กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-08-2023, 19:33
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,699 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-08-2023, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,210 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันตรวจประเมินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ในเขตปกครองคณะสงฆ์ระดับหน (กลาง) สังกัดคณะสงฆ์ภาค ๒ จึงต้องวิ่งไปยังวัดอ่างทองวรวิหาร ถนนเทศบาล ๑ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทองเสียก่อน เนื่องเพราะว่าท่านเจ้าคุณประเวศ โ€“ พระสุวรรณวชิราทร เจ้าอาวาสวัดอ่างทองวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ท่านปวารณาเป็นเจ้าภาพ ถวายภัตตาหารเพลแก่คณะกรรมการทั้งหมด

เมื่อไปถึงกระผม/อาตมภาพก็ถวายมุทิตาสักการะ ที่ท่านได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระราชาคณะที่พระสุวรรณวชิราทร ด้วยการถวายพระขุนแผนเคลือบหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ ให้ท่าน ๑ องค์ ซึ่งท่านเจ้าคุณประเวศรับเอาไว้ด้วยความยินดี เพราะว่าคนอื่นส่วนมากแล้วจะถวายเป็นปัจจัย ซึ่งท่านบอกว่าการคบหาสมาคมนั้น เราคบกันด้วยใจ ไม่ใช่คบกันด้วยเงิน กระผม/อาตมภาพฟังดูแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก

แต่ว่าด้วยความที่ตนเองก็ไม่นิยมที่จะคบหาใครด้วยเงินเช่นกัน จึงได้ถวายเป็นวัตถุมงคลแทน และเมื่อผู้รับได้เห็นก็ดีอกดีใจ เนื่องจากว่าพระขุนแผนเคลือบ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาตินั้น ราคาในปัจจุบันทะยานไปสูงมาก ใครก็ตามที่ไม่สามารถจะหาพระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคลที่ราคาขึ้นไปจนหูดับตับไหม้ได้ ก็จะมาหาพระขุนแผนเคลือบ วัดพระญาตินี้ไปใช้แทน

หลังจากนั้นไม่นาน พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) ประธานคณะกรรมการอำนวยการกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็เดินทางมาถึง จึงได้ออกไปยังอุโบสถวัดอ่างทองวรวิหาร ทำการเจริญพระพุทธมนต์ อธิษฐานกันตามอัธยาศัย แล้วก็ออกไปเดินดูสถานที่ ซึ่งทางด้านท่านเจ้าคุณประเวศตั้งใจที่จะสร้างให้เป็นห้องพักของพระภิกษุสงฆ์ หรืออาจจะใช้เป็นห้องเรียนหรือห้องกรรมฐานได้ เป็นศาลาหลังใหญ่โตมหึมาทีเดียว

เมื่อชมกันจนกระทั่งใกล้เวลาแล้ว ก็ตรงไปยังสถานที่ซึ่งจัดภัตตาหารถวายรอเอาไว้ ปรากฏว่าแม้จะเป็นฤดูกาลนี้ แต่หลวงพ่อเจ้าคุณประเวศก็ยังอุตส่าห์ไปหาทุเรียนมาถวายแก่คณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หน (กลาง) ได้ เพียงแต่ว่าทุเรียนของท่านน่าจะเป็นทุเรียนลงยันต์ เนื่องเพราะว่ามาในลักษณะที่เอานิ้วจิ้มแล้วไม่ยุบเลย จึงกลายเป็นลาภปากของบรรดาคนขับรถแทน เพราะท่านประกาศไว้ว่าเหลืออะไรให้ขนกลับไปด้วย ท่านจะได้ไม่ต้องมีภาระ

ก็เห็นบรรดาคนขับรถคว้าทุเรียนบ้าง ไก่ทอดยี่ห้อดังขนาดเป็นถังบ้าง ขึ้นรถไปเป็นอาหารตอนเย็น ซึ่งพวกกระผม/อาตมภาพไม่เคยชินกับการกินอาหารเย็นมาเนิ่นนาน จนลืมไปแล้วว่าบางคนเขายังต้องกินกันอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-08-2023, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,210 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังสถานที่ตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของคณะสงฆ์ภาค ๒ จังหวัดอ่างทอง ก็คือบ้านไชโย หมู่ที่ ๓ ตำบลไชโย อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง โดยที่นัดตรวจกันที่วัดไชโยวรวิหาร ที่มีหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ หรือที่เรียกกันว่าหลวงพ่อโต วัดไชโย ที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) มาสร้างเอาไว้

เมื่อรอจนกระทั่งคณะกรรมการมาถึงพร้อมแล้ว ก็เข้าไปเจริญพระพุทธมนต์ถวายหลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ และรูปปั้นหลวงพ่อโต วัดระฆัง องค์ใหญ่ในวิหาร เมื่ออุทิศส่วนกุศลกันตามอัธยาศัยแล้ว ก็เดินดูงานนิทรรศการที่จัดเอาไว้ เพียงแต่ว่าอากาศค่อนข้างที่จะร้อน เมื่อถ่ายรูปหมู่กันเสร็จเรียบร้อย ก็ขึ้นสู่ศาลาเพื่อทำการตรวจประเมิน ปรากฏว่าศาลาทั้งหลังนั้น ทางด้านเจ้าอาวาสได้ติดเครื่องปรับอากาศให้ ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าโชคดีมากที่มาตรวจประเมินยังที่นี้..!

เมื่อถึงเวลา ทางด้านพิธีกรก็นิมนต์พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. ประธานคณะกรรมการอำนวยการกลาง จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจริญพระพุทธมนต์สรรเสริญในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ แล้วก็เป็นการแนะนำตัวคณะกรรมการในการตรวจประเมิน และกล่าวถึงที่มาที่ไปในการตรวจประเมินครั้งนี้ จากนั้นก็มีเด็ก ๆ มากล่าวถึงประโยชน์ของการเจริญสมาธิ ทำให้เรียนเก่ง และมีงานแสดงในลักษณะของนางรำ ในเพลงหมู่บ้านรักษาศีล ๕ แล้วจึงเป็นการประเมินทั้ง ๔ ฝ่าย

กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบการตรวจประเมินในฝ่ายที่ ๓ เวลามีน้อย จึงให้คำแนะนำไปว่า การที่เอานักเรียนซึ่งเรียนเก่งให้มาบอกกล่าวเรื่องประโยชน์ของการทำสมาธิแล้วช่วยให้เรียนเก่งก็เป็นเรื่องดี เพียงแต่ว่าเด็กที่มานั้นไม่ได้ทำสมาธิด้วยตนเอง จึงไม่สามารถที่จะบอกกล่าวได้อย่างถูกต้อง นอกจากอ่านโพยที่ครูบาอาจารย์เขียนมาให้ แล้วครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ปฏิบัติสมาธิ ก็เลยเขียนมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ..!

เราทำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ จึงไม่ควรที่จะทำในลักษณะอย่างนี้ เพราะเหมือนอย่างกับมาหลอกลวงกัน โดยเฉพาะกรรมการแต่ละฝ่ายนั้น มีความชำนาญในงานของตัวเองอยู่แล้ว แค่พิจารณาดูก็รู้ว่าสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นของจริงหรือว่าของปลอม

แล้วก็ได้ฝากงานถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทองว่า วัดไชโยวรวิหารนั้น ทำงานทุกอย่างอยู่ในลักษณะส่งเสริมการปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว ทำไมแค่เอกสารชุดเดียว ไม่สามารถที่จะดำเนินการให้ทางวัดไชโยวรวิหารเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอ่างทองได้ ขอให้ช่วยเร่งรัด เพื่อที่ถึงเวลามีการตรวจประเมินแล้ว จะได้ว่าจะตรงกับเกณฑ์กติกา ได้รับคะแนนเต็ม ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-08-2023, 01:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,210 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

และขอฝากถึงทางด้านวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง ที่กลายเป็นคนเก่าคนแก่ ก็คือนางสาวพรพรรณ กลิ่นเกษร อดีตผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งย้ายไปเป็นวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร ไม่นึกว่าเพิ่งจะได้รับการโยกย้ายมาเป็นวัฒนธรรมจังหวัดอ่างทอง เมื่อเป็นคนคุ้นเคยกัน จึงฝากให้ทางคุณพรพรรณว่า ให้ช่วยขุดเอาสิ่งที่เป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมมาแปรเป็นมูลค่าให้ได้ทั้งหมด เมื่อชาวบ้านอยู่ดีกินดีแล้ว เขาก็จะมีอารมณ์เข้าวัด รักษาศีล ปฏิบัติธรรมกันเอง

เพียงแต่ว่าในงานส่วนของกระผม/อาตมภาพนั้น ต้องบอกว่าเป็นงานคนละ "เลเวล" กัน เนื่องเพราะว่าโครงการหลักก็คือ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ซึ่งเน้นในส่วนของเบญจศีลและเบญจธรรม ก็คือ

เมื่อเว้นจากการฆ่าสัตว์แล้ว ต้องปฏิบัติในหลักเมตตากรุณาอย่างไร ?

เมื่อเว้นจากการลักทรัพย์แล้ว ต้องกระทำในสัมมาอาชีพอย่างไร ?

เมื่อเว้นจากการประพฤติผิดในกามแล้ว จะต้องมีกามสังวรอย่างไร ?

เมื่อเว้นจากการโกหกหลอกลวงแล้ว ต้องพูดคำสัตย์คำจริงอย่างไร ?

แล้วท้ายที่สุด เมื่อเว้นจากการดื่มสุรา หรือว่าเสพยาเสพติดแล้ว จะต้องมีการประพฤติปฏิบัติเพื่อให้ห่างจากสิ่งทั้งหลายเหล่านี้อย่างไร ? ซึ่งในส่วนนี้อยู่ในระดับของศีลเท่านั้น


แต่ว่าสำนักปฏิบัติธรรมนั้น อยู่ในระดับของสมาธิ ซึ่งสูงขึ้นมาอย่างชนิดที่เรียกว่าคนละระดับหรือคนละขั้นกัน แล้วถ้าหากว่าสามารถไปถึงปัญญาได้ ก็ยิ่งห่างไกลจากศีลมากขึ้นไปอีก

ดังนั้น..ในการประเมินตามเกณฑ์ ถ้าหากว่าจะเอากันจริง ๆ แล้ว ก็ไม่สามารถที่จะให้คะแนนมากได้ แต่ในเมื่อสิ่งที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นทำ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาศีลและปฏิบัติธรรมก็ดี หรือว่าในลักษณะของการกระทำสัมมาอาชีพต่าง ๆ ก็ตาม ก็ถือว่ามีผลข้างเคียงของการปฏิบัติธรรมนั่นเอง จึงจำเป็นที่จะต้องควานหาคะแนนมาให้เขาให้มากที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-08-2023, 01:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,210 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าเราจะไปหวังให้ชาวบ้านปฏิบัติธรรม จนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ก็เป็นการตั้งความหวังไว้มากจนเกินไป หรือถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมจนกลายเป็นพระอริยเจ้าไปเลย ก็เป็นการตั้งความหวังที่สูงจนเกินเอื้อม เรื่องทั้งหลายเหล่านี้อาจจะต้องมีการนำเข้าที่ประชุม ซึ่งคณะกรรมการดำเนินงานหน (กลาง) นั้น นัดประชุมในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะออกตรวจประเมินในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าปรารภแล้วก็ต้องตามแต่ท่านประธานฯ จะเห็นสมควรว่า ในการตรวจประเมิน ซึ่งผู้บังคับบัญชาใหญ่ก็คือพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ท่านได้มีมติให้นำเอางานหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เข้าไปในสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดทุกแห่ง

กระผม/อาตมภาพได้ประท้วงไปตั้งแต่แรกแล้วว่า สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดนั้นเขาเริ่มกันที่ศีล ๘ ถ้าหากว่าให้ลดลงไปเหลือแค่ศีล ๕ ก็จะอย่างไรอยู่ ? จึงทำให้พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลางนั้น เปลี่ยนแนวคิดว่า ให้หากลุ่มบุคคลรักษาศีล ๕ ในหมู่บ้านนั้น ๆ เข้ามาปฏิบัติธรรมเป็นประจำ อยู่ในลักษณะของการทำจนเป็นชีวิตประจำวัน เมื่อถึงเวลาก็นำกลุ่มบุคคลนี้มาเป็นตัวอย่างในการรักษาศีล ๕ ของหมู่บ้าน ก็คือเวลาเข้าปฏิบัติธรรมในวัดก็รักษาศีล ๘ เมื่อกลับเข้าสู่บ้านเรือน ก็รักษาศีล ๕ จะทำให้โครงการนี้สามารถดำเนินต่อไปได้

แต่ในเมื่อสิ่งที่กระผม/อาตมภาพประเมินนั้นอยู่ในคนละระดับกัน ถ้าจะวัดกันตามเกณฑ์จริง ๆ ก็ไม่น่าจะผ่าน จึงต้องเอาแค่ในเกณฑ์ว่า ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับเบญจศีลและเบญจธรรม ก็จะประเมินให้ในฐานะที่ว่า ได้กระทำในส่วนของการปฏิบัติธรรมแล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2023 เมื่อ 19:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว