กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 13-01-2015, 15:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมว่า "ปีใหม่ขอให้แข็งแรงมาก ๆ นะจ๊ะโยม อาตมาเองไม่ค่อยแข็งแรง ตอนนี้ก็เลยต้องการพลัง สุขังไม่ค่อยอยากได้หรอก อายุ วัณโณ สุขัง พลัง อายุบอกชัด ๆ แล้วว่าเป็นอายุ วรรณะไม่ใช่ผิวพรรณ วรรณะในที่นี้คือชาติตระกูล สุขะ คือ ความสุข พละ คือ กำลัง

ถ้าไม่มีกำลังก็ไม่มีความสุข ทำอะไรไม่ได้หรอก ต้องมีกำลังด้วย มีความสุขด้วย ส่วนใหญ่เขาไปแปลวรรณะว่าผิวพรรณ ไม่ใช่หรอก ผิวพรรณช่วยให้ชีวิตดีขึ้นไม่ได้หรอก ยกเว้นว่าจะไปประกวดนางงามผิวเนียน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 13-01-2015, 15:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาบวชวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ พอวัน ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ก็ต้องลงฟังปาฏิโมกข์ ก็แปลว่าบวชแค่ ๗ วันก็ลงปาฏิโมกข์แล้ว ปรากฏว่าตอนนั้นหลวงตาวัชรชัยเป็นองค์แสดงพระปาฏิโมกข์ อาตมาเห็นการสวดที่ไม่ได้หายใจหายคอครึ่งชั่วโมงติดต่อกัน..เหนื่อยมาก เห็นแล้วปฏิญาณตนเลย ชีวิตนี้จะไม่สวดปาฏิโมกข์เด็ดขาด

อาตมาเป็นคนความจำดี ฟังอะไรไม่กี่เที่ยวก็จำได้หมด ทุกวันนี้เวลาลูกศิษย์สวดปาฏิโมกข์ติดขัด สามารถทักท้วงเขาได้ อย่างที่ทิดเฟิร์สเขาบอกว่า "หลวงพ่อท้วงไม่เห็นต้องเปิดตำราเลย" ก็จำได้..ต้องไปเปิดตำราทำไม ? แต่ให้สวดปาฏิโมกข์ ไม่เอา...เหนื่อย

รุ่นอาตมาท่องปาฏิโมกข์ภาษาไทย ๒ คน แข่งกับหลวงพี่สมาน หลวงพี่สมานเป็นรุ่นพี่อยู่ ๓ พรรษา ท่านบวชปี ๒๕๒๖ อาตมาบวชปี ๒๕๒๙ ท่องปาฏิโมกข์ภาษาไทยแข่งกัน ท่องนวโกวาททั้งเล่ม จะขึ้นด้วยอนุศาสตร์ ๘ นิสสัย ๔ อกรณียกิจ ๔ นิสสัยปัจจัยซึ่งเป็นเครื่องอาศัยของบรรพชิต มี ๔ อย่างคือ เที่ยวบิณฑบาต นุ่งห่มผ้าบังสุกุล อยู่โคนไม้ ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า อกรณียกิจ ๔ กิจที่ภิกษุทำไม่ได้ ๔ อย่าง ได้แก่เสพเมถุน ลักของเขา พูดอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน และฆ่ามนุษย์ให้ตาย ฯลฯ ท่องกันจนจำได้ทั้งเล่ม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 13-01-2015, 15:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูนั่งสมาธิวันละสามเวลา ....(ไม่ชัด)....?
ตอบ : เอาใจจดจ่ออยู่กับคาถา อย่างชนิดที่ตั้งใจว่า เราจะต้องรู้ทุกคำ ไม่ใช่สักแต่ว่าท่องให้คล่อง ๆ ปากไป ถ้าท่องให้คล่อง ๆ ปากไป สมาธิไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็เลยไม่นิ่ง หรือไม่ก็ใช้วิธีภาวนาโดยเอาตัวคาถาเป็นบทภาวนา เช่น ขึ้นต้นด้วย สัมปะจิตฉามิ พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะลายันติ..ฯลฯ ใช้เป็นคำภาวนาไปเลย

ถาม : ตามดูลมหายใจเข้าออกไปด้วย ?
ตอบ : จ้ะ...ต้องตามดูลมหายใจเข้าออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นสมาธิจะไม่ทรงตัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 13-01-2015, 15:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลา.....เอาไปแทงหวย จะเป็นอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ อย่าไปแทงพุงใครก็พอ

ถาม : ถ้าเอาเงินนั้นไปทำบุญจะได้บุญไหมคะ ?
ตอบ : ได้จ้ะ

ถาม : เงินที่ได้จากการพนันจะได้อานิสงส์เต็มไหมคะ ?
ตอบ : เงินจากส่วนนี้เป็นลาภจากการพนัน ถ้าจะเอาให้ได้อานิสงส์เต็มร้อยเหมือนน้ำพักน้ำแรงของเราก็ไม่ใช่ แต่ว่าได้บุญแน่จ้ะ ทำไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 13-01-2015, 15:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราสามารถไปเกิดเป็นมนุษย์ต่างดาวได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้จ้ะ..ถ้าอยากไปเกิดก็ตั้งใจทำบุญ แล้วก็อธิษฐานจะไปเกิดดาวไหนก็ตั้งใจไป เพียงแต่ว่าจะขาดทุนเสียกระมัง ? ทำความดีทั้งทีก็ไปสูง ๆ หน่อย ไปแค่ต่างดาวจะไปทำไม ?

ถาม : ไปได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไปได้จ้ะ ไปเกิดที่นั่นได้ เพียงแต่ว่าเป็นการเกิดที่อาตมาเห็นว่าขาดทุน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 13-01-2015, 16:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่หนูท้อง ต้องเอาเข็มกลัดติดชายเสื้อเอาไว้จริง ๆ หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เป็นเคล็ดลับจ้ะ ถ้าหากว่าทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะ แต่ใกล้คลอดต้องเอาออกนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะคลอดไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 13-01-2015, 16:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราฝันเห็นว่าคนที่รู้จักตาย ?
ตอบ : ก็ดูสิ ถ้าหากว่าเป็นญาติหรือใครที่เราสามารถพูดคุยบอกกล่าวได้ ก็เล่าให้เขาฟัง บอกให้ไปทำบุญเสียหน่อย ถ้าได้ทำบุญก็คงจะต่ออายุได้บ้างแหละจ้ะ ถ้าหากว่าไม่มีบุญต่อเลย ก็ไปไหนไม่รอดเหมือนกัน โดยเฉพาะในส่วนของการปล่อยชีวิตสัตว์ แจ้งเขาให้ทราบว่า เราฝันไม่ดีว่าคุณตาย เพราะฉะนั้น..ไปทำบุญเสียหน่อย

ถาม : คนที่ทำนายเขาบอกว่า ถ้าฝันว่าฟันหักแปลว่าญาติตาย ?
ตอบ : อันนี้แม่นเฉพาะบางคน จัดอยู่ในพวกกรรมนิมิต ก็คือความดีความชั่วที่ทำมาแสดงเหตุขึ้น พอถึงเวลาฝันว่าฟันหัก เราก็ระมัดระวังหน่อย สังเกตสักนิดหนึ่งว่าญาติผู้ใหญ่มีอันเป็นไปจริงหรือเปล่า ถ้าหากว่ามีก็จดจำเอาไว้ แต่ว่าไม่ต้องไปทุ่มเทใจเชื่อเสียทั้งหมด เพราะว่าอาจจะฝันเพราะคิดมาก เป็นความฟุ้งซ่านของเราก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 16:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 13-01-2015, 16:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่เราไปงานศพ เขาห้ามชมพวงหรีดว่าสวย ?
ตอบ : งานศพสมัยนี้ส่วนใหญ่อยู่ที่วัด..ก็ชมไปเถอะ ที่เขาห้ามชมเพราะอยู่ที่บ้าน ไปชมพวงหรีดว่าสวย กลัวว่าจะมีพวงหรีดมาอีก เพราะฉะนั้น..ถ้างานศพไม่ได้ตั้งที่บ้านก็ชมไปเถอะ ถ้าตั้งอยู่ที่วัดจะศพใครมาเพิ่มก็ปล่อยเขาไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 17:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 13-01-2015, 16:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปีที่ผ่านมา มีเครื่องบินตก ?
ตอบ : ปล่อยให้เขาหากันเองจ้ะ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย

ถาม : คนที่เครื่องบินตก เพราะสร้างกรรมร่วมกันมาหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่สร้างกรรมร่วมกันมาถึงได้อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ต้องบอกว่าชุดนี้ทำกรรมมาหนัก ตายแล้วจะเก็บศพยังเก็บยากเก็บเย็น ทะเลมีแต่คลื่นกับลม แรงจนกระทั่งงมศพก็ยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2015 เมื่อ 17:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 13-01-2015, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อนำวัตถุมงคลของหลวงปู่จ้อย วัดศรีอุทุมพร ออกให้บูชา พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงหลวงปู่จ้อยท่านเก่งทางมีดหมอนะ ถือว่าเป็นเกจิอาจารย์รุ่นล่าสุดที่ดังทางด้านมีดหมอ ถ้าหลวงปู่จ้อยไม่มรณภาพไปก่อน หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว ไม่ได้เกิดเรื่องมีดหมอหรอก ไปลงที่หลวงปู่จ้อยหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2015 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 13-01-2015, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่เขาบอกว่า มีวิญญาณมาเฝ้าศพ ต้องรอให้คนไปขุดก่อนแล้วจึงไปเกิดได้ ?
ตอบ : บางศพมีความห่วงความกังวลบางอย่างอยู่ ก็เท่ากับผูกพันอยู่ตรงนั้น ไปไหนไม่ได้ ถ้าเขาหมดห่วงหมดกังวล เขาก็ไปเกิดได้ เป็นต้น

เรื่องนี้ขออนุญาตยกตัวอย่างครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง คือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเล่นแร่แปรธาตุ เอาโลหะมาผสมกันแล้วทำเป็นทองได้ ท่านทำทองคำได้ประมาณ ๒๕ บาท และท่านมีลูกอมวิเศษอยู่ลูกหนึ่ง ที่อมแล้วสามารถย่นระยะทาง เดินน้ำ ดำดินได้ ท่านก็ฝังอยู่ด้วยกัน คราวนี้ใจไปผูกอยู่หน่อยเดียว

หลวงปู่ศุขท่านเป็นพระทรงอภิญญา ปกติท่านจะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่ท่านไปไม่ได้ ก็เลยมาหาหลวงพ่อวัดท่าซุง มาบอกว่าช่วยไปขุดเอาลูกอมกับทองคำขึ้นมาทำประโยชน์ให้กับพระศาสนาหน่อย ท่านจะได้ไปเป็นพรหมเสียที ไม่อย่างนั้นก็ติดอยู่แค่เทวดา หลวงพ่อบอกว่า "หลวงปู่ยังติดอยู่แค่นั้น แล้วผมจะเอามาทำไม ? เดี๋ยวผมก็ติดไปด้วย" หลวงปู่ศุขท่านเลยเฉา ขอให้ช่วยแล้วไม่ช่วย

พอรุ่งขึ้นมาใหม่ คราวนี้หลวงปู่ศุขไปพาหลวงปู่ปานมาด้วย ให้ช่วยพูดกับลูกศิษย์ท่านหน่อย หลวงปู่ปานมาถึงก็ “เฮ้ย..ช่วยหลวงปู่ศุขเขาหน่อยสิ” หลวงพ่อท่านก็เลยต้องรับปาก แล้วก็บอกว่า "ให้ผมช่วย แล้วถ้าผมไปติดอยู่ตรงนั้นแทนจะทำอย่างไร ?" หลวงปู่ปานก็บอกว่า “เอ็งก็ตั้งใจสิว่า รับมาแล้วตั้งใจถวายเป็นของสงฆ์ในพระพุทธศาสนาไปเลย ไม่ต้องไปยุ่งไปเกี่ยวก็จบแล้ว” หลวงพ่อบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ได้ ท่านจึงรับปากช่วย พอหลวงปู่ศุขจิตปลดจากตรงนั้น ว่าไม่มีของต้องห่วง ท่านก็ไปเป็นพรหม นี่เป็นตัวอย่างอย่างหนึ่งว่า ถ้าจิตมีกังวลอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะไปได้อย่างที่ตัวเองต้องการ

เพราะฉะนั้น..ที่ว่าทำไมบางศพต้องรอให้คนไปขุดก่อน แล้วถึงจะไปเกิดได้ ก็เพราะว่าเขายังมีบางอย่างที่ห่วงกังวลอยู่ คือห่วงตามประสามนุษย์ ถ้าตัดความเป็นมนุษย์ได้ก็ไปนานแล้ว


ถาม : เขารอเป็นพันปีค่ะ ?
ตอบ : ๑,๐๐๐ ปีของเราเทียบเวลาเป็นนิดเดียวของเขานะ ถ้าเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ ๑,๐๐๐ ปีของเราก็แค่ ๑๐ วันของเขา เวลาเดี๋ยวเดียวเท่านั้น

ถาม : แล้วคนที่มาขุดก็ต้องเกี่ยวเนื่องกันมา ?
ตอบ : ต้องมีกรรมบางอย่างเนื่องกันมา ถ้าไม่มีก็คงไม่ต้องถึงขนาดมาไล่ขุดศพให้เขาหรอก พูดถึงหลวงปู่ศุข อาตมาเพิ่งจะเจอกับท่านเมื่อวันเสกมีดหมอเพชราวุธนี่เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2015 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 13-01-2015, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราสวดคาถาให้นึกถึงอะไรบ้างคะ ?
ตอบ : นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก่อน หลังจากนั้นก็นึกถึงพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้มา แล้วจะภาวนาอย่างไรก็ว่าไปให้เต็มที่ หลังจากนั้นก็อุทิศส่วนกุศลถวายท่านด้วย

ถาม : ที่บอกว่าให้ยกใจขึ้นไปกราบข้างบน ?
ตอบ : ก็ลักษณะเดียวกันจ้ะ นึกว่าเราไปอยู่ที่ตรงนั้น แล้วก็ตั้งใจกราบลงไป

ถาม : บางทียกใจมาก ๆ ก็ปวดหัว ?
ตอบ : อาจจะเผลอใช้สายตาไปเพ่ง คลายสมาธิออกมาหน่อยหนึ่ง เมื่อหายปวดหัวแล้วก็ยกใจไปใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2015 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 13-01-2015, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันปลุกเสกมีดหมอเพชราวุธ อาตมาโดนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านปลุกขึ้นมาตอนเที่ยงคืน ปกติเมื่ออาตมาได้มีดหมอมาก็ต้องเสกทุกวัน อย่างเช่นวันพฤหัสบดีก็เน้นคาถาพระเจ้า ๕ พระองค์ วันศุกร์เน้นเรื่องลาภ วันเสาร์เน้นเรื่องการป้องกัน ฯลฯ ปรากฏวันนั้นเป็นคืนวันอังคาร ท่านปลุกขึ้นมาเที่ยงคืน จัดพิธีกรรม จัดสถานที่ แล้วพระท่านก็เสด็จมา

พระท่านกำหนดครูบาอาจารย์มา ๖ รูปด้วยกัน มี ๑. หลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ถ้าไม่รู้จักหลวงปู่รุ่งก็ให้รู้ว่า ท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เดิม วัดหนองโพ บวชก่อน ๑๑ พรรษา เรียนวิชาทำมีดหมอมาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเลก่อน ส่วนหลวงปู่เดิมบวชทีหลัง ก็เรียนวิชาจากครูบาอาจารย์ท่านเดียวกัน เพราะฉะนั้น..มีดหมอสายหลวงปู่เดิม วัดหนองโพ จริง ๆ ก็คือสายหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล ซึ่งถ้าหากว่าจำไม่ผิด หลวงปู่เทศ วัดสระทะเล เรียนไปจากหลวงปู่ขัน วัดเขาแก้ว แล้วที่ตลกที่สุดก็คือ ตอนหลังหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ต้องไปเรียนคืนมาจากหลวงปู่เดิม วัดหนองโพ วนเป็นงูกินหาง ก็เท่ากับว่าสองท่านนี้ก็เป็นสายของหลวงปู่ขัน วัดเขาแก้ว ๒. หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ

๓. หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า แล้วก็มา ๔. หลวงปู่เก็บ วัดสวนลำใย อาตมาได้ยินชื่อท่านครั้งแรกจริง ๆ หลวงปู่เก็บท่านยืนยันว่า วัดของท่านต้องใช้สระใอ ไม้ม้วน ปรากฏว่า ๒ ท่านนี้ก็เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน คือจากหลวงปู่ศุข ก็ถ่ายทอดวิชาต่อให้หลวงปู่เก็บ วัดสวนลำใย ๕. หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ๖. หลวงพ่อวัดท่าซุง นี่ก็เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน รู้สึกว่าท่านจะกำหนดลักษณะเป็นสาย ๆ มา ก็เท่ากับว่ามีดหมอรุ่นนี้รวมครูบาอาจารย์ถึง ๓ สายด้วยกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2015 เมื่อ 12:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 13-01-2015, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในจุดที่อาตมามึนมากก็คือ ครูบาอาจารย์ทั้ง ๖ ท่าน มีทั้งพระอรหันต์ มีทั้งพรหม มีทั้งเทวดาพระโพธิสัตว์ อาตมานั่งกุมขมับเลย ต้องบอกว่าของท่านประเภทครบถ้วนสมบูรณ์จริง ๆ จะเอาระดับพระอรหันต์ก็มีให้ ระดับพรหมก็มีให้ ระดับเทวดาก็มีให้ ทุกวันนี้มานึกภาพแล้วก็ขำ คนไม่เคยชินจะแยกออกไหมว่าแต่ละท่านเป็นอะไรกันบ้าง ? แล้วความสวยก็ค่อนข้างจะใกล้เคียงกันอยู่

แต่ละท่านก็มาแนะนำวิธีว่า ต้องวางกำลังใจอย่างไร ใช้คาถาบทไหนในการภาวนา แล้ววิธีใช้ตามสายครูบาอาจารย์เป็นอย่างไร บทนี้คาถาสับสนเกินไป ต้องปรับใหม่เรียงใหม่ให้ยุ่งไปหมด สรุปอย่างที่อาตมาลงไว้ในเว็บนั่นแหละ คราวนี้พอทำพิธีเสร็จ พระท่านก็สอนวิธีว่า ให้ทำกำลังใจลักษณะอย่างนี้ ก็คือกวาดกำลังใจไปยังวัตถุมงคลทั้งหมด ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำ เพราะว่ารออย่างเดียวว่าพระท่านจะสั่งทำอะไรบ้าง ส่วนใหญ่พอบารมีท่านคลุมลงมาครบ วัตถุมงคลสว่างครบถ้วนทุกชิ้นก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

อันนี้ท่านสอนให้กวาดกำลังใจลงไปยังวัตถุมงคล ก็ทำตามที่ท่านว่า ไม่ได้คิดอะไร พอเสร็จพิธีกราบลาพระเสร็จลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่ามีดหมอกระจัดกระจายหมดเลย ต้องมานั่งจัดใหม่เรียงใหม่ เพิ่งเข้าใจว่า อ๋อ...สมัยก่อนที่ครูบาอาจารย์บางท่านพุทธาภิเษกหรือปลุกเสกวัตถุมงคล แล้ววัตถุมงคลดิ้นได้ คือลักษณะอย่างนี้นี่เอง พอเวลาใช้กำลังใจกวาดไป วัตถุมงคลก็ดิ้นได้เลย แต่อาตมาไม่ได้เห็นตอนดิ้นหรอก เพราะตอนนั้นหลับหูหลับตาอยู่ไม่รับรู้ข้างนอก ก็คิดว่าเรากวาดกำลังใจไปตามปกติ ที่ไหนได้..มีดหมอหัวก่ายท้ายเกยเกลื่อนกลาดไปหมด ต้องมาจัดเรียงใหม่

เสียดายอาตมาเป็นคนโลว์เทค ไม่ใช่ไฮเทค ลืมไปว่ารู้อย่างนี้เราตั้งกล้องโทรศัพท์ถ่ายไว้ก็ดี มัวแต่รีบร้อนกลัวจะทำไม่ทันตามที่หลวงพ่อท่านสั่ง เสร็จพิธีลืมตาขึ้นมาเกือบ ๆ ตีหนึ่ง ๔๐ นาทีได้ แปลว่านานทีเดียว แล้วก็เลยนอนไม่หลับ เพราะทรงกำลังใจแน่นไปหน่อย ทำให้ตาค้าง มาง่วงเอาตอนกำลังจะทำงาน ไม่เป็นไร..เดี๋ยววันที่ ๒๔ นี้ท่านก็คงจะย้ำให้อีกทีหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2015 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 14-01-2015, 18:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องงาน ตอนนี้มีอยู่สองทางให้เลือกค่ะ ยังไม่แน่ใจว่าอันไหนจะมาก่อน ?
ตอบ : เอาเป็นว่าไปอธิษฐานกับพระว่า งานไหนที่เหมาะกับเราที่สุดให้มาก่อนก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2015 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 14-01-2015, 18:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (เด็กถาม) ทำอย่างไรถึงจะคุยกับสัตว์ได้ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าใจนิ่งได้ ต่อไปก็จะเข้าใจไปเอง เพราะฉะนั้น..ที่สำคัญเลยคือทำอย่างไรให้ใจของเรานิ่งและไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าใจนิ่งแล้วไม่ฟุ้งซ่าน คนกับสัตว์ก็ภาษาเดียวกัน คนเราคิดเป็นสัตว์ก็คิดเป็น พอถึงเวลากระแสความคิดตรงกันก็รู้เรื่องกัน เหมือนกับคุยกันได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2015 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 14-01-2015, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ของที่ได้มาในระหว่างบวช ของนี้ถือว่าเป็นของส่วนตัวหรือของสงฆ์ครับ ?
ตอบ : ถ้าใช้เงินส่วนตัวซื้อของเพื่อสงฆ์ (เพื่อใช้ในการบวช) ก็เป็นของสงฆ์ไปแล้ว

ถาม : ถ้าของที่ได้มาในระหว่างบวช นำไปจำหน่ายหลังจากสึกไปแล้ว ?
ตอบ : ภิกษุห้ามซื้อขายด้วยรูปิยะ แปลว่าเดี้ยงตั้งแต่ก่อนสึกแล้ว..!

ถาม : มีเพื่อนที่รู้จักกันเขาเป็นพระครู เขาทำแบบนี้ครับ ?
ตอบ : ช่วยบอกเขาว่าขอให้เจริญ ๆ เถอะ..! ชีวิตคงจะราบรื่นมากเลย ถ้าอย่างของอาตมานี่ทำได้ ซื้อทองเก็บไว้ แล้วก็เขียนไว้ชัด ๆ เลยว่า ‘ซื้อด้วยเงินมรดกส่วนตัว’ เป็นเงินที่แม่ให้ ถึงเวลาใครจะมาอมไม่ได้หรอก เพราะอาตมาเขียนแปะเอาไว้แล้ว ต้องอย่างนั้นจึงเป็นเงินของฆราวาสจริง ๆ

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านได้มรดกมาเยอะทีเดียว แค่ตอนท่านบวชยายก็ให้ทอง ๒๐ บาทแล้ว หลังจากนั้นก็ยังมีโยมหลายรายที่รักท่านมาก ถึงเวลาก็ทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ท่าน ยกให้เป็นส่วนตัว ไม่ได้ยกให้เป็นของสงฆ์ แล้วก็มีคนไปดำเนินการให้เกิดดอกเกิดผลขึ้นมา พอเขามารายงานหลวงพ่อก็ตกใจ “เฮ้ย..ข้ามีเงินเยอะขนาดนี้เลยหรือ ?” สรุปแล้วท่านก็เอาเงินไปสร้างวัด หลวงพ่อบอกว่า "ปกติมีแต่คนเป็นหนี้สงฆ์ แต่สำหรับข้า สงฆ์เป็นหนี้ข้า เพราะเอาเงินส่วนตัวไปใช้เพื่อสงฆ์เสียเยอะ"


ถาม : แสดงว่าต้นเป็นส่วนตัว กลางเป็นส่วนตัว ออกไปก็เป็นส่วนตัว ?
ตอบ : ถ้าต้นเป็นส่วนตัวแล้วไปแปลงเป็นสงฆ์ ก็เท่ากับว่าเจตนาของเราเพื่องานบุญนี้ ในเมื่อเจตนาเพื่องานบุญนั้น แสดงว่ากลายเป็นของสงฆ์ไปแล้ว ถึงเวลาเราจะไปคิดว่าเราใช้เงินส่วนตัวซื้อไม่ได้แล้ว เพราะว่าตัดช่วงไปแล้ว

มีของใช้บางอย่าง เช่นรองเท้าสมัยฆราวาสติดเท้าไป เพราะว่าไม่อยากได้คู่ใหม่ คู่เก่าใช้ถนัดแล้ว บวชไปก็ใช้คู่เก่า สึกก็เอากลับบ้านไปเถอะ เพราะยังเป็นของเราอยู่ แต่ถ้าไปซื้อรองเท้าใหม่มาเพื่อใช้ในตอนบวช นั่นเป็นเพื่อสงฆ์ไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2015 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 14-01-2015, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ได้ยินว่ามีดโต้น้อยขาดตลาด ทั่วประเทศไทยไม่มีเหลือ โดนกว้านเพื่อเอาไปเข้าพิธีวัดท่าขนุนกันหมด เขาคงแปลกใจว่าซื้ออะไรกันนักหนา ถ้าหมดก็ไปอรัญญิกต่อ กวาดให้หมด ถ้าอรัญญิกหมดก็ไปทองแสนขันต่อ ทองแสนขันเขามีพวกเหล็กน้ำพี้เหลืออยู่บ้าง จะน้ำพี้จริงน้ำพี้ปลอมอะไรก็เอาเถอะ เข้าพิธีแล้วก็ใช้ได้เหมือนกัน

แหล่งมีดอีกแหล่งหนึ่งก็ค่ายพระราม ๖ อาตมาไปดูมีดค่ายพระราม ๖ มาก่อนบ้านจ่าตุ่มอีก แต่ปรากฏว่ามีดค่ายพระราม ๖ เขาทำมีดเป็นมีด โลหะอาจจะดีหน่อย การออกแบบอาจจะสวยหน่อย แต่ว่าความเฉียบคมของลวดลายหรือเส้นสายไม่เหมือนของบ้านจ่าตุ่ม ของบ้านจ่าตุ่มที่มีดออกมาสวยมาก เพราะช่างส่วนใหญ่เป็นช่างที่ทำปืนเถื่อนมาก่อน

คราวนี้ทางด้านจ่าตุ่ม ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ไปกวาดล้างพวกทำปืนเถื่อน กวาดเท่าไรก็กวาดไม่หมด เพราะแถวนั้นมีบึงมีหนองที่ขวางทางเข้าออก เป็นพวกพงอ้อสูงท่วมหัว พอถึงเวลากว่าจะเข้าไปถึง เขารู้ตัวก่อนก็ขนเครื่องมือใส่เป้หนีไปแล้ว เพราะมีเครื่องมือแค่ไม่กี่ชิ้นนี่ มีพวกเลื่อยเหล็ก มีสว่าน มีตะไบอะไรแค่นั้นเอง เขาก็ไปผลิตกันต่อ จนกระทั่งท้ายสุดจ่าตุ่มใช้วิธีไปขอร้องเขาให้เลิกทำ เขาบอกว่าถ้าเลิกทำก็ไม่รู้จะกินอะไร จ่าตุ่มก็เลยต้องมาแนะนำการทำมีด ทำเครื่องมือเครื่องใช้การเกษตรด้วยเหล็กแทน

พวกนี้เวลาเขาทำปืนนี่ถอดแบบฝรั่งมาเลย ถ้าวางเทียบกันกระบอกต่อกระบอก ของไทยสวยกว่าด้วย เพียงแต่ที่ชัดที่สุดก็คือ ลำกล้องของไทยไม่มีเกลียว อาตมาเคยจับปืนเถื่อนสมัยเป็นทหารอยู่หลายกระบอก เจ้านายขอเอาไปใช้ ปรากฏว่าใช้ได้แค่ ๒-๓ อาทิตย์บ่นแล้ว “ไอ้ห่..สนิมขึ้นโว้ย” อ้าว..ก็ของไทยนี่ครับ แล้วลำกล้องก็ไม่มีเกลียว ท่านแก้ปัญหาโดยการเอาไปเปลี่ยนกับลำกล้องปืนฝรั่งในคลัง เข้ากันได้ทุกมิติเลย ประเภทที่เรียกว่ามิลลิเมตรต่อมิลลิเมตร ไม่มีพลาดเลย

กลายเป็นว่าพอพวกนี้ออกมาทำงานเกี่ยวกับมีดและเครื่องมือเครื่องใช้
ฝีมือจึงค่อนข้างประณีตมาก สู้ฝรั่งเขาได้สบาย ไม่ว่าจะสัน จะคม จะร่องมีด จะใบมีด จะออกมาคมชัดเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2015 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 14-01-2015, 20:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ใช้วิธีกลึงหรือว่าอะไรคะ ?
ตอบ : มีทั้งกลึง มีทั้งไส มีทั้งขุด มีทั้งถาก มีทั้งเจาะ เพราะฉะนั้น..เขาจึงทำได้ทุกอย่าง แค่เปลี่ยนจากโลหะทำปืนมาเป็นทำมีดแค่นั้นเอง ก็เท่ากับว่าสามารถแก้ไขปัญหาปืนเถื่อนที่บ้านอีเติ่งไปได้ เพราะว่าเอาช่างชุดนั้นมาหมด ปัจจุบันช่างชุดนี้ก็เกษียณเกือบหมดแล้ว ที่ตายไปก็หลายคน

สมัยก่อนที่ทำอยู่กับจ่าตุ่มก็จะมีช่างเปี๊ยก ช่างทิน ช่างเดือน ช่างชู ช่างหมี ฯลฯ ตอนนี้ช่างเปี๊ยกก็ไปแล้ว ช่างทินก็ไปแล้ว ช่างเดือนเกษียณตัวเอง ช่างหมีกำลังจะเกษียณตามไปด้วย พวกช่างแขก จ่ามังกร พวกนี้มาทีหลัง พอเห็นมีดจ่าตุ่มติดตลาด ต่างประเทศต้องการมาก ก็ทำตาม แต่คราวนี้ของช่างแขกขายแพงมาก ตั้งใจขายตลาดฝรั่ง

ส่วนใหญ่ฝีมือของช่างจะอยู่ตัวก็ตอนใกล้ ๆ จะเกษียณแล้วทั้งนั้น ตอนนี้บ้านจ่าตุ่มก็จะมี "อาร์ค" ลูกชายคนเล็กรับช่วงต่อ แต่ก็ยังทำมีดเป็นมีดอยู่เลย คือไม่สามารถที่จะผลิตออกมาเป็นงานศิลปะได้ ทางบ้านช่างเปี๊ยกก็มี "ช่างกบ" ช่างกบทำงานมีดหมอเพชราวุธคนเดียวไปเกือบ ๖๐ เล่ม คาดว่าต่อไปถ้าเป็นทรงเปอร์เซียนนี่ช่างกบคงเอาอยู่เลย

ส่วนใหญ่พวกช่างเขาจะเป็นประเภทศิลปิน สมัยก่อนบางทีอาตมาไปรอมีดเล่มหนึ่ง ๒-๓ ปีกว่าจะได้ อย่างเล่มของทิดเก้าที่แกะเป็นเศียรพญานาค เล่มนั้น ๒ ปีกว่าเกือบ ๓ ปี พอถึงเวลาไปก็เห็นช่างเขาว่าง ๆ ยืนรดน้ำต้นไม้ ลากสายไปลากสายมา รดอยู่นั่นแหละ ถามป้าสุว่า "เมื่อไรเขาจะทำงานสักที ?" ป้าสุบอกว่า "มันไม่มีอารมณ์ มันกำลังสร้างอารมณ์อยู่" ปรากฏว่าพอสัก ๓-๔ โมงเย็นก็มีอารมณ์ทำขึ้นมา คว้าตะไบคว้าเหล็กมาเข้าเครื่องหนีบได้ คราวนี้ก็ใส่ไปเถอะ ๒-๓ ทุ่ม บางทีมืดจนมองไม่เห็นแล้ว ก็ยังทำไปเรื่อยนั่นแหละ เกิดอารมณ์ทำแล้วหยุดไม่ได้ ถ้าหยุดเดี๋ยวหมดอารมณ์ที่จะทำอีก

เสียดายงานฝีมือรุ่นเก่า ๆ ไม่ว่าจะเรื่องของวัสดุ เรื่องของฝีมืองาน เขาพยายามคัดเลือกที่ประณีตมากที่สุด ช่างเดือนเกษียณตอนทำพระขรรค์โสฬส ทำพระขรรค์อย่างเดียวจนหมดอารมณ์ไปเลย พวกนี้เขาเป็นศิลปินที่ไม่อยากทำงานซ้ำ ต้องปล่อยเขาทำตามอารมณ์ ให้เขาออกแบบไปเรื่อย ๆ จะไม่ซ้ำของเดิม นี่ต้องมาทำของเหมือน ๆ กันทีหนึ่งหลาย ๆ สิบเล่ม จึงหมดอารมณ์ไปเลย

งวดนี้ช่างหมีเจอมีดหมอเพชราวุธ ขอเลิกเหมือนกัน บอกว่าทำแล้วเครียด แต่ละเล่มแกจึงพยายามใส่โน่นใส่นี่ ให้ต่างกันนิด ๆ หน่อย ๆ จะได้ไม่เครียด ถ้าของช่างกบที่บ้านช่างเปี๊ยกนั่น
จะทำออกมาแบบเดียวกันหมด แต่ของช่างหมีนี่ บางทีวัสดุคั่นคอมีดบ้าง อะไรบ้างจะเปลี่ยนไปเรื่อย เพื่อจะได้ไม่รู้สึกว่าทำงานซ้ำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2015 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 14-01-2015, 20:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,376 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมายืนยันกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว บอกว่าเรื่องของชื่อ ถ้ายังไม่เปลี่ยนความประพฤติ เปลี่ยนชื่อไปก็เท่านั้นแหละ สำคัญตรงความประพฤติ ถ้าความประพฤติเปลี่ยนได้ ชื่อไม่ต้องเปลี่ยนก็ประสบความสำเร็จเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2015 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:47



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว