กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-09-2022, 20:37
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,635
ได้ให้อนุโมทนา: 216,847
ได้รับอนุโมทนา 747,161 ครั้ง ใน 36,393 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-09-2022, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,355 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพมีงานสำคัญหลายอย่างด้วยกัน แต่ส่วนที่อยากจะพูดถึงก็คือ เรื่องของการติดตามผลโครงการต่าง ๆ ทั้ง ๑๐ โครงการที่ได้อนุมัติงบประมาณไป ในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ

เรื่องของเงิน โดยเฉพาะถ้าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ "ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้" อย่างไรเสียถ้าใช้จ่ายออกไปต้องมีหลักฐานในการใช้จ่ายคืนมาด้วย จึงต้องมีการส่งรายงานหลังจากเสร็จสิ้นโครงการแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะให้เวลา ๓๐ วัน แต่คราวนี้ในส่วนของหน่วยงานระดับเล็ก ๆ อย่างของสภาวัฒนธรรมตำบลต่าง ๆ มักจะไม่ถนัดในการทำงานเอกสาร หลายแห่งเขียนโครงการมา ก็ต้องแก้แล้วแก้อีก จนกระทั่งบางแห่งก็ท้อใจ เลิกของบประมาณไปเลย..!

พวกท่านต้องเข้าใจว่า ในเรื่องของการของบประมาณนั้น อันดับแรกเลย ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์กับผลที่คาดว่าจะได้รับต้องมี ถ้าไม่มี ต่อให้ยื่นโครงการมาขนาดไหนก็เจ๊ง..! คนอื่นตรวจไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้า
กระผม/อาตมภาพตรวจนี่ไม่ผ่านแน่นอน ประการที่สองก็คือ ความชัดเจนของระยะเวลาในการดำเนินงาน หลังจากนั้นจึงเป็นจำนวนงบประมาณ

หลายโครงการโดนกระผม/อาตมภาพปัดทิ้งไปเลย อย่างเช่นบางโครงการของบประมาณมา ๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อจัดงานประจำปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสามัคคีในหมู่คณะ แต่ว่า ๓๐,๐๐๐ บาทที่ขอมา เป็นค่าอาหารไป ๒๕,๐๐๐ บาท..! เป็นพวกท่านจะให้ไหม ? คือถ้าโดยปกติทั่ว ๆ ไปนั้นได้ แต่วัตถุประสงค์ของเขาก็คือ เพื่อความสามัคคีในหมู่คณะ ถ้าอย่างนั้นค่าอาหารก็ไม่ต้อง ทุกคนที่เข้าร่วมงานก็เอาข้าวหม้อแกงหม้อมาเอง ถ้าอย่างนั้นก็จะได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าเราไม่มีความชำนาญ ก็ต้องปรึกษาผู้รู้ หรือไม่ก็พอชี้แจงแสดงเหตุไปว่าตรงไหนผิดพลาดเพราะอะไร ก็ต้องรีบแก้ไข งบประมาณจะว่าไปแล้วมีอยู่รอบตัว แม้กระทั่งงบประมาณที่ได้รับจากการบริจาคโดยศรัทธา แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วคนเราจะไม่มีความอดทนในการแก้ไข และโดยเฉพาะไม่มีอารมณ์ที่จะมาส่งรายงาน หลังจากที่ดำเนินการโครงการเสร็จแล้ว ประมาณว่าเหนื่อยจนหมดสภาพแล้ว..!

แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมานึกดู ในสภาพพระภิกษุของเรา มีราคาแค่ ๙๙ สตางค์ ครบบาทเมื่อไร ก็ขาดความเป็นพระ..! ก็แปลว่าทุกบาททุกสตางค์สำคัญเท่าชีวิต ไม่ใช่ว่าจะปล่อยให้เอ้อระเหยลอยชายไปก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2022 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-09-2022, 23:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,355 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

งบประมาณบางแหล่งที่กระผม/อาตมภาพได้มา "ไม่พอยาขี้ฟัน" ให้มา ๒,๕๐๐ บาท แต่ทางวัดท่าขนุนต้องส่งรายงานปีละ ๔ ครั้ง ก็คือรอบไตรมาสละครั้ง ได้มา ๒,๕๐๐ บาท ค่ากระดาษรายงานยังไม่รู้ว่าจะพอหรือเปล่า ? บอกไปว่า "ไม่ต้องให้มาหรอก ไม่ต้องการ" เขาบอกว่า "ไม่ได้ ..เพราะว่าเป็นงบจากส่วนกลาง โอนเข้าบัญชีโดยตรง หลวงพ่อจะรับหรือไม่รับก็เข้าบัญชีไปแล้ว เพราะฉะนั้น..ให้ส่งรายงานมาก็แล้วกัน" เขาเรียกว่า "มัดมือชก"

ในเรื่องของการทำงาน กระผม/อาตมภาพ ต้องบอกว่า ทั้งเลื่อมใสทั้งชื่นชมพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเท่าที่กระผม/อาตมภาพเคยเห็นมา

ท่านให้กระผม/อาตมภาพค้นหาใบเสร็จรับเงินในการซื้อเครื่องปั่นไฟ เพื่อที่จะเอามาเทียบราคาว่า เครื่องปั่นไฟที่ท่านซื้อเมื่อเกือบ ๒๐ ปีที่แล้วกับปัจจุบัน ราคาเพิ่มลดไปกี่เปอร์เซ็นต์ ? ท่านชี้ให้ไปหาดูในตู้ที่สูงท่วมหัว..! ปรากฏว่าเปิดออกมา มองปราดแรกเท่านั้น
กระผม/อาตมภาพสบายใจมาก เพราะว่าใบเสร็จรับเงินของท่านจะใส่แยกไว้เป็นแฟ้ม ๆ แต่ละแฟ้มจะมีเลขกำกับที่สันปกว่าเป็นของ พ.ศ.ไหน ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ค้นใบเสร็จนั้นเจอแล้ว เพราะท่านบอกแล้วว่าเคยซื้อเมื่อประมาณ พ.ศ. นั้น

เมื่อกระผม/อาตมภาพออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่เกาะฤๅษี ทำงานก่อสร้างอยู่ ๘ เดือน อยู่ ๆ วันหนึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็มา พวกคุณต้องเข้าใจนะครับว่า
กระผม/อาตมภาพออกจากวัดท่าซุงมา หลังจากที่จัดงานศพถวายหลวงพ่อท่านเรียบร้อย ส่งศพท่านขึ้นมณฑปแล้ว..!

ท่านก็เดินมาหน้าตาเฉยอย่างนั้นแหละ มาถามว่า "แกมีเงินส่วนตัวเท่าไร ?" กระผม/อาตมภาพตอบด้วยความภาคภูมิใจแกมอวดว่า "ไม่มีเลยครับ เพราะว่าผมผลักลงกองกลางไปหมด" ท่านถามต่อว่า "ถ้าอย่างนั้นแกใช้เพื่อสงฆ์ไปเท่าไร ?" กราบเรียนว่า "ไม่ทราบครับ" "แล้วแกใช้เพื่อส่วนตัวไปเท่าไร ?" "ไม่ทราบครับ" ไม่ทราบครับ ๒ ทีเท่านั้นแหละ ไม้เท้าลงหัวเปรี้ยงเบ้อเร่อเลย..! เจ็บกว่าตอนเป็น ๆ ตีอีก..!

ท่านบอกว่า "ไปรื้อบัญชีทำเสียใหม่ ทุกบาททุกสตางค์ แกรับมาจากใคร ? ใช้จ่ายไปด้วยเรื่องอะไร ? ถ้าใครมาตรวจสอบต้องชี้แจงเขาได้ และที่แน่ ๆ ถ้าซื้อของ ให้ขอบิลไว้ทุกครั้ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2022 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-09-2022, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,355 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อผ่านไป ๘ เดือนแล้ว ก็แปลว่าต้องนั่งตูดด้านอยู่หลายวัน เพื่อไปแคะตัวเลขออกมา ท้ายที่สุดเห็นว่ายุ่งยากลำบากนัก กระผม/อาตมภาพก็เลยตัดใจว่า "๘ เดือนแรกเราไม่เอาเงินส่วนตัวก็แล้วกัน" เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครตรวจสอบบัญชีของกระผม/อาตมภาพย้อนหลังไป จะเห็นว่าตั้งแต่ออกจากวัดท่าซุงมา ๘ เดือนแรกจะไม่มีเงินส่วนตัว ขี้เกียจไปงมหา ถัดจากนั้นมาถึงได้มี

แล้วสิ่งที่ท่านบอกเอาไว้ก็คือ ถ้าใครตรวจสอบต้องชี้แจงเขาได้ หลังจากนั้นเป็น ๑๐ ปี ถึงได้มีการเร่งรัดในเรื่องของบัญชีเงินวัด บุคคลที่ทำหน้าที่เจ้าอาวาสต้องชี้แจงบัญชี ซึ่งอย่างปัจจุบันนี้ก็คือ ๓ ครั้ง ครั้งแรก ๙ เดือนของรอบงบประมาณ ชี้แจงสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ครั้งที่สอง ครบรอบปีงบประมาณ ชี้แจงสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ครั้งที่สาม ในรอบปีนั้น คือ ๑ มกราคม ถึง ๓๑ ธันวาคม ส่งทางคณะสงฆ์

เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าจะที่ไหนมีปัญหาในเรื่องของการตรวจสอบ แต่ของ
กระผม/อาตมภาพไม่เคยมี ท่านทั้งหลายสามารถตรวจสอบบัญชีย้อนหลังไปได้ถึงปี ๒๕๓๖ ย้อนหลังไป ๓๐ ปีพอดี ในส่วนของวัดท่าขนุน ตัวอย่างที่กระผม/อาตมภาพจัดการก็คือ ก่อนหน้านั้นถือว่าเป็นภาระของเจ้าอาวาสเก่า กระผม/อาตมภาพมาเริ่มส่งบัญชีเดือนแรกที่รับตำแหน่งเจ้าอาวาส

คราวนี้สะดวกอยู่ตรงที่ว่าคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีของเรานั้น มีการปฏิบัติที่เป็นที่เข้าใจกันทั่วว่า ถ้าจะแต่งตั้งให้รับตำแหน่งต่าง ๆ ให้ลงวันที่ ๑ ของเดือนไว้เสมอ พูดง่าย ๆ ก็คือสมมติว่าเรายื่นเรื่องขอรับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส อาจจะยื่นวันที่ ๒ ของเดือนกันยายน ก็แปลว่าวันที่ ๑ ตุลาคมเตรียมรับตราตั้งได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้น ท่านบอกว่า เพื่อความสะดวกในเรื่องของการรับเงินอุดหนุนนิตยภัต ที่พวกเราไปเรียกง่าย ๆ ว่าเงินเดือนพระ

ดังนั้น..ในเรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า การติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ เราเน้นในเรื่องของ "หลักธรรมาภิบาล" ซึ่งมี "ความโปร่งใส" เป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าจะโปร่งใสบ้าง ไม่โปร่งใสบ้างก็ช่างเถอะ..! ใครสามารถทำได้โปร่งใสเท่าไรก็ได้รับการเชื่อถือเท่านั้น ส่วนท่านที่ไม่โปร่งใส ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ เอกชน หรือวัดวาอารามก็แล้วแต่ท่านไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2022 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-09-2022, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,642
ได้ให้อนุโมทนา: 151,907
ได้รับอนุโมทนา 4,415,355 ครั้ง ใน 34,232 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ที่ติดตามงบประมาณนั้น กระผม/อาตมภาพกำหนดอยู่ส่วนหนึ่งก็คือว่า ถ้าใครไม่ส่งรายงาน เมื่อถึงปีงบประมาณ ๒๕๖๖ จะไม่สามารถที่จะยื่นของบประมาณโครงการใดโครงการหนึ่งได้อีก ถึงยื่นมาก็จะกองเอาไว้ก่อน จนกว่าจะส่งรายงานการใช้งบประมาณของเก่ามา

เรื่องพวกนี้ที่จำเป็นต้องเข้มงวด เพราะว่าเราต้องการผลงาน ท่านที่ฟังอยู่จะเห็นว่า เขาจะรายงานว่าประสบความสำเร็จตามโครงการกี่เปอร์เซ็นต์ ? ใช้วิธีติดตามประเมินผลแบบไหน ? ท่านที่ช่วย
กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบด้านนี้ ต้องพยายามศึกษาเอาไว้ โดยเฉพาะในเรื่องของการเขียนโครงการ

สมัยที่เรียนปริญญาตรี ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้เขียนโครงการ จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม ปรากฏว่าโครงการที่กระผม/อาตมภาพเขียนนั้น เป็นคนเดียวที่ได้รับคำชมเชยว่า "สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง"

กระผม/อาตมภาพจะเขียนโครงการระยะสั้นว่า ปีนี้เราจะทำอะไร ? อย่างเช่นว่าจัดการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน วัตถุประสงค์เพื่ออะไร ? แหล่งวัตถุดิบจะเอามาจากไหน ? แหล่งงบประมาณจากไหน ? วิธีการดำเนินงานแต่ละขั้นตอนเป็นอย่างไร ? หลังจากนั้นแล้วเราจะติดตามประเมินผลอย่างไร ? จะส่งรายงานเมื่อไร ? เหล่านี้เป็นต้น

โครงการระยะกลาง อย่างเช่นว่าจะจัดส่งพระภิกษุสามเณรเข้ารับการศึกษาตามโครงการพระปริยัติธรรมนำสู่ปริญญา ใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการ ๕ ปี

โครงการระยะยาว คือการจัดหางบประมาณสำรองเอาไว้ สำหรับบุคคลที่มารับช่วงในการบริหารวัดต่อจากกระผม/อาตมภาพเอง

เรื่องพวกนี้บางทีท่านฟังแล้วก็จะปวดหัว แต่ถ้าหากว่าแยกแยะออกก็จะเป็นลักษณะอย่างนี้ ระยะสั้นคือปีนี้ปีหน้า อาจจะเพิ่มอีกปีหนึ่ง เราจะทำอะไร ระยะกลางอย่างเช่นว่า ๕ ปี ๖ ปี ๗ ปี เราจะทำอะไร ถ้าระยะยาวก็ ๑๐ ปีข้างหน้า เราจะทำอะไร ไม่ใช่เรื่องฟุ้งซ่านนะครับ ถ้าหากว่าเราคิดอย่างมีสติ ไม่ถือว่าเป็นการฟุ้งซ่าน เป็นการใช้ปัญญาอย่างหนึ่ง แต่ใช้ไปในเรื่องของโลก ๆ ก็คือการบริหารวัดวาอาราม ทำอย่างไรจะให้วัดอยู่ได้ ท่ามกลางกระแสสังคมในปัจจุบันนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2022 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว