|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : พระพุทธรูปที่ทางวัดกำลังจะปิดทองใหม่แน่นอน ในขณะที่ยังไม่ลอกทองเก่าออก ทางวัดอนุญาตให้คนทั่วไปสรงน้ำที่องค์ท่านได้ การที่เราไปสรงน้ำแล้วทองเก่านั้นอาจจะหลุดไป จะเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : ตั้งใจสรงน้ำเป็นพุทธบูชา ไม่มีเจตนาที่จะไปทำหลุด ไม่ถือว่าเป็นหนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:00 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
ถาม : การทำความสะอาดพระพุทธรูปหรือรูปเคารพต่าง ๆ ที่บูชาที่บ้านที่มีการปิดแผ่นทองคำเปลว ทั้งเพื่อความสวยงามและเพื่อแก้บน หากล้างแผ่นทองออกทั้งหมด จำเป็นต้องปิดแผ่นทองกลับคืนหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเขาปิดเป็นพุทธบูชาก็ต้องปิดคืนกลับไป ถาม : หากไม่ต้องการปิดแผ่นทองกลับคืน จะมีโทษอย่างไร และต้องแก้ไขอย่างไรครับ ? ตอบ : ก็ลงอเวจีเท่านั้นเอง แก้ไขอย่างไร ? ไม่ต้องแก้หรอก ถึงเวลาก็ลงไปแต่โดยดี...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:00 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าตอนที่เรากำลังคิดสงสัยถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่ เช่น วิธีใช้ของที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ปรากฏเห็นเป็นภาพเข้ามาในหัวชั่วขณะหนึ่งไม่นานนัก แต่กลับเข้าใจขั้นตอนวิธีต่าง ๆ รวมถึงวิธีการใช้ได้อย่างละเอียดทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้มีความรู้ที่จะทำได้ ขณะเห็นภาพนั้นรู้สึกสงบอย่างประหลาด สมาธิจดจ่ออยู่กับภาพนั้น และจิตก็เห็นภาพได้ชัดเจนอย่างมาก อยากทราบว่าอาการนี้เป็นอุปาทานไปเองหรือไม่ ? ผมควรจะเชื่อสิ่งที่สัมผัสนี้หรือไม่ ?
ตอบ : อาการแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นอาการของทิพจักขุญาณ ลองปฏิบัติตามดู ถ้าเกิดผลก็เชื่อได้ ถ้าไม่เกิดผลก็แล้วไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:00 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : ผมเป็นคนที่ชอบฝึกสมาธิคนหนึ่ง เพราะทำแล้วรู้สึกสงบดี หรือถ้านั่งสมาธิแล้วฟังเทศน์ของครูบาอาจารย์ไปด้วย จิตจะสงบเย็นดีมาก แต่พอทำไปสักพัก พอรู้สึกว่าตัวเองมีความสดชื่น มีกำลังขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึกว่ามันเบื่อ ๆ จะฝึกสมาธิต่อก็รู้สึกว่าเต็มแล้ว ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบการ์ตูน เช่น ดราก้อนบอล วันพีช ฯลฯ ก็เลยมักจะดูหนัง ดูการ์ตูน หลังจากที่ทำสมาธิจนจิตสบายดีแล้วแทบทุกครั้ง อีกทั้งผมยังชอบติดภาพโปสเตอร์การ์ตูนไว้ในห้องนอนอีกด้วย ไม่ทราบว่าถ้าทำแบบนี้ เมื่อตายไปแล้ว ผมจะไปเกิดเป็นอะไรครับ ?
ตอบ : น่าจะไปเกิดที่ดาวไซย่า...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:00 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
ถาม : การกู้เงินเพื่อนำมาทำบุญ นับว่าเป็นการทำบุญด้วยวัตถุทานที่บริสุทธิ์หรือเปล่าครับ ? โดยเฉพาะเมื่อเรานำเงินที่หามาอย่างสุจริตมาใช้คืนเงินกู้นั้น ๆ
ตอบ : เป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์แต่ไม่ควรทำ การทำบุญไม่ควรทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน ไม่ใช่ว่าไม่มีเงินก็ไปกู้เขามาทำบุญ ถ้าตายเสียก่อนไม่ได้คืนเขา จะซวยไม่รู้จบ..! ถาม : และหากเรานำเงินที่หามาอย่างไม่สุจริต เช่น เงินที่ได้จากการเล่นสลากกินแบ่งรัฐบาล มาชดใช้เงินกู้นั้น ก็นับว่าเงินกู้นั้นเป็นวัตถุทานที่ไม่บริสุทธิ์ด้วยใช่หรือไม่ครับ ? ตอบ : สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นเงินบริสุทธิ์ เพียงแต่ว่าได้มาจากเงินที่เป็นกึ่งการพนัน ถ้าเราติดใจว่าเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์ จิตใจเศร้าหมอง ผลบุญก็จะลดลง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:01 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
ถาม : ในช่วงที่มีการเป่ายันต์เกราะเพชร หากเรารับยันต์ที่บ้าน เราสามารถนำวัตถุมงคลมาวางไว้ที่หน้าตัก และขออาราธนาบารมีพระเพื่อพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหล่านั้นจะได้หรือไม่ครับ ? และวัตถุมงคลเหล่านั้นจะมีอานุภาพแตกต่างกับการนำมาเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจรับที่บ้าน ควรที่จะปูผ้าขาววางบนพานให้เรียบร้อย เหตุที่เขาให้วางบนตักที่วัด เพราะว่าตัวเองไปโดยที่ไม่มีความพร้อมสักอย่างเดียว ถ้าตั้งใจอาราธนาบารมีพระท่านสงเคราะห์ก็มีอานุภาพเหมือนกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:01 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
ถาม : หากเราฝังวัตถุมงคลต่าง ๆ ไว้ในร่างกาย เช่น ตะกรุด หรือหินมงคล ในช่วงที่มีการเป่ายันต์เกราะเพชร เราสามารถขออาราธนายันต์เกราะเพชรเข้าไว้ในวัตถุมงคลที่ฝังไว้ในร่างกายได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ได้ ถาม : การฝังวัตถุมงคลที่มียันต์เกราะเพชรเข้าร่างกายนั้น หากพลาดพลั้งดื่มเหล้า ยันต์จะหลุดจากวัตถุมงคลที่ฝังไว้ในร่างกายหรือเปล่าครับ หรือเพียงแต่หยุดการคุ้มครองไปชั่วขณะหนึ่งครับ ? ตอบ : ถ้าอยู่ในร่างกายถือว่าสูญอานุภาพไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในร่างกาย คือเป็นวัตถุที่แยกชิ้นส่วนกันออกไป ก็เสียอานุภาพการคุ้มครองแค่ชั่วคราว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:01 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
ถาม : ผมได้บูชาพระคำข้าวรุ่นพิเศษมาจากวัดท่าซุง เห็นพระองค์นี้สวยชอบใจ และเห็นมีพระบรมธาตุสี่องค์ครับ กลับมาศึกษาดูจึงได้รู้ว่า ปกติจะมีพระบรมธาตุ ๕ องค์ ซึ่งก็น่าจะจริงตามนั้น เพราะมีรอยบุ๋มของเนื้อพระอยู่ กราบเรียนถามว่าผมมีพระบรมธาตุอยู่ที่บ้าน หากนำไปติดเพิ่มจะสมควรหรือไม่ครับ ? และควรใชัวัสดุอะไรยึดติดพระกับพระธาตุจึงจะเหมาะสมครับ ?
ตอบ : ทำได้...ใช้กาวตราช้างก็ได้ ถาม : หากติดพระธาตุใหม่ลงไป จะมีผลต่อพุทธคุณหรือไม่ครับ ? ตอบ : มี...ถ้าเป็นพระธาตุของแท้ก็เพิ่มพุทธคุณขึ้นมา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2017 เมื่อ 10:02 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เรานั่งดูทีวีแล้วเห็นภาพอะไรแวบ ๆ ที่หางตา อารมณ์แบบนี้อยู่ในระดับอุปจารสมาธิหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ใกล้เคียง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
ถาม : ตามที่หนังสือหลวงพ่อกล่าวว่า ความรู้ในมโนมยิทธิ พระพุทธเจ้าทรงยืนยันไว้กับนิโครธปริพาชกว่า คนใดที่มีบารมีแก่กล้าจะเป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ วัน ถ้ามีบารมีอย่างกลางจะเป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ เดือน ถ้าบารมีอ่อนจะเป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ ปี เราไม่รู้ว่าอดีตชาติเราสะสมบารมีมาเท่าไร แต่ถ้าเราตั้งใจยกจิตขึ้นพระนิพพาน พยายามละสังโยชน์ ๑๐ ตัดร่างกาย ปฏิบัติในบารมี ๑๐ และทรงอารมณ์ให้ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ถ้าจะตั้งเป้าหมายให้เป็นพระอรหันต์ภายใน ๗ เดือน มีโอกาสเป็นได้ไหมคะ ?
ตอบ : ตั้งเป้าสูงสุดไว้ที่ ๗ ปี ถ้าทำได้ดีกว่านั้นก็ ๗ เดือน ถ้าทำได้ดีที่สุดก็ ๗ วัน เพราะฉะนั้น...แลกกับการเวียนว่ายตายเกิดที่นับชาติไม่ถ้วน เป้าหมาย ๗ ปีไม่ใช่เรื่องที่ยาวนาน ถาม : มีอะไรที่จะให้เสริมจากที่กล่าวมาคะ ? ตอบ : ไม่มี ถาม : หรือควรจะไปบวชชีจริงจังเลยไหมคะ ? ตอบ : ตัดสินใจเอาเอง อะไรที่เป็นเรื่องอนาคตของตัวเอง ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่าไปถามคนอื่น ถามคนอื่นเป็นลักษณะจับเขาเป็นตัวประกัน ถ้าเกิดเขายืนยันว่าดี เราไปแล้วไม่ดีก็บรรลัยอีก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2017 เมื่อ 20:06 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกประเภท ดีชั่วรู้หมดแล้วอดไม่ได้ ถ้าต้องการคำแนะนำ อาตมาแนะนำว่าไปตายซะ...เผื่อเกิดใหม่จะดีขึ้นบ้าง...!
บุคคลประเภทนี้เป็นบุคคลที่น่าสงสารมาก เพราะว่ารู้ทุกเรื่องแต่ไม่คิดที่จะทำจริง ถ้าอย่างนี้ทางพระเขาถือว่าศีลขาดเพราะความไม่ละอาย ก็คือรู้แล้วยังขืนทำ บวชเป็นพระก็หมดอนาคต เป็นฆราวาสก็หมดอนาคต มีอยู่อย่างเดียวคือต้องละความประพฤติทั้งหลายเหล่านั้นเสีย แล้วมาตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม ซึ่งก็คงจะลำบากยากเข็ญในตอนแรก เพราะว่ากิเลสรุนแรงกว่า ฝึกซ้อมด้านชั่วเอาไว้มากกว่า ถ้าไม่ท้อถอยโอกาสจะได้ดีก็เร็ว เพราะว่ากำลังเก่าสูงมาก เพียงแต่พลิกมาใช้อีกด้านหนึ่งให้ได้เท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2017 เมื่อ 20:07 |
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
"สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าเทศน์แล้วมีผู้บรรลุมรรคผลกันมาก เพราะว่าท่านเหล่านั้นมีพื้นฐานดีมาแต่เดิมแล้ว ส่วนใหญ่ฝึกปฏิบัติทางจิตจนกระทั่งได้อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ เป็นปกติ แค่ใช้กำลังทั้งหลายเหล่านั้นมาในการตัดกิเลส อย่างที่โบราณว่า "ชั่วเคี้ยวหมากแหลก" ก็เกิดผลแล้ว เพราะว่ากำลังสูงพอ
เหมือนกับบุคคลที่สะสมเงินเอาไว้ มีจำนวนมากมายมหาศาล จะซื้อของราคาแพงแค่ไหน ก็แค่ควักกระเป๋าไปซื้อเท่านั้น ขณะที่บุคคลซึ่งไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อน ไม่ได้ฝึกปรือมาก่อน ก็ เหมือนกับคนมีเงินไม่พอ ต้องเสียเวลาสะสมเงินเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน กว่าที่จะซื้อของแต่ละอย่างได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2017 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "คำถามจำนวนมากเป็นคำถามในลักษณะฟุ้งซ่านล่วงหน้า ถ้าเอาเวลาคิดคำถามไปภาวนาจะได้ดีมากกว่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2017 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้บ้านเมืองเราที่ปักษ์ใต้ลำบาก เพราะว่าฝนตกหนัก น้ำท่วมหลายแห่ง รอดูว่าถ้ามีท่านใดหรือหน่วยงานใดรับบริจาคช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัย พวกเราก็ไปช่วย ๆ กันหน่อย โดยเฉพาะพวกบรรดาข้าวของต่าง ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2017 เมื่อ 20:10 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม เวลามี ๒๔ ชั่วโมง ควรจะทำสัก ๒๕ ชั่วโมง..! แต่บางคนกลับไปหมกมุ่นอยู่กับสิ่งยั่วใจที่ตรงหน้า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไปใช้กำลังในทางที่ผิด ถ้าตั้งใจปฏิบัติทุ่มเทแบบนั้น ก็คงจะได้ดีไปนานแล้ว
สมัยอาตมายังเป็นวัยรุ่นอยู่ก็ฝึกกสิณ ขณะที่พระครูแสงท่านเพาะกาย ยกน้ำหนัก กินนมครั้งละ ๒ ลิตร กินไข่ครั้งละ ๑๒ ฟอง พอเห็นอาตมาภาวนาตัวสั่นพั่บ ๆ ก็โผล่หน้ามาบอกว่า "ดูท่ามันจะบ้าแล้ว" แต่หลังจากที่บวชเข้ามาได้ประมาณ ๒-๓ พรรษา ท่านก็บอกว่า "รู้อย่างนี้ ถ้าผมทำอย่างหลวงพี่สมัยนั้นก็สบายไปแล้ว" การเริ่มที่ช้ายังไม่ถือว่าช้าจนเกินไป เพราะการเริ่มช้าก็ยังดีกว่าคนที่ไม่ได้เริ่ม เพียงแต่การเริ่มช้าก็ต้องทุ่มเทเอาจริงเอาจังมากกว่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-12-2017 เมื่อ 20:11 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วัวธนูของสายเหนือ นอกจากของครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้แล้ว ก็ต้องหลวงปู่คำแสน วัดดอนมูลนี่แหละ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2017 เมื่อ 19:50 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ลูกอมหลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม มีหลายทรงด้วยกัน มีทรงกลม ๆ ที่เราเคยชิน กับทรงที่เขาเรียกว่าลูกหนำเลี้ยบ หรือทรงลูกรักบี้ แล้วก็ทรงแบน ๆ แบบเม็ดกระดุม แล้วยังมีพวกลูกสะกดอีก ลูกสะกดจะมีเจาะรูตรงกลาง ไม่ใช่ว่าไม่กลมแล้วเราก็ไม่แลเลย แบบนั้นจะชวดของดีไปอย่างน่าเสียดาย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2017 เมื่อ 19:51 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีอย่างหนึ่งที่อยากจะเตือนก็คือ หลายคนไปเน้นวัตถุมงคลสายเสน่ห์ อย่างเช่น แพะหลวงพ่ออ่ำ สีผึ้งหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง มีอยู่รายหนึ่งจะเอาผ้ายันต์ม้าเสพนาง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น แล้วก็จำนวนมากที่ไปจองปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ ปลัดขิกหลวงพ่อกวย เป็นต้น
วัตถุมงคลเหล่านี้ถ้าคิดจะเอาไปใช้ทางเมตตา อาตมาขอบอกว่าให้ระมัดระวังของแถม ที่ต้องระวังของแถมเพราะว่าสีผึ้งหรือปลัดขิก หรือสิ่งที่มาทางสายเสน่ห์เหล่านี้ สมัยก่อนเขาทำไว้ให้หาผัวหาเมียกัน เหตุเพราะว่าบางทีบรรดาลูกศิษย์มีฐานะลำบากยากจน ไม่มีสินสอดทองหมั้นที่จะไปขอตามที่พ่อตาแม่ยายเรียกร้อง ครูบาอาจารย์ท่านสงสารก็เลยทำวัตถุมงคลประเภทนี้ขึ้นมาให้ เพราะฉะนั้น...ควรดูวัตถุประสงค์ที่ท่านสร้างขึ้นมาจริง ๆ ด้วยว่าท่านต้องการอะไร แล้วเราจะเอาไปเมตตาค้าขายเดี๋ยวก็ได้ของแถมเท่านั้น อาจจะขายของได้อยู่หรอกนะ แต่จะได้ของที่ไม่ต้องการมาด้วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2017 เมื่อ 20:55 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
ถาม : ขออนุญาตถามคำถามระดับประถมค่ะ ?
ตอบ : ประถมนี่สูงมากเลยนะ ปกติมีแต่คำถามระดับอนุบาล..! ถาม : ช่วงนี้สวดมนต์แล้วง่วง ไม่แน่ใจว่าเพลียหรือถีนมิทธะ ? ตอบ : ดูอาการของร่างกายด้วยนะ ถ้าหากว่าเป็นช่วงหัวค่ำแปลว่าเราเพลีย ร่างกายอยากพักผ่อน แต่ถ้าเป็นช่วงเช้า ให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วสมาธิเราเริ่มทรงตัว พอสมาธิเริ่มทรงตัวเข้าถึงปฐมฌานหยาบ จะตัดขาดไปเลย บางทีก็เหมือนกับนั่งหลับ แต่พอรู้ตัวว่า...อ้าว...ยังนั่งอยู่เป็นปกติ เพียงแต่ลืมไปว่าสวดมนต์บทไหนไปแล้วเท่านั้น เพราะฉะนั้น...ดูด้วยว่าสภาพร่างกายเป็นอย่างไร ถ้าเราไม่รู้ว่าสภาพจิตแต่ละขั้นตอนมีอาการอย่างไร เราก็ต้องดูจากสภาพร่างกาย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2017 เมื่อ 20:56 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
ถาม : เริ่มรักษาศีลแปด บางทีต้องเลี้ยงลูก ไม่ทันเวลาเที่ยง ก็ต้องกินเลยเวลาไปนิดหน่อย ?
ตอบ : หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ถ้าตั้งใจกินมื้อกลางวันมื้อเดียวจริง ๆ ก็อย่าให้เกินบ่าย ๒ โมง เพราะว่าคนที่เขาติดงานจนถึงเที่ยงก็มีเยอะแยะ บางทีอาตมานี่ขนาดเป็นพระ เหลืออีก ๑๐ นาทีจะเที่ยงถึงจะได้ฉัน เพราะว่าติดงาน บางทีประชุมติดพันเลิกไม่ได้ ต้องว่ากันไปจนจบ แต่อย่างของโยมถ้าลูกติดพันก็อย่าให้เกินบ่าย ๒ โมงก็แล้วกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2017 เมื่อ 20:57 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|