ป่าหิมพานต์

[โอรส]

ถาม : ป่าหิมพานต์มีจริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มีจริง ๆ หิมะ แปลว่า หมอก วนะ คือ ป่า ป่าที่มีหมอกลง ป่าไหนที่มีหมอกลงถือว่าเป็นป่าหิมพานต์ทั้งนั้น

ป่าหิมพานต์ในความหมายของเรา ก็คือป่าที่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นสถานที่กึ่งแดนเทวดา มีจริง ๆ จ้ะ คือ คล้าย ๆ กับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้ คล้าย ๆ กับวนอุทยานของโลกมนุษย์เรานี่แหละ ประกอบไปด้วยสิ่งพิลึกพิลั่นอะไรต่าง ๆ ซึ่งเป็นทั้งเทวดาหรือว่าเป็นเดรัจฉานกึ่งทิพย์ก็มี

พวกเดรัจฉานกึ่งทิพย์นี่เขาสร้างบุญใหญ่มา แต่ว่ากรรมหนักก็ยังมีอยู่ เลยยังอยู่ในเขตของเทวดาจริง ๆ ไม่ได้ เขาจะมีเขตเฉพาะของเขาอยู่ ถ้านับภพภูมิตามแบบของเราแล้ว ก็เป็นภพภูมิของสัตว์เดรัจฉาน แต่ว่าเนื่องจากมีความเป็นทิพย์ ทำให้สามารถบิดเบือนแปลงกายได้หลายอย่าง เช่น พวกครุฑ พวกนาค เหล่านี้เป็นต้น บางทีของเราอยากเห็นอะไรพิลึกพิลั่น ท่านก็แสดงให้เห็นแบบนั้น

ถาม : แล้วเดินไปได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้อยู่ แต่ว่ามี ๒ อย่าง อย่างหนึ่งก็คือต้องหาคนนำทางที่พาไปได้ อย่างที่ ๒ ต้องได้อภิญญาห้า ถ้าได้ไม่ถึงก็เสร็จ

ถาม : ถ้าได้ทั้ง ๒ อย่าง ?
ตอบ : อย่างใดอย่างหนึ่งก็ไปได้แล้ว คือถ้าหากมีผู้นำทางคือเจ้าของถิ่น ไม่ต้องมากหรอก เอาแค่แถว ๆ กลางเขาพระสุเมรุหรือยอดเขาก็ได้ เขาพาเราไปได้แล้ว จะไปเอามักกะลีผลหรือ ? ถึงถามหาเขาหิมพานต์

ถาม : คือพอดีผมฟังเรื่องพระเวสสันดรนะครับ ในเรื่องบอกว่าท่านเดินไปที่...
ตอบ : นั่นเขาวงกต ไม่ใช่หิมพานต์ คนละที่กัน พระเวสสันดร ๑๓ กัณฑ์ จะมีอยู่ที่เขาวงกตเรียกมหาพน จุลพน คือ ป่าใหญ่กับป่าเล็ก จะบรรยายถึงสภาพป่าที่ท่านเข้าไปถือศีลปฏิบัติธรรม

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔