กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 20-05-2013, 19:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าวันนั้นหลวงพี่อาจินต์เอาซูซูกิคาริเบียนคันเล็ก ๆ วิ่งมา หลวงตาวัชรชัยนั่งมาถึงบอก “เฮ้ยเล็ก..ทิ้งงานแป๊บหนึ่งเว้ย” ถามว่าทำไม “ไปเข็นมันหน่อยซิ เรือเกลือมาอีกแล้ว” อาตมาสอนมโนมยิทธิมาไม่เคยเกินครึ่งชั่วโมง แต่รายนั้น ๒ ชั่วโมงครึ่งไปได้แค่จุฬามณี..! เป็นพระสงฆ์ด้วย แล้วเป็นวันสุดท้ายของท่านด้วย ไม่อย่างนั้นหลวงตาคงไม่ปล่อยมือหรอก นี่เห็นว่าวันสุดท้ายแล้วยังเข็นไม่ไป ท่านเลยเอาอาตมาไปช่วยเข็น

ปรากฏว่าท่านนั้นเอารายละเอียดขนาดไล่นับบันไดทีละขั้น จะไปจุฬามณีดันไปนับบันไดทีละขั้น..! ถ้าเป็นมนุษย์ละก็..เอ็งตาย นับไม่ถึงขั้นสุดท้ายแก่ตายก่อน จะเอารายละเอียดขนาดนั้น สอนพวกนี้ทีไรนี่แผ่หลาทุกที ต้องใช้กำลังใจมหาศาลเลย

ก็ได้แต่บอกว่า ถ้าได้แล้วคุณไปซักซ้อมเอาเอง ไปด้วยวิธีนี้แหละ เพียงแต่ว่าต้องซ้อมความคล่องตัวให้มาก ๆ แล้วคราวนี้ถ้าคุณอยู่คนเดียว จะเอารายละเอียดขนาดไหนคุณก็ดูไปเถอะ แต่ถ้าให้ผมมานั่งนำแล้วจะเอารายละเอียดขนาดนี้ ผมไม่มีเวลาพอหรอก ๒ ชั่วโมงครึ่งไปได้แค่จุฬามณี


ถาม : ท่านไม่สอนมโนมยิทธิอีกหรือคะ ?
ตอบ : เลิกสอนไปนานแล้วจ้ะ เพราะสอนแล้วเข้าป่าเข้าดงกันหมด เพราะลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านฉลาด โดนหลอกไม่นาน แต่ลูกศิษย์ของอาตมาฉลาดน้อย โดนหลอกกันหัวทิ่มหัวตำหมด เพราะเรื่องของมโนมยิทธิ ยิ่งรู้เห็นชัดเจนการทดสอบยิ่งแรง โดยเฉพาะมาระยะหลังใช้ผิดกันเยอะมาก มโนมยิทธิท่านให้เรารู้จักพระนิพพานได้ ไปพระนิพพานตรง เมื่อรู้อารมณ์พระนิพพานว่าปราศจากรัก โลภ โกรธ หลงแบบไหน ก็พยายามลงมาทำใจตนเองให้ได้อย่างนั้น จะได้เป็นการรวบรัดตัดตรงเข้าหาพระนิพพาน

แต่พวกนี้ส่วนใหญ่ได้แล้วก็ไปดู ก่อนหน้านั้นเธอเป็นอย่างนั้นกับฉัน เธอเป็นอย่างนี้กับฉัน ดูแล้วแทนที่จะละ จะเข็ดว่ากี่ชาติ ๆ ก็ทุกข์ไม่รู้จบ ดันไปฟื้นความสัมพันธ์ใหม่ ก็กอดคอกันตายทั้งขบวน แล้วของพวกนี้บางอย่างวาระกรรมมาถึง พอเขาอ้างว่าชาติก่อนเคยเป็นอะไรกัน อีกคนดันทะลึ่งรับสมอ้าง ก็ไปกันใหญ่เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 20-05-2013, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ก็คงขาดอยู่ดี เพราะว่าศีลพร่องแต่แรก เพราะว่าไม่ได้แสดงคืนอาบัติ ขาดวุฏฐานวิธี คือการออกจากอาบัติ ก็เท่ากับแช่อยู่ทั้งตัว คนพวกนี้ไม่ต้องดูอะไรมากหรอก ออกไปทำมาหากินอะไรก็ไม่เจริญ ปาราชิกกับสังฆาทิเสสโทษหนักมาก..ถ่วงเราหมด

ถาม : จะแก้ไขอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : บวชใหม่ ถ้าบวชหมู่ให้บวชเป็นรูปสุดท้าย ไม่อย่างนั้นถ้าคุณบวชก่อนแล้วคุณไปนั่งร่วม กลายเป็นสังฆกรรมเขาเสีย บวชเป็นรูปสุดท้าย ออกจากโบสถ์ได้ก็ไปอยู่ปริวาสเลย แก้ตัวเองให้เสร็จก่อน

คราวนี้การอยู่ปริวาส ปกติแล้วก็คือโดนอาบัติแล้วปกปิดไว้นานเท่าไร ก็ต้องอยู่เท่านั้น แล้วก็ต้องไปเก็บมานัตต์อีก ๖ วัน ๖ คืน พูดง่าย ๆ คือปิดไว้เท่าไรต้องใช้คืนเท่านั้น แล้วก็โดนลงโทษอีก ๖ วัน ๖ คืน แล้วถึงจะให้พระสวดคืนความเป็นพระให้

คราวนี้ท่านบอกว่า ถ้าจำไม่ได้ให้ใช้สุทธันตปริวาส คำว่า "สุทธันตปริวาส" เขาหมายถึงว่า ให้สงฆ์เป็นผู้กำหนด ว่าจะให้อยู่นานเท่าไร แต่ต้องกำหนดให้มากกว่าไว้เสมอ ปัจจุบันนี้ใช้แค่คำว่าให้สงฆ์กำหนด แล้วมักจะกำหนดให้ ๙ วัน ก็คืออยู่ปริวาส ๓ วัน แล้วก็เก็บมานัตต์ ๖ วัน เราลองคิดดูสิว่า ถ้าต้องโทษประหารชีวิต แล้วเรามาติดคุก ๖ วันก็พ้นโทษ..คิดอย่างไรก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหม ? แต่ปัจจุบันนี้เขามักจะเอาอย่างนั้นกัน

เพราะฉะนั้น..ถ้าเราไปอยู่ปริวาสในบางสำนัก ถึงเวลาเขาเก็บมานัตต์เราก็อย่าไปเก็บกับเขา บาลีท่านใช้คำว่า ไม่ใช่มานัตตารหบุคคล ก็คือ ไม่ใช่บุคคลผู้ควรแก่มานัตต์ ในเมื่อยังไม่ควร เพราะโทษของเรายังใช้ไม่หมด เราไปเข้าอัพภาณ ย่อมไม่ใช่วิสัยที่จะพ้นโทษได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 20-05-2013, 19:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่วัดท่าขนุนมีอยู่รูปหนึ่ง ปัจจุบันนี้ขอเรียนต่อปริญญาโทอยู่ นั่นโดนไป ๗ เดือน ถามเขาว่าทำไมถึงโดน ๗ เดือน เขาบอกว่าเขาจำไม่ได้ว่าปกปิดไว้นานเท่าไร ก็เลยถามคุณบวชนานเท่าไร “ผมบวช ๗ เดือน” “คุณไปอยู่ปริวาสเลย ๗ เดือน” ท่านก็ใจถึงพอเหมือนกัน ไปอยู่เสีย ๗ เดือน

คราวนี้วัดที่จะจัดปริวาสเพื่อช่วยคนให้ออกจากอาบัติจริง ๆ มีน้อย ส่วนใหญ่เขาจัดเพื่อประโยชน์เขา จัดแล้วก็ไปโฆษณากันว่าทำบุญกับพระออกปริวาสแล้วจะได้บุญมาก จะไปบุญมากอีท่าไหน ? เพราะพระที่อยู่ปริวาสนี่ต้องศีลใหญ่พร่อง ทำบุญกับพระบวชใหม่ยังได้บุญมากกว่าอีก แต่โฆษณาจนกระทั่งกลายเป็นคนเขาชอบไปทำบุญกัน ก็เลยกลายเป็นการจัดเพื่อหาเงิน วัดที่อาตมาจะส่งพระไปอยู่ปริวาสเป็นประจำก็คือ วัดชากสมอ ที่ชลบุรี ที่นี่จะอยู่ปริวาสชุดละ ๑๕ วัน บอกเขาว่า "ครบ
๑๕ วันคุณไม่ต้องไปเก็บมานัตต์หรอก ถึงเวลาคุณอยู่ต่อไปเลย ครบ ๗ เดือนเมื่อไรแล้วคุณค่อยไปเก็บมานัตต์อีก ๖ วัน ๖ คืนจากนั้นค่อยไปเข้าอัพภาณ ให้สงฆ์สวดคืนความเป็นพระให้.." ท่านก็ไปอยู่มาจนครบถ้วนเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 20-05-2013, 20:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใหญ่แล้วครูบาอาจารย์สมัยหลังท่านไม่ได้บอกกล่าวยังไม่พอ ความเข้มงวดกวดขันตรงนี้ยังไม่มีด้วย ก็กลายเป็นว่าพอพระบวชเข้าไปก็ไปทำผิดทำพลาด

ปัจจุบันนี้ถ้าใครไปบวชเป็นนาคที่วัดจะมอบให้กับทิดกวาง ซึ่งเคยเป็นพี่เลี้ยงพระใหม่อยู่ประจำ ให้เขาซักซ้อมเรื่องศีลพระให้ก่อน จะตอกย้ำไปเลยว่าสังฆาทิเสส ๑๓ ข้อ กับปาราชิก ๔ ข้อนี่ ห้ามโดนเด็ดขาด แต่ละข้อมีอะไรบ้าง ช่วงที่ซักซ้อมการบวช หัดขานนาคก็จะให้เขาแทรกเรื่องศีลเข้าไปด้วย คือให้พระใหม่รู้เสียตั้งแต่แรกว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพราะว่าเรื่องนี้ถ้าพลาดแล้วเสียหายมาก

โดยเฉพาะพระสายหลวงปู่มั่นจะให้เป็นตาผ้าขาวอยู่ ๒ ปี พูดง่าย ๆ ว่าเป็นฆราวาสนุ่งขาวห่มขาวแต่ถือศีล ๒๒๗ ข้อ ถึงเวลาคุณพลาดโทษก็ไม่มี เพราะคุณยังไม่ใช่พระ แต่ถ้าคุณทำได้ เคยชินแล้ว ภายใน ๒ ปี ไปเป็นพระก็รักษาศีลเท่านั้นแหละ ไม่ได้เกินกว่านั้นหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 20-05-2013, 20:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจ้าแม่กวนอิมไปพระนิพพานหรือยังคะ ?
ตอบ : ท่านแม่กวนอิมไปพระนิพพานแล้วจ้ะ แต่ถ้าใครไหว้ท่านตอนนี้ช่วยได้เยอะกว่าเดิม เพราะภาระส่วนตัวท่านหมดแล้ว

ถาม : ท่านลาพุทธภูมิแล้วหรือคะ ?
ตอบ : ไม่ลาก็ไปไม่ได้สิจ๊ะ เคยไปสวดมนต์ฉันเพลอยู่บ้านหนึ่ง เห็นเจ้าแม่กวนอิมท่านมาพรมน้ำมนต์ให้ ก็เลยแปลกใจ เล่าให้เจ้าของบ้านเขาฟัง เขาบอกว่าคุณแม่นับถือท่านมาก ขนาดสร้างห้องพระต่างหากเพื่อบูชาท่านโดยเฉพาะ ท่านเลยมาสงเคราะห์ให้เป็นพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 251 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 20-05-2013, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ฮินดูเขาสร้างเทวดาเก่ง เขาไปเที่ยวกำหนดว่าเทวดาองค์นั้นมีอานุภาพอย่างนั้น มีจริตนิสัยอย่างนี้ เสร็จแล้วก็ไปบูชาท่าน คราวนี้การบูชาเทวดาเป็นส่วนหนึ่งของเทวตานุสติในพระพุทธศาสนา ก็เลยลำบากว่า ทางเบื้องบนต้องหาเทวดาที่ศักดานุภาพคล้ายคลึงกับที่เขากำหนดมารับหน้าที่นั้น ๆ ศาสนาฮินดูก็เลยเก่ง สร้างเทวดาได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ พอกำหนดขึ้นมาแล้ว ทางด้านเทวดาพรหมข้างบนก็ต้องหาใครไปรับหน้าที่นั้นจริง ๆ

อย่างพระศิวะท่านปู่พระอินทร์ก็รับไป เจอไปทีเดียวหลายตำแหน่ง พระอินทร์ก็ต้องเป็น พระศิวะก็ต้องเป็น เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ต้องเป็น จะว่าไปแล้วคนที่รู้นี่รู้เหมือน ๆ กันนะ คนจีนขึ้นไปเห็นท่านเขียวปี๋เลย นี่เง็กเซียนฮ่องเต้ หยกสีเขียว ๆ ก็รู้เท่ากัน เพียงแต่ว่าลักษณะของเครื่องแต่งกาย เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่เขายึดถือมา ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในโลกมนุษย์แต่งตัวแบบไหน เขาก็ถือว่าผู้เป็นใหญ่ข้างบนก็น่าจะแต่งตัวแบบเดียวกัน

คราวนี้ถ้าแต่งตัวแบบอื่นมาเดี๋ยวเขาไม่ยอมรับ ก็เลยต้องให้เขาเห็นแบบนั้น อาตมายังกลุ้มใจแทนเทวดาเลย เยอะแยะไปหมด วันดีคืนดีจำไม่ได้ว่าประเทศไหนที่เขานับถืออิสลาม อยู่ ๆ ตัวอักขระที่เขาเขียนสรรเสริญพระอัลเลาะห์ เปล่งแสงสีเขียวอยู่เป็นอาทิตย์เลย ก็ยังสงสัยว่าเกิดจากอะไร

ท่านปู่พระอินทร์บอกว่าฝีมือท่านเอง ถามว่าแล้วได้ประโยชน์อะไร ท่านบอกว่า “ถ้าเขานึกถึงตรงนั้นก็คือเขานึกถึงผม อย่างน้อยก็เป็นเทวตานุสติ” แสดงว่าตรงนั้นต้องเคยมีความเนื่องกับท่านมา ไม่อย่างนั้นท่านก็ไม่ไปสงเคราะห์ พวกนั้นก็ดีใจกันใหญ่ ว่าพระอัลเลาะห์ท่านสำแดงฤทธิ์แล้ว ตกลง..ดีไม่ดีท่านปู่พระอินทร์ต้องรับตำแหน่งพระอัลเลาะห์ไปอีกตำแหน่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 244 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 20-05-2013, 20:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วรัชกาลที่ ๕ ล่ะครับ ?
ตอบ : ไหว้ท่านไปเถอะ ตัวแทนมี ท่านเป็นอดีตพระโพธิสัตว์ เรื่องพวกนี้รู้ไปก็ไร้ประโยชน์ ไปคุยให้คนอื่นฟังก็หาว่าโม้ เราไปโกรธเขาอีก จริง ๆ ก็ควรจะฝึกให้คล่องตัวแล้วไปดูเอง ถ้าไปดูเอง แล้วมาเจอท่านที่รู้เหมือน ๆ กัน ถ้าสอบถามท่านแล้วตรงก็คือใช่ ถ้าไปถามอย่างเดียวก็สงสัยอีก จะใช่หรือ ? ไปดูเองเถอะ

มีบางคนใช้มโนมยิทธิแล้ว ดูอดีตตัวเอง ชาตินั้นเป็นอย่างนั้น ชาตินี้เป็นอย่างนี้ มีแต่ยิ่งใหญ่คับฟ้าทั้งนั้นเลย กลายเป็นว่าไปแบกมานะ ก็คือเอาอดีตมาปนกับปัจจุบัน กลายเป็นสังโยชน์ซ้อนสังโยชน์ ก็คือแทนที่สักกายทิฏฐิกับมานะในปัจจุบันจะลดได้ กลับไปแบกของอดีตเพิ่มเข้ามาด้วย กลายเป็นโทษหนักขึ้นไปอีก

ความจริงหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านก็ทราบว่ามโนมยิทธิอันตรายขนาดไหน แต่ท่านมั่นใจว่าลูกศิษย์ของท่านฉลาดพอที่จะเลือกในสิ่งที่ถูก ท่านถึงได้สอน เท่าที่อาตมาเคยกราบเรียนถามแล้วท่านบอกว่า “ถ้าทำให้คนรู้จักพระนิพพานได้แม้แต่คนเดียวก็คุ้มแล้ว” นั่นขนาดท่านเอาแค่คนเดียวนะ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็เท่ากับของท่านเหลือที่จะคุ้มแล้ว เพราะรู้จักกันเยอะไปหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-05-2013 เมื่อ 20:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 251 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 21-05-2013, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของข่าวลือต่าง ๆ ถ้าเรามีความมั่นคงในพระรัตนตรัยจริง ๆ ก็จะไม่หวั่นไหวตามไป ถ้ายังหวั่นไหวตามไปแปลว่าเรายังหาความมั่นคงไม่ได้ บุคคลที่หาความมั่นคงในพระรัตนตรัยไม่ได้โอกาสลงอบายภูมิมีสูงมาก ฉะนั้น..พึงระมัดระวังให้ดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-06-2013 เมื่อ 16:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 21-05-2013, 21:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาอาหารเพลมาถวาย พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "เวลาหลวงปู่มหาอำพันฉันภัตตาหาร ถ้ามีอาหารอะไรที่แปลก ๆ หรือเป็นของอร่อย ท่านจะเหลือไว้ให้ลูกศิษย์ บางทีลูกศิษย์ก็บ่นว่า “รู้ว่าหลวงปู่ชอบฉันของอย่างนี้ อุตส่าห์เอามาแล้วหลวงปู่ก็ยังเหลือไว้อีก ไม่ฉันให้หมด” หลวงปู่ท่านบอกว่า “แบ่งให้ลูกศิษย์เขาบ้าง”

ท่านบอกว่า “ถ้าข้าวเหนียวมี แต่มะม่วงหมด ลูกศิษย์อดแล้วอาจารย์อิ่มใช้ได้ที่ไหน ถ้าอดก็ต้องให้อดด้วยกัน ถ้าอิ่มก็ต้องให้อิ่มด้วยกัน”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2013 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 21-05-2013, 21:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่องานวันที่ ๑ พ.ค. ที่วัดเขาวง มีโยมท่านหนึ่งรู้จักกันมานาน บอกว่าตอนนี้กำลังลำบาก ถามว่าไปทำอะไรมา ? เขาบอกว่าไปซื้อขายเงินตราต่างประเทศอยู่ เขาสงสัยว่าทำไมใช้ทิพจักขุญาณดูแล้วว่าตัวนี้จะขึ้น แต่พอซื้อแล้วดันตก ก็เลยทำให้ขาดทุน

อาตมาถึงได้บอกกับเขาไปว่า การใช้ทิพจักขุญาณลักษณะของคุณผิดตั้งแต่แรกแล้ว เพราะว่าสภาพจิตไม่สะอาดพอ เอาความโลภขึ้นหน้าไปก่อน ถ้าจะบอกว่าผิดในเรื่องของการทำมาหากินก็ไม่ใช่หรอก คุณผิดมาตั้งแต่แรกโน้น ที่เที่ยวเอาทิพจักขุญาณไปดูว่าใครเป็นเนื้อคู่ของตัวเอง เรื่องในอดีตคือเรื่องของอดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน อย่าเอามาปะปนกัน ถ้ากระแสกรรมชักนำ โอกาสพลาดจะมีทันที เพราะเมื่อกระแสกรรมชักนำ เราไปดูแล้วเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น ๆ แล้วไปฟื้นความสัมพันธ์กันขึ้นมาใหม่ ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์คนละชาติกัน ต่อให้เป็นจริงก็ตาม ก็เท่ากับว่าเราใช้ทิพจักขุญาณในด้านที่ผิดแล้ว

ทิพจักขุญาณที่หลวงพ่อท่านสอนเรา ท่านต้องการให้เรารู้อดีตเพื่อที่จะได้เห็นว่า จริง ๆ แล้วอดีตทุกชาติที่ผ่านมาก็มีแต่ความทุกข์ ปัจจุบันนี้เราก็ทุกข์อยู่ อนาคตถ้าเกิดอีกก็ทุกข์อีก สมควรที่จะพอได้แล้วหรือยัง ? ถ้าพอแล้ว เราก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นของเราไป

เรื่องทิพจักขุญาณสำคัญที่สุดก็คือ ดูเพื่อที่จะเกรง จะกลัว จะเข็ดกับการเกิดมามีร่างกายนี้ หรือว่ากลัวการเกิดมาในโลกนี้ ไม่ใช่เที่ยวไปดูอย่างนั้นอย่างนี้ โดยเฉพาะในลักษณะของการทำมาหากิน อย่าดูด้วยตัวเอง เพราะว่าตัวเองพอถึงเวลาดูอดมีรัก โลภ โกรธ หลงเข้าไปแทรกไม่ได้ โอกาสที่พลาดจะมีมาก ถ้าจะคนอื่นดูให้ก็ต้องมั่นใจว่าเขามีความแม่นยำถูกต้องจริง ๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะแม่นในระยะแรก พอนานไป ๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุขเข้ามา แทนที่จะดูเพื่อสงเคราะห์คนอื่นก็ดูเพื่อลาภ ดูเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศ

ในเมื่อความตั้งใจผิดเสียแล้ว ต่อไปเรื่องที่เราดูอยู่ก็จะผิดไปด้วย ได้ยินเขาปรารภก็สงสารเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ต้องบอกว่ากรรมใครกรรมมัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2013 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 21-05-2013, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์อ่านเนื้อหาจากหนังสือให้ฟังว่า "พระสงฆ์อาพาธเพราะฆราวาสทำ

๑. อาหารถวายพระไม่มีคุณภาพ
๒. ถวายแต่น้ำหวานน้ำอัดลม
๓. ถวายแต่เครื่องดื่มชูกำลัง
๔. ถวายแต่ของทอด
๕. ถวายแต่พวกไอศกรีม ขนมเค้ก
๖. ถวายแต่บุหรี่ ยาเส้น
๗. ถวายแต่วิตามิน

หมอเขาก็เขียนอย่างหมอนะ จะมีชาวบ้านสักกี่คนที่เขารู้จักว่า อาหารแต่ละอย่างมีอะไรเป็นโทษบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2013 เมื่อ 11:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 23-05-2013, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ธรรมทานที่ทำได้อานิสงส์สูงสุดคือ ธรรมทานอย่างไรครับ ? คือการใช้เงินบริจาคเป็นธรรมทาน หรือการบริจาคหนังสือธรรมะ ได้อานิสงส์เท่ากันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อานิสงส์ธรรมทานสูงสุดคือเราปฏิบัติธรรมนั้นได้ สามารถยืนยันผลด้วยตนเอง แล้วนำเอาสิ่งนั้นไปสอนต่อ ทำให้ได้เองก่อนแล้วไปสอนคนอื่น จะได้มีรายละเอียด เวลาเขาซักถามอะไรจะได้ตอบได้

การที่เราบริจาคปัจจัยในเรื่องของธรรมทาน ตัวเราก็ไม่สามารถปฏิบัติธรรมนั้นเองได้ บริจาคเป็นหนังสือหรือพระไตรปิฎกก็ลักษณะเดียวกัน เพราะฉะนั้น..จะเอาอานิสงส์สูงสุดจริง ๆ ต้องตัวเองทำได้และสอนคนอื่นให้ทำได้ด้วย

แม้แต่ตรงนี้อาตมาก็รำคาญมาก เพราะโยมมักจะเอาหนังสือธรรมะมาถวายเยอะแยะไปหมด ไม่ใช่ไม่ต้องการ แต่สงสัยว่าทำไมไม่อ่านแล้วทำเสียเอง ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 23-05-2013, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การโพสต์ตั้งกระทู้ธรรมะในอินเตอร์เน็ตเป็นการบริจาคธรรมทานหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นหลักธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก หรือของหลวงปู่หลวงพ่อต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นธรรมทานอย่างหนึ่ง เอาให้แน่ ๆ ก็คือ ตรวจสอบให้ถูกต้อง อย่าให้มีข้อผิดพลาด ขณะเดียวกัน ต้องมั่นใจอย่างแน่ว่าคำสอนเหล่านั้นถูกต้องอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประเภทคำสอน "อย่าไปไหว้พระพุทธรูป เพราะเป็นแค่ทองเหลือง" ถ้าอย่างนี้ก็บรรลัย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 23-05-2013, 21:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การอภัยทานกับธรรมทานมีอานิสงส์ต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : อภัยทานเป็นในส่วนของพรหมวิหารธรรม ถ้าใครทำได้ จิตใจจะสงบเยือกเย็น ลักษณะนั้นจะสามารถรักษาศีลได้ทุกข้อ จัดเป็นศีลบารมีและเมตตาบารมี ส่วนธรรมทานนั้นจัดอยู่ในส่วนทานบารมี ต่างกันตรงที่ทำอย่างหนึ่งได้บารมีสองข้อ ทำอีกอย่างหนึ่งได้บารมีข้อเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 23-05-2013, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในอินเตอร์เน็ตมีการบอกว่า "การให้อภัยทานสูงกว่าธรรมทาน" ซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน อยากจะทราบว่าเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็แปลว่าไม่ได้สอนเท่านั้นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 23-05-2013, 21:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนที่จะรับยันต์เกราะเพชร มีคนสวมรองเท้าผิดไป แล้วทิ้งรองเท้าคู่อื่นไว้เป็นคู่สุดท้าย เราจำเป็นต้องสวมคู่นั้นซึ่งไม่ใช่ของเรา หลังจากรับยันต์เกราะเพชรออกมา เราก็ยังสวมคู่นั้นอยู่ ยันต์จะขาดหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่เหลือ..ไม่ใช่ของของเราแต่ไปเอาของเขามา รู้ด้วย ตั้งใจเอาด้วย ก็เท่ากับตั้งใจขโมย..!

ถาม : ไม่ได้ตั้งใจขโมยครับ เพราะเขาใส่ของเราไปแล้ว ?
ตอบ : ไม่ได้ตั้งใจกินยาผิดก็ตายเหมือนกัน เพราะกินลงไปแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 23-05-2013, 21:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องน้ำท่วมโลกจะเกิดขึ้นเมื่อไร ? จริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้ากัปไหนโลกจะโดนทำลายด้วยน้ำ กัปนั้นน้ำย่อมท่วมโลกแน่นอน โลกของเรานั้นแต่ละกัปจะโดนทำลายด้วยน้ำบ้าง ด้วยลมบ้าง ด้วยไฟบ้าง ถ้าอยากให้ท่วมโลกต้องรอกัปที่ทำลายด้วยน้ำ เขาบอกว่าท่วมถึงพรหมชั้นที่ ๑๕ เหลือชั้นที่ ๑๖ เท่านั้น..!

ถาม : อย่างนี้ท่านปู่พระอินทร์ก็โดนด้วยสิครับ ?
ตอบ : ก็ย้ายที่สิวะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 23-05-2013, 21:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บุคคลที่เข้าปฐมฌานอยู่ คนอื่นสามารถฆ่าคนที่กำลังทรงฌานได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ฆ่าได้สบาย บุคคลที่ทรงฌานอยู่ อำนาจของฌานจะแผ่ออกรอบข้าง บุคคลที่กำลังใจอ่อนจะไม่กล้ากล้ำกรายทำอันตราย แต่บุคคลที่มีมิจฉาสมาธิในระดับที่เข้มแข็งกว่า สามารถจัดการได้สบาย

ถาม : แต่ถ้าเข้านิโรธสมาบัติก็ทำอะไรไม่ได้ ?
ตอบ : กรณีนี้หมดสิทธิ์ เพราะไม่มีอะไรที่สูงกว่านั้น แต่ถ้าแค่ปฐมฌานยังเดี้ยงได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 23-05-2013, 21:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การบริจาคทานโดยการโอนเงินเข้าบัญชีร่วมสร้างพระ วิหารทาน ที่คนเปิดรับบริจาคอยู่ เมื่อโอนเงินเสร็จแล้วแต่ไม่ได้แจ้งเจ้าของบัญชี จะได้อานิสงส์เท่ากับคนที่โอนแล้วเขาแจ้งไหมครับ ?
ตอบ : ได้ตั้งแต่คิดแล้ว อาจจะได้มากกว่าด้วย เพราะคนที่แจ้งอาจจะไม่มีอุเบกขาในทาน กลัวคนไม่รู้ ต้องรีบบอก แต่เราเองอาจจะมีอุเบกขาในทาน ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ ขอให้ได้ทำก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 23-05-2013, 21:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,937 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้ที่ปฏิบัติสมาธิหรือทรงฌาน ถ้าแช่งบุคคลอื่นจะส่งผลหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องถึงขนาดทรงฌานหรอก คนธรรมดาก็ส่งผลได้ เพราะกำลังใจของเราที่มุ่งดีหรือมุ่งร้ายจะมีพลังงานทั้งนั้น ในเมื่อเราตั้งใจแช่งเขา พลังงานที่ไม่ดีก็จะแผ่ออกไป ถ้าช่วงนั้นอกุศลกรรมเข้า โทษก็จะเกิดแก่เขาได้เหมือนกัน แต่ถ้าเข้าสมาธิทรงตัวแล้วไปแช่งก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ถ้าแช่งเขานี่เป็นมิจฉาสมาธิแน่นอน

ถาม : ถ้าเกิดแช่ง ๆ อยู่แล้วเส้นเลือดในสมองแตกตาย ไปที่ไหนครับ ?
ตอบ : ไปด้วยโทสะลงนรกที่เดียว จิตใจเศร้าหมองแบบนั้น..รอดยาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2013 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว