยู่แถวไหนจ๊ะ ?

ถาม : อยู่กรุงเทพฯ
ตอบ : ไปไหว้พระที่วัดพระแก้ว วัดบวรนิเวศ ฯลฯ

ถาม : ไปแล้วค่ะ
ตอบ : อาตมาเองมีโอกาสเมื่อไรก็ไปเมื่อนั้นแหละ ไม่ใช่เคยไปมาแล้วจะไม่ไปอีก ที่ขำที่สุดคือไปวัดพระแก้วแล้วแท็กซี่เขาบอกว่า "อาจารย์มาบ่อยนะครับ" อาตมาบอกว่า "อย่างน้อย ๆ เดือนหนึ่งต้องมาครั้งหนึ่ง" แท็กซี่บอกว่า "ผมขับรถผ่านทุกวัน ผมยังไม่เคยเข้าไปเลย"

อาตมาก็เลยชี้ให้เขาดู "เห็นไหม..พวกนักท่องเที่ยวเขาข้ามน้ำข้ามทะเลมากี่หมื่นกี่แสนกิโลกว่าจะมาถึงได้ เราขับรถผ่านมาทุกวัน ถ้าเราไม่เข้าไปเราเสียชาติเกิดไหม ?" เพราะฉะนั้น..มีโอกาสก็ไปเถอะ ไม่ใช่ว่าไปมาแล้วไม่ต้องไปอีก

ถาม : เพิ่งไปมาเมื่อปีใหม่
ตอบ : อาตมาเพิ่งไปมาเมื่อวานซืน ถ้าวันนี้ไปได้ก็จะไปอีก เพราะว่าสถานที่ลักษณะนั้นจะเป็นสถานที่ที่เย็นมาก เราเข้าไปแล้วจิตจะสงบเร็ว ไม่ว่าจะไปสวดมนต์หรือไปนั่งสมาธิจะสงบเร็ว เป็นที่ที่ควรไปอย่างยิ่งเลย จะช่วยเบาแรงเราได้มาก เราไม่ต้องเสียเวลาไปตั้งหลักปฏิบัตินาน ถ้าอยู่ที่บ้านเราอาจจะใช้เวลาครึ่งค่อนชั่วโมงกว่าใจจะสงบ แต่ถ้าอยู่ที่นั่น แค่เดินเข้าไปก็เย็นแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2019 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 17-02-2011, 11:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้เวลาเข้าสมาธิเหมือนเข้าไปในที่ที่หนึ่ง อยู่ดี ๆ ก็เหมือนกับคลายเปลือกออกมา พอดีเวลาเลย
ตอบ : ลักษณะนั้นสมาธิเริ่มทรงตัว พอถึงเวลาจะเข้าสู่สภาวะของตนเอง และถ้าหากเราคลายออกมาสู่อารมณ์ปกติ พวกรัก โลภ โกรธ หลงต่าง ๆ จะเริ่มเข้ามาได้ เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เรารักษาสภาวะแบบนั้นให้อยู่กับเราให้ได้

ถาม : ท่านที่เป็นพระอริยะแล้ว จะมีทางที่เขาจะไปสอนให้คนหลงทางได้ไหม ?
ตอบ : จะไม่ผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าท่านสอน แต่ในเรื่องของความเป็นพระอริยะ ขอให้ทราบไว้เลยว่า ใครที่บอกว่าตนเองหรือผู้อื่นเป็นพระอริยะอย่าเพิ่งเชื่อ..!

บุคคลที่จะเป็นพระอริยเจ้านั้น อันดับแรก ญาณคือเครื่องรู้จะปรากฏขึ้น ยืนยันว่าตนเองเป็นพระอริยเจ้าแล้ว อันดับที่สอง พระพุทธเจ้าเสด็จมาพยากรณ์ให้เอง ถ้าหากว่าเป็นคนอื่นบอก ขอให้รู้ว่าผิดมารยาทอย่างร้ายแรงที่สุด

ถ้าคนอื่นเขาบอกว่าคนนั้นเป็นพระอริยเจ้า คนนี้เป็นพระอริยเจ้า ขอให้รู้ว่าถ้าคุณไม่ใช่พระพุทธเจ้า ไม่ใช่หน้าที่ที่คุณจะไปพูดอย่างนั้น เพราะเราไม่สามารถที่จะรู้ได้ละเอียดขนาดนั้น ว่าเขาเป็นจริงหรือไม่เป็นจริง

ฉะนั้น..ถ้าเป็นพระอริยเจ้าแล้ว จะไม่สอนผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าท่านสอนอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากไม่ใช่จริง ก็จะพาหลงทางไปเลย เรื่องการพยากรณ์ว่าคนไหนเป็นพระอริยเจ้า เป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ใครให้การพยากรณ์ก็ไปให้ห่าง ๆ เขาหน่อย เดี๋ยวจะเดือดร้อน

ถาม : มีบางท่านไปอยู่ที่ขุมเก้า
ตอบ : นั่นเรื่องของท่าน

ถาม : แล้วเขาเป็นไหมคะ ?
ตอบ : มีใครคนที่อาตมาได้ยินเขาบอกว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ไปเจอท่านอยู่ในโลกันต์..!

ถาม : หนูสงสัยว่า ทำไมเขาไปหลงทาง ?
ตอบ : ก็เพราะเป็นไม่จริง ขณะเดียวกันก็ไปคิดว่าตัวเองเป็นแล้วก็หลงไปใหญ่ ไปสอนคนผิด ๆ ตามทิฏฐิ ตามความเห็นของตัวเอง

คิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่า..คาดว่า..น่าจะใช่..น่าจะเป็นอย่างนั้น ก็ยิ่งกลายเป็นว่า สอนคนให้หลงทางมากเท่าไร โทษของตัวเองก็หนักมากขึ้นเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 17-02-2011, 11:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เหมือนกับเขาเอาวัตถุมงคล..(ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นต้องใช้คำว่า ทิฏฐิวิปลาส มีความเห็นผิดไป แก้ไขยาก ถ้ามีโอกาสก็พูด ๆ บ่น ๆ ให้เข้าหูเขาหน่อยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีโอกาส ก็อย่าเพิ่งไปพูด เดี๋ยวจะพาเราเสียไปด้วย

อาตมาเจออยู่รายหนึ่ง ถึงขนาดให้ลูกศิษย์หลอมพระพุทธรูปไปชั่งกิโลขาย พระพุทธรูปเขาหลอมเป็นแท่งทองเหลือง เอาไปชั่งกิโลขาย เขาบอกว่าพระพุทธรูปทำให้คนยึดติด นั่นเขาหลงไปได้ไกลอย่างนั้น

อย่าลืมว่าการที่เราอยู่ในโลก พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเราต้องเคารพสมมติทางโลก เพราะสมมติทางโลกคือสมมติสัจจะ ก็คือความจริงอย่างหนึ่ง แต่เป็นความจริงโดยสมมติ ว่านี่คือรูปแทนพระพุทธเจ้า บุคคลที่จิตใจเกาะความดีขั้นแรก ก็เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่ตกไปในทางแห่งความชั่ว หลังจากนั้นค่อยก้าวเข้าทางของความดีสูงขึ้นไป..สูงขึ้นไป จนกระทั่งท้ายสุด เว้นจากการยึดเกาะแล้วก็หลุดพ้น

ไม่ใช่ว่าพอถึงเวลาแล้วเราไม่เกาะอะไรเลย ไม่เกาะอะไรเลยเราจะเอาอะไรมาปล่อย ? อัตตา ความมีตัวตน อนัตตา ความไม่มีตัวตน ถ้าเราไม่ขึ้นด้วยอัตตาคือความมีตัวตนก่อน แล้วเราจะเอาอนัตตามาจากไหน ? สองอย่างนี้เป็นเหรียญสองหน้า อย่างไรก็ต้องไปด้วยกัน

แต่นั่นเขาประเภทโลกช้ำไปเลย แล้วยังมีการรับจ้าง ถ้าบ้านไหนไม่กล้าทำ ขอให้บอก เขาจะส่งลูกศิษย์ไปทำให้เลย เห็นเขาทุบ เห็นเขาเผา เห็นเขาหลอมแล้วอาตมาใจหาย พวกนี้กว่าจะรู้ว่าตัวเองมีโทษก็ต้องรอตอนที่ตายไปแล้ว

ถาม : ห่าง ๆ ไว้เลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ประเภทนั้นก็อยู่ห่าง ๆ ไว้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมี และห่มเหลืองเหมือนกับอาตมาเสียด้วย เขาสอนลูกศิษย์ว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้ยึดติด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 17-02-2011, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อาชีพต่อไปของหนู ใครเป็นคนกำหนด ?
ตอบ : เอาตัวเราเป็นคนกำหนดเองก็แล้วกัน ชอบอะไรก็ทำอย่างนั้น

อย่าถามอะไรลักษณะอย่างนี้ ถ้าถามอะไรลักษณะอย่างนี้ ไปเจอที่อื่นจะโดนเขาหลอกได้ เป็นปัญหาที่ไม่ควรถาม ชอบใจอะไรก็ทำอย่างนั้น อะไรมาก่อนก็ทำก่อน ถ้าถามอย่างนี้เดี๋ยวไปเจอประเภทคนเก่ง พาเข้าป่าเข้าดงไปไหนก็ไม่รู้ กว่าจะรู้ก็หลงทาง หาทางออกไม่ถูก เดี๋ยวไปเจอบอกว่ามีเคราะห์ ต้องไปตัดเคราะห์ก็ยุ่งกันใหญ่

ถาม : หนูคงไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ
ตอบ : อย่าเพิ่งมั่นใจ ถ้าอกุศลกรรมแทรกเข้ามา อาจจะหลงทางไปได้ง่าย เพราะฉะนั้น..เร่งทำความดีให้ดีที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2011 เมื่อ 12:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 17-02-2011, 12:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บทสวดมนต์ควรที่จะสวดตามที่เขาเขียนกำลังตามวันหรือไม่ ?
ตอบ : อยู่ที่เรา ถ้าเราชอบสวด จะสวดมากหน่อยก็ว่าตามกำลังวัน ถ้าหากเราไม่ชอบสวด เราก็ภาวนาไปเลย สวดมนต์เหมือนกับยาทา กว่าจะออกฤทธิ์ให้หายก็หลายวัน แต่ภาวนาเป็นยากิน วันสองวันก็รู้เรื่องแล้ว

ถ้าหากมีเวลาเราก็สวดมนต์ของเรา ถ้าหากไม่มีเวลาก็วิ่งเข้าใส่อารมณ์ภาวนา ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าสวดมนต์ไม่ดี ถ้าคนสวดมนต์เป็น เราสามารถทรงอารมณ์ภาวนาตอนสวดมนต์ได้ สามารถส่งกำลังใจขึ้นนิพพานไปสวดถวายพระพุทธเจ้าท่านก็ได้ ขณะเดียวกันสามารถที่จะกำหนดตัวอักษรให้ขึ้นมาอยู่ตรงหน้าทีละแถว ๆ ทำเป็นทิพจักขุญาณก็ได้ เพียงแต่ว่าเราทำได้แค่ไหน ?

ถ้าหากเราไม่สามารถทำลักษณะนี้ได้ เราชอบการภาวนามากกว่า เราก็ภาวนาไป เพราะว่าการสวดมนต์เป็นพื้นฐานของการสร้างสมาธิเหมือนกัน ในเมื่อเรามีสมาธิ เราจะวิ่งตรงไปทำสมาธิเลยก็ได้ ท่านไม่ได้ว่าอะไร

ถาม : อย่างบทสวดมนต์วันจันทร์ วันอังคารที่เขาเลือกไว้แล้ว
ตอบ : เลือกเอาบทที่ชอบ ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตามเขาก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2011 เมื่อ 12:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 18-02-2011, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีหน้าคือปี ๒๕๕๕ เป็นปีที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปี ฟังแล้วงงไหม ? คือ พระองค์ตรัสรู้แล้วสั่งสอนประชาชนอยู่ ๔๕ ปี ปรินิพพานมา ๒,๕๕๕ ปี เพราะฉะนั้น ๒,๕๕๕ + ๔๕ = ๒,๖๐๐ ปี

ทางอินเดียเขาจะเรียกว่า พุทธชยันตี เป็นการครบรอบใหญ่ ในลักษณะ ๑๐๐ ปีมีครั้งเดียว กรณีนี้ครบ ๒๖ รอบ อาตมาว่าจะสร้างพระสักรุ่นหนึ่ง พระท่านให้ทำเป็นพระนาคปรก ในช่วงที่พระองค์ท่านตรัสรู้ แล้วเสวยวิมุุตติสุขอยู่ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พระยามุจลินทร์นาคราชขึ้นมาสงเคราะห์ แผ่พังพานบังแดดบังฝนให้ คำว่านาคปรก พระท่านให้ความหมายว่า เป็นการพิทักษ์พุทธศาสนา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 18-02-2011, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขอคำแนะนำในเรื่องการปฏิบัติครับ ?
ตอบ : ในเรื่องของพระ สำคัญที่สุดก็คือ ศีล ทุกสิกขาบทต้องระมัดระวังให้ดี และงานของพระ สวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐานต่าง ๆ อย่าทิ้งเป็นอันขาด ถ้าทิ้งเมื่อไรกำลังเราจะไม่พอสู้กิเลส จะทำให้อยู่ในผ้าเหลืองไม่ได้

ถ้าหากเรารู้สึกว่า เดินจงกรมภาวนาแล้วเครียดไป ก็เปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่น เช่น ทำความสะอาดวัด ต้องรู้จักปรับตัวเอง ถ้าหากไม่ปรับตัวเอง มัวแต่เอาทื่อตรง ๆ อย่างเดียว บางทีไปไม่รอดหรอก แล้วก็ให้ทวนศีลไว้ทุกวัน

ถาม : กรรมฐานที่ควรทำ ?
ตอบ : ให้ใช้อานาปานสติเป็นหลัก หลังจากนั้นก็ควบพุทธานุสติ ถ้าหากได้สักอย่างหนึ่งแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวมาเอง เพราะกำลังจะเท่ากันหมด

ในการทรงฌานสี่ พอถึงเวลาเราทำได้สักกองหนึ่ง แล้วเปลี่ยนกองกรรมฐาน เปลี่ยนแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง ถ้าได้กองหนึ่ง ที่เหลือไม่ยากหรอก

ถาม : แล้วอานาปานสติต้องนึกภาพพระด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าสามารถกำหนดด้วยได้ก็ดี เพิ่มงานให้ใจจะได้ไม่ฟุ้งไปเรื่องอื่น ควบพุทธานุสติไว้ปลอดภัยกว่า อย่างน้อย ๆ ถ้าเราตายก็ไปอยู่กับท่าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2012 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 18-02-2011, 10:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การตัดบุรพกรรม ควรทำอย่างไร?
ตอบ : การตัดบุรพกรรมที่ง่ายที่สุดก็คือ ศีล สมาธิ และปัญญา เพราะอานิสงส์ใหญ่มาก โดยเฉพาะตัวภาวนา ถ้าหากเรามีการภาวนาให้อารมณ์ใจทรงตัวอยู่เสมอ ๆ กรรมจะตามเราได้น้อยมาก ไม่ต้องไปเสียเวลาสะเดาะเคราะห์อย่างอื่นหรอก ภาวนาทุกวันเท่ากับสะเดาะเคราะห์ไปในตัวอยู่แล้ว

ถาม : การตัดคู่เวรคู่กรรม เราต้องตัดไปเลยหรือเจ้าคะ ?
ตอบ : ตัดทิ้งไปเลย ถ้าหากมีอะไรสงเคราะห์ได้ก็รอประเภทที่เดินมาชนกันจริง ๆ แล้วค่อยว่ากัน ไม่อย่างนั้นก็อาจจะทำให้กำลังใจกำเริบได้ใหม่

ถาม : แล้วถ้าเป็นการช่วยเหลือ..?
ตอบ : พิจารณาด้วยว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างไร ถ้าหากเกินกำลัง เกินความสามารถ หรือว่าจำเป็นต้องใช้ปัจจัยมาก ปฏิเสธเขาไปก็ได้ พูดง่าย ๆ ว่าถ้าจะหมดกรรมก็ให้หมดกันไปเลย ไม่ต้องไปสร้างใหม่

ถาม : ก็คือตัดเลย?
ตอบ : ใช่ หั่นได้หั่นทิ้งไปเล..!

ถาม : เลี้ยงไว้นี่คือทำให้เสียเวลาเรา ?
ตอบ : นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังทำให้เสียอารมณ์อีกต่างหาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2019 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 18-02-2011, 10:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไม่อยากยุ่งกับใครค่ะ
ตอบ : ธรรมดา

ถาม : พี่น้องก็ไม่เอาแล้ว
ตอบ : เราเองให้รู้ว่า เราอยู่กับโลก เราต้องเคารพสมมติทางโลก อะไรที่พอปฏิสัมพันธ์กันได้ก็ทำไป ถ้าเราทำแล้วใจไม่นิ่ง เกิดอารมณ์กระทบ แสดงว่าจริง ๆ แล้วกำลังใจของเรายังใช้ไม่ได้

ให้ปฏิสัมพันธ์กับเขาในลักษณะของกำลังใจที่มีสติรู้อยู่ตลอดว่า เรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร และไม่ให้ รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามาได้จึงจะใช้ได้ พูดง่าย ๆ ว่า เราต้องอยู่ในโลกลักษณะของน้ำกลิ้งบนใบบอน แต่ไม่ติดอยู่กับใบบอน คือเป็นคนปกติที่ยิ่งกว่าปกติ บ้าตามเขาได้ทั้งทุกอย่าง แต่ไปในกรอบของศีลเท่านั้น เกินศีลเราไม่ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 18-02-2011, 10:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ได้พระธาตุมา ให้ท่านช่วยดู
ตอบ : เรื่องของพระธาตุ เราอย่าไปสงสัยว่าใช่หรือไม่ใช่ ? จริงหรือไม่จริง ? ไม่ต้องสงสัย สำคัญตรงที่เราเห็นแล้ว เรานึกถึงพระพุทธเจ้าได้หรือไม่ ?

ถ้าเห็นแล้วเรานึกถึงพระพุทธเจ้าไม่ได้ มัวแต่ลังเลสงสัยอยู่ ต่อให้ของจริงก็เหมือนกับของปลอม แต่ถ้าเราเห็นแล้ว เราระลึกถึง กราบไหว้บูชาด้วยความเคารพ ของปลอมก็เหมือนกับของจริง ฉะนั้น..ไม่ต้องเสียเวลาไปสงสัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 18-02-2011, 10:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีเจ้ากรรมนายเวรตามอยู่
ตอบ : มีคนคอยดูแล ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี (หัวเราะ) อย่าไปกังวลกับเรื่องนั้นเลยจ้ะ เจ้ากรรมนายเวรมีทุกคนแหละ

เวลาสร้างบุญสร้างกุศลอะไร ก็ตั้งใจอุทิศให้เขา ขอให้เขาโมทนาและอโหสิกรรมให้เราด้วย แรก ๆ เขาก็ไม่ยอมหรอกจ้ะ ถ้าเราเคยทำไม่ดีกับเขา เขาโกรธเราก็เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเราตื๊อทำไปบ่อย ๆ เดี๋ยวเขาใจอ่อนเขาก็เลิกเอง

ไม่ใช่มีแต่เราหรอก มีทุกคน ในเมื่อมีทุกคนไม่ต้องกังวลหรอก ยิ่งอาตมายิ่งมีเยอะเลย แต่ก็ทำให้เขาอยู่ทุกวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 18-02-2011, 10:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พวกนักปฏิบัติอย่างเรา กรรมเก่าเล่นไม่ถึงใช่ไหมคะ ?
ตอบ : อยู่ที่กำลังใจเราด้วย ถ้าเข้มแข็งไม่พอ ก็ถูกเล่นจนได้แหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 18-02-2011, 10:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากให้อธิบายข้อประพฤติผิดในกาม กับข้ออพฺรหฺมจริยา ?
ตอบ : ในส่วนของข้อกาเมฯ เป็นการละเมิดที่หยาบที่สุด ส่วนอพฺรหฺมจริยา ในเบื้องต้นสำหรับบุคคลที่จิตหยาบแล้ว การแตะเนื้อต้องตัวก็ทำให้เกิดอารมณ์กำหนัดขึ้น ถ้าอารมณ์กำหนัดเกิดขึ้นเมื่อไร ปัญญาจะถอยหลัง ต่างกันอยู่ตรงนี้

แต่ถ้าบุคคลที่ทรงกำลังใจมั่นคงแล้วจริง ๆ สามารถที่จะปลดได้ วางได้ สักแต่ว่าเห็นทุกอย่างเป็นรูปเป็นนาม สิ่งที่เขาสัมผัสมันก็เป็นรูปกายรูปหนึ่ง ที่ไม่ได้ต่างไปจากสิ่งของอื่นที่เป็นดิน น้ำ ไฟ ลม เท่ากับเป็นแค่วัตถุธาตุชิ้นหนึ่งเท่านั้น อารมณ์จิตที่นึกคิดปรุงแต่งไม่มี ท่านทั้งหลายเหล่านี้จะจับอย่างไรก็เรื่องของท่าน

แต่สำหรับผู้ที่ปฏิบัติในขั้นแรก จำเป็นต้องทำของเราให้เต็มที่ก่อน ต้องระมัดระวังให้เต็มที่ก่อนจะไปถึงระดับนั้นได้ ไม่ใช่เห็นบางคนทำได้ แล้วทำไมเราทำไม่ได้ เหมือนกับช้างสามารถแบกข้าวสารได้ทีละหลายกระสอบ เราไปแบกแบบนั้นก็โดนทับตาย..!

ถาม : ข้อประพฤติในพรหมจรรย์ สำหรับคนมีครอบครัว อยากขอคำแนะนำ ?
ตอบ : รักษาเป็นเวลา หรือไม่ก็เอาอย่างพระมหากัสสปะกับนางภัททกาปิลานี ถึงจะอยู่ด้วยกันก็แยกกันอยู่

ถาม : ต้องให้ตัวเขารักษาด้วยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าความต้องการไม่เท่ากัน เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน

ถาม : ถ้าเราเดินผ่านไปผ่านมา ชนผู้คน หรือไปโดนตัวเขา แล้วเกิดจิตกำหนัด ?
ตอบ : ถ้าหากไม่ประกอบด้วยเจตนา โทษก็น้อย

ถาม : แต่ไม่ได้ผ่านไปเลยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ก็เหมือนกับพระ ถ้าถูกต้องหญิงโดยจิตกำหนัดก็ผิดโดนสังฆาทิเสส ถ้าไม่มีจิตกำหนัดท่านปรับอาบัติทุกกฎที่ต่ำลงมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 18-02-2011, 10:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หมอดูบอกว่า คนปัจจุบันยังไม่ใช่คู่แท้..?
ตอบ : จะเชื่อเขาทำไม? อยู่ที่เราประพฤติตัวของเราเอง ถ้าความประพฤติของเราไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว ต่อให้ได้เนื้อคู่ดีอย่างไร ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้

เราต้องเชื่อพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ไปเชื่อดวง พระพุทธเจ้าบอกว่าต้องมีสมชีวิธรรม ๔ มีศีลเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน มีศรัทธาเสมอกัน มีการบริจาคให้ทานเสมอกัน อย่างไรก็อยู่กันได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 18-02-2011, 10:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่บ้านมีหิ้งพระหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีพระที่วางชั้นตรงข้ามหันไปทางทิศตะวันตก
ตอบ : ทำไมไม่เอาไปไว้ที่เดียวกัน ?

ถาม : รกมากเลยค่ะ ชั้นไม่พอ
ตอบ : หาใหม่อีกหิ้งหนึ่ง อยู่ใกล้ ๆ กัน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 18-02-2011, 10:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาขึ้นไปบนพระนิพพาน เราควรจะมองอารมณ์ ?
ตอบ : อยู่ตรงนั้นให้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ สมัยก่อนผมก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะจิตไม่เคยชินกับความละเอียดระดับนั้น ผมจึงใช้วิธีสวดมนต์ถวายเป็นพุทธบูชา โชคดีที่ผมสวดมนต์ได้มาก ฉะนั้น..ตราบใดที่จิตยังมีงานทำอยู่ ก็จะอยู่ตรงนั้น และหาวิธีอย่างไรก็ได้ให้คุณอยู่ได้นานที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 18-02-2011, 10:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าทำนิมิตแล้วอธิษฐานให้ใหญ่ก็ได้ให้เล็กก็ได้ การอธิษฐานให้ใหญ่ให้เล็ก ความตั้งใจต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : ก็เหมือนกันนั่นแหละ อธิษฐานคือความตั้งใจ เวลาคุณนึกต้องใช้ความตั้งใจไหมเล่า ? ถ้าสามารถนึกให้เล็กให้ใหญ่ ให้มาให้ไป ก็คืออธิษฐานนั่นแหละ

ถาม : ก็คือการที่เราจินตนาการฝึกกสิณหรือครับ ?
ตอบ : ก็ขอใช้ผล ถ้าใช้ผลได้ก็แปลว่าของจริง ถ้าใช้ผลไม่ได้ก็เป็นแค่จินตนาการ ของอย่างนี้ทดสอบกันได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2011 เมื่อ 12:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 19-02-2011, 10:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กำลังใจที่เกิดจากตัวอคติ จะใช้วิธีการอย่างไรในการตัดตัวอคติเหล่านี้ ?
ตอบ : สติ..ถ้าสติเท่าทันก็หยุดให้ได้ก่อน หลังจากนั้นก็ใช้ปัญญาพิจารณา ให้เห็นว่าทั้งเขาและเราก็ทุกข์อยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น..เราจะไปรัก โกรธ เกลียด กลัว เขาหรือไม่ก็ตาม ท้ายสุดก็ต่างคนต่างตาย คิดพิจารณาแบบนี้บ่อย ๆ จะค่อย ๆ ปลดตัวอคตินี้ออกไปได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2011 เมื่อ 14:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 19-02-2011, 10:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาหารการกินสมัยนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากการเร่งปุ๋ยเร่งฮอร์โมนกันมาก ทำให้ตกค้างมาถึงเด็กรุ่นใหม่ เด็กรุ่นใหม่จึงโตเร็วเพราะเท่ากับโดนฮอร์โมนเร่งไปในตัว ในเมื่อโตเร็ว วงจรชีวิตก็จะสั้นไปด้วย

คนรุ่นใหม่ ๆ ยิ่งโตเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งอายุสั้นมากเท่านั้น เราลองนึกถึงลูกหมา สามสี่เดือนก็เป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว เด็กสมัยนี้แปดเก้าขวบเริ่มดูเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ต่อไปพวกที่อายุ ๖๐ ขึ้นไปจะกลายเป็นวัตถุโบราณ เพราะเดี๋ยวนี้เกณฑ์อายุเฉลี่ยแค่ ๖๓ ปีเท่านั้นเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2011 เมื่อ 14:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว