#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
|
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพอยู่ในระหว่างเดินทางกลับวัด เพราะว่าพรุ่งนี้มีการประชุมคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ และคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้น บางทีก็กินเวลาของกระผม/อาตมภาพไปจนหมด
เนื่องเพราะว่าตำแหน่งทั้งทางคณะสงฆ์และทางโลกรวมกันแล้ว ๓๐ กว่าตำแหน่ง แค่ประชุมอย่างเดียวก็แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว ญาติโยมทั้งหลายที่ไปหาถึงที่วัดแล้วไม่ได้พบก็ดี หรือที่โทรศัพท์ไปที่วัด แล้วก็คาดคั้นว่ากระผม/อาตมภาพอยู่วัดวันไหนบ้างก็ดี ต้องขออภัยที่ไม่สามารถจะให้คำมั่นได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบางทีงานคณะสงฆ์เร่งด่วนก็เข้ามาถึง โดยเฉพาะตำแหน่งล่าสุดที่กำลังรอพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชอยู่ก็คือ ตำแหน่งของคณะกรรมการดำเนินงาน โครงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ การเป็นคณะกรรมการดำเนินงานนั้น ไม่ใช่คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการอำนวยการอาจจะกุมนโยบายอยู่ห่าง ๆ แต่คณะกรรมการดำเนินงานต้องวิ่งลงไปถึงพื้นที่ทั้ง ๒๓ จังหวัด เพื่อที่จะตรวจดูว่าหมู่บ้านแต่ละแห่งที่เขาเสนอมานั้น สมควรที่จะได้รับการยกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หรือไม่ ? ซึ่งถ้ามีพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชลงมาแล้ว ก็ต้องรีบเร่งดำเนินการ คราวนี้เวลาที่ไม่มีอยู่แล้ว ก็จะยิ่งไม่มีขึ้นไปอีก..! ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่ตั้งใจไปหากระผม/อาตมภาพที่วัด โปรดใช้ปัญญาด้วย ก็คือถ้าไปในวันปกติธรรมดา หรือว่าวันหยุดราชการ นักขัตฤกษ์ทั่วไป โอกาสที่จะได้พบตัวนั้นน้อยมาก แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไปในวันที่วัดมีงาน มีโอกาสที่จะพบตัวได้มากกว่า อย่างเช่น ช่วงที่ผ่านมามีงานบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติครั้งที่ ๔/๒๕๖๖ ระหว่างวันที่ ๓ - ๕ มิถุนายน ๒๕๖๖ ที่ผ่านมานั้น กระผม/อาตมภาพก็ต้องอยู่เพื่อคอยนำญาติโยมทั้งหลายเจริญพระกรรมฐาน ซึ่งงานนี้ถือว่าเป็นงานที่สำคัญที่สุดของกระผม/อาตมภาพก็ว่าได้ เนื่องเพราะว่าเป็นการนำญาติโยมทั้งหลายปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา คือศีล คือสมาธิ คือปัญญา ผู้ใดที่ไปวัดช่วงนั้น โอกาสที่จะได้พบก็จะมีมากกว่าช่วงอื่น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2023 เมื่อ 01:06 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แต่ถึงจะมีงานอย่างนั้นก็ดี ถ้าหากว่ามีงานเร่งด่วนของทางคณะสงฆ์เข้ามา อย่างเช่นว่ามีงานอบรมพระอุปัชฌาย์ มีงานอบรมเจ้าอาวาส เหล่านี้เป็นต้น กระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งไปทำหน้าที่คณะกรรมการ ตามที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีบ้าง แล้วแต่ว่างานนั้นเป็นงานระดับภาค หรือว่าเป็นงานระดับจังหวัด
แล้วหลายงานก็ต้องวิ่งไปตามคำสั่งของหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ไปเป็นตัวแทนของท่านบ้าง ไปเป็นตัวแทนของหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณบ้าง งานของตนเองก็ท่วมหัวอยู่แล้ว แต่บางทีก็ยังได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่แทนอีก บางงานถึงขนาดต้องไปปฏิบัติหน้าที่แทนพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีก็มี จึงทำให้เวลาของตนเองนั้น แทบจะทุ่มเทลงไปให้กับงานของคณะสงฆ์จนหมดแล้ว ต้องขออภัยญาติโยมทั้งหลายที่เดินทางแล้วเดินทางอีก ไปยังวัดแล้วไม่ได้พบ ตลอดจนกระทั่งท่านทั้งหลายที่ติดต่อทางโทรศัพท์บ้าง ทางเฟซบุ๊กบ้าง แล้วไม่ได้รับคำยืนยันว่ากระผม/อาตมภาพจะอยู่วัดวันไหนบ้าง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ล่าสุดทางโรงงานแกะสลักพระแก้วประจำพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ขออนุญาตนำพระแก้วไปส่งที่วัด ในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๖ นี้ แล้วสอบถามมาว่ากระผม/อาตมภาพว่างหรือไม่ ? กระผม/อาตมภาพตอบไปอย่างชัดเจนว่า "ตอนนี้ว่าง" ก็คือในเวลาที่ท่านถามมานั้นยังไม่มีคิวงานสำคัญ แต่ถ้าก่อนที่ท่านจะนำพระแก้วไปส่ง แล้วมีงานสำคัญแทรกเข้ามา กระผม/อาตมภาพก็ต้อง "เท" ท่าน เพื่อที่จะไปทำงานคณะสงฆ์ก่อน เนื่องเพราะว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย กิจการงานใด ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง ด้านการศึกษา ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้านการสาธารณูปการ คือบูรณปฏิสังขรณ์วัด ด้านการศึกษาสงเคราะห์ คือช่วยการศึกษาทั้งพระภิกษุสามเณรและฆราวาส ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ที่ช่วยให้เหตุเภทภัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เหล่านี้เป็นต้น เป็นหน้าที่ของพระสังฆาธิการ คือผู้ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เจ้าอาวาส ไล่ขึ้นไปจนกระทั่งถึงเจ้าคณะใหญ่ เป็นหน้าที่บังคับเลยว่า เมื่อท่านเป็นพระสังฆาธิการแล้ว อย่างน้อยต้องทำหน้าที่ทั้ง ๖ ด้านนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2023 เมื่อ 01:09 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
แล้วถ้าหากว่าวัดของท่านเป็นหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล ก็ต้องเพิ่มเติมหน้าที่เข้ามาเป็น ๘ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านศีลธรรมและวัฒนธรรม ด้านของสุขภาพอนามัย ด้านของความสามัคคีธรรม ด้านของความกตัญญูกตเวทิตา เหล่านี้เป็นต้น
แล้วถ้าหากว่าท่านเป็นชุมชนคุณธรรม ท่านก็ยังต้องนำญาติโยมประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ แล้วทางราชการ โดยเฉพาะจังหวัดนั้น ๆ แต่งตั้งให้เป็นชุมชนคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นชุมชนคุณธรรมในระดับส่งเสริม ในระดับต้นแบบ ในระดับต้นแบบโดดเด่น จนกระทั่งในระดับ ๑๐๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรม ๓๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรม และ ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรมของประเทศ เป็นต้น แล้วถ้าหากว่ายังมีตำแหน่งอื่น ๆ เข้ามาอีก อย่างเช่นว่า เกี่ยวกับโครงการ วัด ประชารัฐ สร้างสุขตามหลัก ๕ ส. ไม่ว่าจะเป็นการสะสาง สะอาด สะดวก สบาย เหล่านี้เป็นต้น ท่านก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ทั้งหลายเหล่านี้ให้สมกับที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายมา นี่แค่กล่าวถึงงานไม่กี่งานเท่านั้น ไม่ใช่ ๓๐ กว่างานที่กระผม/อาตมภาพรับหน้าที่อยู่ ท่านก็คงจะหัวฟูไปตาม ๆ กันแล้ว ยังดีที่ว่าพระของเราโกนหัวก็เลยไม่มีหัวให้ฟู ไม่อย่างนั้นแล้วท่านทั้งหลายก็คงจะเห็นภาพพระเดินหัวยุ่ง เพราะว่าทำงานเกี่ยวกับงานทั้งหลายเหล่านี้ดังที่ได้ว่ามาข้างต้น จะว่าไปแล้ว กิจการงานต่าง ๆ ที่พระภิกษุสามเณรของเรากระทำ ไม่ว่าจะเพื่อคณะสงฆ์ เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อหน่วยราชการ และเพื่อญาติโยมนั้นมีมากมายมหาศาล แต่ความดีทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีใครนำเสนอออกสื่อ ทำเป็นร้อยครั้ง จะได้รับการเสนอสักครั้งก็ยาก แต่ถ้าหากว่ามีอะไรผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย ท่านทั้งหลายก็จะโดนถล่มจมดินไปทันที..! อย่างเช่นว่า โทรศัพท์มาแล้วไม่สามารถจะนัดพบกระผม/อาตมภาพได้ ก็ต่อว่ามาประมาณว่า "เรื่องมาก" "พบยาก" "เล่นตัว..ว่าอย่างนั้นเถอะ" เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจ ว่าท่านทั้งหลายไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับกระผม/อาตมภาพที่ทำงานเหล่านี้อยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2023 เมื่อ 01:12 |
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายต้องรับงาน ๓๐ กว่าอย่าง แต่ละอย่างนอกจากต้องทำให้ได้ดีแล้ว ยังต้องประสานกับเครือข่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวัด บ้าน โรงเรียน หน่วยราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วท่านจะรู้ว่ากระผม/อาตมภาพอยากให้วันหนึ่งมี ๓๐ ชั่วโมงขนาดไหน เพราะว่าไม่สามารถที่จะใช้เวลา ๒๔ ชั่วโมงนี้ทำงานเหล่านั้นให้สมบูรณ์ลงไปได้ ก็ได้แต่กล้อมแกล้มผ่านไปในลักษณะที่เรียกว่า "ขายผ้าเอาหน้ารอด" เท่านั้น
แต่ก็ยังมีหน่วยงานหลายหน่วย ตลอดจนกระทั่งทางคณะสงฆ์ให้รางวัลต่าง ๆ มามากมาย เพราะเห็นว่าสามารถทำได้ดี ซึ่งจะว่าไปแล้ว คำว่าดีในที่นี้ ก็คือดีในระดับที่ท่านทั้งหลายใช้การวัดตามประสบการณ์ของตน แต่ไม่ใช่ดีในระดับที่กระผม/อาตมภาพต้องการ จึงเป็นเรื่องที่ "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" เวลาญาติโยมทั้งหลายโทรศัพท์มาเหนือใต้ออกตก ต้องการให้หลวงพ่อเล็กไปอนุเคราะห์สงเคราะห์ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง "วันก่อน เดือนก่อน ปีก่อน ท่านไปที่นั่น ทำไมไม่มาที่นี่บ้าง ?" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจ ถ้าหากว่ามีเวลามากมายขนาดนั้น ก็อยากจะไปให้ทุกแห่ง แต่เนื่องจากว่าต้องลำดับความสำคัญหนักเบา ก่อนหลังเร็วช้าของแต่ละงาน บางงานก็ต้องทิ้ง บางงานก็ต้องปฏิเสธไป งานสำคัญขนาดงานเป็นประธานออกนิโรธกรรมของครูบาเหนือชัย โฆสิโต นักบุญแห่งขุนเขา เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำป่าอาชาทอง ซึ่งเป็นสหธรรมิกรุ่นน้อง คบหาสมาคมกันมาเกิน ๓๐ ปีแล้ว กระผม/อาตมภาพยังต้อง "เท" งานของท่าน เพราะว่ามีคำสั่งด่วนให้เป็นคณะกรรมการสอบพระอุปัชฌาย์ภาค ๑๔ ของปีนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2023 เมื่อ 01:14 |
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ท่านจะเห็นว่า เมื่อถึงเวลาแล้วนัดแนะมา ไม่ใช่ว่าจะพบได้ ท่านทั้งหลายกรุณาอย่าใช้กิเลสของตนมาต่อว่าต่อขาน มาใส่อารมณ์กันผ่านทางสื่อ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ หรือว่าเฟซบุ๊ก เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่เคยรับกิจนิมนต์เป็นการส่วนตัว นอกจากส่วนรวมที่จะมากันทีเป็นร้อยเป็นพัน ถ้าหากว่ารับกิจนิมนต์ส่วนตัว ฉันเช้า ฉันเพล สวดมนต์เย็น ก็คงจะหลุดเป็นชิ้น ๆ มากกว่านี้..!
จึงต้องบอกกล่าวท่านทั้งหลายให้ทราบชัดอีกที เผื่อว่าท่านทั้งหลายยังไม่เคยรับรู้ หรือว่ารับรู้แล้วแต่ว่าพยายามที่จะลืม เพราะต้องการให้ได้อย่างใจของตนเองว่า กระผม/อาตมภาพนั้นไม่มีเวลาที่จะไปนั่งรับโยมที่วัด เนื่องเพราะว่างานคณะสงฆ์อย่างเดียว ขนาดยังทำไม่ได้ดีอย่างที่ต้องการ ก็กินเวลาไปจนไม่เหลืออะไรแล้ว ดังนั้น..ท่านทั้งหลายที่ไปวัดแล้วตั้งความหวังว่าจะได้พบกระผม/อาตมภาพนั้น ถ้าหากว่าไปช่วงเวลางาน อย่างน้อยก็จะได้เห็นหน้าแวบ ๆ แต่ถ้าหากว่าไปเวลาอื่น โอกาสที่จะได้พบแทบจะเป็นศูนย์ ยกเว้นว่าท่านทั้งหลายสร้างเวรสร้างกรรมเอาไว้มากจริง ๆ โผล่หน้าไปแล้วมีโอกาสได้เจอ แต่โอกาสที่จะโดนด่าก็มีสูงมาก..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2023 เมื่อ 01:16 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|