กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 19-07-2012, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมเขาถึงต้องดัดแปลงใหม่คะ ทำไมไม่สร้างใหม่เลย ?
ตอบ : เพราะศาสนสถานมหึมามโหฬาร ไม่ได้สร้างกันง่าย ๆ พอมีของเก่าอยู่ก็แค่เปลี่ยนนิดหน่อย ง่ายกว่าตั้งเยอะ ตอนที่ไปที่นั่น เขาชี้ให้ดูว่าหินทุกก้อนจะเจาะรูไว้ก้อนละ ๔ รู แล้วเขาก็ถามว่า "รู้ไหมครับว่ารูอะไร ?"อาตมาก็พยายามดูว่ารูเอาไว้ตั้งเทียนหรือเปล่า เขาบอกว่ารูที่เจาะนี่เขาจะเอาลิ่มไม้ตอก แล้วก็ผูกเชือกเอาช้างลากไป ไม่อย่างนั้นจะขนหินไปก่อสร้างไม่ได้

ถาม : เป็นความเชื่อเรื่องทำเล หรือสภาพบริเวณที่ตั้งด้วยหรือเปล่า ว่าแบบนี้เหมาะสำหรับสร้างศาสนสถาน ?
ตอบ : อาจจะมีส่วนด้วย เพราะในเรื่องของภูมิทัศน์ ภูมิสถาปัตย์ เรื่องของฮวงจุ้ย คนโบราณเขาเก่งกว่าเราเยอะ แต่การสร้างบ้านในปัจจุบันนี้เขาไม่เอาแล้ว เราสร้างบ้านไปตามใจตัวเอง

ถ้าสร้างบ้านแบบโบราณ เขาจะหันไปตามแนวเหนือใต้ แล้วหน้าต่างหันรับลมใต้ เพราะถ้าหันรับลมเหนือ เวลาหน้าหนาวลมหนาวก็เข้าบ้าน ส่วนที่หันเหนือใต้เพราะแสงแดดจะส่องข้างบ้านแทน ทางด้านแสงเข้าเวลาบ่ายก็จะทำเป็นครัว เพราะว่าพอแสงบ่ายส่องไปก็เท่ากับทำความสะอาดขจัดเชื้อโรคไปในตัว ทางด้านทิศใต้จะสร้างห้องน้ำไว้ พอถึงเวลาลมมาจากเหนือมาไปทางใต้กลิ่นจะได้ไม่ฟุ้งไปในบ้าน

กลายเป็นว่าคนรุ่นใหม่สร้างไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ดูว่าอะไรเป็นอะไร บางทีอาตมาสั่งช่างที่วัดให้ทำหน้าต่างครึ่งนี้เปิดออก ครึ่งนี้ปิดเข้า ช่างเขาก็งงว่าทำไม่ทำแบบเดียวกันให้หมด เขาไม่รู้ว่าอาตมาจะเอาไว้รับลม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2012 เมื่อ 12:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 19-07-2012, 15:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เรื่องของลานสาวกอดกับเรื่องมิดะนั้นมีอยู่จริง แต่อีก้อสมัยใหม่เขาอาย เขาก็เลยประท้วงบอกว่าไม่มี ทั้ง ๆ ที่มีหนังสือที่เขียนเรื่องนี้มานานแล้ว คุณจรัล มโนเพชร เอามาเป็นข้อมูล ขณะเดียวกันเขาก็เดินป่าเดินดงไปหาข้อมูลมาเองด้วย ขณะที่หนังสือไทยบอกว่ามั่ว แต่มีหนังสือฝรั่งตั้งหลายเล่มยืนยันได้ ส่วนฝรั่งเขาไปเก็บข้อมูลจากพม่า เขายืนยันว่าที่นั่นมีลานสาวกอด

ซึ่งตรงจุดนี้เป็นความทันสมัยของอีก้อเสียด้วยซ้ำไป แต่พอชาวอีก้อเขามาศึกษามากขึ้น ๆ แล้วเขาอายว่าเป็นประเพณีที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน เขาก็เลยพยายามปฏิเสธ คุณจรัล มโนเพชรตายไปแล้วแท้ ๆ แต่กลายเป็นจำเลยไป อีก้อเขาบอกว่าไม่มี ไปมั่วข้อมูลแต่งกันขึ้นมา เพลงมิดะนี้ห้ามเปิด เป็นต้น

คนอีก้อสมัยก่อนเขาไม่ถือสา ยิ่งผู้หญิงท้องค่าสินสอดยิ่งแพง เพราะเขาต้องการแรงงานในครอบครัว ผู้หญิงสาวนี่ค่าตัวไม่แพงนะ ประเภทเหล้าไหไก่ตัวอาจจะแต่งได้แล้ว แต่ถ้าผู้หญิงท้องคุณอาจจะต้องเสียหมูเพิ่มไปอีกตัว เขาเองมีลานสาวกอด เพื่อ ให้หนุ่มสาวไปเข้าไปมีเพศสัมพันธ์กัน ให้ศึกษากันไปก่อน เหมือนทดลองอยู่ก่อนแต่งทำนองนั้น แล้วเขาจะไม่มีการไปไล่ชี้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เพราะเขาถือว่าเป็นลูกที่เทวดาส่งมาเกิด

แต่ทางด้านชาวอีก้อ ชาวเย้า เขาจะกลัวอยู่อย่างหนึ่ง คือ ลูกแฝด ถ้าได้ลูกแฝดเขาจะฆ่าทิ้งทั้งคู่เลย เขาถือว่าคนหนึ่งลูกผี คนหนึ่งลูกคน จึงไม่รู้ว่าจะเก็บคนไหนไว้ดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2012 เมื่อ 17:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 19-07-2012, 15:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เป็นวัฒนธรรมที่ต้องบอกว่าดีมาก ๆ ตรงที่มิดะเป็นคนที่มีประสบการณ์มาคอยสอนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ให้รู้จักเรื่องพวกนี้ ทันสมัยกว่าพวกเราไม่รู้กี่ร้อยปี แต่คราวนี้เขารับไม่ได้ เพราะว่าพอศึกษาตามแบบวัฒนธรรมไทย เราไม่ยอมรับเรื่องแบบนี้ เขาก็อายขึ้นมา ท้ายสุดก็รับไม่ได้เลยปฏิเสธไป

ส่วนประเพณีแปลก ๆ เช่น ประเพณีล้วงสาวของกะเหรี่ยง พอถึงเวลาดึก หนุ่ม ๆ ก็จะดีดเตหน่า (พิณกะเหรี่ยง) เดินไปร้องเพลงไป บ้านไหนสาวยังไม่หลับ ก็ล้วงมือเข้าไป ถ้าหากว่าเขาตอบรับก็จะจับมือ แล้วก็ย่องไปคุยกัน แต่ว่าพ่อแม่เขาก็รู้ พอเห็นว่านานเกินไปพ่อจะกระแอมไล่เหมือนบอกว่า “กลับบ้านได้แล้วโว้ย” แต่เขาเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวมีความใกล้ชิดกัน ถ้าหากว่ารักชอบพอกันก็ไปสู่ขอแต่งงานกันต่อไป

กะเหรี่ยงที่ยังไม่แต่งงานจะใส่ชุดสีขาวซึ่งมีเส้นไหมพรมยาว ๆ อันนั้นห้ามขาดนะ คนที่จะเด็ดไหมพรมนั้นได้ก็คือเจ้าบ่าวในวันส่งตัวเท่านั้น ฉะนั้น..หนุ่มคนไหนอยากคุยกับสาวแล้วเขาไม่สนใจ เขาก็จะดึงไหมพรมเส้นนั้นแหละ ขู่ว่าจะตามมาหรือไม่มา อย่างไรก็ต้องตามไปคุยกับเขา ถ้าโดนดึงขาดก็ขายไม่ออกเลย เพราะถือว่าแต่งงานไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-07-2012 เมื่อ 18:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 19-07-2012, 15:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อเร็ว ๆ นี้เห็นในโทรทัศน์มีการรณรงค์ โดยขึ้นข้อมูลว่า วัยรุ่นไทยท้องโดยไม่พร้อมสูงสุดในเอเชีย ให้ป้องกันไม่ให้กลายเป็นสูงสุดในโลก ?
ตอบ : ประเทศของเราเลียนแบบวัฒนธรรมอเมริกาโดยที่พื้นฐานของเราไม่ใช่แบบอเมริกา อเมริกาเขาให้ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่กันก่อนแต่ง ในลักษณะว่าถ้าจริตนิสัยหรือรสนิยมไปกันได้ก็จะขอแต่งงานกัน บางทีอยู่กันจนมีลูกสองคนสามคนแล้วค่อยแต่งงาน แต่ของเขาพอเข้าวัยรุ่น คือเริ่ม ๑๓ ปี พ่อแม่จะให้ทำงานหาเงินเองแล้ว ไม่มีมาส่งเสียเลี้ยงดูแบบของเรา

เด็กเขารับผิดชอบชีวิตได้ตั้งแต่อายุน้อย ๆ แล้วแต่งกันได้ เขาจะต้องคิดว่าถ้าเพิ่มมาอีกคนเขาจะเลี้ยงดูได้ไหม ถึงขนาดที่ว่าสามีภรรยากินข้าวโต๊ะเดียวกัน แต่ต่างคนต่างจ่าย เราไม่มีธรรมเนียมตรงนี้ เราไปเลียนแบบการมีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่วัยรุ่น แต่ความรับผิดชอบของเราไม่มี เราไปเลือกวัฒนธรรมตรงที่เราชอบมาก็เลยเจ๊ง..! อย่างไอแพด ไอโฟน คนไทยเราซื้อเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นึกเอาแล้วกันว่าประชากรของเราแค่ไม่กี่คนเอง

สมัยอาตมาเรียนอยู่มัธยมปีที่ ๑ มีรุ่นพี่ที่เรียนอยู่มัธยมปีที่ ๓ เขาท้อง ต้องย้ายหนีจากนครปฐมไปอยู่โคราชเลย เพราะว่าสังคมสมัยนั้นเขาไม่ยอมรับ ตกเป็นขี้ปากโดนเขานินทา กลายเป็นเป้าสายตา เป็นเป้านินทาของทั้งหมู่บ้านทั้งตำบล ก็อยู่ไม่ได้ แต่ปัจจุบันสังคมที่คอยควบคุมในลักษณะอย่างนี้ไม่มีแล้ว

เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ก็มักจะไปเรียน โดยการขอพ่อแม่เช่าหออยู่ ก็เลยหาคนมาช่วยกันจ่ายค่าหอ..! ก็ไปกันใหญ่ สังคมเราเปลี่ยนไป การควบคุมโดยสังคมไม่มี ที่เขาเรียกว่าระบบล่มสลาย แล้วก็รับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาแบบไม่ลืมหูลืมตา ก็เหลือแต่จะทำอย่างไรให้เขาละอายชั่วกลัวบาป ตรงนี้ก็เป็นภาระของพระอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2012 เมื่อ 18:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 19-07-2012, 15:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การปฏิบัติทุกอย่างต้องใช้การจับลมหายใจหรือครับ ?
ตอบ : การปฏิบัติทุกอย่าง ถ้าไม่จับลมหายใจเข้าออกก็ทรงตัวยาก

ถาม : แล้วอย่างพวกเล่นของ ?
ตอบ : ต่อให้เล่นไสยศาสตร์ก็ต้องภาวนาเอาลมหายใจเป็นหลัก ถ้าไม่มีสมาธิก็ทำของไม่ขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2012 เมื่อ 18:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 20-07-2012, 13:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ธรรมใดที่ท่านเห็นแล้ว ขอให้ผมได้เห็นบ้างครับ
ตอบ : แน่ใจนะ..ถ้าจะเอาก็ให้..! อาตมาเองลำบากลำบน ต้องทุ่มเทความพยายามชนิด “ตายเป็นตาย” มาแลกกับการปฏิบัติ อยากได้แบบนี้ก็เอาไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2012 เมื่อ 13:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 20-07-2012, 13:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะออกหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์หรอก เกิดจากตอนหลวงตาวัชรชัยท่านย้ายจากวัดท่าซุงไปอยู่วัดเขาวง แล้วท่านออกหนังสือเสียงจากถ้ำ ท่านก็ชวนอาตมาเขียนให้ท่าน พอเขียนไปเขียนมาก็นึกว่า แล้วทำไมเราไม่ทำเสียเอง ? สรุปว่าพี่เขาออกหนังสือก่อนเป็นปี ตอนนี้เพิ่งจะได้ ๑๐ กว่าเล่ม ส่วนอาตมาออกทีหลัง ตอนนี้ไปเกือบร้อยเล่มแล้ว เพราะว่าออกทุกเดือน ท่านเองเขียนไม่ทันก็ปล่อย บางที ๒-๓ เดือนค่อยออกเล่มหนึ่ง

สมัยก่อนเวลาไปธุดงค์ก็บันทึกเป็นบันทึกประจำวันไว้ ถึงเวลาก็ตัดมาลง เรื่องพวกนี้ไม่ค่อยดีตรงที่ว่านาน ๆ ไปความลับส่วนตัวจะหายหมด คนรู้ว่าแอบทำอะไรมาบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2012 เมื่อ 15:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 20-07-2012, 13:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า นิลกาฬ ในนพรัตน์ จริง ๆ แล้วคือไพลิน เราอย่าไปคิดว่าเป็นนิล นิลที่เราเห็นทุกวันนี้คือนิลตะโกที่เขาท่องว่า "เพชรดี มณีแดง เขียวใสแสงมรกต.." นั้น สีหมอกเมฆนิลกาฬไม่ใช่นิลตะโก แต่เป็นไพลิน

คนเข้าใจผิดมาเยอะ คิดว่าทำไมเอานิลซึ่งเนื้ออ่อนมากเข้าไปปนอยู่ในนพรัตน์ โบราณเขาเรียกสีน้ำเงินว่านิล จึงต้องเป็นไพลิน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2012 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 20-07-2012, 14:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม มีจำนวนมากด้วยกันที่เป็นอัจฉริยะด้านใดด้านหนึ่ง มีอยู่คนหนึ่งคิดเลขเร็วกว่าเครื่องคิดเลขอีก แต่สมองด้านอื่นเขาไม่พัฒนา เขาพัฒนาด้านเดียว ส่วนอีกคนหนึ่งฟังภาษาอะไรรู้เรื่องหมด พูดได้ ๒๐๐ กว่าภาษา แต่เป็นดาวน์ซินโดรม สมองทำงานด้านเดียว ด้านอื่นไม่ทำ ถ้าหากสมองเขาใช้ครบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นคงประเภทสร้างโลกใหม่ได้เลย จึงต้องให้มาแค่นั้น"

ถาม : เขาพูดได้โดยไม่ต้องเรียนเลยหรือคะ ?
ตอบ : เหมือนกับมีสัญชาตญาณในการจับการออกเสียงและสื่อความหมายได้เร็วกว่า เขาก็เลยเรียนได้เร็วมาก พวกภาษาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเผ่าต่าง ๆ ในแอฟริกาเขายังพูดได้ พวกนี้มีแววว่าถ้าบรรลุมรรคผลจะได้เป็นนิรุกติปฏิสัมภิทา

ถาม : พวกปัญญาอ่อนนี่เขาเข้ามาทางธรรมได้หรือเปล่า ?
ตอบ : เรื่องของการทำบุญทำกุศล ไม่ว่าอยู่ในสภาพไหนก็ทำได้ อย่าลืมว่าเขาเกิดเป็นคนนะ ภูมิจิตภูมิธรรมสูงกว่าสัตว์เดียรัจฉานตั้งเยอะตั้งแยะ หมูหมากาไก่ยังทำบุญได้ อย่างโฆษกเทพบุตร มัณฑุกเทพบุตร เอราวัณเทพบุตร เขาทำบุญของเขาก็ขึ้นไปเป็นเทวดา เพราะฉะนั้น..คนเรามีโอกาสมากกว่าตั้งเยอะ อย่าให้เสียชาติเกิดก็ใช้ได้แล้ว เกิดมาแล้วกินทุนเก่าอย่างเดียว ไม่ยอมทำใหม่ก็แย่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2012 เมื่อ 14:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 20-07-2012, 15:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาของเข้าตัว แล้วจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าของขยายขนาดหรือเปล่า ? ถ้าไม่ขยายขนาดก็ปล่อยให้เข้าไปสิ พวกนี้เวลาเข้าไปในตัวเราแล้วจะขยายคืนเป็นของเดิม เราถึงจะเกิดอาการผิดปกติ

ถาม : ตอนงานเสาร์ห้าที่วัดท่าซุง เขาพุทธาภิเษก รู้สึกมีของดันมาที่ข้อมือแล้วปล่อยออกไป
ตอบ : สำนักใหญ่ส่วนใหญ่เขาอยากจะลองของกัน อย่างที่วัดท่าขนุนเมื่อเสาร์ห้าที่ผ่าน พอทำพิธี ผอ.จันทร์แรมก็แปลกใจว่า “เห็นที่อื่นเขาต้องไปสวดภาณยักษ์ พยายามใช้เสียงสวดดัง ๆ ข่มเข้าไว้ แล้วคนถึงจะดิ้นจะร้องกัน เห็นพระอาจารย์นั่งเงียบ ๆ เขาก็ดิ้นกันตึงตังโครมคราม” ผอ.ท่านไม่ทราบว่าพวกนี้โดนไสยศาสตร์มา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2012 เมื่อ 15:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 20-07-2012, 17:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไปฝึกมโนยิทธิที่ศูนย์พุทธศรัทธามาครับ เวลาขึ้นไปก็เห็นภาพพระ แต่ยังไม่ใสครับ พยายามทำไปเรื่อย ๆ ?
ตอบ : ใช้ได้แล้วจ้ะ ให้เอากำลังเกาะพระนิพพานให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แรก ๆ จะชัดหรือไม่ชัดก็ไม่เป็นไร ขอให้เรามั่นใจว่าอยู่ตรงนั้นได้ก่อน พอนานไป ๆ สภาพจิตที่เคยชินกับความหมดกิเลสของพระนิพพาน และการอยู่กับสมาธิ จะผ่องใสขึ้นเรื่อย ๆ ความชัดเจนก็จะมีมากขึ้น

ถาม : ผมเองเดิมเป็นคนชอบพวกหมอผี พวกคาถาอาคมต่าง ๆ แต่พยายามจะไม่นอกลู่นอกทาง ?
ตอบ : ใช้ได้..ไม่เป็นไร เพราะถ้าเราสังเกตดูพวกตัวบทคาถาจริง ๆ ก็เป็นหัวใจพระธรรมทั้งนั้น เพียงแต่อยู่ที่เราใช้ ถ้าเอาไปเบียดเบียนคนอื่นก็เป็นไสยดำ ถ้าไม่เอาไปเบียดเบียนคนอื่น แต่เอาไปช่วยเขา ก็มีประโยชน์เสียด้วยซ้ำไป ต่อให้เราเล่นไสยศาสตร์มาเต็ม ๆ เลยก็ตาม เพียงแต่เราเปลี่ยนวิธีใช้ ก็กลายเป็นพุทธศาสตร์ไปเท่านั้นเอง

อยู่ที่ความตระหนักรู้ของเรา ว่าเราทำไปแล้วเบียดเบียนคนอื่นหรือเปล่า ? ถ้าไม่ได้เบียดเบียนคนอื่น ช่วยเหลือเขาด้วย ก็เล่นไปเถอะ เป็นกีฬาสมาธิอย่างหนึ่ง ช่วยให้สมาธิของเราดีขึ้น


ถาม : บางทีก็ชอบกุมารทอง
ตอบ : อาตมาก็เคยเลี้ยงกุมารทอง แต่ซนมาก เขาเล่นกับหลานชาย ลากลงบันไดมา ๑๐ กว่าขั้น กองอยู่ตรงที่พักบันไดข้างล่างเลย เล่นกันรุนแรงขนาดนั้นแต่ไม่เป็นอะไร สนุกสนานเฮฮาของเขา แต่คนเป็นพ่อแม่จะหัวใจวายตาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2012 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 20-07-2012, 17:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ได้จ้ะ..แค่เราตั้งใจทำดีก็เป็นบุญแล้ว นี่เรายังลงมือปฏิบัติด้วย ในบาลีท่านบอกว่า การปฏิบัติแม้กระทำแค่เพียงช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ก็คือแวบเดียวเท่านั้น ยังมีบุญใหญ่ มีอานิสงส์เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เราบรรลุมรรคผลได้ภายหน้า เพราะฉะนั้น..ยิ่งทำมากระยะทางก็สั้นเข้า ถ้าทำน้อยระยะทางก็ยาวหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2012 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 21-07-2012, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ธูปเทียนที่เข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรสามารถเก็บไว้ใช้ได้ ถ้าเป็นธูปเทียนที่ใช้รับยันต์เกราะเพชรที่บ้าน จะเหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : ได้เหมือนกัน..เราตั้งใจรับด้วยความเคารพ บารมีพระท่านส่งไปถึงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..ธูปเทียนในพิธีจะอยู่ที่บ้านหรือที่วัดก็ใช้ได้เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 21-07-2012, 10:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หนังสือแต่ละเล่มกว่าจะเสร็จได้นั้นยากเย็นเข็ญใจ จัดวางรูปเล่มกว่าจะลงตัว บางทีไม่ได้นอนเป็นวันเป็นคืน ทำทั้งวันไม่พอ ต้องทำทั้งคืนต่ออีก แล้วโยมก็บอกว่าทำไมไม่ออกเยอะ ๆ ? แค่นี้ก็จะตายอยู่แล้ว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2012 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 21-07-2012, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขณะที่โยมกำลังกราบพระอยู่ พระอาจารย์ท่านชี้ให้ดู แล้วกล่าวว่า “คนนี้เป็นลูกศิษย์ของท่านท้าวมหาราช มาเกิดแล้วคิดจะกลับไปให้เหนือกว่าพรรคพวก บางทีพออาตมาบอก..พวกเราก็พอจะสังเกตดูจริยาบางอย่างได้ แต่ถ้าไม่บอก..พวกเราก็ดูไม่ออกหรอก”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2012 เมื่อ 18:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 21-07-2012, 12:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพี่เปี๊ยก พระที่มาคุมการก่อสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมหน้าวัด ท่านคุมการก่อสร้างยิ่งกว่าระบบทหารอีก กินเต็มที่ แต่เรื่องนอนไม่ต้องพูดถึง งานไม่เสร็จไม่ได้นอนหรอก

กินเต็มที่ก็คือเราจัดให้ ถ้าหากว่าไม่พอท่านจะซื้อเพิ่มเอง ท่านบอกบางที่จัดอาหารมานิดเดียว แล้วพระ ๒๐ รูป ต้องไปซื้อกินกันเอง ถือว่าท่านไปทำให้เขาด้วยใจจริง ๆ เลย ทำด้วยใจไม่พอยังต้องควักเงินเพิ่มอีก ท่านจะสร้างพระไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ ๑๐๘ องค์ทั่วประเทศ วัดเราเป็นองค์ที่ ๒๑ "


ถาม : แล้วบรรจุของไว้ที่ไหนครับ ?
ตอบ : พระเศียร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2012 เมื่อ 18:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 21-07-2012, 12:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงกรรมฐานตอนเย็น พอเสียงสมาทานพระกรรมฐานหลวงพ่อจบ แล้วขยับตัวนั่งท่าที่สบาย มารู้ตัวอีกทีก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลแล้ว ต่อเนื่องกันเลย ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกหายไป ทำไมเราขาดสติได้ขนาดนั้น ?
ตอบ : ต้องถามตัวเอง เพราะว่าสภาพจิตทรงเป็นฌาน แต่ว่าความหยาบมีมาก สติจึงตามไม่ทัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2012 เมื่อ 18:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 22-07-2012, 16:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อสักอาทิตย์ที่ผ่านมา พระที่วัดมีคำถามว่า มีคนอยากได้พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่น ๒ เนื้อสีแดงมากเป็นพิเศษ จึงเอาพระกริ่งพิชัยสงครามรุ่น ๑ พระองค์ที่ ๑๑ กับพระอีกองค์หนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นพระอะไร มาขอแลกพระปิดตาสีแดง ๑ องค์ ในศีลบอกว่าห้ามภิกษุแลกเปลี่ยนสิ่งของกับคฤหัสถ์ เพราะฉะนั้น..เขาจะโดนอาบัติหรือเปล่า ?

อาตมาก็เลยบอกว่า การแลกเปลี่ยนสิ่งของกับคฤหัสถ์นั้น จริง ๆ เขาหมายเอาเรื่องขาดทุนกำไร อย่างเช่น เอาผ้ามาแลกกัน ผ้าของคฤหัสถ์เขาดีกว่า ราคาสูงกว่า อย่างนี้เป็นต้น คราวนี้สำหรับงานนี้ ถ้าคุณโดนอาบัตินิสสัคคีย์ปาจิตตีย์ ห้ามสละให้คนอื่น ต้องสละให้เจ้าอาวาสเท่านั้น..!


คนแลกก็กล้าลงทุน พระกริ่งพิชัยสงครามรุ่น ๑ ยังไม่พอ ยังแถมพระองค์ที่ ๑๑ อีก กับพระอะไรอีกองค์หนึ่งจำไม่ได้ แต่ละอย่างในเว็บราคาเป็นหมื่น ๆ ทั้งนั้นเลย อาตมาก็ไม่ทราบว่าอะไรทำให้เขาชอบพระปิดตามากเป็นพิเศษโดยเฉพาะสีแดง ถึงได้ขอแลกกันดุเดือดขนาดนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2012 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 22-07-2012, 17:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านรุ่น ๑ ดัดแปลงมาจากพระปิดตานะมิ ของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค รุ่น ๒ ถอดแบบของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีมา ยังไม่รู้ว่ารุ่น ๓ จะลอกแบบใครดี ? รุ่น ๓ นี่จะดังที่สุด เพราะอาตมาจะเอายานัตถุ์หลวงพ่อมาผลิต"

ถาม : ถ้าอย่างนั้นก็เป็นพระผงสิครับ ?
ตอบ : เป็นพระผง แต่พระผงทางเมตตามหานิยมส่วนใหญ่ก็เป็นพระปิดตา คราวนี้พระปิดตารุ่น ๓ เราจะทำแบบไหนดี ?

ถาม : เอาแบบหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ไหมครับ ?
ตอบ : หลวงปู่แก้วหรือ ? เอาหลังแบบด้วยไหม ? อาตมามีหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ แต่เป็นเนื้อชินตะกั่ว ท่านออกรุ่นนี้สมัยอยู่วัดปากทะเล หรือไม่ก็เป็นพระปิดตาแบบวัดสะพานสูง แบบลอยองค์เลย ขอเวลาก่อน..มีโครงการว่าจะสร้าง แต่ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2012 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 22-07-2012, 17:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,691 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมนำแหวนจักรพรรดิวัดท่าซุงมาถวาย เพื่อบรรจุในองค์พระ พระอาจารย์เห็นก็ทราบทันทีว่าเป็นของวัดท่าซุง
"ของจำหน่ายกับมือก็เลยจำได้ สมัยนั้นอาตมาเป็นมือจำหน่ายวัตถุมงคล ปกติเป็นคนที่ไม่มีหน้าที่ในวัด นอกจากอยู่เวรอยู่ยาม ถึงเวลาหลวงพี่วิรัชจะมาตามไปช่วยจำหน่ายวัตถุมงคล เพราะอาตมาทำยอดสูงสุดได้ทุกครั้ง

เนื่องจากเป็นคนจำแม่น ก็เลยไม่กลัวโยมโกง โยมต้องการดูกี่แบบ อาตมาหยิบส่งให้หมดเลย ๓ - ๔ คนตรงข้างหน้า ส่งให้ไปเรื่อย พอถึงเวลาเขาถามราคาก็บอกเขาเสร็จสรรพ และไม่เคยพลาด"


ถาม : มีคนขโมยด้วยหรือครับ ?
ตอบ : มี...เขาไม่ได้ขโมยหรอก ขอดูแล้วก็เดินหนีไปซึ่ง ๆ หน้าเลย แล้วคนเบียดกันเป็นพัน ๆ ใครจะไปตาม ?

มีอยู่ครั้งหนึ่ง โยมผู้หญิงคนหนึ่งขอบูชาลูกแก้ว เขากลิ้งดูทีละเหลี่ยม "อันนี้กระทบกันมา บิ่น..ขอเปลี่ยน" อาตมาก็ให้ เขาก็กลิ้งดูต่อ อาตมาก็ใจเย็นนั่งมอง วันนั้นกรรมฐานดี ใจเย็นมาก มีปัญญาก็กลิ้งไปไม่ว่ากัน เขากลิ้งดูเหลี่ยมไปประมาณชั่วโมงเศษ ๆ แล้วสรุปว่าเอากองนี้แหละ คิดราคามาแล้วสี่หมื่นกว่าบาท..! คุ้มจริง ๆ..คนเดียวบูชาลูกแก้วไปสี่หมื่นกว่าบาท
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-07-2012 เมื่อ 11:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว