กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-07-2015, 11:34
ชาตินี้ชาติสุดท้าย ชาตินี้ชาติสุดท้าย is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Dec 2011
ข้อความ: 7
ได้ให้อนุโมทนา: 2,650
ได้รับอนุโมทนา 6,643 ครั้ง ใน 198 โพสต์
ชาตินี้ชาติสุดท้าย is on a distinguished road
Default อานิสงส์การทำบุญด้วยอารมณ์จิตที่ต่างกัน

กราบเรียนถามหลวงพ่อดังนี้ครับ

ในการทำบุญที่เป็นทานนั้น จิตของผู้ให้ทานอาจมีลักษณะที่ต่างกันคือ
๑. จิตนั้นมีตัณหาเป็นที่ตั้ง ขณะให้ทาน เช่น ทำบุญเพราะปรารถนาที่จะร่ำรวย ปรารถนาที่จะพ้นจากทุกขเวทนา ทำบุญเพราะอยากได้วัตถุมงคล เป็นต้น
๒. จิตนั้นมีศรัทธาเป็นที่ตั้ง ขณะให้ทาน เช่น มีศรัทธาในพระศาสดาเจ้า จึงทำบุญเพื่อเทิดทูนพระองค์ ทำบุญเพื่อรักษาพระศาสนา เป็นต้น
๓. จิตนั้นมีพรหมวิหาร ๔ เป็นที่ตั้ง ขณะให้ทาน เช่น มีคนมาบอกบุญ ก็ทำบุญด้วยความรู้สึกว่า การให้เป็นสิ่งที่ดี คนอื่นลำบากกว่าเรา เราให้เขาเขาก็จะมีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็มิได้ปรารถนาสิ่งใดเป็นการตอบแทน ให้แล้วก็จบกันไป เป็นต้น
๔. จิตนั้นมีความกตัญญูกตเวทิตาเป็นที่ตั้ง ขณะให้ทาน เช่น ถวายปัจจัยแด่พระภิกษุผู้เคยอบรมกรรมฐานให้ แม้จะทำให้ตนลำบากอยู่บ้าง ก็มิได้หวั่นเกรง เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ต่างก็เป็นการสละทรัพย์ภายนอกออก จึงอยากกราบเรียนถามถึงผลของการให้ทานทั้ง ๔ ลักษณะว่า แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชาตินี้ชาติสุดท้าย : 14-07-2015 เมื่อ 09:19
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชาตินี้ชาติสุดท้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 24-11-2017, 17:29
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,640
ได้ให้อนุโมทนา: 216,875
ได้รับอนุโมทนา 747,396 ครั้ง ใน 36,405 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default

ถาม : ในการทำบุญที่เป็นทานนั้น จิตของผู้ให้ทานอาจมีลักษณะที่ต่างกันคือ
๑) ขณะให้ทานจิตนั้นมีตัณหาเป็นที่ตั้ง เช่น ทำบุญเพราะปรารถนาที่จะร่ำรวย ปรารถนาที่จะพ้นจากทุกขเวทนา ทำบุญเพราะอยากได้วัตถุมงคล เป็นต้น
๒) ขณะให้ทานจิตนั้นมีศรัทธาเป็นที่ตั้ง เช่น มีศรัทธาในพระศาสดาเจ้า จึงทำบุญเพื่อเทิดทูนพระองค์ ทำบุญเพื่อรักษาพระศาสนา เป็นต้น
๓) ขณะให้ทานจิตนั้นมีพรหมวิหาร ๔ เป็นที่ตั้ง เช่น มีคนมาบอกบุญ ก็ทำบุญด้วยความรู้สึกว่า การให้เป็นสิ่งที่ดี คนอื่นลำบากกว่าเรา ถ้าเราให้ เขาก็จะมีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็มิได้ปรารถนาสิ่งใดเป็นการตอบแทน ให้แล้วก็จบกันไป เป็นต้น
๔) ขณะให้ทานจิตนั้นมีความกตัญญูกตเวทิตาเป็นที่ตั้ง เช่น ถวายปัจจัยแด่พระภิกษุผู้เคยอบรมกรรมฐานให้ แม้จะทำให้ตนลำบากอยู่บ้าง ก็มิได้หวั่นเกรง เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ต่างก็เป็นการสละทรัพย์ภายนอกออก จึงอยากกราบเรียนถามถึงผลของการให้ทานทั้ง ๔ ลักษณะว่า แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรครับ ?

ตอบ : ไม่นึกว่าจะฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้..! การให้ทานนั้น ๑.วัตถุทานบริสุทธิ์ ๒.เจตนาในการให้บริสุทธิ์ ๓.ผู้ให้คือตัวเองมีศีลบริสุทธิ์ ๔.ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์ ถือว่าได้บุญเต็ม ๑๐๐ ส่วน ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งพร่องก็ตัดไป ๒๕ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น..ดูเอาก็แล้วกันว่า ที่ถามมาทั้ง ๔ ลักษณะนั้นเข้ากับข้อใดบ้าง
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว