กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-08-2023, 18:10
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,639
ได้ให้อนุโมทนา: 216,864
ได้รับอนุโมทนา 747,368 ครั้ง ใน 36,404 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 31-08-2023, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,712 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ จากที่พัก กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งไปยังวัดมาบข่า หมู่ที่ ๕ บ้านมาบข่า ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ซึ่งชื่ออำเภอก็ค่อนข้างจะสับสนกับอำเภอพัฒนานิคมของจังหวัดลพบุรีอยู่บ้าง ปรากฏว่าไปถึงแล้วประทับใจมาก เพราะว่าวัดนี้มีศาลาหลังใหญ่มหึมา แค่ดูจากฝ้าซึ่งเป็นไม้ทั้งหลังแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ยอมแพ้ ว่าไม่มีปัญญาที่จะทำอย่างนี้ได้แน่นอน

กระผม/อาตมภาพได้มีโอกาสกราบพระเดชพระคุณพระเทพสิทธิเวที, ดร. (สมอิง โชติกโร ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดเนินพระ เจ้าคณะจังหวัดระยอง ซึ่งรู้จักมักคุ้นกันดี แค่เปิดหน้าให้ดู พระเดชพระคุณท่านก็จำได้ว่าเป็นประธานองค์กรพระอุปัชฌาย์รุ่นที่ ๕๑ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณพระเทพสิทธิเวทีท่านเคยร่วมประชุมกับทางองค์กร ๒ วาระด้วยกัน

ในระหว่างที่รอคณะเดินทางมาร่วมกัน ก็ได้คุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งไม่ว่าที่ไหน ๆ ก็ตาม ถ้าหากว่ามีบรรดาบุคคลซึ่งบาลีเรียกว่า ทุมฺมงฺกุ คือพวกใจด้านหน้าด้าน ไม่สนใจว่าคณะสงฆ์จะเสียหายอย่างไร แล้วทำตามใจของตนเอง ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก เรื่องเหล่านี้ต้องบอกว่า น้ำอยู่ถึงไหน ปลาก็ไปถึงนั่น แล้วบรรดาปลาเหล่านี้ ถ้าเน่าเสียตัวเดียว ก็ทำเอาปลาอื่นเหม็นไปด้วยทั้งข้อง..!

จนกระทั่งคณะเดินทางมาถึง ฉันเพลด้วยอาหารที่ทางเจ้าภาพจัดมาแต่ระดับสุดยอดทั้งนั้น โดยเฉพาะห่อหมกปิ้ง แต่ขอโทษ..ทางด้านนี้เรียก "ห่อหมกย่าง" ตามเคย ก็เป็นอันว่าทางภาคตะวันออก อะไรก็ตามที่ผ่านไฟ เขาเรียกว่า "ย่าง" ทั้งหมด ขนาดทั่วประเทศเรียกว่า "กล้วยปิ้ง" ทางด้านภาคตะวันออกนี้ยังเรียกว่า "กล้วยย่าง" แบบหน้าตาเฉย..!

เมื่อฉันเพลเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปวรเมธี, รศ., ดร. (ประสิทธิ์ พฺรหฺมรํสี, ป.ธ.๙) ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) หน (กลาง) ก็พาพวกเราทั้งหมดไปกราบสักการะพระประธานในโบสถ์ แล้วเดินดูนิทรรศการ ซึ่งทางด้านนี้จัดเอาไว้ให้

กระผม/อาตมภาพยังปรารภกับพระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗ รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดโชติทายการามว่า เห็นความอลังการของจังหวัดจันทบุรีเมื่อวานแล้ว กลายเป็นภาษิตจีนที่ว่า "ผ่านทะเลเห็นน้ำไร้ความหมาย" ซึ่งท่านอาจารย์พระมหาประกอบก็เห็นด้วยทุกประการ เพราะว่าเมื่อวานเฉพาะนิทรรศการอย่างเดียว พวกเราต้องเดินชมกันเป็นชั่วโมงแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-08-2023, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,712 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นได้เวลาแล้วก็เป็นพิธีเปิด กระผม/อาตมภาพรีบทำประเมินด้วยข้อมูลที่หาล่วงหน้ามาก่อน เสร็จสรรพเรียบร้อยก็ให้คู่ประเมิน คือท่านเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี เซ็นคู่ แล้วมอบเอกสารให้ไว้กับท่าน เมื่อถึงเวลารับการแนะนำตัวว่าเป็นคณะกรรมการตรวจประเมินเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็ขออนุญาตออกเดินทางกลับเลย เนื่องเพราะว่าเป็นเวลาเกือบบ่าย ๓ โมงแล้ว การเดินทางจากจังหวัดระยองไปถึงทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีนั้น จะใช้เวลาประมาณ ๗ ชั่วโมง..!

เมื่อออกมา ขึ้นรถได้ก็ต้องรีบเข้าระบบซูมมีตติ้งออนไลน์ เพื่อเข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองระดับเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ ประจำเดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ซึ่งพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ได้ขอโทษขอโพยทุกคนว่า ไม่สามารถที่จะแจ้งการประชุมล่วงหน้าได้ เพราะว่าภารกิจของท่านมีเยอะมาก

โดยเฉพาะช่วงนี้ท่านเป็นประธานอำนวยการกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งต้องเดินทางไปให้กำลังใจในการตรวจประเมินทุกภาค ทุกหน ก็แปลว่า ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ ต้องเดินทางไปทั้งหมด จึงต้องเลือกเอาวันที่ท่านเองสะดวก ซึ่งเราทั้งหลายอาจจะไม่สะดวกก็ได้

ในช่วงท้ายของการประชุมนั้น ก็มีการปรารภถึงเรื่องการที่บุคคลที่ตั้งใจทำงาน ก็ทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีในสายตาของบุคคลบางประเภท ที่เห็นว่าพระสงฆ์เป็น "กาฝากสังคม" บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ภาษีไม่ต้องเสีย บิณฑบาตกินไปวัน ๆ โดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เอาแค่ท่านทั้งหลายซึ่งเห็นแค่การที่กระผม/อาตมภาพทำงานก็พอแล้ว ก็จะรู้คำว่า "ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย" นั้น เป็นการกล่าวหากันชัด ๆ เพราะว่าทุกวันนี้งานที่ทำนั้น ถ้าหากว่าเป็นบริษัทห้างร้าน หรือว่าทำงานกินเงินเดือน กระผม/อาตมภาพน่าจะรวยล้นฟ้า ไม่ต่ำกว่าท่านธนินท์ เจียรวนนท์ไปแล้ว เนื่องเพราะว่าทุ่มเททำงานชนิดหัวไม่วางหางไม่เว้น..!

แต่ในเมื่อภาพพจน์ของพระภิกษุสามเณรของเรา ในสายตาชาวบ้านส่วนหนึ่ง กลายเป็นกาฝากสังคม จึงเป็นภาระหนักที่เราท่านทั้งหลาย จะต้องทำอย่างไรให้ญาติโยมทั้งหลายเห็นว่า การที่ต้องมีพระภิกษุสามเณรเอาไว้ ไม่ใช่เป็นการฝากสังคม หากแต่ว่าเป็นจิตวิญญาณของสังคม เป็นผู้นำในการที่จะพาให้ท่านทั้งหลายมีสติ รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ สิ่งใดที่ทำไปแล้ว เดือดร้อนทั้งตนเองและผู้อื่น ก็พึงละเว้น สิ่งใดที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ก็ควรที่จะรีบกระทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-08-2023, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,712 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น จะมีหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ เนื่องเพราะว่าบุคคลที่สัมผัสแบบผิวเผิน ก็มักจะเข้าใจพระภิกษุสามเณรของเราไปในลักษณะนั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่า สิ่งที่พระภิกษุสามเณรทำอยู่อีกจำนวนหนึ่งนั้น เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติขนาดไหน

ช่วงระยะเวลา ๓ วันในการประเมินที่จังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดระยอง ถึงแม้ว่าหลายสถานที่ไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน ก็ยังมีญาติโยมที่พยายามหาข่าว แล้วก็ไปดักทำบุญ จะเห็นได้ว่าญาติโยมทั้งหลาย ความจริงแล้วยังเป็นผู้ที่ปรารถนาในบุญในกุศลเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้น ต้องการบุคคลที่ไว้วางใจได้ ว่าถึงเวลาแล้วก็นำเอาเงินทองของเขาไปก่อประโยชน์ให้เกิดแก่พระพุทธศาสนา ก่อให้เกิดประโยชน์แก่คณะสงฆ์โดยส่วนรวมอย่างแท้จริง เขาจึงได้พยายามที่จะเสาะหา แล้วก็ดิ้นรนเพื่อที่จะมาทำบุญกับกระผม/อาตมภาพให้ได้

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ต้องยกให้เป็นความดีของครูบาอาจารย์ ก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งอบรมพวกกระผม/อาตมภาพมาตั้งแต่ต้นว่า ให้รับเงินรับทองที่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาถวาย แต่ว่าจะไม่เก็บไว้เป็นประโยชน์เฉพาะตน หากแต่ว่าให้ผลักลงในกองบุญการกุศล เพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้แก่ผู้ถวายให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป เงินของปีนี้ อย่าใช้ให้ถึงปีหน้า ถ้ามีเงินจะถึงปีหน้า ให้คิดหาโครงการที่ใหญ่กว่าเงินเอาไว้ เราจะได้ไม่คิดว่าเงินทั้งหลายที่เข้ามานั้นเป็นของเรา

เรื่องพวกนี้ กระผม/อาตมภาพนั้นทำได้ดี จนกระทั่งคณะสงฆ์แทบจะบ่นทุกครั้งเมื่อส่งบัญชีประจำปี เนื่องเพราะว่าจะมีตัวเลขติดลบระดับเป็นร้อยล้าน..! ที่คนอื่นเห็นแล้วอยากจะเป็นลมตาย แต่ว่าวัดท่าขนุนยังอยู่ได้อย่างสบาย แม้กระทั่งหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิยังบอกว่า "มีแต่วัดท่าขนุนวัดเดียวที่ทำแบบนี้ได้ เหตุเพราะว่าท่านมีเงินส่วนตัวที่เอาลงไปโปะให้กับส่วนรวม" ดังนั้น..ท่านทั้งหลายอาจจะติดหนี้สงฆ์กัน แต่กระผม/อาตมภาพนั้น มีสงฆ์เป็นหนี้อยู่เสมอ เพราะว่าใช้จ่ายเกินไปถึงระดับนั้นแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-08-2023, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,712 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเอามาเป็นเรื่องอำนวยความสุขความสะดวกสบายส่วนตัว บุคคลที่มีเงินส่วนตัวระดับร้อยล้าน ก็น่าจะหาความสุขใส่ตัวได้ไม่ใช่น้อย แต่ครูบาอาจารย์ไม่เคยสอนเอาไว้อย่างหนึ่ง จิตสำนึกของความเป็นพระภิกษุสามเณร ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจัดพวกเราเอาไว้ในระดับเดียวกับขอทานอีกประการหนึ่ง เราต้องระลึกอยู่เสมอว่าเรามีสถานภาพเป็นขอทาน ขอทานนั้นจะต้องยากจน คนถึงจะเห็นใจและให้ความช่วยเหลือ ถ้าหากว่าทำตัวร่ำรวยเกินชาวบ้านเขา แล้วใครเขาจะให้ความช่วยเหลือ..?!

ในเมื่อเป็นดังนี้ สิ่งหนึ่งประการใดที่รับมา ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง หรือว่าข้าวของก็ตาม ทางวัดท่าขนุนจะผ่องถ่ายออกไปให้เป็นประโยชน์แก่วัดวาอารามอื่น ๆ ตลอดจนกระทั่งโรงเรียนหรือว่าญาติโยมที่ได้รับความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด แทบจะไม่เหลืออะไรเอาไว้ให้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเลย เนื่องเพราะว่าตัวเองนั้นก็ฉันแค่วันละ ๒ มื้อ หลังเพลไปแล้ว แม้แต่น้ำปานะก็ไม่เอา จึงไม่มีความจำเป็นอย่างไรเลยที่จะต้องไปเก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้

เมื่อจำหน่ายจ่ายแจกออกไปแล้ว ก็ยังเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม บุคคลที่เดือดร้อนก็ได้อาศัยบรรเทาความเดือดร้อนของตน ตัวเราก็ได้ตัดละ ความโลภในจิตในใจของตนเองลงไป ถ้าหากว่าเรามาเน้นในเรื่องของศีลและปฏิบัติภาวนา โอกาสที่จะหลุดพ้นก็มีง่ายขึ้น เพราะว่าสิ่งที่มาถ่วงให้รุงรัง ให้รก ให้รำคาญ จนกระทั่งเดินทางสู่ทางไกลได้ยาก ก็มีน้อยกว่าคนอื่นเขา

สำหรับวันนี้คงจะต้องเดินทางกันอีกหลายชั่วโมงกว่าที่จะถึงวัดท่าขนุน จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2023 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว