#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
|
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ภารกิจสำคัญและภารกิจเร่งด่วนยังคงมีอยู่ตามปกติ ในส่วนของภารกิจสำคัญก็คือ ต้องเดินทางไปเปิดโรงงานน้ำดื่มให้กับท่านประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ แล้วก็ฉวยโอกาสในการศึกษาดูงานเรื่องการผลิตน้ำดื่มไปด้วย
ทองผาภูมิของเราต้องบอกว่าโชคดีมาก เนื่องเพราะว่าเมื่อมีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณแล้ว การตั้งโรงงานผลิตน้ำดื่มเท่ากับเป็นต้นน้ำ น้ำที่ออกจากเขื่อนมาจึงมีความสะอาดสูง ทำให้ระบบของการกรอง การฆ่าเชื้อต่าง ๆ นั้นมีปัญหาน้อยมาก ในส่วนนี้ขอยกไว้ไม่กล่าวถึง ส่วนที่จะกล่าวถึงก็คือว่า ในขณะที่เจริญพระพุทธมนต์นั้น กระผม/อาตมภาพนึกขึ้นมาได้ว่า ตามหลักวิชาของทางสายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค สืบทอดมาถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั้น มีวิชา "การเสี่ยงทาย" อยู่ด้วย คำว่า วิชาการเสี่ยงทาย ในที่นี้ก็คือ เราจะนำวัตถุมงคลของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค อย่างเช่นว่า พระหกกษัตริย์ก็ดี ลูกอมก็ดี หรือว่าตะกรุดก็ตาม เอาไว้ในมือของเรา กราบขอขมาพระรัตนตรัย แล้วขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลายช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ บอกกล่าวว่าสิ่งที่เราทำนั้นจะดีหรือว่าไม่ดี อย่างเช่นว่า "ถ้าหากว่าดี ขอให้วัดแล้วมือของเรายาวขึ้น" คำว่ามือในที่นี้ นับตรงปุ่มกระดูกด้านในของข้อศอกมาจรดปลายนิ้วก้อย เราวัดได้ยาวเท่าไรแล้วให้จดจำไว้ พร้อมกับอธิษฐานว่า ถ้าทำแล้วดี ขอให้มีความเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นว่ามือเรายาวขึ้นกว่าเดิม ถ้าวัดแล้วยาวขึ้นกว่าเดิม แปลว่าสิ่งนั้นทำได้ เจริญรุ่งเรือง หรือว่าการเดินทางสะดวกปลอดภัย แต่ถ้าหากว่าต้องการความมั่นใจก็อธิษฐานใหม่อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ขอให้สั้นลง เป็นต้น ถ้าได้ผลทั้ง ๒ ครั้งก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่า สิ่งที่เราเสี่ยงทายนั้นจะเป็นไปตามนั้น หรือว่าถ้าเป็นลูกอมของหลวงปู่ปาน ก็คือลูกอมผงวิเศษยันต์เกราะเพชร ซึ่งติดทำเนียบเบญจภาคีลูกอมแห่งประเทศไทย ก็อธิษฐานอย่างเช่นว่า การเดินทางในครั้งนี้จะสะดวกปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัย ถ้ามีอาการปกติ ก็ให้รู้ว่าการเดินทางนั้นสะดวกปลอดภัย แต่ถ้าอยู่ดี ๆ รู้สึกว่าลูกอมร้อนขึ้นมา ก็ให้งดการเดินทางเสีย แสดงว่าไม่ปลอดภัยอย่างแน่นอน หรืออย่างที่หลวงปู่ครูบาธรรมชัย (พระครูวรเวทย์วิสิฐ) วัดทุ่งหลวง ท่านใช้วิธีหักเอากิ่งไม้มา วัดดูว่ายาวสั้นเท่าไรแล้วจดจำไว้ หลังจากอธิษฐานแล้ววัดใหม่ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นอย่างชัดเจน เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2022 เมื่อ 02:09 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ในเมื่อกระผม/อาตมภาพได้ศึกษาวิชานี้มา แต่ไม่เคยได้ลองเลย งานนี้เมื่อเจริญพระพุทธมนต์ ท่านนายกฯ ประเทศ บุญยงค์ จุดเทียนน้ำมนต์แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ตั้งใจอธิษฐานเสี่ยงทายดูว่า "กิจการโรงงานน้ำดื่ม ที.พี. ของท่านนายกฯ ประเทศนี้จะมีความเจริญก้าวหน้าอย่างไร ถ้าหากว่ามีความเจริญรุ่งเรืองก็ขอให้เทียนน้ำมนต์นี้ติดสว่างสม่ำเสมอตั้งแต่ต้นยันปลาย"
เมื่อเจริญพระพุทธมนต์ไปยังไม่ทันจะจบ ปรากฏว่าเทียนน้ำมนต์หมดเกลี้ยงชนิดที่ไม่มีอะไรเหลือเลย..! ถ้าพิจารณาแล้วก็คือสว่างรุ่งเรืองตั้งแต่ต้นยันปลาย แปลว่ากิจการงานนี้จะเจริญรุ่งเรืองมาก..! โดยเฉพาะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ๓๐ กว่าปีที่ได้เจริญพระพุทธมนต์ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรก็ตาม ไม่เคยมีสักครั้งเดียวที่เทียนน้ำมนต์นั้นจะหมดต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็ยังเหลืออยู่อีกมาก หรือถึงจะเหลือไม่มากก็ยังมีเหลืออยู่ แต่ว่าเทียนน้ำมนต์ในวันนี้ไหม้เกลี้ยงไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่นิดเดียว จึงเป็นที่เชื่อได้ว่าการเสี่ยงทายครั้งนี้ประสบความสำเร็จ แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้กระผม/อาตมภาพก็แค่เล่าให้พวกเราฟังเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้พวกเรานั้นไปมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ซึ่งค่อนข้างจะเลื่อนลอย เพราะว่ามีโอกาสผิดและถูกเท่า ๆ กัน ดังนั้น..ในสิ่งที่จะประกันความเสี่ยงได้ก็คือ ถ้าเราคิดดี พูดดี ทำดี ตั้งหน้าตั้งตาสั่งสมความดีต่อเนื่องกันให้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอ ย่อมมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในชีวิตของเราอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ถ้าหากว่าเราภาวนาด้วยความจริงจัง สม่ำเสมอ ก็จะทำให้ผลดีเกิดขึ้นแก่เรา เป็นต้น ในส่วนของการเสี่ยงทายนั้น เอาไว้ใช้ในตอนที่ "หาอะไรเป็นที่พึ่งแล้วไม่ได้จริง ๆ" ค่อยมาเสี่ยงกันดีกว่า ไม่ใช่เอะอะอะไรก็เสี่ยงทาย เอะอะอะไรก็จับก้านธูปอธิษฐาน เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีโอกาสที่จะผิดและถูกเท่า ๆ กัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2022 เมื่อ 02:12 |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
กระผม/อาตมภาพขอให้หลักการเอาไว้ว่า ถ้าหากว่าดีก็เก็บไว้เป็นกำลังใจของเราเอง แต่ถ้าหากว่าไม่ดี ก็ขอให้เราคิดเสียว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเครื่องทดสอบความมุ่งมั่นของเรา ว่ามีกำลังใจที่จะกระทำสิ่งนี้ให้สำเร็จลงไปอย่างแท้จริงหรือไม่ ? ไม่ใช่ว่าพอเสี่ยงทายแล้วไม่ดี เราก็เลิก ไม่ทำเสียเลย แล้วขณะเดียวกัน พอบอกว่าดี ก็ทุ่มเทมากจนขาดความระมัดระวัง ซึ่งถ้าผิดพลาดลงไปก็อาจจะมีการเสียใจภายหลังได้
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกเล่าบอกกล่าวให้แก่พวกเราฟังก็คือว่า กระผม/อาตมภาพนึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศลาวแล้วประสบอุบัติเหตุนั้น แมลงภู่คำที่ใช้อยู่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้วว่า ให้กระผม/อาตมภาพเตรียมแว่นสายตาสำรองไปด้วย กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่นกันล้วน ๆ ถ้าหากว่ามีประสบการณ์ที่ถูกต้องมาโดยตลอด ก็ย่อมจะเชื่อมั่นมากจนไม่จำเป็นที่จะต้องถามเหตุผล จึงได้เตรียมแว่นตาสำรองไปด้วย แต่ปรากฏว่าการหกล้มนั้น แว่นตาไม่ได้เสียหาย หากแต่ว่าเป็นคางไปกระแทกบันไดแทน ซึ่งลองคิดดูว่า ถ้าส่วนคางไม่ไปโดนบันไดเสียก่อน คาดว่าแว่นตาอาจจะแตกหักคาใบหน้า และอาจจะมีการโดนบาดหรือเศษกระจกเข้าตาอย่างแน่นอน..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นกระผม/อาตมภาพจึงขอแจ้งให้ท่านทั้งหลายทราบว่า สิ่งที่ปรากฏขึ้นนั้นมีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้าอยู่แล้ว แต่กระผม/อาตมภาพไม่ใช่บุคคลที่ถึงเวลาแล้วจะล่าถอย หรือว่าท้อถอยกับสิ่งหนึ่งประการใดที่จะเกิดขึ้น ชนิดที่ถอดใจไม่ทำเสียเลย หากแต่ยังคงทำตามที่ตั้งใจเอาไว้ โดยเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้นกว่าเดิม เหตุที่มาเล่าถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่า เมื่อวันก่อนเดินทางไปยังบ้านของคุณสุภาวดี จงเสริมศิริสกุล เพื่อที่จะไปพบแพทย์ในการตรวจรักษาอาการที่หกล้มมาตามนัดนั้น ในช่วงระยะเวลาที่รอความพร้อมอยู่ กระผม/อาตมภาพได้เดินเข้าไปในสวนของบ้านคุณสุภาวดี ปรากฏว่ามีแมลงภู่บินตามอยู่ตลอด กระผม/อาตมภาพตอนแรกก็สงสัยว่า "ไอ้เจ้าแมลงภู่ตัวนี้ไปไหนไม่เป็นหรือไร ?" แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้ทัน ๆ กันว่า ตามที่ได้รับคำบอกกล่าวมา จากสายครูบาอาจารย์ด้านแมลงภู่คำ ท่านบอกเอาไว้ว่า ถ้าพกติดตัวแล้ว จะมีโอกาสได้พบเห็นผึ้งหรือแมลงภู่ในบริเวณบ้านมากกว่าเวลาปกติ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2022 เมื่อ 02:18 |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ในเมื่อเป็นเช่นนี้นึกได้ขึ้นมา จึงได้บอกกล่าวกับเขาว่า "ให้ไปหากินตามปกติเถอะ ไม่ต้องมาติดตามคอยดูแลอะไรหรอก เจ้านายเขามาด้วยเฉย ๆ" คำว่า เจ้านายในที่นี้ ก็คือแมลงภู่คำที่กระผม/อาตมภาพพกติดตัว และเรียกชื่อว่า "เจ้าเผือกน้อย" เพราะว่าสร้างขึ้นมาจากงาช้างกำจัด เป็นส่วนที่พกติดตัวเป็นประจำ ส่วนที่ช่วยแจ้งว่าให้เตรียมแว่นตาสำรองไปนั้น คือ "วัชระ" กับ "วายุ" เป็นส่วนที่กระผม/อาตมภาพติดรถไว้เป็นประจำเช่นเดียวกัน
ของทั้งหลายเหล่านี้นั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีการบูชาที่ถูกต้อง แล้วในขณะเดียวกัน มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ท่านทั้งหลายก็จะสามารถที่จะใช้วัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านั้น ในลักษณะที่มีความพิเศษ หรือว่ามีอานุภาพมากกว่าที่คนอื่นเขาใช้ เพียงแต่ว่าเราปฏิบัติให้ถูกต้อง สร้างบุญสร้างกุศลอะไรก็อนุญาตให้เขาเหล่านั้นได้โมทนาด้วย เมื่อเขาทั้งหลายโมทนาในบุญกุศลของเราแล้ว มีกำลังมากขึ้น เขาก็สามารถที่จะอนุเคราะห์สงเคราะห์แก่เราทั้งหลายได้มากขึ้นไปด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกกล่าวก็คือ วันนี้มีนักท่องเที่ยวทะลักไปถ่ายรูปที่ "ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน" เป็นพิเศษ กระผม/อาตมภาพยังสงสัยอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมเที่ยวกันตั้งแต่วันปกติ ? จนได้รับคำเฉลยจากน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ว่า ในระยะของการประชุมเอเปคที่บ้านเรานี้ ทางราชการให้หน่วยงานต่าง ๆ หยุดงาน และโรงเรียนต่าง ๆ หยุดเรียนไประยะหนึ่ง เพื่อสลับผลัดเปลี่ยนกันไม่ให้ผู้คนไปแออัดยัดเยียดกันมากมายนัก จนทำให้เกิดจราจรติดขัด กลายเป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่งามในสายตาของแขกบ้านแขกเมืองได้ จึงได้เข้าใจว่า การที่นักท่องเที่ยวทะลักไปยังทองผาภูมิ ก็เกิดจากการมีวันหยุดเพิ่มขึ้นนี่เอง สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2022 เมื่อ 02:24 |
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|