#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระยะนี้หลายท่านก็คงจะเวียนหัวกับข่าวดาราสาวตกน้ำตาย ขออนุญาตใช้คำว่า "ตกน้ำตาย" ในที่นี้ไปก่อน จนกว่าทางเจ้าพนักงานสอบสวนจะระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่ส่วนที่มาพูดถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าพวกเราส่วนใหญ่ไปใส่อารมณ์ตามข่าว ซึ่งยังไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรปลอม ยังอยู่ในระดับจินตนาการล้วน ๆ ก็คือคิดว่าอย่างนั้น คาดว่าอย่างนั้น
ตรงจุดนี้เราต้องนำเอาคุณลักษณะของผู้พิพากษาที่ดีมาใช้ ก็คือต้องตั้งสมมติฐานไว้ก่อนว่า บุคคลอื่นเป็นผู้บริสุทธิ์ หลังจากนั้นค่อยเอาการคิดว่า คาดว่าของเรา ไปเป็นสมมติฐานหรือแนวทางในการสอบสวน จนกว่าความจริงจะปรากฏออกมา ตรงจุดนี้สมัยที่กระผม/อาตมภาพเป็นทหารอยู่ มีตัวยาที่ทหารอเมริกันนำมาใช้ในการสอบสวนฝ่ายตรงข้าม ต้องถือว่าปัจจุบันนี้เป็นส่วนที่ล้าสมัยมากคือ สโคโพลามีน เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ฝ่ายตรงข้ามจะควบคุมความคิดตัวเองลำบาก ชักจูงให้พูดเรื่องอะไร ก็จะพูดไปตามจิตใต้สำนึกของตัวเองที่รู้ ถ้าหากว่าทุกคนพูดความจริง เรื่องก็จบเร็ว แต่ถ้าหากว่ามีการโกหกหลอกลวงกัน ก็ต้องถือแนวทางของนักสืบที่ว่า ต่อให้อาชญากรเก่งกาจสามารถขนาดไหน ก็ต้องทิ้งร่องรอยไว้ให้ติดตามได้เสมอ ดังนั้น...เราต้องยึดหลักในกาลามสูตร ก็คืออย่าเพิ่งเชื่อ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของนักปฏิบัติธรรม ในสมัยที่บวชอยู่วัดท่าซุงใหม่ ๆ ๒ - ๓ พรรษาแรก จะมีท่านเจ้าคุณหลวงตา (พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ.) ขออนุญาตใช้คำว่า เป็นหัวหน้าแก๊งค์ หลังจากการปฏิบัติธรรมรอบค่ำเสร็จแล้ว พวกเราจะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และวิเคราะห์ในแนวทางการปฏิบัติของตนเอง เพื่อขอคำชี้แนะจากบุคคลที่มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมมากกว่า ท้ายสุด...ทุกคนสรุปเหมือนกันว่า พอปฏิบัติไปถึงตรงนี้แล้ว เหลือคาถาประจำใจอยู่บทเดียวคือ "กูไม่เชื่อ" เพราะว่ายิ่งทิพจักขุญาณชัดเจนแจ่มใสเท่าไร โอกาสโดนหลอกก็ยิ่งมีมากเท่านั้น..! ดังนั้น...ในเรื่องของข่าวคราวที่กระผม/อาตมภาพใช้คำว่า "ดาราสาวตกน้ำตาย" ก็ขอให้เป็นการตกน้ำตายไปก่อน พนักงานสอบสวนเขาสรุปผลการสอบสวนออกมาเมื่อไร แล้วเราค่อยติดตามกันอีกที จำไว้ว่า...เราต้องพยายามรักษากำลังใจของเราไว้ อย่าให้ยินดียินร้ายกับทุกเรื่องที่ปรากฏขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสที่จะโดนกิเลสเอาไปกินมีสูงมาก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2022 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
เรื่องต่อไปก็คือ ช่วง ๒ วันนี้จากการตรวจหาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ของโรงพยาบาลทองผาภูมิ ก็เจอผู้ติดเชื้อเกินร้อยคนแล้ว..! แสดงว่าการแพร่ระบาดค่อนข้างจะรุนแรงสำหรับอำเภอทองผาภูมิของเรา เพียงแต่ว่าเชื้อไวรัสรุ่นนี้รับมือง่าย รักษาคล้าย ๆ กับไข้หวัดทั่วไป แต่ว่าต้องรีบรักษาให้เร็วที่สุด ถ้ารู้ตัวช้า โดนทำลายปอด ร่างกายก็จะเสียหายมาก พวกเราจึงต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาทกันต่อไป เคยปฏิบัติตนมาอย่างไรก็ให้ปฏิบัติไปอย่างนั้น
แม้ว่าระยะนี้ญาติโยมทั้งหลายต่างกำชับกำชาว่าให้พกวัตถุมงคลวัดท่าขนุน และอาราธนาเช้าเย็นไว้ทุกวัน เราก็อย่าเพิ่งไปเชื่อหมดใจด้านเดียว ให้เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ อย่าไปอยู่ในที่คนหนาแน่นตามที่ทางแพทย์แนะนำมา จะได้ผลในการป้องกันที่เป็นรูปธรรมมากกว่า อีกเรื่องหนึ่งก็คือ มีผู้ที่มักจะโทรมาถามว่า จะมาวัดท่าขนุนวันนั้นวันนี้ จะมีโอกาสได้พบกระผม/อาตมภาพหรือเปล่า ? ตรงจุดนี้ขอยืนยันว่าไม่มีใครสามารถรับรองกับท่านผู้ถามได้ เพราะว่าต่อให้นัดกันเป็นมั่นเหมาะ ถ้ามีงานด่วนทางคณะสงฆ์เข้ามา กระผม/อาตมภาพก็ต้องขออนุญาต "เท" เพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะเอางานของคณะสงฆ์เป็นใหญ่ ดังนั้น...ถ้าหากว่าใครที่คิดว่ามาวัดแล้วต้องได้เจอ ขอให้ทำใจไว้ล่วงหน้าเอาไว้เลย เพราะว่าหลายท่านบอกว่ามา ๗ - ๘ ครั้งแล้ว ไม่เคยได้พบเลย แต่ไปพบกันตอนที่กระผม/อาตมภาพเดินทางแล้วแวะเข้าห้องน้ำ เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าแล้วแต่ธรรมะจัดสรร ไม่ต้องเสียเวลาอธิษฐานออกมาจากบ้าน ถ้าหากว่าจะตั้งใจ ให้ตั้งใจว่ามาแล้วไม่พบแน่ ถ้าได้พบก็ถือว่าเป็นกำไร อีกส่วนหนึ่งก็คือ ท่านที่ตั้งใจมาเพื่อให้รักษาโรคภัยต่าง ๆ ขอบอกว่ากระผม/อาตมภาพไม่ใช่หมอ ไม่มีความสามารถที่จะรักษาใครได้ ทางที่ดีที่สุดคือไปหาหมอแผนปัจจุบัน ถ้าหาหมอแผนปัจจุบันจนกระทั่งหมอหมดปัญญารักษาแล้ว ค่อยไปหาท่านอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา ถ้าตรงนั้นแล้วพอจะช่วยได้ เพราะท่านมีความรู้ในเรื่องของการรักษาโรค ยิ่งท่านที่มั่นใจว่าตนเองโดนไสยศาสตร์มา โดนทำคุณไสยมา ต่อให้มาก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่มีความรู้ในการแก้ไขเรื่องพวกนี้ มีเพียงว่าถ้าทางวัดจัดงานเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว ท่านทั้งหลายมาเข้าร่วมพิธี บารมีพระที่สงเคราะห์ลงมาตอนนั้น สามารถที่จะทำลายเรื่องของไสยศาสตร์ไปได้ แต่ถ้าท่านทั้งหลายยังคงมีกิจวัตรเหมือนเดิม ทำในสิ่งเดิม ๆ โอกาสที่จะโดนใหม่ก็มีสูงมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2022 เมื่อ 09:45 |
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
เรื่องต่อไปก็คือ การที่ท่านหลายคนไปสนใจสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่ามีโอกาสที่จะแผ่ขยายเป็นสงครามโลกหรือไม่ ? ก็ต้องบอกว่าโอกาสนั้นมี แต่ถ้ารัสเซียซึ่งกดดันโดยการขนเอาอาวุธนิวเคลียร์มา แล้วทำให้อีกฝ่ายหนึ่งหวาดกลัว ยอมตั้งโต๊ะเจรจา เรื่องก็ไม่ลุกลามมาก หรือถ้าหากว่าบรรดานักล่าสังหารในกองทัพรัสเซียเด็ดหัวผู้นำยูเครนไปเสียก่อน เรื่องก็จบเร็ว..!
เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าพวกเราเห็นว่าระยะนี้เรื่องของสงครามดูเงียบ ๆ ขอยืนยันว่าไม่เงียบแน่นอน เพียงแต่ปฏิบัติการส่วนใหญ่เขาต้องเก็บเป็นความลับ ไม่ใช่เอาไปอวดชาวบ้านว่าเราจะทำอะไร พวกเราก็มีหน้าที่แค่หาวัตถุมงคลที่เรามั่นใจติดตัวเอาไว้ ภาวนา อาราธนาไว้ทุกวัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือนึกถึงภาพพระในวัตถุมงคลนั้น หายใจเข้าก็ให้ครอบตัวเราลงมา หายใจออกก็ให้ประดิษฐานอยู่บนศีรษะของเรา เป็นต้น ถ้าทำแบบนี้จนจิตใจมั่นคงอยู่ทุกวัน ไม่เพียงแต่อันตรายจากสงครามเท่านั้น แต่ว่าอันตรายจากทุกอย่างก็จะโดนผ่อนหนักเป็นเบา จากเบาเป็นหาย ส่วนท่านทั้งหลายที่กำลังกลุ้มใจว่าจะหาวัตถุมงคลอะไรที่เรามั่นใจดี ให้ลุยเข้าไปในเว็บวัดท่าขนุนได้เลย ชอบใจอะไรก็บูชาไป เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็เอาเข้าพิธีที่พระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์ให้ ถ้าเรามีความเชื่อมั่นและศรัทธาในคำว่า พุทโธ อัปปมาโณ คุณของพระพุทธเจ้าประมาณไม่ได้ ต่อให้ไม่มีวัตถุมงคลเลย ถ้ากำลังใจยึดมั่นด้วยศรัทธาจริง ๆ ก็ปลอดภัยเช่นกัน ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าจะว่าไปแล้ว ก็ดูอย่างท่านเอ็ม (นางสาวภคินี พิพิธวณิชธรรม) ที่นั่งอยู่ข้างท้ายศาลานี้ ระยะนี้มาวัดแบบ "คนที่เหลือเวลาน้อย" เพราะว่าต้องโยกย้ายตามวาระ ไปอยู่ที่ศาลจังหวัดอื่น ๆ บุคคลที่รู้ว่าตนเองมีเวลาน้อย จึงพยายามกอบโกยความดีใส่ตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คราวนี้ในเรื่องของศึกของสงครามนั้น เราจะไปคิดว่าเวลาน้อยไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไร ต้องตั้งสมมติฐานไว้เสมอว่าเราอาจจะต้องตายวันนี้ ถ้ายิ่งเป็นนักปฏิบัติธรรมก็คือ เราอาจจะต้องตายเดี๋ยวนี้..! ดังนั้น...ก่อนตายเพื่อที่จะให้กำลังใจของเรามีคติที่ไปในทางที่ดีที่สุด อันดับแรกเลย ก็ต้องยึดเกาะคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เป็นการเกาะความดีเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน หลังจากนั้น ถ้าหากว่ากำลังใจของท่านสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากการเกาะความดี ละความชั่ว ก็เริ่มเลิกเกาะความดีไปด้วย จะเหลืออารมณ์ประมาณว่า รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ไม่เกาะทั้งดีและชั่ว ถ้าอย่างนั้นท่านจึงจะสามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์ ไปสู่พระนิพพานได้ สำหรับวันนี้ ก็ขออนุญาตบอกกล่าวแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2022 เมื่อ 03:16 |
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|