|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
สมาธิทรงตัวในขณะที่มีอันตราย กับ ต้องคอยกลืนน้ำลายในขณะทำสมาธิ
ในขณะที่ผมกำลังสวดพระคาถาเงินล้านแบบไม่ออกเสียง แต่ยังขยับปากอยู่ โดยเมื่อสวดได้ ๑ จบ ก็จะหยิบลูกประคำ ๑ เม็ด ใส่ลงไปในกล่องที่เตรียมไว้ โดยมีทั้งหมด ๑๐๙ เม็ด
ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าจิตมีการทรงตัวในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความฟุ้งซ่านอยู่บ้าง ในขณะที่ผมสวดคาถานั้น เป็นช่วงตอนกลางคืน จึงนอนสวดคาถา เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไป พอสวดไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงนอกบ้าน ซึ่งอาจจะมีคนทำอะไรแถวใกล้ ๆ บ้าน เป็นเสียงคล้ายกับมีคนมาเคาะเหล็กเล่น ๆ คิดว่าอาจจะมีคนมาแกล้ง ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มคิดว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีอันตรายสำหรับเราก็ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น ก็เลยเพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้น และคิดว่าน่าจะอยู่บริเวณนอกบ้านของเรา กะว่าเมื่อสวดจบแล้วจะออกไปดู แต่ก็ยังสวดคาถาอยู่ สวดจบก็หยิบลูกประคำใส่กล่องไปเหมือนเดิม ในขณะที่ทำแบบนั้นอยู่ ปรากฎว่า ด้วยความที่เพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้นมาก ๆ ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ใบหน้าชา จมูกชา ในตอนที่รู้สึกว่าจมูกเริ่มชานั้น ทำให้รู้ลมหายใจเข้าออกได้เองโดยที่ไม่ต้องบังคับ เริ่มจะขยับปากยากขึ้น มีน้ำลายมากขึ้น มีอาการหิวข้าวขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงที่คิดว่าอาจจะมีอันตรายกับตัวเองได้ ยิ่งให้ความสนใจในเสียงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการชาบนใบหน้าและเพดานปากมากขึ้น ใจก็เต้นเร็วขึ้น ความหิวข้าวก็มากขึ้น น้ำลายก็มากขึ้น ช่วงที่กำลังหน้าชา ปากชา นั้น รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวดีขึ้น แต่พอกลืนน้ำลาย อาการสมาธิก็รู้สึกอ่อนลง พอไม่กลืนน้ำลายก็รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวขึ้นมาใหม่ จะไม่กลืนน้ำลายเลย ก็กลัวน้ำลายจะมีมากขึ้นจนไหลออกมาเปื้อนคอ ก็ต้องคอยกลืนน้ำลายอยู่เรื่อย ๆ และเสียงคนเคาะเหล็กที่ผมกำลังเพ่งความสนใจอยู่นั้นก็หายไปได้สักพักแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าสมาธิขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แบบนี้ ไปจนกระทั่งสวดมนต์เสร็จแล้ว อาการควบแน่นบริเวณใบหน้าก็ยังมีอยู่ แต่ไม่เหมือนกับตอนที่กำลังให้ความสนใจในเสียงนั้นเพราะคิดว่าอาจจะมีอันตรายกับเราได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าแน่นกว่านี้ อาการควบแน่นแบบนี้ ผมเคยเป็นมาหลายครั้งแล้ว เคยลองเปลี่ยนไปให้ความสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านธรรมะในเว็บ หรือ อ่านหนังสือธรรมะ ก็รู้สึกว่าควบแน่นเช่นกัน แต่รู้สึกติดขัดตรงที่ต้องลืมตา รู้สึกว่าหลับตาแล้วสมาธิจะทรงตัวได้ดีกว่า แต่พอหลับตาก็ไม่มีอะไรให้สนใจ นาน ๆ ไป สมาธิก็ค่อย ๆ คลายตัว พอลืมตามาหาสิ่งที่สนใจใหม่ สมาธิก็ควบแน่นที่ใบหน้าใหม่ มีอาการชาบนหน้าและปากใหม่ พอถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มที่จะไม่อยากลืมตา พอหลับตาไป แรก ๆ สมาธิจะควบแน่นมาก แต่พอผ่านไปสักพัก พอไม่มีอะไรให้สนใจ สมาธิก็เริ่มคลายตัวอีก และการสนใจสิ่งต่าง ๆ แบบนี้นั้น ผมจะรู้ลมหายใจเข้าออกได้เอง โดยไม่ต้องบังคับ แต่ถ้าตั้งใจรู้ลมหายใจเมื่อไหร่ จะปวดหัว ปวดตา ทันที ยิ่งควบแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งปวด แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจรู้ลมหายใจ แล้วไปสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านหนังสือธรรมะ หรือ ฟังเทศน์ แบบนี้ ผมจะรู้ลมหายใจได้เอง และไม่ปวดหัว หรือ ปวดตาอีก แม้ว่าจะมีอาการควบแน่นเท่าไหร่ก็ไม่ปวด ยิ่งชา ยิ่งควบแน่น ก็ยิ่งรู้สึกว่าดี อยากทราบว่าถ้ามีอาการแบบนี้ขึ้นมาอีก ไม่ทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ
__________________
ที่อยู่สำหรับจัดส่งของเวลาผมร่วมบูชาวัตถุมงคลในเว็บนี้คือ นาย ปริวัฒน์ วงศ์มาศ บ้านเลขที่ ๓ ถ.เกษมวัน ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ๓๔๑๙๐ โทร ๐๙๖-๙๕๔-๔๗๒๙ เท่านั้น (คำอวยพรประจำฤดูกาล) หน้าฝนเศรษฐี หน้าหนาวมั่งมี หน้าร้อนรวยทรัพย์ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งทรงกลด : 02-11-2021 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ รุ้งทรงกลด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : ในขณะที่ผมกำลังสวดพระคาถาเงินล้านแบบไม่ออกเสียง แต่ยังขยับปากอยู่ โดยเมื่อสวดได้ ๑ จบ ก็จะหยิบลูกประคำ ๑ เม็ด ใส่ลงไปในกล่องที่เตรียมไว้ โดยมีทั้งหมด ๑๐๙ เม็ด
ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่าจิตมีการทรงตัวในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีความฟุ้งซ่านอยู่บ้าง ในขณะที่ผมสวดคาถานั้น เป็นช่วงตอนกลางคืน จึงนอนสวดคาถา เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไป พอสวดไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงนอกบ้าน ซึ่งอาจจะมีคนทำอะไรแถวใกล้ ๆ บ้าน เป็นเสียงคล้ายกับมีคนมาเคาะเหล็กเล่น ๆ คิดว่าอาจจะมีคนมาแกล้ง ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจ แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มคิดว่า เหตุการณ์นี้อาจจะมีอันตรายสำหรับเราก็ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น ก็เลยเพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้น และคิดว่าน่าจะอยู่บริเวณนอกบ้านของเรา กะว่าเมื่อสวดจบแล้วจะออกไปดู แต่ก็ยังสวดคาถาอยู่ สวดจบก็หยิบลูกประคำใส่กล่องไปเหมือนเดิม ในขณะที่ทำแบบนั้นอยู่ ปรากฎว่า ด้วยความที่เพ่งความสนใจไปที่เสียงนั้นมาก ๆ ทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ใบหน้าชา จมูกชา ในตอนที่รู้สึกว่าจมูกเริ่มชานั้น ทำให้รู้ลมหายใจเข้าออกได้เองโดยที่ไม่ต้องบังคับ เริ่มจะขยับปากยากขึ้น มีน้ำลายมากขึ้น มีอาการหิวข้าวขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่อยู่ในช่วงที่คิดว่าอาจจะมีอันตรายกับตัวเองได้ ยิ่งให้ความสนใจในเสียงเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอาการชาบนใบหน้าและเพดานปากมากขึ้น ใจก็เต้นเร็วขึ้น ความหิวข้าวก็มากขึ้น น้ำลายก็มากขึ้น ช่วงที่กำลังหน้าชา ปากชา นั้น รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวดีขึ้น แต่พอกลืนน้ำลาย อาการสมาธิก็รู้สึกอ่อนลง พอไม่กลืนน้ำลายก็รู้สึกว่าสมาธิทรงตัวขึ้นมาใหม่ จะไม่กลืนน้ำลายเลย ก็กลัวน้ำลายจะมีมากขึ้นจนไหลออกมาเปื้อนคอ ก็ต้องคอยกลืนน้ำลายอยู่เรื่อย ๆ และเสียงคนเคาะเหล็กที่ผมกำลังเพ่งความสนใจอยู่นั้นก็หายไปได้สักพักแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าสมาธิขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แบบนี้ ไปจนกระทั่งสวดมนต์เสร็จแล้ว อาการควบแน่นบริเวณใบหน้าก็ยังมีอยู่ แต่ไม่เหมือนกับตอนที่กำลังให้ความสนใจในเสียงนั้นเพราะคิดว่าอาจจะมีอันตรายกับเราได้ ตอนนั้นรู้สึกว่าแน่นกว่านี้ อาการควบแน่นแบบนี้ ผมเคยเป็นมาหลายครั้งแล้ว เคยลองเปลี่ยนไปให้ความสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านธรรมะในเว็บ หรือ อ่านหนังสือธรรมะ ก็รู้สึกว่าควบแน่นเช่นกัน แต่รู้สึกติดขัดตรงที่ต้องลืมตา รู้สึกว่าหลับตาแล้วสมาธิจะทรงตัวได้ดีกว่า แต่พอหลับตาก็ไม่มีอะไรให้สนใจ นาน ๆ ไป สมาธิก็ค่อย ๆ คลายตัว พอลืมตามาหาสิ่งที่สนใจใหม่ สมาธิก็ควบแน่นที่ใบหน้าใหม่ มีอาการชาบนหน้าและปากใหม่ พอถึงจุดหนึ่ง ก็เริ่มที่จะไม่อยากลืมตา พอหลับตาไป แรก ๆ สมาธิจะควบแน่นมาก แต่พอผ่านไปสักพัก พอไม่มีอะไรให้สนใจ สมาธิก็เริ่มคลายตัวอีก และการสนใจสิ่งต่าง ๆ แบบนี้นั้น ผมจะรู้ลมหายใจเข้าออกได้เอง โดยไม่ต้องบังคับ แต่ถ้าตั้งใจรู้ลมหายใจเมื่อไหร่ จะปวดหัว ปวดตา ทันที ยิ่งควบแน่นเท่าไหร่ก็ยิ่งปวด แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจรู้ลมหายใจ แล้วไปสนใจอย่างอื่น เช่น อ่านหนังสือธรรมะ หรือ ฟังเทศน์ แบบนี้ ผมจะรู้ลมหายใจได้เอง และไม่ปวดหัว หรือ ปวดตาอีก แม้ว่าจะมีอาการควบแน่นเท่าไหร่ก็ไม่ปวด ยิ่งชา ยิ่งควบแน่น ก็ยิ่งรู้สึกว่าดี อยากทราบว่าถ้ามีอาการแบบนี้ขึ้นมาอีก ไม่ทราบว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ ? ตอบ : อย่าสนใจอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกาย |
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
Tags |
สมาธิ |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|