|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
บารมี ๙ ขั้นของพุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ และสาวกภูมิ
๑.หลวงพ่อเคยเทศน์ถึง บารมี, อุปบารมี และปรมัตถบารมี ที่แต่ละขั้นแบ่งเป็น หยาบ, กลาง, และละเอียด รวมเป็น ๙ ขั้น เริ่มตั้งแต่ ยังให้ทานไม่ได้ไปจนถึง ทำทาน, ศีล และภาวนาได้ ข้อนี้คือการบำเพ็ญบารมีแบบสาวกภูมิ ส่วนการบำเพ็ญบารมีแบบพุทธภูมิจะมีรายละเอียดลำดับทั้ง ๙ ขั้นอีกแบบ เช่น ในระดับขั้นบารมีพระโพธิสัตว์ก็สามารถบำเพ็ญภาวนาได้ ไม่ต้องรอไปถึงปรมัตถบารมี เป็นต้น ผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับ
๒.บารมีทั้ง ๙ ขั้นของพุทธภูมิ ต้องบำเพ็ญตามระยะเวลาการบำเพ็ญบารมีด้วยหรือไม่ เช่น ประเภทวิริยาธิกะ ปรารถนาในใจ ๒๘ อสงไขยมหากัป ปรารถนาด้วยวาจา ๓๖ อสงไขยมหากัป ปรารถนาด้วยกายและวาจา (หลังได้รับพุทธพยากรณ์) ๑๖ อสงไขยมหากัป และเศษแสนมหากัป ต้องบำเพ็ญบารมีขั้นหยาบ ๙ อสงไขยมหากัป , บารมีขั้นกลาง ๙ อสงไขยมหากัป และบารมีขั้นละเอียด ๙ อสงไขยมหากัป และเศษที่เหลือ จาก ๒๘ อสงไขยมหากัปของช่วงปรารถนาในใจ ขั้นอุปบารมี และปรมัตถบารมี ก็แบ่งช่วงคล้าย ๆ แบบนี้ เป็นต้นครับ ๓.การบำเพ็ญบารมีทั้ง ๙ ขั้นของปัจเจกภูมิ ต่างจากของพุทธภูมิและสาวกภูมิอย่างไรครับ ๔.การบำเพ็ญบารมีทั้ง ๙ ขั้นของ ผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระอัครสาวก/พระอัครสาวิกา พระมหาสาวก หรือเอตตะทัคคะด้านต่าง ๆ แตกต่างจากผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นสาวกปกติอย่างไรครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลูกแม่แดง : 02-10-2022 เมื่อ 09:04 |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลูกแม่แดง ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : ๑.หลวงพ่อเคยเทศน์ถึง บารมี, อุปบารมี และปรมัตถบารมี ที่แต่ละขั้นแบ่งเป็น หยาบ, กลาง, และละเอียด รวมเป็น ๙ ขั้น เริ่มตั้งแต่ ยังให้ทานไม่ได้ไปจนถึง ทำทาน, ศีล และภาวนาได้ ข้อนี้คือการบำเพ็ญบารมีแบบสาวกภูมิ ส่วนการบำเพ็ญบารมีแบบพุทธภูมิจะมีรายละเอียดลำดับทั้ง ๙ ขั้นอีกแบบ เช่น ในระดับขั้นบารมีพระโพธิสัตว์ก็สามารถบำเพ็ญภาวนาได้ ไม่ต้องรอไปถึงปรมัตถบารมี เป็นต้น ผมเข้าใจถูกหรือไม่ครับ
๒.บารมีทั้ง ๙ ขั้นของพุทธภูมิ ต้องบำเพ็ญตามระยะเวลาการบำเพ็ญบารมีด้วยหรือไม่ เช่น ประเภทวิริยาธิกะ ปรารถนาในใจ ๒๘ อสงไขยมหากัป ปรารถนาด้วยวาจา ๓๖ อสงไขยมหากัป ปรารถนาด้วยกายและวาจา (หลังได้รับพุทธพยากรณ์) ๑๖ อสงไขยมหากัป และเศษแสนมหากัป ต้องบำเพ็ญบารมีขั้นหยาบ ๙ อสงไขยมหากัป , บารมีขั้นกลาง ๙ อสงไขยมหากัป และบารมีขั้นละเอียด ๙ อสงไขยมหากัป และเศษที่เหลือ จาก ๒๘ อสงไขยมหากัปของช่วงปรารถนาในใจ ขั้นอุปบารมี และปรมัตถบารมี ก็แบ่งช่วงคล้าย ๆ แบบนี้ เป็นต้นครับ ๓.การบำเพ็ญบารมีทั้ง ๙ ขั้นของปัจเจกภูมิ ต่างจากของพุทธภูมิและสาวกภูมิอย่างไรครับ ๔.การบำเพ็ญบารมีทั้ง ๙ ขั้นของ ผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระอัครสาวก/พระอัครสาวิกา พระมหาสาวก หรือเอตตะทัคคะด้านต่าง ๆ แตกต่างจากผู้ที่บำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นสาวกปกติอย่างไรครับ ? ตอบ : มึงอ่ะ..ฟุ้งซ่าน..!!! |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|