กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 18-11-2011, 15:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อประมาณ ๑๐ ปีก่อน มีเด็กจมน้ำตายหลังวัด อายุประมาณ ๑๒-๑๓ ขวบเอง ที่จมน้ำตายเพราะพ่อไปช่วย น้ำตอนนั้นแรงมาก บริษัทท่องเที่ยวก็ดันปล่อยให้เขาล่องเรือแคนูกัน คราวนี้พอกระแสน้ำแรงเอาไม่อยู่ ก็พุ่งชนเสาสะพานหลังวัด เรือแคนูพลิกคว่ำ เด็กพลาดตกจากเรือ พ่อเอื้อมมือคว้า ดันไปจับถูกเสื้อชูชีพแล้วดึงหลุดมาทั้งตัว ถ้าเสื้อชูชีพไม่หลุดเด็กจะไม่เป็นอะไร

คนเราจะถึงที่อย่างไรก็ตาย อาตมาพาพระพาเณรไปช่วยกันงมเป็นวันเป็นคืน ก็หาไม่เจอ เพราะผีไม่ยอมให้ เลยไปยืมปืนชาตรีส่งให้ "น้าวัฒน์" ไป บอกให้หันไปห่าง ๆ ตรงนั้นหน่อย เดี๋ยวศพเป็นรูแล้วจะซวย พอซัดตูมลงไปผีเผ่นกระเจิง ทีนี้งมได้ ไม่อย่างนั้นงมเท่าไรก็หาศพไม่เจอ อยู่ตรงนั้นแหละ พระเณรลุยผ่านกี่รอบ ๆ ก็หาไม่เจอ เพราะผีบังเอาไว้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-11-2011 เมื่อ 17:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 18-11-2011, 15:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กุมารทอง ?
ตอบ : กุมารทองมีเป็นปกติ จริง ๆ แล้วถ้าเป็นวิชาที่เขาอาราธนาบารมีพระสงเคราะห์ กุมารทองก็จะเป็นเทวดา แต่ถ้าหากเป็นวิชาทางไสยศาสตร์ก็จะได้กุมารทองที่เป็นผีไปเลย ถ้าเป็นกุมารทองที่เป็นเทวดา เวลาสนุกเขาจะมาชวนเด็ก ๆ เล่นด้วยกัน แต่อย่างหลังที่เป็นผีนี่จะกวน ไม่ได้อย่างใจก็จะอาละวาดอีกต่างหาก

กุมารทองรายล่าสุดที่ทำแล้วได้ผลคือ กุมารทองของหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม แต่ท่านยืนยันว่าท่านเสกจนเป็นเทวดาหมดแล้ว ก็แสดงว่าท่านขอบารมีพระให้เทวดาท่านสงเคราะห์

ถาม : ถือว่าเป็นวัตถุมงคลหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถือว่าเป็นวัตถุมงคลนั่นแหละ แต่จัดอยู่ในประเภทเครื่องราง

ถาม :เทวดาที่มาประจำต้องดูแลในลักษณะไหนครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็คือเรื่องของลาภผล สงเคราะห์ในเรื่องของการทำมาหากิน ลาภผลเงินทอง แสดงว่าอย่างน้อย ๆ บารมีเก่าของท่านต้องมาในด้านทานบารมี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2011 เมื่อ 16:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 19-11-2011, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนเกิดสึนามิที่ญี่ปุ่น คุณยายอายุ ๘๐ กว่าปีกับหลานชายอายุ ๑๗ ติดอยู่ในบ้าน ภายในบ้านนั้นมีอาหารอยู่ในครัว พอ ๕ วันให้หลังหน่วยกู้ภัยไปเอายายและหลานออกมาได้ คุณยายอายุ ๘๐ กว่ายังเดินได้ แต่หลานอายุ ๑๗ ปี หน่วยกู้ภัยต้องหามออกมา..!

สภาพจิตใจของหลานชายที่โดนภัยพิบัติรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ส่วนคุณยายเคยผ่านสงครามโลกครั้งที่ ๒ มาแล้ว แกรู้ว่าเรื่องร้ายแบบนี้เดี๋ยวก็ผ่านไป เพราะฉะนั้น..คุณยายอายุ ๘๐ กว่าปีกำลังใจยังดีอยู่ ถึงเวลาเดินออกมาได้เพราะไม่ได้ขาดอาหาร แต่หลานต้องให้หน่วยกู้ภัยหามออกมา

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน เรื่องของกำลังใจเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ดูตัวอย่างคนงานที่ติดอยู่ในเหมืองใต้ดินที่ชิลี แต่ละคนหาเกมมาเล่น กินอาหารกันวันละ ๒ ช้อนเท่านั้น แต่เขามีความหวังว่าอย่างไรก็ต้องออกไปได้ ท้ายสุดเขาก็เจาะช่องเอาแคปซูลหย่อนลงไปรับออกมาได้ ถ้าหากว่าใจไม่สิ้นหวัง มโนสัญเจตนาหารมั่นคง โอกาสที่จะรอดก็มีสูงกว่าคนอื่นเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2011 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 20-11-2011, 06:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องศีลข้อกาเมฯ ครับ ถ้าสามีข่มขืนภรรยาจะผิดไหมครับ?
ตอบ : ถึงขนาดข่มขืนเลยหรือ..?!? ถ้าเป็นสามีภรรยากันก็ไม่ถือว่าผิด แต่เป็นการทำร้ายจิตใจกันจนเกินไป

ถาม : แล้วถ้าตอนนั้นเขาถือศีล ๘ อยู่ ?
ตอบ : ถ้าลักษณะนั้นความซวยจะมาเยือน ไม่ได้ผิดศีลข้อกาเมฯ แต่เป็นการละเมิดผู้ที่กำลังประพฤติพรหมจรรย์ จะเจอลักษณะเดียวกับนกแสกที่บินผ่านพระมหาโมคคัลลานะที่กำลังเข้าสมาบัติอยู่ นกแสกแหกปากร้องขู่ จนป่านนี้ยังอยู่ในนรกเลย..! ไม่รู้จะหวงที่อะไรขนาดนั้น พระเข้านิโรธสมาบัติไม่ได้ไปยุ่งอะไรด้วยสักหน่อย

ถาม : เป็นเรื่องในชาติที่แล้วครับ
ตอบ : เรื่องอดีตชาติอย่าเอามาปะปนกับปัจจุบัน ต่อให้คุณรู้จริงแค่ไหนก็ต้องมีสติว่านี่คือปัจจุบัน เรื่องที่เป็นอดีตผ่านไปแล้วไม่ต้องไปใส่ใจ อันไหนที่เป็นสิ่งที่ทดแทนกันได้ก็ทำให้เขาไป ถ้าทำทดแทนกันไม่ได้ เขาไม่อโหสิกรรม ไม่เลิกจองเวร ก็ปล่อยให้เขาจองไป เราอย่าไปจองด้วยก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2011 เมื่อ 10:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 20-11-2011, 06:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่ญาติโยมพอน้ำท่วมก็เครียด ไม่มีอารมณ์ที่จะปฏิบัติกรรมฐาน พอเรายิ่งเครียดกำลังใจยิ่งตกง่าย ก็แปลว่าพอกำลังใจตก คราวนี้จะตีคืนได้ยาก

สำหรับนักปฏิบัติแล้ว ในส่วนที่ถือว่าน่ากลัวก็คือการที่กำลังใจตก กำลังใจตกสำคัญที่สุดก็เพราะเหตุที่สมาธิตก เพราะฉะนั้น..สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องประคองสมาธิให้นานที่สุด ถ้าไม่ได้คล่องตัวถึงขนาดจะเข้าฌานเมื่อไรก็ได้ โอกาสที่จะกำลังใจตกมีสูงมากเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์

แต่บางทีคนเราพอฟังครูบาอาจารย์พูดเข้า ก็ได้แต่ฟังอย่างเดียว เหมือนกับผ่านหูไปเฉย ๆ เพราะกำลังใจของเราไม่ได้อยู่ตรงจุดนั้น เมื่อผ่านหูไปเฉย ๆ ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ ถึงเวลาก็ทำให้กำลังใจตกอีก จนกว่าจะตกแล้วตกเล่า ตกจนเข็ด คราวนี้ก็เริ่มจะคิดหาช่องทางว่าจะทำอย่างไรถึงจะรักษากำลังใจไม่ให้ตก

หลังจากนั้น ถึงจะหาวิธีประคับประคองอย่างไรจึงจะรักษากำลังใจเอาไว้ได้ แรก ๆ ก็ได้เดี๋ยวเดียวแล้วก็ตกอีก แต่พอหมั่นทำบ่อย ๆ เกิดความคล่องตัวมากขึ้น ก็จะตกช้าลงไปเรื่อย ๆ ระยะเวลาก็ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนท้ายสุดก็อยู่ได้เป็นเดือนเป็นปี แต่พอเผลอก็ตกอีก ถ้าหากว่าถึงเวลาอยู่ได้เป็นเดือนเป็นปีแสดงว่าตกมาจนเข็ดแล้ว รู้วิธีรักษาอารมณ์แล้ว แต่ถ้าไปเผลอขาดสติเข้าก็ทำให้กำลังใจตกลงได้อีก ดังนั้น จงอย่าเชื่อว่าตัวเองดีแล้วเป็นอันขาด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-11-2011 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 21-11-2011, 15:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนเมืองไทยมีจระเข้มากเป็นปกติ ช่วงประมาณรัชกาลที่ ๗-๘ ทางการปล่อยให้คนญวนมาล่าจระเข้ พอสมัยต้นรัชกาลที่ ๙ คนญวนก็ยังล่าจระเข้อยู่ อย่างจระเข้ที่บึงบอระเพ็ด โดนคนญวนกวาดจนเกลี้ยงเลย

เขาบอกว่าคนญวนไม่กลัวจระเข้ ถ้าพายเรือไปเห็นจระเข้มาก็พุ่งเข้าล็อกเลย จระเข้เป็นสัตว์ที่ถอดใจง่ายที่สุด สัตว์ทุกชนิดพอเจอสัตว์อื่นที่แข็งแรงกว่ามักจะยอมแพ้ อย่างที่เราเห็นว่าตัวเงินตัวทอง ๒ ตัวกอดกันอยู่ จริง ๆ นั่นเขากำลังสู้กัน ผลักกันไปผลักกันมา ถ้าตัวไหนแข็งแรงกว่า อีกตัวจะยอมแพ้แล้วหนีไปให้พ้นเขต ไม่ใช่กอดกันเพราะดีใจได้เจอเพื่อน



ถ้าคนญวนจับจระเข้ เขาจะกระโดดไปเกาะหลัง เสร็จแล้วเอาเท้ารัดช่วงขาหลัง เอาแขนรัดขาหน้า แล้วกลั้นหายใจ จระเข้ก็พลิกซ้ายพลิกขวาไปเรื่อย พอพลิกไป ๗-๘ รอบ เห็นว่าสะบัดไม่หลุด ก็จะยอมแพ้ ลอยนิ่ง ๆ ให้จับ แล้วเวลาจระเข้งับปากลง แรงงับจะมาก แต่จะไม่มีแรงอ้าปากขึ้น เพราะฉะนั้น..แค่เอาเทปมาพันปากไว้ก็ได้แล้ว จระเข้จะอ้าปากไม่ขึ้น เพราะมีแต่กำลังตอนงับลง แต่ไม่มีกำลังตอนอ้าปากขึ้น

ถ้าในน้ำลึกเราไม่ต้องกลัวจระเข้ แต่ถ้าครึ่งบกครึ่งน้ำจะน่ากลัวมาก เพราะจระเข้จะพลิกตัวกลับตัวได้เร็วมาก แต่ถ้าอยู่ในน้ำลึกจระเข้จะกลับตัวไม่ทัน เพราะไม่มีที่ให้เท้าหยั่ง จะต้องใช้หางว่ายแล้วตะแคงตัวเพื่ออ้าปากกัดเรา แบบนี้ไม่ทันกิน คนญวนรู้ก็เลยไม่กลัว พอล็อกจระเข้ได้ เห็นว่าสลัดไม่หลุดจระเข้ก็ยอมแพ้ โดนคนญวนถลกหนังไปขายหมด"

รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 2609608.jpg (61.6 KB, 1067 views)
ชนิดของไฟล์: jpg 167898.jpg (55.0 KB, 1065 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2011 เมื่อ 16:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 21-11-2011, 15:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ "เจ้าไมค์" อยู่ที่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ แต่ถ้าเจ้าพ่อแห่งทุ่งพลายงามที่ปราณบุรียังอยู่ น่าจะเป็นจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นจระเข้ที่อยู่มานานจนโคตรฉลาดเลย เวลาเขาเดินอยู่กลางป่าที่เป็นทุ่ง ลักษณะโหย่ง ๆ เหมือนรถจี๊ปกำลังเคลื่อนที่ แต่พอเราไล่ตามไป พรวดเดียวเขาก็ลงน้ำก็หายจ้อยไปแล้ว ชาวบ้านเรียกว่า "ไอ้จ้าว" หรือไม่ก็ "เจ้าพ่อ" (เจ้าพ่อแห่งทุ่งพลายงาม) ตัวใหญ่ขนาดที่คนยืนคนละฟากของรอย ส่งปืนยาวให้กันยังเอื้อมไม่ถึง ข่าวนี้หลายสิบปีแล้ว ระยะหลังคนมากขึ้น เขาก็ไม่โผล่มาให้เห็นอีก แต่ยังไม่ได้ข่าวว่าตาย

ส่วนจระเข้ยักษ์ที่กำแพงเพชรนั่น ครูน้อย อินทนนท์ยิงตาย โดนยิงด้วยไรเฟิลแฝด อัดเข้าไปสองนัด เพราะลากวัวควายชาวบ้านไปกินหลายตัว

ครูน้อย อินทนนท์ มีดวงในการล่าสัตว์มาก ครูน้อยยิงควายป่าได้ทั้งที่อยู่ห่างจากบ้านไปนิดเดียว พรานนำทางยืนยันว่าเป็นควายป่า ครูน้อยยังลังเลว่าเป็นควายชาวบ้านหรือเปล่า เพราะว่าเดินพ้นหมู่บ้านไปนิดเดียวก็เจอแล้ว แล้วก็ซัดตูมเข้าให้ หงายผลึ่งตายสนิท ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลย

จระเข้ตัวนั้นก็เหมือนกัน คนอื่นไปซุ่มยิงก็เหมือนกับมีผีสิงมาบอกจระเข้ให้หลบได้ทุกที ครูน้อยไปนั่งซุ่มอยู่พักเดียวก็เสือกหัวพรวดขึ้นมานอนอาบแดด โดนเข้าไปสองนัดพลิกหงายท้อง ต้องบอกว่าคนมีดวงในการล่า ก็คงจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาก่อน แต่จระเข้ตัวนั้นใหญ่ขนาดเรือจ้าง เป็นพวกเราต่อให้อยู่ไกล ๆ ก็น่าจะมือสั่นเหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 22-11-2011 เมื่อ 05:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 21-11-2011, 16:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เคยได้ยินเสียงจระเข้ร้องไหม ? คล้าย ๆ กับเสียงวัว เวลาเราเข้าป่า เสียงสัตว์บางชนิดถ้าเราไม่เคยได้ยินก็จะคิดว่าเป็นผี เช่น เสียงบ่างเวลาร้องอย่างกับเสียงผู้หญิงโหยหวนกลางป่า อย่างแมลงบางประเภทเสียงดังประหลาด อยู่ ๆ ก็แซ่สนั่นมารอบข้าง เราไม่เห็นตัวก็นึกว่าผี

คนเดินป่าต้องมีใจคอที่เข้มแข็ง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยึด จะได้ไม่กลัวอะไรง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นอาถรรพ์ป่าจะครอบเอาได้ง่าย ถ้าอาถรรพ์ป่าครอบได้จะทำให้ขาดสติ บางทีก็จะหลงป่าจนตายได้ จึงต้องใจคอเข้มแข็ง มีความมั่นใจ

บางรายก็มีคาถาดี มีอาวุธดี บางรายก็พกมีดหมอครูบาอาจารย์เข้าไป ตอนนี้แม่ชีกุ๋ยมีพระขรรค์โสฬสเป็นที่พึ่ง ความที่คิดว่าวัตรปฏิบัติของตัวเองดีกว่าคนอื่น ทำให้ผีชอบมาลอง ต่อให้ไม่ได้คิดจะอวดใคร แต่พอเห็นว่าเราทำได้ดี ภูมิใจตัวเอง ผีเขาก็เอาแล้ว อยากดูว่าจะเก่งสักแค่ไหนเชียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2011 เมื่อ 16:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 21-11-2011, 17:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าพระสงฆ์มี ๔ รูปในวัด จะรับกฐินได้ไหมครับ ? ถ้าไปนิมนต์พระอื่นมาเพิ่ม จะมีผลกฐินครบถ้วนไหมครับ ?
ตอบ : ได้..อานิสงส์ครบถ้วนทุกอย่าง พระพุทธเจ้าอนุญาตว่าให้นิมนต์สงฆ์มาเป็นคณปูรกะ ก็คือให้เต็มคณะสงฆ์ได้ แต่ระบุไว้ชัดเลยว่าพระที่นิมนต์มาจะไม่มีส่วนในกองกฐิน ก็แปลว่ามาด้วยใจจริง ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วยเลย

ถ้าเป็นอาตมาจะควักกระเป๋าเอาเงินส่วนตัวช่วยค่ารถท่านไป เพราะท่านอุตส่าห์มาช่วยทั้งที ภาษาบาลีใช้คำว่าคณปูรกะ คือมาให้เต็มคณะสงฆ์คือมา ๔ รูป รวมเจ้าของวัดแล้วเป็น ๕ รูปก็รับกฐินได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2011 เมื่อ 18:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 21-11-2011, 17:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงการแจกของแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า "ความช่วยเหลือไปถึงเร็วเท่าไรก็บรรเทาความเดือดร้อนได้เร็วเท่านั้น ส่งถึงมือเขาเร็วเท่าไรเขาก็เดือดร้อนน้อยลงเท่านั้น บางคนอดข้าวตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ถ้าเราไปถึงค่ำเขาก็เป็นลมแล้ว ดังนั้นควรที่จะออกไปช่วยเขาให้เช้าที่สุดเท่าที่เราจะทำได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2011 เมื่อ 18:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 21-11-2011, 17:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พอน้ำท่วมแล้วมีสิ่งที่ดีมากอยู่หลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะนักปฏิบัติจะเห็นชัดเลยว่ามีส่วนเกินในชีวิตเยอะมาก ที่เขาบอกว่าให้เก็บของมีค่าขึ้นที่สูง มาดูกันจริง ๆ จะเห็นของที่เราเก็บเอาไว้เสียเต็มบ้านเต็มช่องนั้น มีแต่ส่วนเกินแทบทั้งนั้น เพราะฉะนั้น..น้ำท่วมครั้งนี้ก็ทำให้คนกรุงเทพฯ หรือว่าญาติโยมที่อาศัยในกรุงเทพฯ ได้พิจารณาดูว่า ตัวเองมีอะไรเป็นส่วนเกินบ้าง

มีโยมอยู่คนหนึ่งอยู่แถวรังสิต มีบ้านอยู่ ๓ หลัง เขาบอกว่าต้องขายทิ้งไป ๒ หลัง เขารู้แล้วว่าพอน้ำท่วมแล้วเป็นภาระ ดูแลไม่ทั่วถึง ไม่ว่าจะกั้นขนาดไหนสุดท้ายก็ท่วม ข้าวของอะไรที่เห็นว่าเกะกะบ้าน หลังน้ำท่วมก็ถือโอกาสชำระสะสาง ถ้ารู้สึกว่าว่ามีมากเกินไปก็ใช้วิธีเรียกรถขายของเก่ามาจัดการให้

พอเราดูไป ก็จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วของที่จำเป็นต่อชีวิตของเราตอนนี้คืออาหาร ที่อยู่อาศัยมีกันทุกคน ไม่ว่าจะเช่าหรือเป็นของตัว เครื่องนุ่งห่มบางคนใส่เป็นปีก็ยังไม่รู้ว่าจะใส่ครบทุกชุดหรือเปล่า ? ยารักษาโรคซื้อครั้งหนึ่งเก็บได้ ๔ ปี เพราะอายุยาเป็นอย่างนั้นเป็นปกติอยู่แล้ว ตอนนี้ที่ขาดแคลนอยู่จริง ๆ คืออาหาร ก็แปลว่าของที่บ้านเราก็เป็นส่วนเกินกันทั้งนั้น

โดยเฉพาะคุณผู้ชายบางคนก็มีภรรยาเป็นส่วนเกิน ก็ถือโอกาสลอยน้ำไปซะ ที่รักจ๋า..รูปร่างหน้าตาเธอก็ยังดี ปีนี้เป็นนางนพมาศหน่อยนะ ว่าแล้วก็ใส่กระทงลอยไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2011 เมื่อ 18:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 21-11-2011, 18:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอถึงเวลาแล้วเราก็ไม่อาจจะดูแลทุกอย่างได้ทั่วถึง ของบางอย่างเก็บแล้วเก็บอีก เก็บจนกระทั่งฝุ่นจับหนาเป็นนิ้วยังไม่เอามาดูเลยว่านั่นคืออะไร บางบ้านออกไปเดินซื้อของได้ทุกวัน ซื้อมาแล้วก็วางกองไว้ ขอให้ได้ซื้อก็พอแต่ไม่ได้ใช้ เราก็ถือโอกาสตอนที่คนอื่นเดือดร้อน มีอะไรพอที่ช่วยเหลือคนอื่นเขาได้ก็สละออกเสีย ตัวจะได้เบา

สมัยอาตมาเป็นฆราวาส มีแค่เป้ใบเดียวเท่านั้น มีเสื้อผ้าอยู่ข้างใน ๒ ชุด ติดตัวอีก ๑ ชุด ไปได้ทั่วโลกเลย ของใช้จำเป็นนิด ๆ หน่อย ๆ อย่างสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟันไม่ต้องกังวล ไปที่ไหนก็มีขาย แต่สมัยนั้นจะเก็บเงินสำรองไว้ ๑,๐๐๐ บาท ติดตัวไว้ เป็นธนบัตร ๕๐๐ บาทสองใบพับให้เล็ก ใส่ไว้ในกรอบพระสเตนเลส หลวงพ่ออยู่ข้างหน้า เงินอยู่ข้างหลัง คนไม่เห็นหรอก โจรปล้นอย่างไรก็ไม่เอาหรอกสร้อยสแตนเลส ถ้าเอาออกมาใช้ก็ต้องรีบใส่คืนเพราะเป็นเงินสำรอง เผื่อไปตกรถอยู่สุดเหนือสุดใต้อย่างไรก็กลับบ้านได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-11-2011 เมื่อ 18:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 22-11-2011, 07:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เวลาพระทำผิด โดยเฉพาะพระที่มาจากที่อื่นแล้วมาทำผิดในพื้นที่ อาตมาจับได้จะเปิดทางให้เขากว้างมากเลย คือ ถามว่าจะสึกหรือจะติดคุก ? ถ้าหากคุณจะติดคุกอาตมาจะแจ้งความ แต่ถ้าคุณจะสึกจะทำพิธีสึกให้ ก็เห็นว่าเลือกสึกกันทั้งนั้น"

ถาม : มีพระทำความผิดด้วยหรือคะ ?
ตอบ : อย่างเช่นขโมยของ เอาไปทั้งกระเป๋าเลย เป็นพระอาคันตุกะมาจากที่อื่น มาขออาศัยอยู่กับเราแล้วมาขโมยของ พระที่อยู่วัดเราจะไม่ทำแบบนี้

อย่างสามเณรทีทีที่วัดท่ามะขาม รายนี้แสบมาก..ขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า พอพระจับได้ซึ่ง ๆ หน้า สามเณรก็บอกว่าไม่ได้เอา เขาก็เลยทำอะไรกันไม่ได้ เพราะเด็กปากแข็ง แล้วเจ้าอาวาสก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะแม่เขาเป็นขาใหญ่สนับสนุนวัดอยู่ ท่านก็เลยเกรงใจ

แต่อาตมาไม่เกรงใจ ทุกคนจับทีทีมา ทีทีไม่รับสักคน วันนั้นพระครูอ้ำบอกว่า "อาจารย์เล็ก..ช่วยผมหน่อยนะ ถ้าวันนี้จับทีทีสึกไม่ได้ อ้ำจะสึกเอง..!" แสดงว่าอัดอั้นตันใจเต็มทีแล้ว อาตมาก็ถามว่าทำไม ? "เณรทีทีขโมยเงิน ผมเห็นชัด ๆ เลย ขนาดว่ากำเงินไว้ในมือ ยังบอกว่าไม่ได้เอาอีก" อาตมาเลยบอกว่า "ไปเอาตัวมา เดี๋ยวผมจัดการให้" ทีทีไปงัดตู้บริจาค แล้วเป็นคนที่นิสัยดีมาก งัดตู้บริจาคแล้วเอาเงินไปซื้อขนมแจกเพื่อน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2011 เมื่อ 09:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 22-11-2011, 07:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอมาถึงเราก็ถาม "ทีที..งัดมากี่หนแล้ว ?" ทีทีก็มองหน้า "๒ หนครับ" แค่นั้นพระครูอ้ำก็ยิ้มออก "ผมถามให้ตายมันไม่เคยยอมรับเลย แต่พออาจารย์ถามทำไมมันรับ ?" อาตมาบอกว่า "ก็คุณถามว่างัดหรือเปล่า ? มันก็บอกว่าเปล่าสิ ผมถามว่างัดมากี่หนแล้ว มันก็ต้องบอกให้น้อยที่สุด แต่อย่างไรมันก็งัด" (หัวเราะ) คุณถามไม่เป็นนี่หว่า...

ทีทีเป็นอย่างนั้นไม่ต้องโทษใคร อาตมาโทษแม่เขา ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะเขาขาดความรักในบ้าน ที่กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำ เพราะมีหลายครั้งที่เขาทำผิดแล้วทางวัดโทรศัพท์ไปบอกแม่ พอแม่เขามาถึง ทั้ง ๆ ที่ลูกเป็นเณร แม่เขาด่าสาดเสียเทเสียอยู่ตรงนั้น ไม่มีสักนิดหนึ่งที่จะถามว่าทำไมถึงทำอย่างนี้ ลูกมีเหตุผลอะไร ด่าอย่างเดียวจริง ๆ แสดงว่าอยู่ที่บ้านคงโดนหนักกว่านี้อีก

นี่ขนาดว่าเป็นเณรยังโดนขนาดนี้ ถ้าเราเป็นลูก ขาดความรักความอบอุ่นในบ้าน ก็ต้องทำแบบทีที เขาขโมยเงินไปซื้อขนมมาแจกเพื่อน เพื่อนก็เห็นเขาเป็นวีรบุรุษ ในเมื่ออยู่ในบ้านแม่ไม่สนใจตัวเอง เอาแต่ทำงานแล้วด่าลูกอย่างเดียว ไม่เคยสอนให้ลูกทำอย่างไรถึงจะถูก ลูกออกนอกบ้านก็ทำอย่างนี้ ดังนั้น..ใครเลี้ยงลูกแล้วไม่อยากให้ลูกเป็นโจร ความรักของพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญนะจ๊ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 23-11-2011 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 22-11-2011, 07:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันก่อนอบรมเด็ก ๆ เรื่องยาเสพติด บรรดาพี่ ๆ ตชด. เขามาช่วยอบรม ท้ายสุดอาตมาเน้นย้ำตรงที่ว่า ความรักในครอบครัวเป็นรั้วป้องกันยาเสพติดที่ดีที่สุด ที่ขำที่สุดก็คือ เดินบิณฑบาตผ่านป้ายโฆษณาของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิที่ว่า "นึกถึงครอบครัวสักนิด ถ้าคิดจะเสพยา"

อาตมาก็ว่า พอนึกถึงเด็กเสพเลยแหละ เพราะเครียดมาจากทางบ้าน ถ้าเป็นอาตมาป้ายอย่างนี้จะไม่มีทางโผล่มาได้เลย ก็เพราะนึกถึงครอบครัวเด็กถึงได้ติดยา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2011 เมื่อ 09:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 22-11-2011, 18:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานั่งสมาธินึกถึงลูกแก้วนี่ลืมตาได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้..ถ้านั่งลืมตากำหนดได้จะดีกว่า ที่เขาให้หลับตาเพราะต้องการตัดการมองเห็นภาพที่จะทำให้เสียสมาธิ แต่ถ้าสมาธิเราจดจ่ออยู่ไม่ไปไหน ลืมตาแล้วเห็นได้จะดีกว่า

ถาม : แล้วต้องเน้นจับลมหายใจไหมครับ หรือว่าเน้นจับลูกแก้ว ?
ตอบ : จะเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หรือจะทำสองอย่างควบกันก็ได้แล้วแต่เราถนัด ถ้าต้องการความมั่นคงก็เน้นที่ลมหายใจ

ถาม : ถ้าเราจับให้เป็น ๔ ลูก..?
ตอบ : อาตมาเคยทำมากกว่านั้นอีก อยู่ที่เทคนิคของเรา ทำอย่างไรก็ได้ที่ทำให้ใจเราอยู่ตรงนั้นไม่ไปที่อื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2011 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 22-11-2011, 19:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมถึงต้องมีเศษกรรม เพราะถ้าไปใช้กรรมในนรกก็น่าจะทบต้นทบดอกอยู่แล้ว ตอนกลับมาเกิดทำไมต้องมีเศษกรรมตามมาอีกคะ ?
ตอบ : ทางโลกเขายังคิดดอกเบี้ย คิดเงินต้นเลย เราจะจ่ายเงินต้นอย่างเดียว ไม่จ่ายดอกเบี้ยหรืออย่างไร ?

ถาม : ตอนกลับมาเกิดเศษกรรมคือดอกเบี้ยหรือคะ ?
ตอบ : จ้ะ..ในนรกเขาลงโทษเป็นกรรมส่วนใหญ่ ๆ ส่วนกรรมเล็กน้อยที่นรกเขาไม่ได้ลงโทษเพราะเขาเว้นให้มาเจอข้างบนจ้ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2011 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 22-11-2011, 19:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าพูดถึงยันต์ครูในสายของหลวงพ่อฤๅษี ยันต์อันไหนเป็นของท่านจริง ๆ ครับ ?
ตอบ : ยันต์พุทธนิมิตที่อยู่หลังพระสมเด็จศรีอินทราทิตย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2011 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 23-11-2011, 07:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาบอกบุญกฐินแล้วใส่ซองมา แต่เขาไม่มาเก็บซองเพราะติดน้ำท่วมอยู่ค่ะ
ตอบ : ถึงเวลาก็ส่งให้เขาไป อาตมาเคยได้ซองกฐินมาหลายวัด เขาไม่รู้จะส่งไปให้ใครก็มายัดไว้ตรงนี้ อาตมาก็ต้องส่งไปให้วัดนั้นเพราะมีที่อยู่หน้าซอง ไม่อย่างนั้นจะเป็นการแปรเจตนาการทำบุญ โยมเขาพ้นภาระแต่ความซวยมาตกอยู่ที่อาตมา ต้องจ่ายค่าซองค่าแสตมป์เพื่อส่งให้เขาไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2011 เมื่อ 17:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 23-11-2011, 07:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,964
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การธุดงค์มี ๒ อย่าง อย่างแรกคือเดินไปภาวนาไป อย่างที่สองคือไปหาที่เหมาะ ๆ แล้วก็หยุดภาวนาที่นั่นจนพอใจ จากนั้นก็ไปหาที่ใหม่

อาตมาถนัดอย่างแรก คือเดินไปภาวนาไป แต่คราวนี้คนเดินภาวนาจะไม่รู้สึกเหนื่อย ส่วนคนที่ตามไปด้วยไม่ภาวนาก็เลยเหนื่อยลิ้นห้อย ขนาดอาจารย์โมเช่ที่ว่าเซียนเรื่องเดินป่าชนิดที่ว่าอาตมาต้องวิ่งไล่ตาม พอไปด้วยกัน ๔-๕ วัน ท่านชักจะเริ่มเข็ด แรก ๆ อาตมาต้องวิ่งไล่ตามท่าน ไป ๆ มา ๆ ท่านต้องวิ่งไล่ตามอาตมา เพราะอาตมาเดินไปได้เรื่อย ๆ เท่าเดิม ขณะที่ท่านล้าแล้วจึงเดินช้าลง"

ถาม : เคยเจอสัตว์อะไรที่น่ากลัวสุด ๆ ครับ
ตอบ : ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว อย่างเสือก็แค่มาโฮก ๆ ตะกุยต้นไม้ทางหัวนอน ตอนนั้นเป็นหน้าแล้ง มีน้ำเหลืออยู่แอ่งเดียวขนาดเมตรกว่า ๆ เอง อาตมากางกลดนอนใกล้ ๆ สัตว์ต่าง ๆ ก็วนไปวนมา จะลงกินน้ำก็ไม่กล้า ตอนแรกเสือก็มาวน ๆ อยู่ด้วย ท้ายสุดหิวน้ำงุ่นง่านหนักเข้าก็แผดเสียงสนั่นป่าเลย แผดดังขนาดไหนอาตมาก็ไม่ไป ในที่สุดเสือทนความหน้าด้านของอาตมาไม่ไหวก็เดินหายลับไป

นิสัยของเสือ ถ้ากระโดดตะครุบไม่ได้ ก็จะไม่ทำอันตราย เพราะฉะนั้น..ถ้านอนที่ต่ำ ๆ มีอะไรคลุมเสือจะไม่เข้าไปทำ อย่างเวลาอยู่ในกลดเสือจะรู้สึกว่ากระโดดตะครุบไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่กลดกั้นอะไรเสือไม่ได้เลย แต่ผิดวิสัยเสือก็ไม่ทำ ได้แต่เดินวนไปรอบ ๆ อาตมานึกถึงที่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า เข้าป่าอย่าปักกลดขวางทางด่าน ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง อาตมาเล่นขวางกลางทางเลย เพราะเป็นที่เดียวที่โล่ง ทางที่สัตว์เดินบ่อย ๆ เตียนโล่ง อาตมาก็แขวนกลดกลางทางเลย นอนสบายดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 27-11-2011 เมื่อ 17:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:09



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว