กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-07-2009, 11:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,869 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ความเป็นมาของการบวชชี

แม่ชีจัดอยู่อุบาสิกาบริษัท บริษัท ๔ ของพระพุทธศาสนา คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา แม่ชีจัดเป็นอุบาสิกาบริษัท และที่อัศจรรย์ก็คือว่า แม่ชีนั้นเริ่มมีขึ้นที่เมืองไทย

สมัยการสังคายนาครั้งที่ ๓ ประมาณพุทธศักราชสองร้อยเศษ พระเจ้าอโศกมหาราชส่งสมณทูตไปเผยแผ่ศาสนา ๙ สายด้วยกัน สายที่ ๘ มาที่สุวรรณภูมิ โดยมีพระโสณะเถระและพระอุตระเถระเป็นหัวหน้าสาย สมัยนั้นดินแดนสุวรรณภูมิมีพระเถระที่บวชกับพระพุทธเจ้า ได้มาวางรากฐานพระพุทธศาสนาไว้ก่อนแล้ว ก็คือ พระปุณณะเถระ ในพระไตรปิฎกบอกว่าอยู่ที่ สุนาปรันตปะ (บางหลักฐานเขาเชื่อว่า สุนาปรันตปะ อยู่ที่จังหวัดเพชรบุรีค่ะ)

การเผยแผ่พุทธศาสนาในสมัยก่อนเขาไม่ได้ทำส่งเดช เขาต้องศึกษาข้อมูลมาดีพอสมควร ว่าไปที่ไหนแล้วจะมีคนต้อนรับบ้าง ไม่ใช่ว่าไปแล้วไม่มีอะไร ไปเริ่มต้นนับหนึ่งนี่ไม่มีใครไปเผยแผ่หรอก

เมื่อพระโสณะเถระและพระอุตระเถระ พร้อมด้วยคณะมาเยือนที่สุวรรณภูมิ ท่านได้นำเอาพวกพราหมณ์และพวกราชครูปุโรหิตต่าง ๆ มาเผยแผ่วิชาการอื่น ๆ ด้วย แต่ว่าขาดภิกษุณี ในเมื่อไม่มีภิกษุณีที่สามารถเป็นปวัตตินี (พระอุปัชฌาชย์ของภิกษุณี) ถึงเวลาผู้หญิงเลื่อมใสแล้วเกิดอยากบวช

ท่านก็เลยใช้วิธีให้โกนหัว นุ่งขาวแล้วให้รับศีลแปด ไว้รอภิกษุณีที่ตามมาภายหลัง เผื่อภิกษุณีที่ส่งตามมาภายหลังมีอายุพรรษาสมควรเป็นปวัตตินีได้ จะได้บวชให้ แต่คาดว่าต่อให้ส่งภิกษุณีมาก็บวชไม่ไหว เพราะพระพุทธเจ้าท่านตั้งใจไม่ให้มีภิกษุณี

ท่านบอกว่าถ้าผู้หญิงอยู่ในธรรมวินัยนี้แล้ว พระธรรมวินัยจะดำรงอยู่ได้ไม่นาน สมัยนั้นเราอาจจะคิดไม่ถึง แต่สมัยนี้เห็นชัด ขนาดอยู่นอกวัดเขายังลากไปปู้ยี้ปู้ยำในวัด แล้วท่านบังคับว่าภิกษุณีต้องอยู่ในอาวาสที่มีภิกษุด้วย เพราะถ้ามีแต่ผู้หญิงจะโดนเขารังแกได้ง่าย การที่ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นพระอริยเจ้าก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นปุถุชนแล้วเกิดไฟช็อตได้ง่าย..!

ท่านก็เลยห้ามเอาไว้ว่า ปวัตตินี คือ บุคคลที่สามารถเป็นอุปัชฌาย์ได้ต้องมีพรรษาพ้น ๒๐ ไปแล้ว กว่าจะพรรษาที่ ๒๐ นี่ตายแน่..! บวชได้ปีละ ๑ รูปและบวชได้ปีเว้นปี ก็แปลว่าสองปีบวชได้ ๑ รูป สี่ปีบวชได้ ๒ รูปเท่านั้น

เหตุที่ภิกษุณีสูญไปเพราะเหตุนี้ เนื่องจากว่า กว่าจะรอได้อายุพรรษาประการ ๑ รอจนกว่าจะบวชได้ประการ ๑ บางทีพระอุปัชฌาย์ตายก่อน พอดีก็ไม่ต้องบวชเลย

เมื่อเป็นดังนั้น พระโสณะเถระและพระอุตระเถระพร้อมด้วยคณะ ท่านก็เลยให้บวชเป็นชีก่อน แล้วก็ให้อยู่รวมกันในอารามที่เมืองทวาราวดีนั้น ชื่อว่าสำนักประชุมนารี ปัจจุบันยังเป็นสำนักแม่ชีใหญ่อยู่ที่ราชบุรี ใครอยากรู้ว่าสำนักแม่ชีที่สืบเนื่องมาสองพันกว่าปี หน้าตาเป็นอย่างไรก็แวะไปดูได้ สอนมโนมยิทธิด้วย เพราะว่าวัดท่าซุงมีงานเมื่อไร สำนักนี้จะขนคนขนของไปช่วยทันที เขาเลื่อมใสหลวงพ่อวัดท่าซุงมาก

ถาม : สามเณรีคืออะไร ?
ตอบ : สามเณรี คือบุคคลที่ตั้งใจจะบวชเป็นภิกษุณีนี่แหละ แต่อายุยังไม่ถึง ๑๘ ปี ก็บวชเป็นสามเณรีถือศีลแปดไปก่อน
ถ้าอายุถึง ๑๘ ปี ปฏิบัติตนเป็นสิกขมานา คือ ผู้ที่เตรียมบวชเป็นภิกษุณี ๒ ปี โดยการถือศีล ๖ (ศีล ๕ บวกข้อวิกาลโภชนา) ถ้าหากว่าภายในสองปีศีลไม่บกพร่องเลยก็อนุญาตให้บวชได้ แต่ต้องรอพระอุปัชฌาย์ ดังนั้น...ถ้าเราได้ยินสามเณรีหรือสิกขมานาแล้วอาจจะสงสัย ก็ให้เข้าใจว่าเป็นบุคคลที่จัดอยู่ในอุบาสิกาบริษัทอย่างหนึ่ง รอจนกว่าจะบวชเป็นภิกษุณีบริษัทได้

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ไม่มีใครทำลายพุทธศาสนาได้ นอกจากพุทธบริษัท ๔ เท่านั้น ก็แปลว่าถ้าพวกเราไม่ได้รักษาพระพุทธศาสนา ไม่ได้ประพฤติในศีล สมาธิ ปัญญา เราเองนั่นแหละ จะเป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาเสียเอง

คนอื่นเขาทำอะไรไม่ได้หรอก ต่อให้ฆ่าพระหมดทั้งประเทศหลักธรรมก็ยังอยู่ ดังนั้น...บุคคลที่จะทำลายพระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุดก็คือ พุทธบริษัท ๔ ท่านบอกว่าเหมือนกับสนิมเหล็กที่เกิดจากเนื้อในของเหล็ก แล้วกัดทำลายเหล็กนั้นจนกร่อนไป"


เทศน์ที่บ้านอนุสาวรีย์
๔ มิถุนายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว