กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 30-12-2022, 19:52
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,639
ได้ให้อนุโมทนา: 216,864
ได้รับอนุโมทนา 747,363 ครั้ง ใน 36,404 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 30-12-2022, 23:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,702 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ท่านทั้งหลายที่อยู่วัดท่าขนุนก็จะเห็นแล้วว่ากระผม/อาตมภาพมีงานมากขนาดไหน หรือว่าท่านที่ติดตามทางด้านเฟซบุ๊กวัดท่าขนุน ดีไม่ดีจะลำดับงานไม่ถูกเสียด้วยซ้ำไปว่า ในแต่ละวัน กระผม/อาตมภาพทำอะไรไปบ้าง

นี่คือสิ่งที่บอกกล่าวกับท่านทั้งหลายมาตลอดว่า ถ้าหากเรามีสติ สามารถลำดับความก่อนหลังเร็วช้าของปัญหาได้ งานทุกอย่างจะไม่มีอะไรสับสนวุ่นวายและเป็นปัญหาเลย เราจะมีงานอยู่ตรงหน้างานเดียวเสมอ และไม่เกินกำลังที่เราจะทำไหว

เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายส่วนใหญ่แล้ว พอถึงเวลาปัญหาหรือว่างาน ประเดประดังเข้ามา ก็มักจะขาดสติ แล้วเอาหลาย ๆ ปัญหาไปรวมเป็นปัญหาเดียวกัน ทำให้หนักเกินกำลัง แก้ไม่ไหว เครียด นอนไม่หลับ บางคนก็ถึงขนาดเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็มี..!

ตั้งแต่เช้ามา ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพมานำผู้ปฏิบัติธรรมเจริญกรรมฐานตั้งแต่ตี ๔ ซึ่งปกติแล้วจะมาตี ๓ ครึ่ง แต่เมื่อวานนี้วิ่งงานหนัก แล้วอากาศเปลี่ยนทำให้เป็นไข้ จึงได้ลาพวกเราล่วงหน้าตั้งแต่ตอนทำวัตรค่ำว่าไม่สามารถที่จะมาตอนตี ๓ ครึ่งได้

หลังจากนั้นก็ออกบิณฑบาตตามปกติ ฉันเช้าแล้วก็มานำพวกเราบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ รุ่นที่ ๑/๒๕๖๖ เสร็จสรรพเรียบร้อยก็มอบหมายให้พระวิปัสสนาจารย์นำพวกเราปฏิบัติธรรม ตนเองวิ่งไปวัดวังหิน หมู่ที่ ๑ ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาระดับสูงในพื้นที่ ไปร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เปิดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต ซึ่งติดขัดมาแล้ว ๒ ปี เพราะเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ทำให้ไม่สามารถจัดงานได้ จนกระผม/อาตมภาพยังพูดขำ ๆ ว่า "มีดตัดหวาย ๒ เล่มที่ได้จองเอาไว้ สนิมกินไปแล้วกระมัง ?"

พอเสร็จพิธี ก็ขออนุญาตออกจากงาน วิ่งกลับมาที่วัดท่าขนุนนี่เพื่อฉันเพล แล้วก็มอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับทางโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (วังด้ง) เสร็จสรรพเรียบร้อยก็นำพวกเราปฏิบัติธรรมในรอบบ่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2022 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 31-12-2022, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,702 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอพวกเราสมาทานกรรมฐานเสร็จ กระผม/อาตมภาพก็ต้องมอบหมายให้พระวิปัสสนาจารย์ช่วยนำพวกเราปฏิบัติธรรม ตนเองวิ่งไปประชุมผ่านระบบซูมมีตติ้งออนไลน์ ในการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ ซึ่งก็ลากยาวไปจนถึง ๔ โมงเย็น

เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ กล่าวปิดเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็มาต้อนรับคณะของนางสมมารถ คำถนอม วัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเดินทางมาถวายสักการะช่วงปีใหม่ แล้วนำคณะของท่านไปชมตลาดริมแควเมืองท่าขนุน ต่อเนื่องไปถึงงานถนนคนนั่งยองทองผาภูมิ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เทศบาลตำบลทองผาภูมิจัดมาเป็นปีที่ ๑๔ แล้ว

เมื่อเริ่มพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวถนนคนนั่งยองทองผาภูมิเสร็จ ก็กลับมาทำวัตรค่ำกับพวกท่านทั้งหลาย เพื่อบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ซึ่งท่านทั้งหลายกำลังฟังอยู่นี้ เสร็จจากการทำวัตรรอบสอง เดี๋ยวต้องออกไปเปิดงานตลาดริมแควเมืองท่าขนุนต่อ

แค่ฟังบางคนก็ประสาทรับประทานแล้ว แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านมีสติมั่นคง โดยเฉพาะมีกำลังสมาธิจากฌานสมาบัติ ท่านจะมีกำลังเพียงพอในการทำงานทั้งหลายเหล่านี้ได้โดยไม่สับสนวุ่นวาย พอเหมาะพอดีกับเหตุการณ์ทุกอย่าง โดยเฉพาะในส่วนของการไม่ล่วงละเมิดพระธรรมวินัย

เนื่องเพราะว่าในส่วนของบุคคลที่กำลังใจทรงฌานสมาบัติอยู่ รัก โลภ โกรธ หลง จะโดนอำนาจของฌานสมาบัติกดดับไปชั่วคราว ทำให้กำลังใจมุ่งเฉพาะในด้านของความดีเท่านั้น ยกเว้นว่าท่านที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ อาศัยมิจฉาสมาธิ อย่างเช่นว่ากระทำไสยศาสตร์ เรื่องทั้งหลายเหล่านั้นค่อยว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าเป็นกำลังใจที่ขาดอุเบกขา ก็เลยทำให้ออกไปทางเบียดเบียนผู้อื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2022 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 31-12-2022, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,702 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การที่กำลังใจของเราสามารถทรงเอาไว้จนกระทั่งงานต่าง ๆ สำเร็จเสร็จสิ้นลงนั้น ท่านทั้งหลายต้องระวังให้มากอีกจุดหนึ่ง ก็คือการที่ถึงเวลารู้สึกว่าหมดงานแล้ว ถ้ากำลังใจคลายตัวออกมา บางคนก็ล้มทั้งยืนเลย..! เราต้องระมัดระวังด้วยว่ากำลังกายไหวหรือเปล่า ? ถ้ารู้ว่ากำลังกายไม่ไหว ก่อนที่จะคลายกำลังใจออกมาก็ให้นั่งลงเสียก่อน หรือว่านอนเสียก่อน แต่ว่าบางทีกำลังใจของเราก็คลายออกมาเอง ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ กระผม/อาตมภาพมีประสบการณ์มาหลายครั้ง

ครั้งที่ออกธุดงค์ครั้งแรกไปยังเมืองลับแลที่แม่สาน ด้วยความที่เกรงว่าเป็นสถานที่อันตราย ทันทีที่มุ่งหน้าเข้าไป กำลังใจก็ทรงตัวเต็มสภาพ ตลอดระยะเวลา ๕ วัน ๕ คืนไม่คลายออกมาเลย แต่เมื่อเดินทางกลับออกมา เริ่มจดจำได้ว่าหนทางตรงนี้ใกล้หมู่บ้าน เราปลอดภัยแล้ว กำลังใจคลายออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ ? เป็นการคลายออกมาเองโดยอัตโนมัติ

แล้วความรู้สึกนึกคิดก็เริ่มปรุงแต่ง โดยที่ตอนนั้นยังเผลอสติ เพราะว่าเพิ่งจะอยู่ในพรรษาที่ ๔ ของการบวชเท่านั้น ก็ไปเที่ยวดูฟ้าดูดิน โดยเฉพาะบรรยากาศยามสายในป่า แสงแดดส่องลอดใบไม้ลงมาเป็นเส้น ๆ แล้วบรรดาหมอกควันจากอากาศหนาวก็พันอยู่กับลำแสง ต้องบอกว่าทิวทัศน์สวยงามมาก ใจก็ไปนึกถึงเพลงในสมัยฆราวาสที่เคยได้ยินมา ถ้าจำไม่ผิดเป็นคุณชรินทร์ นันทนาครร้อง ที่ว่า "ดวงตะวันลับทิวแมกไม้ ใจพี่ก็หาย..หายลับไปกับตะวัน ฯลฯ"

แล้วก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านใดเมตตา ? เห็นพระจะต้องอาบัติเพราะทะลึ่งไปนึกถึงเพลง ก็เลยช่วยถีบ..! ตูมเดียวหล่นลงไปในลำธาร อากาศเดือนพฤศจิกายนกลางป่าเขา หนาวขนาดไหนบอกไม่ถูก !? รู้แต่ว่าต้องเดินสั่นงั่ก ๆ ไปตลอดทาง กว่าที่จะไปถึงหมู่บ้าน

ตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มเข็ด รู้จักสังเกตว่ากำลังใจของตนเองคลายออกมาตอนไหน ? แต่ว่าถึงจะสังเกตและระมัดระวัง บางทีด้วยความเคยชินของสภาพจิต พอรู้ว่างานหมดแล้วก็คลายออกมาเลย บางทีก็หลับสลบไสลข้ามวันข้ามคืนไปเลยก็มี

ดังนั้น..จึงขอเตือนท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณร หรือว่าฆราวาสนักปฏิบัติธรรม ถ้าทำมาถึงตรงนี้ได้ต้องระมัดระวังไว้ด้วย ต้องมีสติอยู่เสมอว่าเราไหวหรือไม่ ? ถ้ารู้ว่าไม่ไหว อย่าพยายามคลายกำลังใจออกมาก่อน อย่างไรก็ล็อคเอาระดับใช้งานของเราไว้ กลับถึงที่พักก่อนแล้วค่อยเป็นอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกไว้ ก็คือ "หงายแผ่สี่สลึง"..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2022 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 31-12-2022, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,647
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,415,702 ครั้ง ใน 34,237 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงนี้คำโบราณเขาว่า "แผ่สองสลึง" หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเพิ่มให้อีกเท่าตัวเป็น "แผ่สี่สลึง" เพราะว่าหมดสภาพจริง ๆ ดังนั้น..เวลาพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเข้าที่พัก ท่านจะล็อคประตูทุกครั้ง เพราะเกรงว่าคนจะไปเห็นตอนหมดสภาพแล้วตกใจ

กระผม/อาตมภาพเองก็โดนบรรดา พระ เณร แม่ชี ช่วยกันยำเละมาแล้ว เพราะว่าสภาพร่างกายไม่ไหว ก็ส่งใจไปพระนิพพาน แต่ทุกคนคิดว่าตายแล้ว ก็เลยช่วยกันเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ชุบน้ำร้อน ช่วยกันถู เผื่อว่าร่างกายอุ่นขึ้น หลวงพ่อจะได้ฟื้น ถูเท่าไรก็ไม่ฟื้นหรอก เพราะว่าตอนนั้นใจทิ้งร่างกายไปแล้ว..!

ตี ๒ กว่ากลับมาอีกทีแสบไปทั้งตัว เพราะว่าเขาเล่นชุบน้ำร้อน ๆ ถูแบบไม่บันยะบันยัง คนอาการกึ่งสลบกึ่งตาย ก็ไม่รู้จะร้องจะโวยวายอย่างไร ? จึงทำให้หนังถลอกปอกเปิก จนกระทั่งทุกวันนี้พออากาศหนาวหรือว่าโดนเครื่องปรับอากาศก็จะคันมาก เพราะว่าผิวเสียมาตั้งแต่สมัยนั้น หมอแนะนำให้ทาโลชั่นรักษาผิว ก็ทาถึงบ้างไม่ถึงบ้าง เพราะว่าข้างหลังตัวเอง ถ้าไม่มีคนช่วยทาให้ บางทีก็คันคะเยอขึ้นเป็นผื่นเลย

นั่นก็คือสิ่งที่ไม่ได้เผลอ เข้าที่พักแล้วก็ล็อคประตู แต่ว่าทุกคนที่มีกุญแจช่วยกันปั๊มแจก..! รู้สึกเป็นเกียรติเป็นศรีมากที่มีกุญแจกุฏิหลวงพ่อ ก็เลยเปิดกุฏิได้ทุกคน..! สรุปว่าเป็นความโชคดีของกระผม/อาตมภาพเอง ที่มีลูกศิษย์โง่ ๆ ช่วยกันยำจนเละมาตั้งแต่ครั้งนั้น...!

ที่เล่าให้พวกเราฟังก็เพื่อบอกว่า สิ่งที่กระผม/อาตมภาพได้สอน ได้บอก ได้กล่าวไปนั้น บอกไปแค่ที่ตนเองทำมา ไม่ใช่ราคาคุย แต่ว่าทำมาจริง ๆ แม้กระทั่งเรื่องการสอนให้ทุกคนมีสติ ลำดับงาน จัดความสำคัญของปัญหา ก็ทำมาด้วยตัวเองมาตลอด ตั้งแต่ฆราวาสยันเป็นพระ จนทุกวันนี้คนเขาก็สงสัยว่า "หลวงพ่อเล็กทำงานมากมายมหาศาลขนาดนี้ในแต่ละวันได้อย่างไร ?" ก็บอกว่าพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพราะไม่เคยคิดว่าจะมีวันพรุ่งนี้..!

กำลังใจแบบนี้ ถ้าหากว่าใครทำได้จะมีความสุขอยู่เฉพาะหน้า เพราะว่าพรุ่งนี้ไม่มีสำหรับเราแล้ว เราทำวันนี้เต็มที่แล้ว "แหงนหน้าก็ไม่อายฟ้า ก้มหน้าก็ไม่อายดิน" พร้อมที่จะไปอยู่เสมอ

ขอฝากเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เอาไว้ให้พระภิกษุสามเณร แม่ชี ตลอดจนกระทั่งฆราวาสหญิงชาย ไม่ว่าจะปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดท่าขนุนนี้ หรือว่าฟังอยู่ในต่างจังหวัด ต่างประเทศก็ดี พยายามค้นหาอารมณ์นี้ให้เจอแล้วยึดเกาะเอาไว้ให้ได้ ท่านจะมีโอกาสหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานอย่างที่ได้หวัง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2022 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว