กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 31-03-2024, 18:08
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,642
ได้ให้อนุโมทนา: 216,883
ได้รับอนุโมทนา 747,470 ครั้ง ใน 36,409 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 01-04-2024, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,998 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ช่วงนี้ทองผาภูมิกลายเป็นเมืองในหมอก เพราะว่าผู้เห็นแก่ตัวต่างก็พากันเผาไร่ จนกลายเป็นเผาป่า ลามขึ้นภูเขาเป็นลูก ๆ แม้กระทั่งเขารอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุนไฟก็ลามมาถึง ทำเอาพระภิกษุวัดท่าขนุนไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน ไล่ดับไฟ และทำแนวกันไฟกันทั้งกลางวันและกลางคืน..!

แม้แต่กระผม/อาตมภาพเอง ซักผ้าเสร็จสรรพเรียบร้อย พับเก็บเป็นอย่างดี แต่พอนำมาใส่เมื่อไร เพื่อนฝูงก็จะถามว่า "มึงไปลุยไฟที่ไหนมา ?" เพราะว่า
ทั้งชุดมีแต่กลิ่นควันไฟ แต่ว่าตอนที่ซักตากแล้วเก็บใหม่ ๆ น่าจะเป็นเพราะแรงแดด จึงทำให้ไม่ได้กลิ่นอะไร แต่ความจริงแล้ว มีควันไฟแทรกไปทุกอณู..!

สำหรับวันนี้งานสำคัญก็คืองานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทางวัดท่าขนุนทำถวายท่านทุกปี ด้วยความที่ว่างานใหญ่ และเป็นบุญใหญ่ ควรที่จะรื่นเริงบันเทิงใจในบุญกุศลที่ตนเองทำ แต่ปรากฏว่าโดนญาติโยมส่วนหนึ่งโทรศัพท์มากวนใจ เรื่องความผิดพลาดในการจองวัตถุมงคลและโอนเงินในเว็บไซต์วัดท่าขนุน แล้วรายใหญ่ที่สุดก็ไม่ใช่ใคร หากแต่เป็นน้องสาวของกระผม/อาตมภาพเอง..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ต่อให้เป็นโยมพ่อ โยมแม่ ก็ไม่สามารถที่จะมาขอร้องอะไรกระผม/อาตมภาพได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า
กระผม/อาตมภาพเป็นคนมอบอำนาจให้ใคร ก็จะปล่อยให้บุคคลนั้นทำหน้าที่โดยเด็ดขาด ยกเว้นว่าเห็นนอกลู่นอกทางจริง ๆ จึงจะเข้าไปสะกิด แต่ถ้าโดยปกติแล้ว จะไม่ "ล้วงลูก" ใครเลย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ต่อให้เป็นญาติใกล้ชิดขนาดไหน โทรมาหากระผม/อาตมภาพก็ไร้ประโยชน์ มีแต่จะโดนด่าซ้ำไปเท่านั้น..!

ถ้าหากว่าญาติโยมได้ไปอ่านระเบียบวัดท่าขนุนจะเห็นว่า ระเบียบข้อหนึ่งมีบอกไว้ว่า "ผู้ใดมาอ้างว่าเป็นพวกพ้อง พี่น้อง หรือญาติโยมของพระภิกษุสามเณร แล้วมากระทำความผิด ให้ไล่ออกจากวัดและห้ามรับเข้าวัดอีกตลอดชีวิต" เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ถ้าเราเอาญาติตัวเองอยู่ จะเอาคนอื่นอยู่หมด เนื่องเพราะว่าไม่มีการเห็นแก่หน้าค่าชื่อใคร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2024 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 01-04-2024, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,998 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพทำมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กวัยรุ่น เมื่อถวายการรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ อยู่ ทั้งที่วัดท่าซุงและบ้านสายลม ก็ไม่เคยปล่อยให้ใครมาใช้ชื่อเสียงเรียงนาม เกียรติยศ เกียรติศักดิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ในการอ้างเข้าพบหลวงพ่อท่าน

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตอนนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็อายุ ๖๐ กว่าปีแล้วเช่นกัน โดยเฉพาะท่านเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ตลอด ถ้าปล่อยให้คนเข้ารบกวนโดยไม่รู้เวล่ำเวลา ก็จะทำให้ท่านต้องลำบาก เนื่องเพราะว่าท่านเองมีงานทั้งภายนอกและภายในที่มากจนเราคิดไม่ถึง

เมื่องานวันเกิดของท่านที่บ้านสายลม กระผม/อาตมภาพปล่อยให้คนเข้าไปกราบทำบุญกับท่านได้ครั้งละ ๖ คน และเมื่อกราบทำบุญเสร็จแล้วต้องเดินออกทันที จะไม่ปล่อยให้นั่งคาอยู่อย่างเด็ดขาด แล้วก็มีบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ ในฐานะ "มเหสักโข" ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงคุณนาย นายพลนายพันอะไรก็ตาม มาอ้างตัวว่าเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดของพระเดชพระคุณหลวงพ่อตั้งแต่ยุคนั้นยุคนี้ ขอเข้าไปตอนนี้เลย

กระผม/อาตมภาพต้องชี้ให้ดูที่ข้างประตูด้านหลังของโยมคณะนั้นว่า "เห็นคุณป้าแก่ ๆ ที่ยืนอยู่ข้างประตูนั่นไหมครับ ? นั่นคือแม่ของผมเอง ถ้าแม่ผมเอง ผมยังไม่ให้เข้า คนอื่นอย่ามาเสียเวลามาขอผมเลยครับ..!"

ไม่ทราบเหมือนกันว่าเสียงดังไปถึงหูพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่อยู่ห้องรับแขกได้อย่างไร ท่านจึงพูดออกไมโครโฟนว่า "โยมทั้งหลาย เมื่อเขาตั้งระเบียบแล้วก็ทำตามไป ทุกอย่างจะได้สะดวกคล่องตัวขึ้น" กระผม/อาตมภาพเองก็ยังสงสัยว่า "ทำไมตัวเองถึงเป็นคนที่ยุติธรรมเกินขนาด ?" ชนิดที่หลายต่อหลายคนก็บ่นในเรื่องนี้

เมื่อมาฝึกหัดในการเป็นหมอดู ถึงได้เห็นว่า แม้ตัวเองจะเกิดในราศีเมถุน แต่ลัคนาสถิต ๑๓ องศาราศีตุลย์ คำว่า ตุลย์ หรือตุลานี่คือความเที่ยงธรรม เป็นตัวแทนของความยุติธรรมทั้งปวง แปลว่า
แม้แต่ชะตาเกิดก็บังคับให้คุณต้องยุติธรรม ไม่มีนอกไม่มีในกับใคร

ดังนั้น..สิ่งที่กระผม/อาตมภาพเกลียดมากเลยก็คือ เวลาที่มีคนในวัดบอกกันว่า "คนโน้นเป็นเด็กหลวงพ่อ คนนี้เป็นเด็กหลวงพ่อ อย่าไปแตะ" กระผม/อาตมภาพยกขึ้นมาด่ากระจายไปหลายครั้งแล้วว่า ให้อำนาจไปแล้ว ก็ให้ทำให้เต็มที่ ถ้าคิดว่ายังมีเด็กของคนโน้นคนนี้อยู่ก็ลาออกไป เดี๋ยว
กระผม/อาตมภาพจะหาคนที่มีความยุติธรรม และกล้าทำงานตรงนี้มาทำแทน..!

ขนาดโดนแบบนี้ก็ยังมีอยู่ ว่า "คนนั้นเป็นเด็กหลวงพ่อ คนนี้เป็นเด็กหลวงพ่อ" กระผม/อาตมภาพแทบจะต้อง "เอาตีนก่ายหน้าผาก" เนื่องเพราะว่าตนเองนั้นไม่เคยมองหน้าใครมาตั้งแต่เด็กแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎระเบียบ แต่ว่าทำไมคนแถวนี้ถึงเป็นอย่างนี้กันไปหมดก็ไม่รู้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2024 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 01-04-2024, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,998 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกประเภทหนึ่งที่เกลียดมากเลยก็คือฤๅษีแปลงสาส์น คำว่า ฤๅษีแปลงสาส์นนี้มาจากวรรณคดีเรื่องพระรถ-เมรี หรือที่เรียกภาษาชาวบ้านว่านางสิบสอง เนื่องเพราะว่าพระรถนั้นเป็นลูกของนางสิบสอง ก็คือน้องสุดท้อง คนที่สิบสองที่โดนนางยักษ์จับเอาบรรดาแม่ ๆ ไปขังเอาไว้ แล้วก็ควักลูกตาไป ไม่ต้องการให้ไปไหน แล้วถ้าหากว่ามีลูกเกิดมา ก็ใช้วิธีแบ่งเนื้อลูกกันกิน เพราะว่าตาบอด มองอะไรไม่เห็น

นางสิบสองแกคลอดลูกแล้ว ไม่ยอมให้พี่น้องกินลูกตนเอง จึงได้นำเอาเนื้อที่เก็บเอาไว้ ไม่ยอมกิน มามอบให้กับพี่น้องกินแทน ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ว่า "ตอแหลชัด ๆ..!" สมัยนั้นไม่ได้มีตู้เย็นสักหน่อย จะเก็บเนื้ออีท่าไหนเอาไว้ได้นานขนาดนั้น ?

แต่ว่าเรื่องของวรรณคดีนั้นเป็นไปได้ทุกอย่าง เมื่อพระรถโตขึ้นมา ก็เอาไก่เทวดาไปเที่ยวตีแข่งขัน ได้ข้าวปลาอาหาร ก็มามอบให้กับแม่และป้า ๆ ของตนเอง จนกระทั่งพระราชินีตัวปลอม ซึ่งสั่งขังนางทั้งสิบสองเอาไว้นั้น เห็นว่าท่าจะไม่ดี จึงได้ส่งตัวพระรถ บอกว่าไปหายามารักษาตาของแม่และป้าตนเอง ยานั้นชื่อว่า "มะงั่วรู้หาว มะนาวรู้โห่" ให้ไปเอาได้ที่เมืองยักษ์ แล้วตนเองก็แอบเขียนหนังสือถึงลูกสาวยักษ์ที่ชื่อนางเมรี บอกว่า "ไปถึงเช้าให้กินเช้า ถ้าไปถึงเย็นให้กินเย็น"

แต่ว่าพระรถเดินทางเหนื่อยแล้วไปอาศัยอาศรมพระฤๅษีนอนพัก พระฤๅษีเองก็เหลือเกิน เป็นผู้ถือศีลแท้ ๆ แต่ไม่สามารถที่จะหักห้ามความสงสัยใคร่รู้ได้ เมื่อเห็นกลักใส่หนังสือก็เปิดดู เมื่อเห็นเข้าก็ตกใจ คาดเดาเนื้อหาใจความได้ถูก จึงเปลี่ยนตัวหนังสือใหม่ กลายเป็นว่า "ไปถึงเช้าให้แต่งเช้า ไปถึงเย็นให้แต่งเย็น" กลายเป็นพระรถได้แต่งงานกับนางเมรีเจ้าหญิงยักษ์ ถึงได้ใช้คำว่า "ฤๅษีแปลงสาส์น" แต่ว่าความหมายนั้นไม่ดี ก็คือมักจะแปลงเรื่องไม่ดีให้ดีกับตนเอง

บุคคลทั้งหลายเหล่านี้ ก็มักจะอ้างชื่อเสียงของกระผม/อาตมภาพ ว่ามีความต้องการอย่างนั้นบ้าง มีความต้องการอย่างนี้บ้าง หลวงพ่อชอบแบบนั้นบ้าง ชอบแบบนี้บ้าง ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท่านจะเห็นว่าไม่เคยปรากฏในชีวิตของกระผม/อาตมภาพเลย

แม้กระทั่งเรื่องของการกิน ถ้าหากว่าเดินทาง สิ่งที่อาศัยก็คือข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อ แม้แต่ร้านอาหารก็ยังไม่เข้า เพราะว่าเข้าเมื่อไรก็เจอคนรู้จักเมื่อนั้น แล้วข้าวกล่องร้านสะดวกซื้อก็ไม่ใช่ว่ารสชาติจะดีมากมายอะไรนัก แค่ก็กินกันตายไปวัน ๆ แล้วก็มีบุคคลไปบอกว่า หลวงพ่อชอบอย่างนั้น หลวงพ่อชอบอย่างนี้ ต้องทำแบบนั้น ถึงจะถูกใจหลวงพ่อ ต้องทำแบบนี้ ถึงจะถูกใจหลวงพ่อ ถ้าอยู่ใกล้ ๆ ก็คง "โบก" คว่ำไปแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2024 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 01-04-2024, 01:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,998 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพฝึกฝนตนเองมาตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งแก่ปานนี้ ก็เพื่อลด ละ เลิก กิเลสในตัวเองให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความรักชอบส่วนตัวต่าง ๆ จึงแทบจะไม่เหลืออะไรเลย ญาติโยมจะเห็นว่า แม้แต่วัตถุมงคลที่ชอบและสะสมมาตั้งแต่เด็ก มาสมัยนี้ของบางอย่างหาได้ยากแสนยาก กระผม/อาตมภาพก็ยังเอามาจำหน่ายเพื่อที่จะหาเงิน สร้างสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา

แต่ว่าท่านทั้งหลายก็ยังอุตส่าห์ไปเป็นฤๅษีแปลงสาส์น เพื่อให้คนเห็นว่าใกล้ชิดกับกระผม/อาตมภาพบ้าง เป็นคนสำคัญบ้างในสายตาของคนอื่น บุคคลเช่นนี้ถ้าหากว่าไม่เปลี่ยนแปลงความประพฤติก็อาจจะเจออะไรบางอย่างหนัก ๆ ในระยะเวลาอีกไม่นาน..!

ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่จะมากวนอารมณ์บุญกุศลในวันนี้ โดยเฉพาะผู้ที่โทรเข้ามาเพื่อขอความเมตตา..ต้องขออภัย เพราะว่าหลวงพ่อเล็กฝึกอุเบกขาเอาไว้มาก อะไรที่มอบหมายให้คนอื่นทำแล้วก็จะไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอันขาด ยกเว้นว่าผิดวัตถุประสงค์ หรือมีข้อผิดพลาดใหญ่จริง ๆ เท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะมอบเป็นอำนาจให้บุคคลนั้นตัดสินและสามารถทำตามนั้นได้เลย แล้วถ้าหากว่าทำได้ถูกใจ ก็อาจจะมีคำชมเชยอีกต่างหาก..!

เรื่องของเว็บไซต์วัดท่าขนุนที่ตรงไปตรงมาจนน่าเกลียดนั้น แม้แต่กระผม/อาตมภาพก็โดนมาด้วยตนเอง ในเมื่อเจ้าอาวาสก็ยังโดน ผู้อื่นไม่ต้องไปหวังว่าเขาจะเมตตาปรานี ท่านทั้งหลายต้องอ่านกฎเกณฑ์กติกาให้ดี จะเสียเวลาไปฟ้องร้องอะไรก็ดูท่าจะสู้เขาไม่ได้ เพราะเขาระบุกติกาเอาไว้หมดแล้ว แล้วก็ไม่ได้เขียนตัวเท่ามดเสียด้วย เขียนตัวใหญ่ ตั้งใจให้ทุกคนอ่าน แต่ส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไป เมื่อจองวัตถุมงคลไม่ได้ก็มาโวยวาย ครั้นเขายกหลักฐานขึ้นมาให้ดูชัด ๆ ก็ไม่มีการขอโทษขอโพย หากแต่ทำเป็นเงียบไปเฉย ๆ เสียส่วนใหญ่

จึงขอบอกกล่าวพระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายว่า เรื่องพวกนี้ไม่ต้องเสียเวลามาขอความเมตตา แล้วขณะเดียวกันมีอะไรก็ไปเจรจากันเอง แต่ขอโทษ..เจ้าหน้าที่เว็บไซต์วัดท่าขนุนของเรา น่าจะถนัดด่ามากกว่าถนัดเจรจา..! ถ้าคิดว่าอยู่ดีมีสุขจนเกินไป อยากให้ใครด่าดึงสติบ้าง ก็ลองโทรไปหาก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-04-2024 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว