กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-06-2023, 18:11
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,628
ได้ให้อนุโมทนา: 216,934
ได้รับอนุโมทนา 747,840 ครั้ง ใน 36,422 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-06-2023, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เจริญพระชนมายุ ๙๖ พรรษา เกล้าฯ ในนามคณะศิษย์วัดท่าขนุน ขอกราบขอบารมีพระสงเคราะห์ ขอให้พระเดชพระคุณท่านเจ้าพระคุณฯ เจริญพระชนมายุยิ่ง ๆ ขึ้นไป มีพระพลานามัยแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่คณะสงฆ์ไทยไปชั่วกาลนาน

สำหรับวันนี้ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หมู่ที่ ๑ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมงานครบรอบ ๔๐ ปีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อมกับรับคำสั่งแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคณบดีคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และรับโล่รางวัลคนดีศรีสังคม

ซึ่งในงานนี้พระเดชพระคุณพระธรรมรัตนาภรณ์ (สมศักดิ์ โชตินฺธโร ป.ธ.๕), ดร. ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต (พระอารามหลวง) ได้รับอาราธนาให้เป็นประธานในงาน โดยพระเดชพระคุณพระราชวัชรสารบัณฑิต (ประสาร จนฺทสาโร), รศ.ดร. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณสมศักดิ์นั้น ท่านเรียนปริญญาเอกการจัดการเชิงพุทธรุ่นที่ ๑ กระผม/อาตมภาพเรียน
ปริญญาเอกการจัดการเชิงพุทธ รุ่นที่ ๒ แต่ว่ามาจบพร้อมกัน จึงกลายเป็นเพื่อนร่วมรุ่น มจร.ปริญญาเอก รุ่นที่ ๑๑ ด้วยกัน เมื่อได้พบหน้าก็ยังทักทายกันด้วยความดีอกดีใจ

ส่วนอีกท่านหนึ่ง ที่แทบจะกระโดดกอดเลยก็คือ หลวงพ่อแดง - พระครูพิศิษฎ์ประชานาถ (ประยูร นนฺทิโย), ดร. รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ซึ่งหลวงพ่อแดงนั้น แม้ว่าจะอายุกาลผ่านวัยถึง ๗๓ ปีแล้ว แต่ว่ายังมีความสุขกับการทำงานสาธารณสงเคราะห์ทั่วประเทศไทย ใครไปใครมา ขอความช่วยเหลืออะไร ท่านไม่เคยปฏิเสธ จะมากจะน้อยอย่างไรก็ต้องมีช่วยเขาเสมอ จนได้รับฉายาจากหนังสือพิมพ์เรียกว่า "นักบุญแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2023 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-06-2023, 01:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพนั้นจบปริญญาเอกการจัดการเชิงพุทธรุ่นที่ ๒ แต่ว่าหลวงพ่อแดงนั้นจบรุ่นที่ ๗ ถือว่าห่างกันถึง ๕ รุ่น แต่ว่าด้วยความที่จบสาขาเดียวกัน รับหน้าที่พระสังฆาธิการระดับรองเจ้าคณะอำเภอเหมือนกัน อยู่ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลางเหมือนกัน การงานที่กระทำจึงคล้าย ๆ กัน จนกลายเป็นเครือข่ายกันไปโดยปริยาย

แม้ว่าจะมีโอกาสพบกันในกลุ่มไลน์ทุกวัน แต่ก็สู้พบหน้าตัวจริงกันไม่ได้ แล้วทาง มจร.ก็ยังเมตตาจัดให้สองเกลอนั่งข้างเคียงกันอีก รับรางวัลต่อเนื่องกันด้วย จึงกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาผู้ที่เข้าไปร่วมงานทั้งหลาย

แต่ว่าเมื่อเสร็จจากการรับรางวัลแล้ว กระผม/อาตมภาพไม่ได้อยู่ร่วมงานต่อ เนื่องเพราะว่ามีนัดกับหมอฟันเอาไว้ เพราะว่าฟันที่อุดเอาไว้นั้นมีอาการคลอน ซึ่งน่าจะเกิดจากการฉันน้ำร้อนแล้วทำให้วัสดุอุดฟันหลวมก็เป็นได้ ซึ่งทฤษฎีนี้ ถ้าหากว่าเป็นหมอทั่ว ๆ ไปก็คงไม่ยอมรับ แต่กระผม/อาตมภาพสังเกตเอง ว่าถ้าหากว่าอุดฟันเอาไว้แล้วฉันน้ำร้อนค่อนข้างอุณหภูมิสูง วัสดุที่อุดฟันมักจะคลอนแล้วก็หลุดในระยะเวลาอันไม่นาน

จึงต้องไปรบกวนหมอเพชร (ทันตแพทย์เพชรไพฑูรย์ จันทร์ชูเชิด) เพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่มหาอำพัน - ท่านเจ้าคุณพระภาวนาปัญญาวิสุทธิ์ (อำพัน อาภรโณ บุญ-หลง) ป.ธ. ๖ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ผู้เป็นครูบาอาจารย์รูปหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพเคารพรักมากเป็นพิเศษ หมอเพชรได้ใกล้ชิด ถวายการรับใช้หลวงปู่มหาอำพันมาด้วยกัน เมื่อกระผม/อาตมภาพไปบวช ท่านจึงได้ปวารณาทำฟันให้มาโดยตลอด ต้องขอเจริญพรขอบคุณเอาไว้ในที่นี้ด้วย

เนื่องเพราะว่าการที่หมอเพชรช่วยสงเคราะห์ทำฟันให้กระผม/อาตมภาพนั้น นอกจากไม่ได้เก็บสตางค์แล้ว ในฐานะที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ หมอเพชรยังต้องเอาเงินส่วนหนึ่งไปมอบให้กับทางคลีนิค เพราะว่าเป็นการตกลงกันตามสัญญาร่วมงาน ว่าคนไข้เขามาจะต้องแบ่งให้ทางคลีนิคเท่าไร นอกนั้นยังไม่พอ หมอเพชรส่วนใหญ่ยังถวายค่ารถให้เดินทางกลับอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพเกรงใจมาก ถ้าไม่ใช่ว่าไม่ไหวจริง ๆ ก็พยายามที่จะไม่ไปรบกวน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2023 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-06-2023, 01:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนพระภิกษุสามเณรทั้งหลายว่า ให้ทำตัวเหมือนกับแมลงผึ้ง ก็คือเมื่อนำน้ำหวานและเกสรดอกไม้ไป ก็ไม่ทำให้ดอกไม้นั้นต้องชอกช้ำ ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้น เห็นญาติโยมหลายต่อหลายคนที่ปวารณากับพระภิกษุรูปนั้นรูปนี้เอาไว้ แล้วภายหลังก็ต้องไปขอถอนการปวารณา เพราะว่าท่านขอสิ่งนั้นสิ่งนี้พร่ำเพรื่อมาก จนกระทั่งกลายเป็นการรบกวนญาติโยมมากจนเกินไป

กระผม/อาตมภาพเองนั้น แม้ว่าจะมีญาติโยมปวารณาเอาไว้ถึง ๓๐ กว่าราย แต่ละรายนั้น ถ้าหากว่าเอ่ยชื่อเอ่ยนามสกุลมา จะต้องมีคนรู้จักเป็นจำนวนมาก แต่ว่ากระผม/อาตมภาพก็ไม่เคยรบกวนด้วยการร้องขอใด ๆ เลย

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า พระภิกษุของเรานั้น เมื่อมีอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค พอแก่การแล้ว การที่จะรบกวนญาติโยมด้วยเรื่องอื่นก็ไม่มี ยกเว้นกองบุญการกุศลใด ๆ ที่ตั้งใจจะทำ ก็จะมีเจตนาที่ชัดเจน ประกาศให้ญาติโยมทั้งหลายร่วมบุญได้ ถ้าหากว่าได้ปัจจัย หรือว่าวัสดุเงินทองครบถ้วนแล้ว ก็จะปิดการร่วมบุญไปทันที

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพนั้นระมัดระวังเป็นอย่างสูง จะเห็นได้ว่า กระผม/อาตมภาพนั้นแทบจะไม่มีการไปรบกวนใครเป็นการส่วนตัว จะไม่ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ใดผู้หนึ่งเลย แม้ว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะยิ่งใหญ่ร่ำรวยก็ตาม แม้กระทั่งทุกวันนี้ เพื่อนพระสังฆาธิการหลายรูป ก็ยังเคยปรารภว่า "อาจารย์เล็ก..ช่วยแนะนำลูกศิษย์รวย ๆ ให้ผมสักสองสามคนสิ ผมจะได้ทำงานได้สะดวกขึ้น"

กระผม/อาตมภาพบอกกับทุกท่านว่า "กระผมเองไม่เคยรบกวนใครเลย นอกจากญาติโยมมาทำบุญกันเองตามศรัทธา โดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นรายย่อย ๆ มาในลักษณะ ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาทนี่จะดีใจมาก เพราะว่างานใดงานหนึ่งถ้าต้องการงบประมาณมาก แล้วท่านทั้งหลายช่วยกันทำในลักษณะแบบนี้ แปลว่ามีบุคคลที่ได้ร่วมบุญกันเป็นจำนวนมาก"

แต่ถ้าหากว่าเราบอกบุญกับบุคคลที่มีฐานะดี บางทีท่านก็ทำบุญคนเดียว คนอื่นไม่มีโอกาสที่จะได้ร่วมบุญด้วย กระผม/อาตมภาพจึงโดนผู้ปวารณาต่อว่าอยู่เสมอว่า "ถึงเวลาคนโน้นก็ทำบุญ คนนี้ก็ทำบุญ แล้วเมื่อไรกระผมจะได้ทำบ้าง ?" จนต้องบอกไปว่า "ในส่วนที่เหลือจากคนอื่นก็เป็นของคุณทั้งหมด เนื่องเพราะว่าที่เขาทำบุญมา อย่างไรเสียก็ไม่พออยู่แล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2023 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-06-2023, 01:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ขอให้ท่านที่เป็นพระภิกษุ สามเณร หรือว่าแม่ชี ได้โปรดระมัดระวังเอาไว้ เพราะว่าการเจริญศรัทธาญาติโยม กับการประทุษร้ายตระกูลของพระพุทธเจ้าด้วยการประจบคฤหัสถ์นั้น มีเส้นกั้นเพียงบาง ๆ เท่านั้น ถ้าหากว่าท่านขยับผิดท่าเมื่อไร ก็จะกลายเป็นว่า ท่านประจบคฤหัสถ์ไปทันที..!

กระผม/อาตมภาพเห็นพระสังฆาธิการหลายท่าน ถึงเวลาเจอบุคคลผู้ร่ำรวย อยู่ในลักษณะ "ขาใหญ่" ที่ให้การอุปถัมภ์ค้ำชูวัด แล้วไปพินอบพิเทา ก็ยังรู้สึกไม่ดีเลย เพราะว่าในความเป็นพระภิกษุ เป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส ไม่ใช่ต้องไปลดตัวลงในลักษณะแบบนั้น การที่เราไม่ลดตัวลงไปนั้นไม่ใช่มานะถือตัวถือตน หากแต่เป็นการระมัดระวัง ไม่ไปประทุษร้ายตระกูลของพระพุทธเจ้า

เนื่องเพราะว่าในฐานะของปูชนียบุคคล เราเป็นบุคคลที่มีศีลมากกว่าฆราวาสหลายเท่า ฆราวาสชั้นดีอย่างเก่งก็มีแค่ศีล ๘ แต่ว่าพระภิกษุมีศีลอย่างต่ำสุด ๒๒๗ ข้อ ก็แปลว่าอย่างน้อย ๆ มีมากกว่าญาติโยม ๒๑๙ ข้อ..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราไปพินอบพิเทา เอาอกเอาใจญาติโยม ก็เหมือนกับโลกตีลังกากลับข้าง เหมือนกับผู้ใหญ่ไปเอาใจเด็กทารก ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ เพราะว่าเด็กทารกนั้นต่างหาก ที่จะต้องพึ่งพิงผู้ใหญ่ทุกอย่าง

ถ้ามองในลักษณะแง่นี้ ทุกท่านก็จะเห็นอย่างชัดเจน ว่าการที่หลายท่านลดตัวลงไปประจบเอาใจญาติโยมนั้น สร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง เพราะว่าญาติโยมที่ได้รับการเอาอกเอาใจ เมื่อไปเจอวัดที่ท่านระมัดระวัง ไม่ยอมเอาใจ ก็จะรู้สึกไม่ดี อาจจะมีการตำหนิติเตียนท่านที่ปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัยไปด้วย มีแต่จะทำให้เกิดโทษเปล่า ๆ แล้วถ้าหากว่าท่านติดอยู่กับการเอาอกเอาใจนั้น เมื่อถึงเวลาเข้าไปก็รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ มีอำนาจเหนือกว่าพระภิกษุสามเณร แบบนั้นก็จะก่อให้เกิดโทษกับตัวท่านเองหนักเข้าไปอีก..!

เป็นเรื่องที่จะให้ญาติโยมระวังเองก็ยาก เราที่เป็นพระภิกษุ สามเณร และแม่ชีจำเป็นต้องช่วยกันระมัดระวัง อย่าให้สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้น อย่างน้อย ๆ ก็อยู่ในแนวคิดที่ว่า ถ้าเราไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ ก็อย่าทำให้พระพุทธศาสนาต้องพังลงไปเพราะมือของเราเองเลย..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2023 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว