กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 16-06-2015, 17:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาษาบาลีเขาให้อ่านเสียง ห เป็น ฮ ?
ตอบ : ไม่ใช่...เราดัดจริตกันเอง ความจริงต้องเสียงตรง คือภาษาไทยมีตัว ห มีตัว ฮ ถ้าเขาจะใช้เสียง ฮ ก็ต้องเขียนตัว ฮ แต่แรก บาลีเป็นเสียง ห ชัด ๆ เลย "หีนา ธัมมา" หรือ "ปหีนา เต จะ อาพาธา" อาตมาไม่เคยหลบเสียงเลย ใส่ไปเต็ม ๆ ทุกครั้ง ไอ้พวกฟุ้งซ่านคิดมากก็เรื่องของเขา อาตมารู้ว่าอ่านอย่างไรก็ใส่ไปตามปกติ

วันก่อนตอนรับปริญญาเอกก็เหมือนกัน มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อยู่ ๓ ท่าน จบ ดร.พร้อมกันเลย แล้วก็เป็นอดีตมหาเปรียญทั้งนั้น เขาคุยกันเรื่องนี้ อาตมาก็เลยหันไปคุยด้วย พอคุยด้วยเขาก็ยกบาลีคำโน้นคำนี้ขึ้นมา อาตมาตอบได้หมด จนกระทั่งเขาคิดว่าอาตมาคงจบประโยค ๙ ไม่ใช่หรอก ที่คุณถามมาบังเอิญอาตมารู้ เขาก็ถามอันนี้ด้วยว่าอ่านว่าอะไรกันแน่ ก็เลยบอกว่าในเมื่อของเรามีทั้งอักษร ห และ ฮ ถ้าหากว่าเสียง ฮ ก็ต้องใช้ ฮ สิ แล้วทำไมถึงต้องไปใช้ ห ด้วย ?

คราวนี้อาตมาเป็นพระจบ ดร. เขาก็เลยไม่ถามว่าประโยคไหน เขาเห็นว่าตอบได้หมด เขาก็เลยเหมาเลยว่าจบประโยคสูงแน่นอน หารู้ไม่ว่าอาตมาไม่มีสักประโยค
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 18:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 16-06-2015, 17:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่าจิตมีสภาพจำ ความจำของจิตเป็นคนละระดับกับสัญญา ?
ตอบ : คำว่าจำเป็นการจำข้ามชาติข้ามภพ เป็นการบันทึกสิ่งที่เรากระทำ เกิดมามีความจำเรียกว่า สหชาติกปัญญา เป็นปัญญาทางโลก

ถาม : แต่ความจำของจิตก็ยังไม่ใช่สัญญา เพราะสัญญาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ?
ตอบ : สัญญาก็เป็นความจำอย่างหนึ่ง แต่ที่สภาพจิตจำนี่จำทั้งดีทั้งชั่ว สัญญาบางทีเรายังเลือกจำเฉพาะสิ่งที่ดี ๆ เราทำแล้วมีความสุข ส่วนที่ไม่ดีเราก็ไม่จำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-06-2015 เมื่อ 09:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 16-06-2015, 18:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คุณพ่อเสียชีวิต ไม่ทราบว่าท่านไปดีหรือไม่คะ ?
ตอบ : อย่าไปถามที่ไหนเป็นอันขาด ถ้าหากว่าถามไปเจอท่านที่ไม่มีศีลไม่มีธรรมเข้า เดี๋ยวจะต้องเสียสตางค์ทำบุญให้พ่ออีกเป็นหมื่นเป็นแสน เรื่องอย่างนี้อยากรู้ให้ทำเอง ไปถามคนอื่นไม่จบหรอก พยายามฝึกทิพจักขุญาณให้ได้แล้วก็ดูเอาเอง ไม่อย่างนั้นก็ให้เรามั่นใจว่าถ้าทำดีต้องได้ผลดี ถ้าทำชั่วต้องได้ผลชั่ว ก่อนตายถ้าใจท่านเกาะความดีได้ ท่านต้องไปดีแน่นอน เราทำบุญให้ไปเท่าไรท่านก็ได้รับ

คราวนี้ถ้าเราไปถามที่อื่นจะเสียสตางค์ฟรี เขาหลอกต้มกันมาทุกยุคทุกสมัยแล้ว บอกว่าเห็นพ่อเรากำลังทุกข์ยากลำบากอยู่ ต้องทำบุญเท่านั้นเท่านี้ ด้วยความรักพ่อเราก็ทำใหญ่เลย ทำเท่าไรคนที่สบายก็คือคนบอก


ถาม : แล้วท่านจะให้คำแนะนำว่าอย่างไรคะ ?
ตอบ : พอเถอะ..ให้คำแนะนำว่าอย่าไปถามที่อื่น ไปถามที่อื่นเดี๋ยวเราเดือดร้อน ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมเป็นคนดีเกินไป เมื่อเป็นคนดีเกินไป ไปเจอคนโกงเข้าก็ลำบาก ไปถามเขาซื่อ ๆ เขาบอกมาก็เชื่อ คนโกงถึงหากินได้ทุกยุคทุกสมัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 20:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 17-06-2015, 09:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "แจ้งให้ญาติโยมได้ทราบอีกครั้งว่า วันที่ ๒๐ มิถุนายนนี้ มีแต่บวงสรวงไหว้ครูและพุทธาภิเษกเท่านั้น ไม่มีการเป่ายันต์เกราะเพชรใด ๆ ทั้งสิ้น หลายท่านมักจะถาม อาตมาก็ยืนยันไปทุกครั้งว่า ถ้ามีการเป่ายันต์ก็จะประกาศออกเว็บวัดท่าขนุนให้ แต่ก็ถามได้ถามดีทุกครั้งเหมือนกัน

ความจริงไม่มีการเป่ายันต์ฯ ก็เป็นการดี เพราะแสดงว่าสถานการณ์ประเทศชาติไม่หนักนัก อาตมาเองก็สงสัยว่าสถานการณ์ก่อนหน้านี้ค่อนข้างจะหนัก แล้วทำไมท่านไม่สั่งให้เป่ายันต์ ? ปรากฏว่าถัดจากนั้นไม่นาน หลวงพ่อคูณก็มรณภาพ ถือว่าเป็นการเอาพระโพธิสัตว์ใหญ่ไป ๑ รูป ตัดเคราะห์ตัดกรรมให้ประเทศชาติไปได้มหาศาล

ส่วนระยะนี้ที่จำเป็นต้องระมัดระวัง ก็คือ องค์ในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อยู่ ๆ ก็เข้าโรงพยาบาล ทางด้านสำนักพระราชวังแถลงข่าวว่าตรวจร่างกายแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ อาตมาขอยืนยันว่าโกหก..! ไม่ผิดปกติแล้วจะเข้าโรงพยาบาลทำไม ? เพียงแต่ว่าเป็นอาการที่ยังไม่อยากจะบอก เพื่อไม่ให้ชาวบ้านตื่นตกใจกัน ไม่ให้ชาวบ้านเสียกำลังใจ ดังนั้น..ใครทำความดีอะไร ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา อุทิศให้กับเทพยดาทั้งหลายที่รักษาองค์ในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถด้วย อย่างไรก็ขอให้ช่วยประคับประคองธาตุขันธ์ของทั้ง ๒ พระองค์ ให้มีพระพลานามัยแข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญของพวกเราไปนาน ๆ

ถ้าคนไม่เป็นอะไรอยู่ ๆ จะรีบเข้าโรงพยาบาลทำไม ? อาตมาไม่ต้องใช้หัวแม่เท้าตรองยังเข้าใจเลย ปกตินี่จะใช้หัวแม่เท้าคิดก่อน จะทำอะไรอย่าคิดว่าคนไทยกินแกลบกินรำหรือกินหญ้าสิ เขารู้ทันกันหมดแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 10:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 17-06-2015, 12:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณเหมาผ้าไตร ๖๐ ไตร สีพระราชนิยม ๓๐ ไตร สีเหลือง ๓๐ ไตร ไตรละ ๑,๐๕๐ บาท นึกเอาก็แล้วกันว่าหมดไปเท่าไร ขอเป็นเจ้าภาพเพื่อเป็นไทยธรรมถวายพระ ในงานวันที่ ๒๑ มิถุนายนนี้ เพราะท่านมีแนวคิดว่า ถ้าจะต้องก้าวไปสู่ตำแหน่งใหญ่โตในภายภาคหน้า ฐานบุญต้องแข็งแรง ถ้าฐานบุญไม่แข็งแรงเดี๋ยวจะไปไม่รอด ท่านก็เลยเหมาเป็นเจ้าภาพไปเลย

ดังนั้น ถ้าท่านใดที่คั่วตำแหน่งมาหลายรอบแล้วยังไม่ขยับสักที ให้ลองหาทางสร้างบุญใหญ่ดู ไม่ต้องถึงขนาดสร้างโบสถ์ทั้งหลังหรอกนะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 17-06-2015, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระอาจารย์กล่าวว่า "การตามประทีปที่วัดท่าขนุน เนื่องจากว่าปีนี้ท่านปัญญามาเรียนบาลีอยู่ที่สหบาลีศึกษา วัดพระปฐมเจดีย์ ไม่มีคนเขียนร่างแบบให้วางผางประทีป พระท่านก็เลยช่วยกันคนละไม้คนละมือ ซึ่งอาตมาเห็นแล้วว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เนื่องจากว่า สถาบันใดก็ตาม ถ้าขึ้นอยู่กับบุคคลเพียงคนเดียว ขาดไปแล้วทำอย่างอื่นไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็น สถาบันนั้นจะล่มสลายไปในไม่ช้า

ในเมื่อของเราตัวหลักไม่อยู่ ที่เหลือก็แบ่งกันรับผิดชอบ ตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อย ช่วยกันติ ช่วยกันต่อ ช่วยกันเติม จนกระทั่งสำเร็จออกมา
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าดูได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ว่าสิ่งที่ต้องการก็คือความรักใคร่สามัคคี และร่วมกันรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ตรงนี้อาตมาถือว่าประสบความสำเร็จมาก

ผางประทีปอาจจะไม่ออกมางามหยดย้อยเหมือนกับที่ต้องการ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ ปีนี้ทางด้าน ททท. ส่งบุคลากรไป ๑ คันรถเพื่อถ่ายรูปงานผางประทีปวัดท่าขนุนโดยเฉพาะ ไปลง Unseen Thailand ทางวัดเป็นคนเริ่มทำ ททท. เป็นคนสานต่อ แต่ต้นไม้ในลานธรรมของเราใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปวางผางประทีปไม่รู้ว่าจะดูจากมุมไหน อาจจะต้องสร้างหอสูงแล้วเก็บสตางค์ให้คนขึ้นไปดู"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 17-06-2015, 12:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคนเห็นพระเครื่องดี ๆ ไปลงให้บูชาในเว็บราคาร้อยเดียวก็ตกใจ บอกว่าเอาไปลงอย่างนั้นได้อย่างไร เสียราคาหมด ทำไมล่ะ ? อาตมาได้ฟรี โยมถวายมา อาตมาได้องค์ละตั้งร้อย ต้องบอกว่าสมประโยชน์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย โยมที่เสียสละมาก็ได้บุญ วัดก็ได้เงิน โยมที่ต้องการวัตถุมงคลก็ได้ของดีราคาถูกไป ก็น่าจะดีด้วยกันทั้งหมด แล้วมาโวยทำไม ?

จำไม่ได้ว่าใครเขาเก็บพระใหม่ แล้วเก็บเยอะ รุ่นหนึ่ง ๓๐๐-๕๐๐ องค์ ลูกหลานก็ถามว่าเก็บไปทำไมพระใหม่ ๆ ไม่เก็บของเก่า ท่านบอกว่า “ของใหม่เก็บนานไปก็เก่า” แล้วถามว่าเก็บไว้ทำไมเยอะแยะ ท่านบอกว่า “เผื่อพวกแกไว้แจกในงานศพข้า” ปรากฏว่าพอถึงเวลาลูกหลานไม่กล้าแจก จะไปแจกท่าไหน อย่างเหรียญหลวงปู่ทิม สมัยก่อนองค์ละไม่กี่บาท ตอนนี้เป็นแสน ไปแจกในงานศพก็เป็นลมตายกันพอดี

อย่างหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว อาตมาจำได้ว่าตอนที่เรียนชั้นมัธยมอยู่ เขามีใบบอกไปทางโรงเรียนให้บูชา องค์ละตั้ง ๒๐ บาท แพงจริง ๆ เดี๋ยวนี้หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้วหรือ ? ไม่มีเงินแสนคุณไม่ได้ครอบครองหรอก

แต่ไม่เป็นไร โปรดติดตามกระทู้ของตัวเล็กไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวจะมีของแพงมาปล่อยถูก ๆ อีก แต่อาจจะถูกแบบหลายหมื่น เสร็จแล้วมีโอกาสเราก็ไปหาเงินแสนต่อ แบบเดียวกับเมื่อวานมีโยมเอาขุนแผนพลายกุมารของหลวงปู่ทิมมา ๒ องค์ พิมพ์ใหญ่ด้วยนะ บอกให้เอาไปประมูลในเว็บ แต่พวกเราไม่รู้จักของ ประมูลไปก็คงได้ไม่กี่สตางค์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 17-06-2015, 12:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์สั่งงานคุณก้านบัวว่า "ลองดูบาตรน้ำมนต์สวย ๆ ขนาดเท่าบาตรจริงให้หน่อย วัสดุน่าจะเป็นนวโลหะ จะทำสัก ๖๐ ใบเท่าอายุ"

ถาม : เอาเนื้อบรอนซ์นอกดีไหมคะ ?
ตอบ : บรอนซ์นอกก็ได้ แต่ว่าเรื่องวัสดุช่างหัวมัน หาแบบให้ได้ก่อน เพราะว่าต้องการเท่าบาตรจริง ที่เขาทำส่วนใหญ่เป็นหม้อน้ำมนต์ใบเล็กนิดเดียว ไม่ทันจะพรมก็หมดแล้ว แต่อย่าถึงขนาดเป็นโอ่งแล้วกัน เอาประมาณสัก ๘ นิ้ว

ถาม : เคยเห็นแบบเป็นแก้วครับ ?
ตอบ : จะเอาแก้วไปทำอะไร เราต้องการโลหะเพื่อใช้พลังงานของโลหะด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 17-06-2015, 12:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ ทำให้คนเราหยาบขึ้นเยอะ อย่างเมื่อครู่นี้ที่โยมช่วยยกของสังฆทาน บรรดาขวดต่าง ๆ ก็เป็นพลาสติกไปเยอะ ตอนแรก ๆ อาตมาก็งง ๆ ได้ยินเขาเรียกว่าขวดเพ็ต อ๋อ..ย่อมาจากโพลีเอ็ตทีลีน ก็คือขวดที่เรารู้กันว่าเป็นขวดพลาสติก ในเมื่อรู้ว่าไม่แตก พวกเราก็ขาดความระมัดระวัง

สภาพจิตหยาบขึ้น สติน้อยลง แบบเดียวกับกล้องถ่ายรูปดิจิตอล สมัยก่อนใช้ฟิล์ม จะถ่ายแต่ละรูปนี่เล็งแล้วเล็งอีก จะออกมาสวยไหม สมัยนี้ถ่ายทิ้งถ่ายขว้างอย่างไรก็ได้ แล้วมาเลือกดู รูปไหนสวยก็เก็บไว้ รูปไหนไม่สวยก็กดทิ้งไป

ฉะนั้น..เทคโนโลยีเจริญขึ้นก็จริง แต่ทำให้สภาพจิตของคนหยาบลง แล้วก็สติน้อยลง ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมยิ่งความเจริญมามาก สภาพจิตของคนถึงได้เสื่อมทรามลงไปทุกวัน ต้องบอกว่าเทคโนโลยีเอื้อให้เป็นอย่างนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 17-06-2015, 12:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ต้องบอกว่าเห็นใจรัฐบาลมาก เพราะว่าความชำนาญของทหารไม่ได้อยู่ที่การปกครองบ้านเมือง ไม่ได้อยู่ที่การบริหารบ้านเมือง แต่อยู่ที่การปกป้องประเทศชาติ รัฐบาลทหารที่เข้ามา อันดับแรกเลย ก็คือ ยุติความขัดแย้งที่ตั้งใจให้เกิดขึ้น ฟังให้ดี ๆ นะ เขาตั้งใจให้เกิดขึ้น ให้รัฐบาลทหารออกมา ต้องบอกว่าอยู่ในลักษณะของการสมรู้ร่วมคิดกัน แต่พอทำแล้วไม่สามารถที่จะบริหารประเทศชาติให้ดีได้ เนื่องจากว่าทหารไม่ได้เรียนมาในลักษณะของการบริหารประเทศ แต่เรียนมาเพื่อป้องกันประเทศ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "เรือติดหล่ม" อย่างในปัจจุบันนี้

บอกว่ามาเพื่อสร้างความปรองดอง สร้างความสามัคคี ซึ่งความจริงการสร้างความปรองดอง สร้างความสามัคคี จะต้องใจกว้างพอ โดยเฉพาะต้องรู้จักให้อภัย ต้องรับฟังความเห็นต่างได้ แบบเดียวกับที่นักการเมืองมืออาชีพบอกว่า “เสียงข้างน้อยแม้แต่เสียงเดียว ก็มีคุณค่าควรแก่การรับฟัง” บอกว่าเข้ามาเพื่อกำจัดคอรัปชั่น เรื่องของการกำจัดคอรัปชั่นต้องบอกว่าเป็นเรื่องในฝัน การกำจัดคอรัปชั่นต้องวางพื้นฐานตั้งแต่เด็กทารกมาเลย ถ้าเราไม่สร้างจิตสำนึกให้แก่เด็กตั้งแต่อยู่ในบ้าน พูดง่าย ๆ คือตั้งแต่เกิดมา ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นได้

ญี่ปุ่นเขามีการสร้างจิตสำนึกให้แก่เด็กตั้งแต่เล็ก ๆ เลย เมื่อไม่นานนี้มีการเผยแผ่คลิปวีดีโอการทดสอบเด็ก ผู้ใหญ่ทำเป็นกระเป๋าสตางค์หล่น ปรากฏว่าเด็กทุกคนทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เห็น ถ้าไม่เก็บคืนก็ดึงแขนผู้ใหญ่ให้รู้ว่ากระเป๋าตก บ้านเราถ้าไม่ทำอย่างนี้แก้ปัญหาคอรัปชั่นไม่ได้ เพราะว่าคนเราพอขึ้นไปสู่ระดับสูงแล้ว ถึงไม่คอรัปชั่นเขาก็เต็มอกเต็มใจเอาไปให้ เพื่อขอความสะดวกในการทำงานแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งลักษณะนี้มีมาแต่โบร่ำโบราณแล้ว มาจากบรรดาคนจีน อารยธรรมจีนเจริญรุ่งเรืองมาเป็นพัน ๆ ปี อยู่คู่กับการติดสินบน ที่ต้องบอกว่าเป็นการหยอดน้ำมันเพื่อให้ระบบงานลื่นไหล

ดังนั้น..ต่อให้ท่านมาแบบบริสุทธิ์สะอาดขนาดไหนก็ตาม ท้ายที่สุดก็จะเสียผู้เสียคนไปเอง นักการเมืองที่อาตมาเห็นว่ามือสะอาดจริง ๆ ก็คือ พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ท่านเจ้าคุณพหลฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าจำไม่ผิด ๕ สมัยด้วยกัน ปรากฏว่าตายแล้วทางบ้านไม่มีเงินแม้แต่จะจัดงานศพให้สมเกียรติยศ จนกระทั่งรัฐบาลต้องออกเงินจัดงานให้ เป็นไปได้ไหม ? คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีมา ๕ สมัยไม่มีเงินจะจัดงานศพตัวเอง เพราะคนสมัยนั้นที่รับราชการ ซื่อตรงต่อแผ่นดินก็คือซื่อตรงจริง ๆ มีการถือน้ำพิพัฒน์สัตยา รู้จักละอายชั่วกลัวบาป เมื่อถึงเวลาเอ่ยคำสาบานไปแล้ว โดยเฉพาะต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยึดถือจนวันตาย

สมัยนี้อาตมาเห็นข้าราชการ โดยเฉพาะรัฐบาลต่าง ๆ ถึงเวลาก็ปฏิญาณตนต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอนปฏิญาณก็ทำอย่างหนึ่ง พอถึงเวลาก็กลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 17-06-2015, 13:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เราลองมานึกถึงนายตำรวจใหญ่ที่ไม่นานนี้โดนจับข้อหาคอรัปชั่น ทั้งข้าวของเงินทองมากมายมหาศาล ต้องบอกว่านั่นเป็นเพียงปลายยอดของภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำเท่านั้น เคยมีนักการเมืองท่านหนึ่ง เปิดห้องให้คนดู ห้องใหญ่โตมโหฬาร มีธนบัตรใบละพันอัดแน่นเกือบเต็มห้อง ถามว่าทำไมไม่เอาฝากธนาคาร เขาบอกว่าฝากคนก็รู้กันหมด ก็ในเมื่อคนจะให้สินบนก็ให้ไป เขาก็ยินดีรับ แต่รับแล้วเก็บไว้ในบ้าน ถ้าน้ำไม่ท่วม ไฟไม่ไหม้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็อยู่ไปเรื่อย ๆ ใช้ไปเรื่อย ๆ เพียงแต่คนเขาอาจจะสงสัยว่า ใช้เงินทั้งปีทั้งชาติทำไมเงินในธนาคารไม่พร่องสักที

แล้วท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็เข้าบ่อนเป็นปกติ เพื่อฟอกเงิน บางทีก็ซื้อของแพง ๆ อย่างพระเครื่อง สมมติว่าสมเด็จวัดระฆัง ราคาท้องตลาด ๒๐ ล้านบาท ก็ปล่อยข่าวว่าตนเองซื้อ ๕๐ ล้านบาท ถึงเวลาก็มีการขายต่อกันเป็นทอด ๆ พอไปถึงมือของบรรดานักการเมืองต่าง ๆ ปล่อยออกไป ได้เงินมากลายเป็นเงินที่ถูกต้อง เพราะว่าปล่อยพระให้เขาบูชา ไม่ได้คอรัปชั่นมา แต่ความจริงพระที่ปล่อยไปไม่กี่บาท ออกข่าวให้แพงไว้ก่อน แล้วเราจะไปหานักการเมืองแบบเจ้าคุณพหลฯ ได้ที่ไหน ? คงต้องจุดเทียนส่องหากัน

บ้านเราก็มัวแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน โดยลืมรากฐานสำคัญของบ้านเมืองก็คือเด็ก ไม่มีการวางรากฐานตั้งแต่เล็ก วิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมหายไปไหนก็ไม่ทราบ ไม่มีการปลูกฝังจิตสำนึก โดยเฉพาะกลายเป็นรุ่นพ่อรุ่นแม่ขึ้นมา ในเมื่อรุ่นพ่อรุ่นแม่ไม่มีจิตสำนึกแล้วจะไปอบรมลูกได้อย่างไร หลายต่อหลายท่านก็โยนให้เป็นภาระของพระ ซึ่งอาตมายืนยันว่าช้าเกินไป เพราะจากมือพ่อแม่กว่าจะถึงครู ปัจจุบันนี้ต่ำสุดก็ ๓ ขวบ ก็แปลว่าเขารับเอาสิ่งที่ดีหรือไม่ดีเข้าไปอย่างน้อย ๓ ปีเต็ม ๆ แล้ว พอไปถึงมือคุณครู กว่าจะปลุกกว่าจะปั้นออกมาเพื่อให้เป็นผู้เป็นคน ครูก็ไม่ค่อยมีเวลา ต้องขายแอมเวย์บ้าง ต้องขายประกันบ้าง ต้องทำเอกสารเพื่อขอเลื่อนขั้นบ้าง ต้องเตรียมการสอน สารพัดเอกสารที่ต้องการ เพราะสมัยนี้เขาเชื่อรายงาน คุณปั่นรายงานออกมาได้สวยเท่าไร เขาก็ถือว่าผลงานดีเท่านั้น

ถึงเวลาคุณครูจึงไม่มีเวลาอบรมเด็กอย่างเต็มที่ เด็กก็ซึมซับรับเอาสิ่งที่ไม่ดีไม่งามในสังคมเข้าไปมาก พื้นฐานก็ไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว แล้วกว่าจะถึงวัดก็อายุราว ๒๐ ปีไปแล้ว บางที ๓๐-๔๐ ปียังไปไม่ถึงวัดเลย พอไปถึงก็ “ท่านเจ้าคะ..ท่านเจ้าขา..หลวงพ่อเจ้าขา ช่วยอบรมลูกอิฉันให้เป็นคนดีทีเถอะเจ้าค่ะ” ถามว่า ลูกโยมบวชนานเท่าไร ? “๗ วันเจ้าค่ะ” พ่อแม่ดูแลมา ๒๐ กว่าปี ใช้พระให้เวลา ๗ วันอบรมลูกให้ดี คงจะได้หรอกนะ..! อาตมาก็ได้แต่ตักน้ำรดหัวตอไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หวังอะไรมากมายหรอก ถึงไม่งอก เอาแค่เปียก ๆ ก็ยังดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 17-06-2015, 14:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไปเปิดเพจพระเครื่องของสายวัดท่าขนุน เดือนที่แล้วมีประกาศของหลวงพ่อ เลยไม่สบายใจ ผมเลยมาขอความเห็นครับ
ตอบ : เห็นว่าอย่างไร ไม่มีความเห็น ที่ประกาศไปเพราะอ้างว่าอาตมาอนุญาตให้ทำ คุณจะทำก็ทำไป อย่าเสือกทะลึ่งมายุ่งกับอาตมาก็พอ จะขายหน้าขายตัวอะไรก็เรื่องของคุณ แต่อย่าอ้างว่าได้รับอนุญาตจากอาตมา หรือไปบอกว่าอาตมาเห็นด้วย

ไม่เคยขัดอยู่แล้ว ใครจะทำมาหากินอย่างไรก็เชิญ หรือไม่ถ้าจะเอาให้ชัดเจนก็พาดหัวไปชัด ๆ เลย ว่าเป็นการกระทำส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทางวัด แล้วถ้าวัตถุมงคลหมดสามารถมาขอบูชาจากวัดไปเพิ่มได้ ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 18-06-2015, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "การประหารเจ็ดชั่วโคตร เก้าชั่วโคตรนั้น ไม่ใช่ว่าให้ลูกหลานดูเป็นเยี่ยงอย่าง แต่มาจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือ สมัยโน้นเขาเชื่อว่าความดีความชั่วสืบกันทางสายเลือดได้ เหลือสายเลือดชั่ว ๆ ไว้ก็เท่านั้นแหละ เพราะฉะนั้น..ต้องกวาดให้หมด ประการที่สองก็คือ จะได้ไม่ต้องเหลือใครมาล้างแค้นให้เสียเวลา

เพราะแนวความคิดตรงจุดนี้ ถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นดิน ก็มักจะฆ่าข้าราชการเก่า ๆ ทิ้งหมด เพราะเกรงว่าจะจงรักภักดีต่อนายเก่า ก็เลยทำให้คนดีมีความสามารถหมดไป อยุธยาของเราช่วงหลัง ๆ จึงตกต่ำมาเรื่อย เพราะว่าสมัยอยุธยา ๔๑๗ ปี มีการเปลี่ยนราชวงศ์ใหญ่ ๆ หลายครั้ง สมัยพระเจ้าปราสาททอง สมัยพระเจ้าเสือ สมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ถึงเวลาก็ฆ่าทิ้งกันแหลกลาญ ยิ่งถ้ามีการชิงราชสมบัติกันด้วย ก็ต้องฆ่าคนของอีกฝ่ายให้หมด จะได้ไม่เหลือไว้เป็นเสี้ยนหนามของแผ่นดิน ปรากฏว่าคนดีก็ไม่เหลือไว้ช่วยงานแผ่นดินด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2015 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 18-06-2015, 13:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงโยมคนรู้จักที่อยู่เนปาลตอนนี้ว่า "หลวงวิจิตวาทการท่านบอกว่า เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์ คนจะยิ้ม ต้องดีใจ มีความสุข แบบนั้นใคร ๆ ก็ยิ้มได้ แต่คนที่ควรชมนิยมกัน ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา ฉะนั้น..บ้านแตกสาแหรกขาด โดนแผ่นดินไหวถล่มเสีย ๒ รอบ ถ้ายังยิ้มได้ก็ต้องยอมเขาละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2015 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 18-06-2015, 13:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องพระบรมสารีริกธาตุทองคำมีจริงไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าว่าตำราโบราณท่านใช้คำว่าสีทองอุไร ไม่ใช่ทองคำ ต้องบอกว่าสีเหมือนทอง คือที่จริง ๆ แล้วจะมีหรือไม่มี สำคัญที่ว่าเรานึกถึงพระได้หรือเปล่า ? ถ้าเรานึกถึงพระได้ ต่อให้ไม่ใช่ก็เท่ากับของจริง เพราะเราได้อนุสติ แต่ถ้าเราไม่นึกถึงเลย ต่อให้ของจริงก็เท่ากับของปลอม ฉะนั้น..เรื่องของพระบรมสารีริกธาตุนี่อย่าไปเอาเป็นเอาตายว่าจริงหรือไม่จริง สำคัญตรงที่ว่าระลึกถึงพระท่านได้ไหม ? เราทำความดีตามที่ท่านสอนได้ไหม ?

ถาม : มีบางคนสามารถอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุได้ ต้องทำอย่างไรถึงเชิญได้ ?
ตอบ : อาตมาทำไม่ได้ก็เลยไม่รู้ คงต้องไปถามคนเชิญ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2015 เมื่อ 20:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 18-06-2015, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หุ่นพยนต์ ?
ตอบ : หุ่นพยนต์เกิดจากอำนาจอภิญญาทำขึ้นมา หน้าตาเหมือนคนทุกอย่าง เพียงแต่ว่าถ้าถามไถ่จะไม่พูดไม่จา ทำงานอย่างเดียว สั่งให้ทำอะไรก็ทำแค่นั้น วันพฤหัสบดีขึ้น ๙ ค่ำเดือน ๙ ถ้าได้ปีวอกยิ่งดี เป็นฤกษ์เสกหุ่นพยนต์

เขากล่าวกันว่า เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ท่านก็ฝึกวิชาทำหุ่นพยนต์มา แต่ว่าเสกแล้วไม่เป็นตัว เสกให้กระดุกกระดิกได้ แต่ไม่สามารถจะเป็นตัวขึ้นมาใช้งานได้ เพราะว่าไม่มีฤกษ์วันพฤหัสบดี เดือน ๙ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีวอก จำไว้แม่น ๆ เลยนะ ถ้ามีเมื่อไรช่วยบอกที จะลองทำบ้าง ฤกษ์พวกนี้คาดว่า ๖๐ ปีจะมีครั้งหนึ่ง เป็นรอบใหญ่ ถ้ายอดฝีมือระดับเสด็จในกรมยังปลุกไม่ขึ้นเพราะขาดฤกษ์ ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว


ถาม : ถ้าเสกเสร็จแล้วให้คนอื่นไปใช้ได้ไหมคะ ?
ตอบ : เสกเสร็จแล้วใครจะเอาไปใช้ก็ได้ ถ้ารู้วิธีปลุก

ถาม : ไปเป็นโจรก็ได้ ?
ตอบ : เขาไม่ได้ห้ามอะไร ขอให้คนปลุกเขาขึ้นมาก็ใช้ได้แล้ว จะมีคาถาเสก คาถาปลุก คาถาเรียกกลับ คาถาควบคุม บทเดียวกันแต่สลับไปสลับมา คาถาควบคุมนี่เสกเป็นสายสิญจน์คล้องคอเอาไว้ ไม่ใช่ประเภทวิ่ง ๆ ไปแล้วต้นไม้เกี่ยวขาด คราวนี้ก็ตัวใครตัวมัน เพราะหุ่นไม่ทำตามใจเราแล้ว

ถาม : เขาดำรงอยู่ได้เพราะอะไร ?
ตอบ : ด้วยอำนาจของธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม มีการอธิษฐานจิตทับเอาไว้ พอถึงเวลาคุณไขกุญแจถูกก็ใช้ได้ เท่ากับเป็นการรวมธาตุ

ถาม : ที่บอกว่าทำตามใจเขาแปลว่าอะไร ในเมื่อเขาไม่มีใจ ?
ตอบ : ถึงเวลาเขาเองไม่อยู่ในการควบคุมของเรา ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเล่นอะไร

ถาม : เหมือนลมกลายเป็นพายุ ?
ตอบ : ลักษณะเหมือนกับหุ่นยนต์แล้วรีโมตเสีย ใครจะไปรู้ว่าหุ่นยนต์จะทำอะไรบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2015 เมื่อ 20:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 18-06-2015, 15:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ลุงเชิญ บุญรังษี ที่จันทบุรี อายุ ๙๐ กว่าปี เริ่มมีอาการหลง คือคุยกันเรื่องนี้ไปพักหนึ่งเดี๋ยวก็ถามใหม่ คุณตี๋ลูกชายก็เป็นห่วง ห่วงว่าถ้าอย่างนี้ตอนตายจะหลงไหม ? อาตมายืนยันว่าคนปฏิบัติธรรมถึงระดับนี้แล้ว ตอนตายไม่หลงหรอก เพราะว่าจิตมีสภาพจำ แต่ที่ลืมเพราะประสาทสมองเสื่อม ในเมื่อเขาปฏิบัติธรรมมาทั้งชีวิต ถึงเวลาจิตมีสภาพจำ ก็จะวิ่งไปหาสิ่งที่ตนเองเคยยึดเคยเกาะมาตั้งแต่ต้น ปีนี้ไปเห็นผู้เฒ่าแล้วก็ เออ..ถ้าเราอยู่ถึงขนาดนี้อาจจะแย่กว่าท่านเยอะ หลวงลุงสุนทรนี่อายุ ๘๘ แล้ว ไปบวชที่ท่าซุงตอน ๕๙ ปี"

ถาม : ความจำของจิต เราจะเลือกใช้ให้คงตัว โดยไม่ไปใช้ความจำตามสัญญาที่เสื่อมได้อย่างไร ต้องใช้สติใช่หรือไม่ ?
ตอบ : ต้องอาศัยระดับทรงฌานได้คล่องตัวเคย ถ้าทรงฌานไม่ได้ก็ต้องอาศัยกำลังความดีที่จิตคุ้นชิน ถึงเวลาจิตจะวิ่งกลับไปหา

ถาม : สภาพจิตที่ชินไม่ใช่ฌานหรือครับ ?
ตอบ : เป็นสิ่งที่เคยทำไว้ แม้ว่าจะไม่ต่อเนื่องก็ทำมามากกว่า หลวงลุงสุนทรกลับไปรักษาตัวที่บ้าน บอกว่า “แหม..สังหรณ์ใจว่าหลวงพี่จะมา” เจอจริง ๆ ด้วย เพราะว่าไม่ได้เจอมานานแล้ว ก่อนหน้านี้อาตมาเป็นรุ่นพี่ แต่ว่าท่านอายุมากกว่า เรียกหลวงลุงมาตลอด ท่านบวชทีหลัง ๒ พรรษา หลังท่านจิตโตรุ่นหนึ่ง ตอนนี้ท่านบอกว่าไม่เอาอะไรแล้ว รออยู่อย่างเดียวว่าไปเมื่อไรก็จบเลย

คนอายุ ๘๘ ปี ถ่ายรูปมาหลังค่อมแล้ว ไปนึกว่าถ้าอาตมาอยู่ถึง ๘๘ ก็อาจจะแย่กว่านั้นอีก คนแก่หลังค่อมนี่ไม่ใช่กระดูกเสื่อมอย่างเดียว ร่างกายไม่มีกำลัง พอไม่มีกำลังก็เลยทรงตัวให้ตั้งตรงไม่ได้ กระดูกเสื่อมนั้นเป็นเพียงส่วนเดียวเท่านั้น อย่างปู่มนัส ที่บอกว่ากระดูกเสื่อมด้านหลังก็เลยกลายเป็นหลังตรง อันนั้นจริง ๆ แล้ว ถ้ากำลังตัวเองไม่ดีก็ไม่ไหวเหมือนกัน

ปู่มนัสก่อนหน้านี้เป็นตำรวจอยู่ กินเหล้าหัวราน้ำเช้ายันเย็น อาตมาไปเป็นประธานการบูรณะวัดท่าขนุนยุคแรก ช่วงปี ๒๕๔๔ พอหลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “พระท่านมีความประสงค์จะให้เป่ายันต์เกราะเพชร” ก็เลยต้องจัดงาน จึงประกาศบอกกับญาติโยม พวกบรรดากรรมการวัดเขาจะรู้ก่อน พอรู้ว่ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้วกินเหล้าไม่ได้ ปกติปู่มนัสแกกินเช้ายันเย็น กินเหล้าถึงขนาดว่าต้องกู้เงินเขามากิน เพราะเงินเดือนไม่พอกิน

ผลปรากฏว่า ปู่มนัสบอกว่า “ถ้ายันต์เกราะเพชรดีจริงต้องทำให้ผมไม่อยากเหล้า ถ้าอย่างนั้นจะเข้ารับยันต์” โดนพรรคพวกเขาลากไปเข้าเป่ายันต์ ก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่พระท่านคงจะตั้งใจสงเคราะห์ เขาบอกว่าพอรับยันต์ไปแล้ว ตอนเย็นไม่หิวเหล้า ไม่อยากกินเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2015 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 18-06-2015, 18:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อคืนอยู่ ๆ ฝันว่าได้ไซบีเรียนฮัสกี้มาตัวหนึ่ง หน้าตาเหมือนเจ้าฟ้าตัวเก่าที่เคยเลี้ยงไว้ คือเจ้านั่นตาสีฟ้าสองข้างเลย กำลังดีอกดีใจอยู่ดันตื่นเสียก่อน เกิดเป็นหมาบ่อย ไม่ค่อยฝัน นาน ๆ จะฝันทีดันฝันว่าได้หมา ประหลาดดีเหมือนกัน

มีคนเคยฝันว่าได้หมาไปเลี้ยง หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า “อ๋อ..หมาคนจีนเรียกว่าเก้า ฉะนั้นให้เล่นเลข ๙” อาจารย์ยกทรงแกก็แหย่ต่ออีกว่าจะให้เลขอะไรต่อดี ท่านบอกว่าหมามี ๔ ขา ได้ ๔ อีกตัว มีหางอีก ๑ อาจารย์ยกทรงไปไม่เป็นเลย ชักเยอะขึ้นเรื่อย หลังจากนั้นขนอีกกี่เส้นแกนับไปเรื่อยแล้วกัน เดี๋ยวก็ตรงจนได้แหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-06-2015 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 18-06-2015, 18:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การปรับธาตุสี่ อย่างไรก็นับว่าเป็นการล่วงกรรมใช่หรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเราป่วยแปลว่ามีกรรม ถ้าว่าหนีกรรมเมื่อไรก็ฝืน พระในประเทศไทยเราที่ปรับธาตุได้มีเยอะ แต่ส่วนใหญ่พอทำไปถึงระดับนั้นแล้วก็ยอมรับกฎของกรรม ธรรมดาของร่างกาย..ทนเอา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-06-2015 เมื่อ 09:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 19-06-2015, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,963 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาไปเป็นพระวิปัสสนาจารย์ให้กับนิสิตมหาจุฬาฯ ก็ดี หรือของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ก็ตาม เขามักจะเรียกร้องมาเพราะว่า "พระอาจารย์เล็กคุมวิปัสสนากรรมฐานได้ดี" ความจริงแล้วไม่ใช่ ก็คือเราเคยเจออะไรมาที่ไม่ชอบใจแล้วเราไม่ทำแบบนั้นก็หมดเรื่อง เพราะคนอื่นเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน ลักษณะไหนที่เราชอบใจ เราก็ทำให้มากเข้าไว้ ก็จะถูกใจเขาไปเอง ลักษณะนี้ที่ภาษาบาลีท่านว่า สมานัตตตา ที่เรามักจะไปแปลว่า เสมอต้นเสมอปลาย แต่ไม่ใช่ สมาน+อัตตา เสมอด้วยตน คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราชอบอย่างไรก็ทำอย่างนั้นกับเขา เราไม่ชอบอย่างไรก็อย่าทำอย่างนั้นกับเขา ท่านถึงได้เรียกเป็น สังคหวัตถุ ก็คือสิ่งที่สงเคราะห์กันเพื่อความความสามัคคี สร้างความรักในหมู่คณะ ถ้าเสมอต้นเสมอปลาย แล้วชั่วเสมอต้นเสมอปลายก็บรรลัยนะสิ"

ถาม : พากันไปทำชั่ว อย่างชวนกันไปกินเหล้า ก็ได้ความสามัคคีในหมู่คณะ ?
ตอบ : ถ้าไปคิดว่าเสมอต้นเสมอปลาย ก็ต้องชวนเพื่อนกินเหล้าทุกวัน เรื่องของหลักธรรมเราต้องไม่ฝืนศีลธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2015 เมื่อ 14:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว