กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-07-2011, 08:25
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default หมั่นทบทวนคำสอนไว้เสมอ

หมั่นทบทวนคำสอนไว้เสมอ แบบสัจจานุโลมิกญาณ


สมเด็จองค์ปฐม ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ มีความสำคัญดังนี้

๑. “มีโอกาสให้ทบทวนอารมณ์ของจิตตนเองไว้ให้ดี ๆ จุดนี้ต้องอาศัยสติ-สัมปชัญญะกำหนดรู้อยู่เสมอ เรื่องเผลอจักต้องมีบ้างเป็นธรรมดา เผลอก็ตั้งต้นใหม่ ๆ ให้ใช้ความเพียรอย่างจริงจัง ถ้ารู้จุดนี้ได้ก็จักได้มรรคผลทรงตัว

๒. “อนึ่ง อย่าไปสนใจเรื่องราวของบุคคลอื่น เรื่องคนออกไปทำบุญนอกวัดเพราะคล้อยตามวาทะของภิกษุบางองค์ จงอย่าใส่ใจ ให้เห็นวิสัยธรรมดา อันเป็นโลกียวิสัย

๓. “ผู้มีศรัทธาจริตสูงแต่ไร้ความไตร่ตรอง (ไร้ปัญญา) ก็ย่อมถูกชักชวนได้ง่ายเป็นธรรมดา อย่าสนใจ เพราะไม่มีประโยชน์ต่อผลของการปฏิบัติ เสียเวลาเปล่า ต้องพยายามตัดอารมณ์คิดที่ไร้ประโยชน์ออกไปจากจิตให้มากที่สุด แล้วเจ้าจักเห็นผลดีในธรรมปฏิบัติเอง

๔. “หมั่นตรวจดูกรรมฐานกองใดที่ใช้อยู่เป็นประจำจิต ให้พิจารณากรรมฐานกองนั้นโดยพิสดาร คือ กำหนดได้ทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกองนั้น ๆ ก็จักก้าวหน้าโดยละเอียดยิ่งขึ้น เพราะจิตชอบ”

๕. “บางวันรู้สึกอารมณ์ฝืด ๆ เพราะจิตเกาะงานมากไป จิตจึงเครียด ให้แยกจิตออกจากงาน อย่าหมกมุ่นกับหน้าที่การงานมากเกินไป หาสายกลางให้พบ ถ้าไม่แยกจิตออกจากงานมาอยู่กับพระธรรม จิตก็เครียด อย่าลืม..ไม่มีใครทำงานทางโลกได้เสร็จจริง เพราะตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ พยายามเอากายทำงานทางโลก แต่เอาจิตทำงานทางธรรม หรือเอางานที่ทำนั่นแหละมาเป็นกรรมฐาน ให้ทำกรรมฐานแบบเบา ๆ นั่นเอง จึงจักเห็นผลของความสุขในการปฏิบัติ

๖. “พยายามเลิกวิสัยคนใจร้อนเสียให้ได้ เพราะเป็นอารมณ์ปฏิฆะ พิจารณาให้ลึกซึ้ง รู้ตนเองว่าใจร้อนก็จงอย่าทิ้งพระ ทั้งพระอานาปาและพระรัตนตรัย

๗. “กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ อะไรจักเกิดขึ้นก็ต้องหาสาเหตุให้พบ พบแล้วระงับได้ก็ให้ระงับ ถ้าตัดได้ก็ให้ตัด พิจารณาด้วยเหตุด้วยผล โดยยึดหลักอริยสัจเป็นตัวระงับ เป็นตัวตัดอารมณ์ที่ทำให้เกิดทุกข์เหล่านั้นทิ้งไป”


๘. “เห็นคนอื่นตาย จงอย่าเผลอคิดว่าเราจักไม่ตาย ให้หมั่นกำหนดรู้เสมอ ๆ ว่า ภาวะของร่างกายมันเป็นอย่างนี้เป็นธรรมดา แต่จักตายในรูปแบบไหน ก็สุดแล้วแต่กฎของกรรมที่ตนเองเคยทำมาในอดีตชาติ ให้ทำจิตพร้อมที่จักไปพระนิพพานตลอดเวลา ในยามปกติไม่จวนตัวก็ตัดสังโยชน์ ๑๐ ไปทางตรง หากจวนตัวก็ไปทางลัดด้วยกำลังของมโนมยิทธิ (รู้ลม-รู้ตาย-รู้นิพพาน) หมั่นซ้อมตายและพร้อมตายไว้ด้วยความไม่ประมาท จิตพร้อมอยู่เสมอที่จักไปพระนิพพาน ไม่ว่าความตายจักมาในรูปแบบไหน ทำให้จิตมันชิน ซักซ้อมเข้าไว้


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๘
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว