กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-09-2009, 12:28
ณญาดา's Avatar
ณญาดา ณญาดา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 27
ได้ให้อนุโมทนา: 12,041
ได้รับอนุโมทนา 34,861 ครั้ง ใน 742 โพสต์
ณญาดา is on a distinguished road
Default ประวัติหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล วัดสีลสุภาราม อายุ ๑๑๕ ปี "พระเกจิ ๕ แผ่นดิน"


"ถ้าเสียสัตย์ ก็เสียศีล เสียศีลแล้ว ธรรมก็ไม่บังเกิด"

"ฆ่าจิตของเราให้มันตาย อย่าให้มีโกรธ อย่าให้โลภ อย่าให้มีหลง"


ปาฐกถาธรรมอันสะท้อนถึงแก่นแท้แห่งพระพุทธศาสนา โดยพระมงคลวิสุทธิ์ หรือที่ชาวภูเก็ตหรือพุทธศาสนิกชนชาวไทยรู้จักกันดีในนามของ "หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล" พระเถระเจ้าอาวาสที่มีอายุยืนที่สุดในโลก

ปัจจุบัน หลวงปู่สุภา สิริอายุ ๑๑๕ พรรษา ๙๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดสีลสุภาราม หมู่ที่ ๖ ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สุภา วงศ์ภาคำ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ พุทธศักราช ๒๔๓๘ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีวอก ณ บ้านคำบ่อ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร โยมบิดาชื่อขุนพลภักดี ผู้ใหญ่บ้านคำบ่อ ชื่อเดิม นายพล วงศ์ภาคำ โยมมารดาชื่อ นางสอ วงศ์ภาคำ มีพี่น้องทั้งหมด ๘ คน คือ

๑. นางสี วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
๒. นายเสน วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
๓. นายผม วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
๔. นางเกตุ วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
๕. นายจันทร์เพ็ง วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
๖. หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล
๗. นางมาลีจันทร์ วงศ์ภาคำ (ถึงแก่กรรม)
๘. นางกา วงศ์ภาคำ

หลวงปู่สุภาเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว เมื่อตอนเป็นเด็กท่านอ้วนท้วนสมบูรณ์ ผิวขาว หน้าตาน่ารักน่าชัง ท่านใช้ชีวิตอย่างเช่นเด็กทั่ว ๆ ไปในสมัยนั้นคือ เที่ยววิ่งซุกซนไปตามประสา จะมีโอกาสเรียนเขียนอ่านก็ต่อเมื่อพ่อแม่พาไปฝากวัดให้พระท่านสอน หรือไม่ก็ให้พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ที่รู้หนังสือสอนให้ วัดจึงเป็นสถานที่แห่งเดียวที่เด็กชายไปแสวงหาความรู้ เช่นเดียวกับคนอีสานส่วนใหญ่สมัยนั้นคือมักจะให้ลูกบวชเป็นเณร

เมื่อหลวงปู่สุภาอายุได้ ๗ ขวบ วันหนึ่ง ในขณะที่ท่านและเพื่อน ๆ ออกไปวิ่งเล่นที่ริมทุ่งชายป่า ได้พบกับพระธุดงค์รูปหนึ่งมาปักกลดพักอยู่ใต้ต้นตะแบกใหญ่ เด็กคนอื่น ๆ ที่เห็นพระรูปนั้นไม่ได้สนใจต่างพากันวิ่งเล่นกันต่อ เว้นไว้แต่เด็กชายสุภาซึ่งมีจิตใจโน้มมาทางธรรมตั้งแต่อายุยังน้อย จะเห็นได้จากการที่ชอบเข้าใกล้พระ ชอบไปวัด ดังนั้นเมื่อท่านเห็นพระธุดงค์รูปนั้นปักกลดพักอยู่ ก็แยกตัวออกจากเพื่อน ๆ ตรงเข้าไปกราบ เมื่อพระภิกษุชราที่นั่งพักอยู่ภายในกลดเห็นเด็กชายหน้าตาน่ารักเข้ามากราบอย่างสวยงามเหมือนกับได้รับการสั่งสอนมาเป็นอย่างดี จึงมองเด็กน้อยคนนั้นด้วยความเมตตา เพ่งดูลักษณะอยู่ครู่เดียว จึงบอกเด็กน้อยว่า ต่อไปภายหน้าจะได้บวช เมื่อบวชแล้วอย่าลืมไปหาท่าน พระภิกษุรูปนี้คือ หลวงปู่สีทัตต์ จำพรรษาอยู่ที่วัดท่าอุเทน จังหวัดนครพนมนั้นเอง แต่ในเวลานั้นเด็กชายสุภายังไม่ได้นึกอะไร ได้แต่นั่งคุยกับหลวงปู่สีทัตต์อยู่ครู่หนึ่งจึงนมัสการลากลับไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ณญาดา : 03-09-2009 เมื่อ 07:36 เหตุผล: แก้ไข "กันตสีโล" เป็น "กนฺตสีโล"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ณญาดา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-09-2009, 04:27
ณญาดา's Avatar
ณญาดา ณญาดา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 27
ได้ให้อนุโมทนา: 12,041
ได้รับอนุโมทนา 34,861 ครั้ง ใน 742 โพสต์
ณญาดา is on a distinguished road
Default ออกบวช

เมื่อหลวงปู่สุภามีอายุได้ ๙ ขวบ บิดามารดาได้นำท่านบวชเป็นสามเณร โดยมีพระอาจารย์สอน เป็นพระอุปัชฌาย์ สามเณรสุภาได้ศึกษาพระธรรมวินัยกับพระอาจารย์สอนเป็นเวลา ๑ ปี หลังจากนั้นท่านได้เดินทางไปเรียนมูลกัจจายน์ที่วัดไพรใหญ่ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระอาจารย์มหาหล้า และฆราวาสชื่ออาจารย์ลุยเป็นผู้สอน สามเณรสุภาได้ใช้เวลาศึกษามูลกัจจายน์อยู่ที่วัดไพรใหญ่เป็นเวลาหลายปี เมื่อเรียนจบแล้วได้กราบลาอาจารย์เพื่อหาความรู้เพิ่มเติม จึงได้ออกเดินทางมานมัสการหลวงปู่สีทัตต์ที่วัดท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม

หลวงปู่สีทัตต์ท่านเป็นพระป่ามีชื่อเสียงทางด้านวิปัสสนากรรมฐานและทรงวิทยาคมทางด้านคาถาอาคมไสยเวท ซึ่งท่านได้ศึกษาวิชาอาคมด้านต่าง ๆ มาจากสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว สมเด็จลุนท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ของประเทศลาว พระเกจิอาจารย์ทางภาคอีสานแถบลุ่มแม่น้ำโขงที่มีชื่อเสียงโด่งดังล้วนฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านทั้งสิ้น สมเด็จลุนท่านมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มากมายเหลือจะบรรยายเป็นตัวอักษรได้ จะขอกล่าวไว้พอเป็นสังเขป สมเด็จลุนท่านสามารถเดินข้ามแม่น้ำโขงด้วยเท้าเปล่าและบางครั้งท่านจะไปนั่งสรงน้ำกลางแม่น้ำโขง นี่คืออิทธิปาฏิหาริย์ของท่าน

และในบรรดาลูกศิษย์ของสมเด็จลุน หลวงปู่สีทัตต์ถือเป็นศิษย์เอกที่ได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคมจากสมเด็จลุนจนหมดสิ้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกไม้จะหล่นไกลต้น

เมื่อสามเณรสุภาได้กราบนมัสการหลวงปู่สีทัตต์แล้วได้ขอฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่สีทัตต์ได้รับสามเณรสุภาเป็นศิษย์ด้วยความยินดี นับว่าหลวงปู่สีทัตต์เป็นพระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานองค์แรกของสามเณรสุภา

สามเณรสุภาได้เริ่มฝึกกรรมฐานและออกธุดงค์กับหลวงปู่สีทัตต์ ซึ่งท่านได้พาสามเณรสุภาธุดงค์ข้ามไปฝั่งลาว หลวงปู่สีทัตต์ได้พาไปที่ถ้ำภูเขาควายเป็นถ้ำขนาดใหญ่มีความสวยงามน่าอยู่ ในถ้ำแห่งนี้มีพระสงฆ์ไปปฏิบัติธรรมรวมกันมาก ถ้ำภูเขาควายเปรียบเสมือนถ้ำสำนักตักศิลาที่มีพระสงฆ์ลาวและไทยไปจำพรรษาและแลกเปลี่ยนวิชาอาคม หนทางที่จะไปถ้ำภููเขาควายลำบากมาก เต็มไปด้วยสิ่งเร้นลับ พระธุดงค์ที่เดินทางไปถ้ำภูเขาควาย ถ้ามีวิชาอาคมไม่แก่กล้าพอ มักจะเอาชีวิตไปทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก

สามเณรสุภาได้ติดตามหลวงปู่สีทัตต์ไปธุดงค์จนอายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ หลวงปู่สีทัตต์จึงได้อุปสมบทให้สามเณรสุภาภายในถ้ำภูเขาควาย โดยมีหลวงปู่สีทัตต์เป็นพระอุปัชฌาย์ พระเถระที่ไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดถ้ำภูเขาควายเป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “กนฺตสีโล”

หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงปู่สุภาได้อยู่ปฏิบัติธรรมต่อไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นได้ติดตามหลวงปู่สีทัตต์กลับมาจำพรรษาที่วัดท่าอุเทนเพื่อดำเนินการก่อสร้างพระธาตุท่าอุเทน เมื่อมีเวลาว่างท่านจะพาหลวงปู่สุภาและลูกศิษย์ออกธุดงค์แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดท่าอุเทน จนกระทั่งสร้างพระธาตุท่าอุเทนเสร็จเรียบร้อย

หลวงปู่สุภาได้อยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่สีทัตต์เป็นเวลานานถึง ๘ ปี

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ณญาดา : 03-09-2009 เมื่อ 07:39 เหตุผล: แก้ไข "ถ้ำถูเขาควาย" เป็น "ถ้ำภูเขาควาย"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ณญาดา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-09-2009, 07:51
ณญาดา's Avatar
ณญาดา ณญาดา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 27
ได้ให้อนุโมทนา: 12,041
ได้รับอนุโมทนา 34,861 ครั้ง ใน 742 โพสต์
ณญาดา is on a distinguished road
Default พระอาจารย์องค์ที่ ๒

เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๓ หลวงปู่สุภาได้กราบลาหลวงปู่สีทัตต์เพื่อเดินทางธุดงควัตร และออกจากถ้ำภูเขาควายเดินทางกลับตามที่หลวงปู่สีทัตต์แนะนำและหลวงปู่สีทัตต์ท่านยังได้บอกว่าท่านจะได้พบกับอาจารย์ที่เก่งมากองค์หนึ่ง

หลวงปู่สุภาออกเดินทางไปตามเส้นทางที่หลวงปู่สีทัตต์แนะนำ เมื่อถึงจังหวัดหนองคายก็ออกธุดงค์เข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ท่านได้สอบถามพระเกจิอาจารย์ที่เก่งทางด้านวิปัสสนากรรมฐานด้านพุทธาคม มีคนเล่าลือว่าอาจารย์ศุข (หลวงปู่ศุข) อยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ท่านจึงได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ จนมาถึงอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท เมื่อมาถึงวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านได้คลานเข้าไปกราบหลวงปู่ศุข ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ศุขท่านทราบแล้วว่าจะมีพระภิกษุมาจากประเทศลาว หลวงปู่ศุขจึงถามท่านว่ามาจากประเทศลาวใช่หรือไม่? ท่านจึงตอบและกราบเรียนหลวงปู่ศุขว่า ท่านมีความประสงค์ที่จะมาศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม หลวงปู่ศุขจึงรับไว้เป็นศิษย์ หลวงปู่สุภาได้ศึกษาวิชาต่าง ๆ จากหลวงปู่ศุข เป็นเวลา ๓ ปี หลวงปู่ศุขได้ถ่ายทอดวิชาด้วยความเมตตาต่อลูกศิษย์เป็นอย่างมาก ถึงแม้หลวงปู่สุภาจะบวชเป็นพระภิกษุนานถึง ๔ พรรษาแล้วก็ตาม แต่หลวงปู่ศุขก็ยังเรียกท่านว่า “เณรน้อย” ในขณะที่หลวงปู่สุภาได้มอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข ท่านมีอายุมากแล้วแต่ท่านยังปฏิบัติธรรมและนั่งสมาธิเป็นเวลานาน ๆ ทุกวัน

หลวงปู่สุภาให้ความเคารพนับถือหลวงปู่ศุขเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่ศุขจึงนับเป็นพระอาจารย์องค์ที่สองของท่านต่อจาก หลวงปู่สีทัตต์

ในเรื่องเกี่ยวกับวิทยาคม หลวงปู่ศุขได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาต่าง ๆ ให้กับหลวงปู่สุภา เมื่อหลวงปู่ศุขนั่งกรรมฐาน หลวงปู่สุภาท่านก็นั่งด้วย หากติดขัดปัญหาธรรมก็ไปกราบเรียนถาม ท่านก็เมตตาแนะนำให้ทุกครั้ง ท่านจะปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่าง แล้วให้ลูกศิษย์ศึกษาทำความเข้าใจ หลวงปู่สุภาท่านค่อย ๆ ศึกษาดูว่าหลวงปู่ศุขทำอย่างไร? ในเวลาที่ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลก็ไปคอยสังเกต พระคาถาต่าง ๆ หลวงปู่ศุขก็สอนให้บ้าง จดจำเองบ้างและไปขอท่านบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีลูกศิษย์คนใดจะปฏิบัติจนบรรลุได้เหมือนหลวงปู่ศุข บางครั้งเวลาลงยันต์ทำตะกรุดท่านต้องลงไปทำในใต้น้ำไม่มีใครเห็น จะเห็นก็ต่อเมื่อตอนท่านขึ้นจากน้ำแล้ว

หลวงปู่สุภาท่านศึกษาวิทยาคมจากการอ่านตำราที่ท่านจดเขียนไว้บ้าง ดูจากกรรมวิธีที่หลวงปู่ศุขทำให้ดูบ้าง เรียนถามท่านบ้าง ท่านก็แนะนำให้พอสมควร ใครสนใจมากก็ได้มาก ใครไม่สนใจก็ไม่ได้เลย แต่ส่วนใหญ่ หลวงปู่ศุข ท่านจะเน้นเรื่องการรักษาศีลและการปฏิบัติมากกว่า เพราะท่านสอนว่า ถ้าศีลบริสุทธิ์ คุณวิเศษจะมีมาเอง หลวงปู่สุภาได้ศึกษาธรรมและวิทยาคมต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะความรู้ในทางธรรมและวิทยาคมต่าง ๆ ในครั้งนั้นมีพระภิกษุไปปฏิบัติธรรมและเรียนวิชาอยู่กับหลวงปู่ศุขด้วยกันหลายสิบรูป ซึ่งปัจจุบันมรณภาพกันไปหมดแล้ว เท่าที่ทราบในเวลานี้มีเพียงหลวงปู่สุภาเพียงรูปเดียวในบรรดาศิษย์รุ่นเดียวกันที่ยังมีชีวิตอยู่นับถึง

ล่าสุดท่านได้มาสร้างวัดแห่งหนึ่ง และได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า วัดสีลสุภาราม และหลวงปู่สุภายอมรับเป็นเจ้าอาวาสเป็นวัดแรกในชีวิต


หลวงปู่สุภานับเป็นตัวอย่างของการปฏิบัติอยู่ในความเพียร ความวิริยะอุตสาหะ ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรม แม้วัยล่วงเลยมากว่าหนึ่งศตวรรษ แต่หลวงปู่สุภา ไม่เคยย่อท้อในชีวิตของท่าน มีแต่คำว่าให้และสร้างทุกอย่างสำเร็จ ด้วยเมตตาบารมีธรรมของท่าน


ขอบคุณที่มา : ประวัติหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พระเกจิ ๕ แผ่นดิน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ณญาดา : 03-09-2009 เมื่อ 11:30 เหตุผล: แก้ไข "ธุดงค์วัตร" เป็น "ธุดงควัตร" "วิริยะ อุตสาหะ" เป็น "วิริยะอุตสาหะ"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ณญาดา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:54



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว