กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-06-2023, 20:00
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,648
ได้ให้อนุโมทนา: 216,888
ได้รับอนุโมทนา 747,524 ครั้ง ใน 36,418 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-06-2023, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เลขาฯ บอส (พระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม) ไม่อยู่ ตอนแรกท่านตั้งใจจะลาไป "บึงลับแล" แต่โชคดีที่เปลี่ยนใจได้ทัน เพราะว่าหน้านี้ฝนลงแล้ว ไมยราบเลื้อยจะงอกงามมาก กระผม/อาตมภาพเองเคยเจอมาแล้ว สถิติกิโลเมตรละ ๒ ชั่วโมง..! เดินซ้ายก็เกี่ยว เดินขวาก็ติด ต้องถางต้องฟันไปตลอดทาง

ปกติเข้าป่าบ้านเราเขาเลือกเข้ากันหน้าแล้ง แต่คำว่าหน้าแล้งในที่นี้ก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะว่าถึงจะเป็นเดือน ๔ เดือน ๕ ก็ตาม อยู่ในป่ามีสิทธิ์เจอฝนได้ตลอดเวลา บางทีพระที่ไปด้วยกัน เข้าไปในป่าห้วยขาแข้ง เห็นเนินทรายกลางลำห้วยน่านอนมาก จะไปปักกลดที่นั่น กระผม/อาตมภาพต้องห้ามเอาไว้ เพราะว่าถ้าเหนือน้ำมีฝนตกสักชั่วโมงก็เป็นเรื่องเลย ถึงเวลาน้ำหลากมานี่เราจะหนีไม่ทัน..!

เวลาเข้าป่า ในเรื่องของสัตว์ป่านั้นมีอันตรายน้อยกว่าภัยธรรมชาติ ตัวกระผม/อาตมภาพเองเจอมาแล้ว ทั้งน้ำป่า ไฟป่า พายุลูกเห็บ แล้วรอดมาได้ ก็ต้องบอกว่าเวรกรรมยังมีมากอยู่ โดยเฉพาะอยู่ในป่า เวลาฝนตกถ้าหาที่บังไม่ได้ บางทีต้องนั่งยอง ๆ กางกลดอยู่กลางป่านั่นแหละ แล้ว
เวลาฝนตกหนัก ๆ กลดก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย

ทุกท่านอาจจะเห็นว่ากลดก็คือร่ม ต้องกันฝนได้..ไม่จริงครับ เวลาฝนเม็ดใหญ่ ๆ ตกลงมาจะทะลุกลด เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำ ต้องใช้วิธีเอาบาตรตั้งพื้นแล้วก็นั่งทับบาตรไว้ กางกลดไว้เป็นเพื่อน กางเต็มที่ก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้ากางเต็มที่ ฝนตกก็จะหยดทะลุ ต้องกางไว้ครึ่ง ๆ ให้ลาดเอียงเยอะ ๆ หน่อย ถึงเวลาฝนตกลงมาก็จะได้ไหลผ่านลงไปง่าย ๆ

เรื่องของสัตว์ป่าไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวมีแค่สัตว์เลื้อยคลาน พวกแมงป่อง ตะขาบ หรือว่างู พวกสัตว์ใหญ่อย่างเสืออย่างช้าง ไม่มีอะไรน่ากลัว กระผม/อาตมภาพเองเคยไปปักกลดขวางด่านสัตว์ลงกินน้ำในช่วงหน้าแล้ง บริเวณนั้นเหลือน้ำอยู่แอ่งเดียว

อยากจะรู้ว่าทำไมครูบาอาจารย์ท่านถึงบอกว่า เข้าป่าอย่าปักกลดขวางด่านสัตว์ ก็ไปรู้เอาตอนนั้นเอง ด่านสัตว์ก็เหมือนกับถนนหลวง ถึงเวลาเขาต้องเดินตรงนั้น ยังโชคดีที่บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่มา เต็มที่ก็แค่เสือ ถ้าเป็นช้างมา ดูท่าว่า
กระผม/อาตมภาพโดนเหยียบแน่นอน สัตว์อื่นพอเห็นผิดปกติ เขาก็มักจะเลี่ยงไป มีแต่เสือที่เข้ามาสำรวจจนติดกลดเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2023 เมื่อ 01:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-06-2023, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้เสือไม่ได้มีนิสัยว่าเจอคนแล้วต้องล่า เพียงแต่ว่าเสือเป็นสัตว์ที่ขี้สงสัย เจออะไรต้องตามดูจนกว่าจะหายสงสัย จึงตามไปแบบเดียวกับที่พระครูหน่อย (พระครูสมุห์ธรรพ์ณธร ธมฺมทินฺโน) เจอมา ก็คือหลังจากที่หนีเสือขึ้นต้นไม้ไปแล้ว ลงมาก็เดินไปด้วยความหวาดระแวง ไม่รู้ว่าเสือตามมาดู พอเสือดูจนเบื่อก็กระโดดตัดหน้าข้ามถนนไป รายนี้ระแวงอยู่แล้วก็วิ่งสุดชีวิต ความจริงถ้าเสือจะกินก็ตะครุบเอาไปกินตั้งแต่แรกแล้ว..!

ในป่าถ้าหากว่าเจอช้าง อันตรายกว่าเสือมาก โดยเฉพาะช้างแม่ลูกอ่อน จะหวงลูก แล้วลูกช้างเวลาเจอคนก็มักจะวิ่งมาเล่นด้วย เป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขึ้นจากลำห้วยไปเจอลูกช้าง
กระผม/อาตมภาพถอยหลังกรูดเลย บอกพรรคพวกว่า "รีบ ๆ ขึ้นฝั่งไป กลับไปทางเดิม" ปรากฏว่ามหาเค (พระมหาธีรวุฒิ ธีรปญฺโญ) บอกว่า "ตัวใหญ่กว่าควายหน่อยเดียว ทำไมต้องกลัวด้วย ?" กระผม/อาตมภาพชี้ให้ดูในกอไผ่ เวลาช้างยืนนิ่ง ๆ ถ้าตาเราไม่ดีจริงนี่มองไม่เห็นนะ บอกว่า "แล้วคุณรู้ไหมว่าแม่ควายตัวใหญ่แค่ไหน..!?"

บางทีไปกับคนดื้อนี่ก็พูดยาก ไปนอนใน "บ้านช้าง" กัน เวลาอยู่ในที่ปลอดภัย ช้างเขาจะทำที่นอน โดยดึงเอาหญ้ามากองรวม ๆ กันไว้ กว้างประมาณ ๒ เมตร
หนาสักศอกหนึ่ง ตัวหนึ่งก็มีเบาะนอนอันหนึ่ง ถึงเวลาเขาก็นอนบนนั้น พวกเราก็ไปยึดที่นอนช้าง แต่กระผม/อาตมภาพบอกกับทุกคนที่ไปว่า "ถ้าช้างเข้ามา กรุณาปีนหนีขึ้นไปบนต้นไม้ด้วย แล้วที่แน่ ๆ อย่าลืมกระติกน้ำ ถ้าช้างล้อมอยู่เป็นวัน จะได้ไม่อดน้ำตาย..!"

คราวนี้ยังมีไอ้พวกหัวรั้นถามว่า "ในเมื่อเรามอบกายถวายชีวิตแล้ว ทำไมต้องหนีด้วย ?"
กระผม/อาตมภาพบอกว่า "มึงมอบกายถวายชีวิตกับพระพุทธเจ้า แต่ถ้ามึงตายห่..พ่อแม่มึงจะเอาเรื่องกู..! เพราะฉะนั้น..กรุณาปีนต้นไม้หน่อย" บอกเสร็จกระผม/อาตมภาพก็นอนอยู่ในทางเดินนั่นแหละ เวลาช้างเดินบ่อย ๆ ทางด่านจะลึกประมาณศอกกว่า ๆ กันลมได้พอดี ไม่ต้องเสียเวลาไปหาที่นอน ก็คือบอกคนอื่นให้เตรียมหนี แต่ตัวเองนอนอยู่ในนั้นเลย..!

แล้วเท่าที่เจอมา ช้างเป็นสัตว์ที่รู้ภาษาจริง ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ช้างรู้ภาษาทุกตัว มีอะไรให้พูดกับเขาดี ๆ ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็ไม่เชื่อ แต่คราวนี้พอเดินธุดงค์ไป ส่วนใหญ่ต้องเดินตามลำห้วย เพราะว่าด้านข้างเป็นป่าดงดิบ รกทึบไปหมด เจอช้าง ๔ - ๕ ตัว หากินอยู่เต็มลำห้วย ก็ได้แต่ยืนรอ รอไปครึ่งค่อนชั่วโมงก็ไม่เห็นว่าพวกเขาจะขยับไปไหน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2023 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-06-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในที่สุดกระผม/อาตมภาพก็ตัดสินใจตะโกนขึ้นมาเลย "ช้างจ๋า..ขอผ่านหน่อยจ้า..!" ช้างทุกตัวหยุดกึก..หันมามอง พอเห็นเป็นพระ ทุกตัวก็เบียดเข้าหาริมห้วย ทำตัวลีบ ๆ ให้กระผม/อาตมภาพเดินผ่าน..ดูแล้วน่ารักมาก

แต่ขอโทษ..
กระผม/อาตมภาพตะแคงข้างเดินเอา ตาดูช้าง..กะว่ามึงขยับตัวเมื่อไร กูก็โกยสุดฝีตีน..! แต่เขารู้ภาษาจริง ๆ เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายจะใจเย็นพอที่จะคุยกับช้างหรือเปล่า ? เพราะว่าช้างในป่านี่ตัวใหญ่กว่าช้างข้างนอกเป็นเท่าตัว ไอ้ช้างข้างนอกที่เราเอากล้วยเอาอ้อยไปเลี้ยงเวลาเขาขี่รับนักท่องเที่ยวนั่น ประมาณลูกช้างตัวย่อม ๆ เท่านั้นเอง..!

ส่วนในเรื่องของผีของเทวดา ก็ตัวใครตัวมันละครับ สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือคาถากรณียเมตตสูตร ภาวนาแล้วตั้งใจแผ่เมตตาให้กับเขาทั้งหลาย บอกขออนุญาตมาค้างอยู่ชั่วคราวเพื่อปฏิบัติธรรมเท่านั้น เราทำความดีอะไรขอให้พวกเขาโมทนาด้วย เรื่องพวกนี้จัดการยากกว่าสัตว์ป่า สัตว์ป่าเจอคนมักจะหนี แต่บรรดาผีบรรดาเทวดา เจอคนเจอพระมักจะแกล้ง ทดสอบดูว่าเก่งแค่ไหนที่ออกมาธุดงค์..!?

อย่าคิดนะครับว่าสมัยนี้ไม่มีแล้ว
กระผม/อาตมภาพไปเจอมาทุกที่เลย โดยเฉพาะที่บึงลับแลนี่ยุติธรรมที่สุด ปกติเวลาผีหลอก บางทีนั่งอยู่ด้วยกัน ๔ - ๕ คน เราจะเห็นคนเดียว แต่ที่บึงลับแลนี่ อยู่กี่คนรับรู้เท่ากันหมด..!

กระผม/อาตมภาพเข้าไปอยู่ที่บึงลับแลนานที่สุด เกือบ ๆ สองเดือนครึ่ง อยู่จนกระทั่งเป็นเพื่อนกับผี เป็นเพื่อนกับสัตว์ไปเลย พวกสัตว์เวลาเห็นเราไม่ทำอะไร ก็หากินใกล้เข้ามาเรื่อย ท้ายที่สุดก็มาหากินอยู่รอบตัว โดยเฉพาะพวกลิง..มีเยอะมาก ข้าวของนี่ห่างมือไม่ได้เลย โดนขโมยทันที แม้กระทั่งจะไปส้วม ยังต้องสะพายย่ามไป ไม่อย่างนั้นจะโดนลิงลากขึ้นไปบนยอดเขา รื้อกระจายหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2023 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-06-2023, 01:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,109 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในเรื่องของการเข้าป่าเข้าดง พวกท่านทั้งหลายคิดจะเข้ากันทุกคน กระผม/อาตมภาพแนะนำง่าย ๆ ไม่ต้องคิดมากหรอก ไปนอนคนเดียวบนยอดเขาพระพุทธบาทโน่น..! ถ้าบนยอดเขารู้สึกสบายไป ก็นอนสักกลาง ๆ เขา ข้างบนก็ไม่เห็น ข้างล่างก็ไม่เห็น จะได้วัดว่าตัวเองมีความกล้าแค่ไหน..!?

หรือไม่ก็ข้างทางรถไฟสายมรณะ เผื่อกลางค่ำกลางคืนทหารญี่ปุ่นจะมาชวนคุยบ้าง..! คือวัดเราไม่ต้องไปไกล มุมไหนก็มี จะเอาสนุกกว่านั้น ก็เดินข้ามห้วยไปปักกลดในที่ดินป้าตุ่น (นางสาวบุญสนอง บุญยงค์) แถวนั้นก็หลอนใช้ได้เหมือนกัน แต่ระวังไว้หน่อย เพราะว่างูจงอางแถวนั้นตัวใหญ่มาก..!

เวลาที่งูจงอางชูหัวขึ้นมานี่ไม่ใช่เขาจะทำร้ายเรา เจ้าพวกนี้ตาไม่ค่อยดี แค่ต้องการดูให้ชัดว่าเราเป็นตัวอะไร ถ้าเห็นว่าไม่มีอันตราย เขาจะลดหัวลงแล้วก็เลื้อยไป แต่ส่วนใหญ่พวกเราพอเห็นเขาชูหัว กูก็สับตีนแตกก่อนเลย..!

พวกรุ่นเก่า ๆ อย่างพวกปลัดแป๊ะ (พระปลัดวินัย ชาคโร) เขาเคยเห็น
กระผม/อาตมภาพจับให้ดูต่อหน้าต่อตามาแล้ว คือถ้าเขาลดหัวลง แปลว่าเขาไม่คิดที่จะทำอันตรายเรา ตอนนั้นจับได้เลย เพียงแต่ว่าพวกท่านใจไม่ค่อยจะถึงเท่านั้นเอง

ฉะนั้น..ในเรื่องของการไปธุดงค์ เรื่องสัตว์ไม่น่ากลัวเท่ากับภัยธรรมชาติ แล้วเรื่องภัยธรรมชาติก็ยังพอลุ้น ไม่เหมือนเรื่องผีเรื่องเทวดา นั่นต้องแล้วอารมณ์เขา

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2023 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว