กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-07-2022, 17:20
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,629
ได้ให้อนุโมทนา: 216,939
ได้รับอนุโมทนา 747,968 ครั้ง ใน 36,427 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-07-2022, 22:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,665 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อเช้าตอนบิณฑบาต ก็ได้รับคำนิมนต์จากเจ๊เกี๊ยว (นางนฤณี สมบูรณ์) อดีตเจ้าของร้านลัดดาวัลย์ ขอให้ช่วยดูหิ้งพระให้หน่อยว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ? เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าลุงเตือน (นายเตือน สมบูรณ์) ซึ่งเป็นสามีนั้น ป่วยด้วยเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ลากยาวมาหลายเดือนแล้ว ไม่ได้ดีขึ้น แล้วญาติกันก็คือเจ๊เข่ง (นางประจิม สมบูรณ์) ก็ป่วยเป็น Long COVID แบบนี้เช่นกัน กระผม/อาตมภาพแจ้งไปว่า ถ้าหากมีเวลาจะไปดูให้

ในส่วนที่อยากจะบอกกล่าวกับพวกเราทั้งหลายไว้ก็คือว่า โดยปกติเมื่อทำอะไรแล้วมีความเจริญรุ่งเรือง มีความดีงาม เราก็ยกให้เป็นความดีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อถึงเวลาเกิดอะไรไม่ดีงามขึ้น เราก็ไปโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะโทษแม้กระทั่งพระ..!

กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวไปแล้วว่า เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย เวลาขาดสติ จะทำให้คนกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิได้ง่ายมาก ก็คือสงสัยแม้กระทั่งสิ่งที่เราเคารพนับถือ ว่าอาจจะก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษแก่ตนเอง โดยที่ลืมไปว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า ในส่วนของกรรมที่เกิดขึ้นกับเรานั้น ก็คือเกิดจากสิ่งที่เราได้กระทำไว้ในอดีต แล้วมาส่งผลเป็นวิบาก คือทำให้เราต้องรับผลกรรมนั้น ๆ

วิบากกรรมในด้านดี เรียกว่า กุศลกรรม สร้างความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เรา วิบากกรรมในด้านไม่ดี เรียกว่า อกุศลกรรม สร้างความทุกข์ ความยากลำบาก ความเจ็บไข้ได้ป่วยให้แก่พวกเรา เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่ทดสอบความมั่นคงในพระรัตนตรัยเป็นอย่างดียิ่งประการหนึ่ง

แต่ว่าเราต้องเข้าใจว่าบุคคลทั่วไปในบ้านเราเมืองเรานั้น ส่วนใหญ่ก็คือปุถุชน เป็นบุคคลที่ยังหนาไปด้วยกิเลส ยังยินดีกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ยังทุกข์ใจกับการ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันประคับประคองให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น อยู่ในด้านที่ดีที่งามให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็อาจจะกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิ ก่อทุกข์ก่อโทษให้เกิดกับตนเองและครอบครัวต่อไปในกาลข้างหน้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2022 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-07-2022, 22:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,665 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องหนึ่งก็คือการที่พระ ไม่ว่าจะเป็นระดับหลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ก็ดี หรือว่าตัวกระผม/อาตมภาพก็ดี พูดอย่างหนึ่งแล้วคนนำไปตีความอีกอย่างหนึ่ง อย่างเช่นนำคำพูดของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ไปยืนยันขันแข็งว่า หลวงพ่อเคยเกิดเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์นั้นพระองค์นี้ ทั้ง ๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่เคยกล่าวเช่นนั้นเลย ต้องบอกว่าเป็นพวกที่โง่แล้วอวดฉลาด..!

สิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านพูด ท่านบอก ท่านกล่าวนั้น จะพอเหมาะพอดีกับสถานการณ์เป็นที่สุด ไม่ต้องการอาศัยความปัญญาน้อยของท่านไปตีความอะไรมากมายไปยิ่งกว่านั้น แต่เราทั้งหลายก็ยังโง่แล้วอวดฉลาด มักจะไปตีความ เพื่อต้องการจะยกตนเองให้มีความสำคัญขึ้นมา ถ้าหากว่าเป็นภาษาของเด็กสมัยนี้ เขาเรียกว่า "หิวแสง" ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อหลายวันก่อน กระผม/อาตมภาพได้กล่าวถึงเรื่องที่เจ้าคุณหลวงตา (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ที่ท่านบอกว่า มีคนกล่าวโจมตีเรื่องของมโนมยิทธิกันมาก เราควรที่จะยกขบวนเข้ากรุงเทพฯ โดยการไปทางอากาศดีหรือไม่ ? กระผม/อาตมภาพก็ได้รับรองไปว่า ถ้าหากว่าจะไปเมื่อไร แจ้งมาก็แล้วกัน พร้อมเสมอ แต่มีผู้ไปตีความ ฟันธงว่า "ถึงเวลาแสดงอภิญญาใหญ่แล้ว..!"

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าคุณหลวงตา หรือว่ากระผม/อาตมภาพไม่ได้กล่าวถึงแม้แต่นิดเดียว แต่บรรดาท่านที่อวดฉลาด ก็ไปกล่าวให้คนเขาเข้าใจผิด ดีไม่ดีก็เจอท่านที่ไม่หวังดี ก็จะถูกปรับในข้อหาอวดอุตริมนุสสธรรมไปเลยก็มี

หรือไม่ก็ประเภทที่กระผม/อาตมภาพทำวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นตะกรุดมหาสะท้อน หรือว่าวัตถุมงคลบางชิ้นที่มีอำนาจมหาสะท้อนก็ตาม ก็จะมีผู้ไปกล่าวว่า "ถึงเวลาตอบโต้ศัตรูของเราแล้ว ต้องเอาให้สาสม..!" ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องของ รัก โลภ โกรธ หลง เต็ม ๆ กระผม/อาตมภาพที่เป็นพระ ไม่มีทางที่จะไปทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นอยู่แล้ว แล้ววัตถุมงคลบางชิ้นก็ยังได้รับคำสั่งอย่างชัดเจนว่า "ห้ามคิดร้ายกับผู้อื่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2022 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-07-2022, 22:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,665 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่ท่านพูดออกมา หรือว่าสิ่งที่ท่านเขียนออกมาแล้วนำไปลงตามสื่อโซเชียลต่าง ๆ นั้น ถ้าหากว่าบุคคลที่รู้จักกระผม/อาตมภาพดี หรือว่าเป็นบุคคลที่มีสติสัมปชัญญะเพียงพอ ก็จะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจ และไม่รู้เท่าทันตรงนี้ จึงทำให้เกิดเรื่องที่อยู่ในลักษณะที่ว่า ตั้งใจไปเบียดเบียนคนอื่น

แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพ ก็โดนสั่งห้ามทำตะกรุดมหาสะท้อน เพราะว่ามีการนำเอาไปใช้จนกระทั่งทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตอย่างชัดเจนถึง ๒ รายด้วยกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ จึงต้องการญาติโยมที่มีสติสัมปชัญญะ มีปัญญาจริง ๆ ก่อนที่จะเสพข่าว เชื่อข่าวอะไรก็ตาม ควรที่จะหาข้อมูลอย่างรอบด้านเสียก่อน

อีกส่วนหนึ่งก็คือพี่อรรณพ (พันตำรวจเอกอรรณพ กอวัฒนา) ที่ได้ถวายพระเครื่องหลวงปู่ปานพิมพ์ทรงสัตว์ทั้ง ๖ พิมพ์ จำนวนรวมกันแล้ว ๒๐๐ กว่าองค์ให้กระผม/อาตมภาพ ซึ่งตรงนี้อยู่ ๆ ก็มีเว็บไซต์บางแห่ง นำเอาพระเครื่องหลวงปู่ปานไปลงจำหน่ายเป็นจำนวนค่อนข้างจะหนาตา แล้วก็มีการร่ำลือกันไปว่า "ได้มาจากวัดท่าขนุน..!"

เมื่อพี่ณพส่งข่าวมา กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนท่านไปว่า "ยังอยู่ครบทุกองค์ ถ้าหากว่าใครขี้สงสัยมากก็พาไปวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพจะเปิดให้ดูเอง" พี่อรรณพบอกว่าตรงส่วนนี้ไม่ได้สงสัยอะไรเลย เพราะว่ารู้นิสัยของกระผม/อาตมภาพดีเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าเป็นสิ่งที่ลือกันอยู่ในตลาดพระเครื่อง จึงเรียนมาเพื่อเป็นข้อมูลให้กระผม/อาตมภาพได้รับทราบเอาไว้

จึงขอโอกาสใช้พื้นที่ตรงนี้ในการแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า พระเครื่องนั้นพี่อรรณพท่านถวายมา ก็เพื่อประโยชน์ในพระพุทธศาสนา แล้วกระผม/อาตมภาพก็ยังไม่เห็นว่าจะนำไปใช้ในส่วนไหน จึงยังคงเก็บเอาไว้เฉย ๆ อยู่ในลักษณะบูชาไปวัน ๆ เท่านั้น

แม้ว่าจะมีบุคคลจำนวนมากติดต่อมา ให้ราคาพระเครื่องหลวงปู่ปานพิมพ์นั้นพิมพ์นี้ ราคาเท่านั้นเท่านี้ ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากกระผม/อาตมภาพ ถ้าหากว่ามาทางโทรศัพท์ก็คือตัดสายทิ้ง ถ้าหากว่ามาทางไลน์ก็คือลบทิ้งแล้วบล็อกไปเลย ถ้าหากว่ามาทาง PM (ข้อความส่วนตัว) ในเว็บไซต์ ก็ไม่เปิดอ่านอีกด้วย ท่านทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองหลาย ๆ ครั้งเข้า ท้ายสุดก็เลิกราไปเอง แต่ก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2022 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-07-2022, 22:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,665 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้บอกกล่าวก็คือว่า ญาติโยมทั้งหลายที่มีน้ำจิตน้ำใจ แต่ว่าอาจจะ "ฉลาดน้อย" ไปหน่อย อย่างเช่นไปโพสต์ว่ากระผม/อาตมภาพต้องการสิ่งโน้นสิ่งนี้ ถ้าหากว่าตนเองซึ่งเป็นผู้ถวายตายไปแล้ว ก็ขอให้ท่านอื่น ๆ ช่วยกันถวายต่อด้วย..!

ขอบอกกล่าวอย่างชัดเจนว่า กระผม/อาตมภาพไม่มีสิ่งหนึ่งประการใดที่ต้องการเลย เพราะว่าปัจจัย ๔ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรคนั้น มีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ไม่มีสิ่งหนึ่งประการใดที่ต้องการต่างหากออกไปแม้แต่อย่างเดียว

สิ่งที่ท่านทั้งหลายส่งไปวัดท่าขนุนนั้น ร้อยละ ๙๙ กระผม/อาตมภาพไม่ได้เปิดดูเอง หากแต่เป็นเลขานุการบ้าง พระที่เข้าเวรอยู่ตอนช่วงนั้นบ้าง เปิด แล้วก็ตัดสินใจว่าจะส่งไปที่ไหน ถ้าเป็นหนังสือก็เข้าห้องสมุด ถ้าหากว่าเป็นเครื่องสังฆทานต่าง ๆ ก็เข้ากองกลาง เมื่อถึงเวลาก็นำออกมาให้พระท่านเลือกใช้กัน จนกระทั่งเหลือจากพระท่านเลือกแล้ว ก็มอบให้กับสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นทางโรงเรียน โรงพยาบาล หรือว่าหน่วยราชการต่าง ๆ ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์

สิ่งหนึ่งประการใด ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่ได้หามาด้วยตนเอง จะไม่ได้อยู่ในความทรงจำเลย เพราะกระผม/อาตมภาพเป็นบุคคลที่ขี้เกียจคิด ขี้เกียจปรุงแต่ง ดังที่ได้เคยเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมหลายครั้งว่า เก็บที่นอน เก็บกุฏิทีไร ก็ได้เงินทุกที

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าแม้แต่ปัจจัยที่ญาติโยมทั้งหลายถวายมาตามงานต่าง ๆ เมื่อถึงเวลากลับไปก็กอง ๆ รวมกันเอาไว้ เป็นระเบียบเรียบร้อยบ้าง ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยบ้าง เมื่อถึงเวลาก็ไม่ได้ใส่ใจ อาจจะลืมไป หลาย ๆ เดือนหรือว่าข้ามปีไปเลย..! เมื่อถึงเวลามาเก็บกวาดกุฏิ จัดความเป็นระเบียบ ก็มักจะพบเงินทั้งหลายเหล่านี้กองอยู่ ก็ได้มาทีละเป็นจำนวนมาก ๆ ด้วยกัน ดังนั้น..ในเมื่อส่วนของเงินทองยังไม่ได้ใส่ใจ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องพูดถึง..!

จึงขอบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายที่เมตตาว่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าส่งสิ่งหนึ่งประการใดไปเลย เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร โดยเฉพาะในส่วนของยารักษาโรค ไม่เคยใช้เลยแม้แต่นิดเดียว เนื่องจากว่าเลิกการใช้ยามา ๔- ๕ ปีแล้ว

ก่อนหน้านี้เอาใจร่างกายด้วยการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี แต่ว่าดูแลเท่าไรก็ยังคงเจ็บไข้ได้ป่วยไม่เลิก ท้ายสุดกระผม/อาตมภาพก็เลยตัดสินใจเลิกฉันยาทั้งสิ้นทั้งปวง กลับทำให้สุขภาพดีขึ้นมาเสียอีก จึงไม่จำเป็นที่ท่านทั้งหลายจะส่งสิ่งของต่าง ๆ มาให้ ไม่ว่าจะดีเลิศลอยเพียงใดในความรู้สึกของท่าน มาถึงตรงหน้ากระผม/อาตมภาพก็เท่านั้นเอง สักแต่ว่าเป็นรูป สักแต่ว่าเป็นธาตุ ไม่ได้มีอะไรที่สำคัญไปมากกว่านั้น

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2022 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว