กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 08-04-2012, 23:01
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,507 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ใช้พลังจิตในการต่อสู้

ถาม: ฝึกกำลังภายใน ฝึกไป...?
ตอบ: ท้าย ๆ ก็เป็นเรื่องของจิตทั้งหมด ดูอย่างในมังกรคู่สู้สิบทิศ ตอนนี้ถึงขั้นสัมพันธ์กับฟ้าดินแล้ว แต่ว่ายังมีอีกขั้นหนึ่งคือสู่อนุภาค ตอนนี้จะเหลือแต่จิตล้วน ๆ

สมัยก่อนคนไทยของเรา เวลาฝึกมวยฝึกอาวุธ จะต้องหัดสมาธิภาวนาไปด้วย ระยะแรก ๆ การใช้อาวุธ ท่าเท้า การเคลื่อนไหวของร่างกาย ต้องสัมพันธ์กันหมด ในเมื่อสัมพันธ์กันหมด พอเริ่มกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็อยู่ในระดับที่เรียกว่า ม้าย่อง พอต่อไปกำลังจิตเริ่มส่งออกมากดดันคู่ต่อสู้ได้ จะอยู่ในจุดที่เรียกว่า เสือย่าง คือเดินแบบเสือ เห็นแค่การเดินคู่ต่อสู้ก็รู้แล้วว่าเราเอาตายแน่ บางคนแพ้ตั้งแต่ไม่ทันจะลงมือ เพราะระดับห่างกันมาก พอสุดท้ายเขาเรียก สีหยาตร เดินแบบพญาราชสีห์ แบบนี้มีพลังจิตออกกดดันคู่ต่อสู้รุนแรงมาก ส่วนใหญ่คู่ต่อสู้จะยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนที่จะลงมือ ที่เราอ่าน ๆ ไปในหนังสือนั่นแหละ สังเกตไหมว่าพอถึงระดับสุดท้ายแล้ว ของเขาสามารถที่จะใช้กำลังของเขาควบคุมคนอื่นได้

ในการฝึกพาหุยุทธ์ (มวยไทยโบราณ) มีท่าเหินเตะ ท่านี้เขาเรียกว่าหนุมานเหินหาว เป็นการใช้กำลังใจคุมร่างกายตัวเองให้ลอยขึ้น ตามเตะคู่ต่อสู้ไปเรื่อย ถ้าไม่หมอบคาเท้าก็ไม่เลิก ปัจจุบันเท่าที่รู้มีทำได้อยู่คนเดียว ก็คือคุณสเกน แก้วผดุง ตอนนี้เปิดค่ายมวยอยู่อังกฤษ ต้องอัดกับพวกไอ้มืดไอ้หรั่งตัวยักษ์ ๆ ที่มาท้าสู้เป็นประจำ สเกนเขาให้ฝรั่ง ๆ ๒ คนขี่คอกัน แล้วเอาดาบเสียบลูกแอปเปิลชูขึ้นไปสุดแขน สูงน่าจะเกิน ๓ เมตร คุณสเกนเตะถึง ลักษณะเหมือนกระโดดในสายตาคนอื่นเขา แต่ในสายตาของพวกเราก็คือลอยขึ้นไปเฉย ๆ

หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าใช้กำลังใจไม่มาก แค่คุมอุเพ็งคาปิติให้อยู่ในระดับนั้นก็พอ กำหนดใจเมื่อไรให้ได้ตรงจุดนั้นก็ใช้ได้ แค่นั้นเอง ไม่ได้ใช้กำลังใจเยอะเลย แต่อย่าลืมว่าเป็นส่วนหนึ่งของสมาธิ เพราะฉะนั้น..ปัจจุบันของเราอย่างที่หัด ๆ กันอยู่ในเรื่องของอาวุธ อย่างสำนักพุทไธสวรรย์ ตามปัจจุบันแย่มากแล้ว ถ้าสามารถใช้ได้แค่นี้เมืองไทยไม่รอดจากข้าศึกมาจนทุกวันนี้หรอก

เคยอ่านประวัติพระยาสีหราชเดโชหายตัวได้อึดใจหนึ่ง พอถึงเวลากลั้นใจว่าคาถา เขาเรียกคาถาวิรุฬจำบัง ข้าศึกจะมองไม่เห็นทั้งตัวทั้งเงาไปชั่วอึดใจหนึ่ง เหลือเฟือที่จะฟันหัวฝ่ายตรงข้าม ก็อาวุธยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแต่เขามองไม่เห็น นั่นคือการใช้พลังจิตอย่างหนึ่ง

มารุ่นหลัง ๆ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อยุธยา เจ้าของหนึ่งในเหรียญเบญจภาคี แพงที่สุดในประเทศไทย หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเปิดสำนักสอนกระบี่กระบองในวัด สมัยนั้นยังมีการค้าขายสำเภากับจีนอยู่ มีมือกระบี่จากเมืองจีนมา อยากทดสอบวิชาตัวเองว่าอยู่ระดับไหนแล้ว ก็ตามลุยไปทีละสำนัก เขาชนะมาตลอด พอไปถึงวัดพระญาติก็ขอลองด้วย หลวงพ่อกลั่นบอกว่าท่านเป็นพระ ท่านสอนแต่ลูกศิษย์ ถ้าคุณอยากลองก็ยอมให้ลอง แต่ว่ามีข้อแม้

หลวงพ่อกลั่นท่านบอกจะปิดให้ตีเพลงหนึ่ง เพลงหนึ่งเขาตีกลองกันลิ้นห้อยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พักเดียว อย่าลืมว่าเพลงหนึ่งอาจจะมีสักร้อยแปดกระบวนท่า จะปิดให้ตีเพลงหนึ่ง ถ้าคุณไม่สามารถทำอันตรายได้ คุณต้องกลับเมืองจีน แล้วอย่ามารังควานคนไทยอีก เขาก็ตกลง หลวงพ่อกลั่นถือพลองสั้น ๒ อัน ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธได้ตามถนัด ลูกศิษย์บอกว่าพอหลวงพ่อกลั่นควงไม้พลอง มองไม่เห็นตัวหลวงพ่อเลย เห็นแต่เงาพลองล้อมอยู่ เจ้านั่นฟันจนลิ้นห้อยไม่ถูกสักที เข้าไปเท่าไรกระดอนกลับออกมาหมด ก็เลยยอม วางกระบี่กราบหลวงพ่อกลั่นแล้วก็กลับ ไม่รู้จะสู้ไปทำไม เขายังไม่ทันจะตีคืนเลย นั่นแหละ..วิชาการต่อสู้ที่บวกกับการฝึกจิตไปด้วย จึงทำได้เกินกว่าคนทั่ว ๆ ไป


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-03-2016 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว