ผีทดสอบกำลังใจ

[โอรส]

ถาม: ตอนช่วงอยู่มหาวิทยาลัยจะร้อน อึดอัด ใช้มโนมยิทธิไม่ได้เลย อีกสักพักหนึ่งก็นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงบอกว่า "จะฆ่า" ไม่แน่ใจว่า...(ไม่ชัด)...?
ตอบ: อ๋อ...ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้าได้ยินเสียงอีก บอกไปเลยว่า ให้รีบฆ่าหน่อย หนูเบื่อชีวิตเต็มที่แล้ว

ต้องดูว่าตอนนั้นเรากำลังคิดถึงอะไร บางอย่างเป็นการทดสอบกำลังใจ ครูบาอาจารย์ก็ดี พรหมก็ดี เทวดาก็ดี อยากเห็นเรามีความก้าวหน้าในการปฏิบัติ ก็จะมาทดสอบ ถ้าหากว่าเรากลัวมากท่านก็เลิก ถ้าหากว่าเราบ้าจนไม่กลัวใคร ท่านก็ไม่ยุ่งด้วยเหมือนกัน พวกครึ่งกลัวครึ่งกล้า ท่านจะชอบมาก ท่านจะชอบมาทดสอบ

คราวนี้ให้เราดูกำลังใจของเราตอนนั้นว่า พอเรารู้สึกว่ามีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น เราเกาะอะไรเป็นหลัก ? ถ้าคิดถึงความดีได้ เกาะพระได้ เกาะพระนิพพานได้ ก็สบายมาก ไม่ต้องไปกลัวอะไรแล้ว แสดงว่ากำลังใจของเราเวลาฉุกเฉินเรายังเกาะความดีอยู่

อย่างที่วัดท่าซุง ต้องเรียกว่า "ด๊อกเตอร์ผี" เพราะไม่เคยเจอผีที่ไหนดุเท่าผีที่วัดท่าซุง โอ้โฮ...สารพัดจะเล่นงานพระ พระรูปไหนถ้านึกถึงพระนิพพานได้ นึกถึงพระได้ เขาก็ไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้ารูปไหนนึกไม่ได้ก็แกล้งไปเรื่อย ถ้ารูปไหนกลัวมาก ๆ กลัวอย่างชนิดจะเสียสติจะอะไรเขาก็เลิก เพราะว่าเขาเองเขาทำให้เราเป็นอันตรายอะไรไม่ได้ มีโทษกับเขาเหมือนกัน

อาตมาไม่กลัวอยู่แล้ว แถมไม่กลัวเปล่า ยังสู้ด้วย เขาก็เลยสนุกมาก ตามฟัดอยู่ ๓ ปีเต็ม ๆ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน เที่ยง ๆ ก็เอา บ่าย ๆ ก็เอา เย็น ๆ ก็เอา ใครบอกว่าผีหลอกเฉพาะกลางคืนอย่าไปเชื่อ ผีหลอกกลางคืนไม่เก่ง พวกที่เก่ง ๆ กลางวันก็เอา ก็อยู่ในลักษณะนั้น

แต่กำลังใจของอาตมาเข้มแข็งเกินไป แทนที่จะนึกถึงความดีได้ ก็ไม่เกาะอะไรเลย รู้อยู่อย่างเดียวว่าเอ็งแกล้งข้าก็สู้ เขาแกล้งอยู่ ๓ ปี เบื่อเต็มที่ ไม่นึกถึงความดีสักที เขาก็เลยเลิก แต่ว่าเวลาเขาไปแกล้งรูปอื่น เดี๋ยวเดียวเขาก็นึกถึงความดีได้ บางรูปถูกเขาบีบคอหน่อยหนึ่ง หายใจจะไม่ออกก็ เออ...ตายตอนนี้ก็ไปพระนิพพาน เขาบอกว่า "หน้าอย่างนี้หรือจะไปพระนิพพาน ?" แล้วถึงจะปล่อย แหม...ดูถูกกันจัง


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕