กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-08-2010, 00:49
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,485 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ทรงพรหมวิหารสี่ได้ตลอดเวลา

ถาม : ...เคยบอกว่าถ้าทำพรหมวิหารสี่ แล้วจะมองเห็นเหมือน...(ฟังไม่ชัด)... ?
ตอบ : คือให้อารมณ์ของพรหมวิหารสี่นี้ทรงอยู่ในใจตลอดเวลา

สมมติว่าโยมเริ่มในช่วงเช้า โยมพิจารณาว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้มีปกติก็คือว่า เกิดแก่ เจ็บ ตาย เหมือนกับเรา

เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ไม่มีตัวตนเราเขา ผู้ใดผู้หนึ่งที่จะทรงอยู่ได้ไม่มี ทุกคนล้วนแล้วแต่เวียนว่ายอยู่ในทุกข์ทั้งสิ้น

เราจะเบียดเบียนเขา หรือไม่เบียดเบียนเขา เขาก็ทุกข์ เขาจะเบียดเบียนหรือไม่เบียดเบียนเรา เราก็ทุกข์ ต่างคนต่างทุกข์อยู่แล้ว เราอย่าไปเพิ่มเติมความทุกข์อันนั้นให้แก่ผู้อื่นและตัวเราเลย

ขอให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรมีกรรม และเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

ตั้งใจแผ่เมตตาออกไปในทิศทั้งสี่ จนกระทั่งกำลังใจของเราเยือกเย็นทรงตัวแล้ว

หลังจากนั้นให้จับอานาปานุสติ คือ ลมหายใจเข้าออกของเรา โดยภาวนาต่อไปเลย

พอภาวนาอารมณ์ทรงตัวแล้ว รักษาอารมณ์นั้นเอาไว้ อารมณ์พรหมวิหารสี่ ก็จะทรงอยู่กับเราตลอดเวลา ในขณะที่เรามีสติรู้ลมหายใจเข้า-ออกอยู่

ถ้าหลุดจากลมหายใจเข้าออกเมื่อไร อารมณ์พรหมวิหารสี่ก็จะค่อย ๆ สลายตัวไป

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2015 เมื่อ 10:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-08-2010, 00:55
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,485 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..ถ้าจะทรงให้ได้ทั้งวันอย่างที่ว่า ก็ต้องเกาะอารมณ์ภาวนาอยู่ตลอด คือหลังจากที่แผ่เมตตาจนอารมณ์ใจเยือกเย็น ทรงตัวแล้ว ก็เกาะอารมณ์ภาวนาต่อไปเลย ถ้าทรงเป็นฌาน ๔ ก็จะเข้าถึงอารมณ์สูงสุดของพรหมวิหาร ๔ นั้นได้

ถ้าเราเข้าถึงอารมณ์ของฌาน ๔ หรือยิ่งได้สมาบัติ ๘ ยิ่งดี ให้เกาะตรงจุดนั้นเอาไว้ เราก็จะทรงพรหมวิหาร ๔ ได้ตลอดเวลาที่ทรงฌานอยู่

ถ้าพรหมวิหาร ๔ ทรงตัวแบบนี้อยู่กับเราตลอด เราก็จะไม่โกรธใคร เพราะว่าเรารักเขาเหมือนกับตัวเรา ไม่คิดอยากจะเบียดเบียนใคร สงสารเขาอยากให้เขาพ้นทุกข์เหมือนกัน ถ้าเขาทำอะไรดีก็พลอยยินดีเมื่อเขาอยู่ดีมีสุข ถ้าเขาตกอยู่ในความทุกข์ ถ้าช่วยเหลือเขาจนสุดความสามารถแล้ว ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงปล่อยวางอยู่ในอุเบกขา อารมณ์เหล่านี้จะทรงอยู่กับเราตลอด

ถ้าอารมณ์อุเบกขาทรงตัว ศีลก็จะบริสุทธิ์โดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกัน อารมณ์ตัวโกรธก็จะลดลงไปเรื่อย ๆ

ถ้าหากจิตใจของเรายิ่งเยือกเย็นในพรหมวิหารสี่ได้ตลอด ตัวไฟโทสะก็ดับมอดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสิ้นเชื้อไปเอง

พวกเราส่วนมากเวลาแผ่เมตตาเสร็จแล้ว ไม่ได้ภาวนาต่อให้อารมณ์ทรงตัว หรือว่าถึงภาวนาต่อจนอารมณ์ทรงตัว แต่เมื่อลุกขึ้นแล้ว ไม่รักษาอารมณ์นั้นไว้ ปล่อยทิ้งไปเลย เมื่อเป็นอย่างนี้จึงไม่สามารถที่จะทรงพรหมวิหาร ๔ ได้ตลอดเวลา


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2015 เมื่อ 10:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
พรหมวิหาร


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว