กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-12-2010, 10:33
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default ลิงติดตัง ยิ่งดิ้นยิ่งรัดตัวเอง

ลิงติดตัง ยิ่งดิ้นยิ่งรัดตัวเอง
ยิ่งเพิ่มทุกข์ (คือ อารมณ์ฟุ้งซ่าน)


สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้

๑. “อย่าทำจิตให้เหลวไหล คอยดูอารมณ์เอาไว้ให้ดี ๆ อารมณ์เซ็งหดหู่เป็นอารมณ์อันตราย และจงอย่าคำนึงถึงอนาคตในแง่ร้าย ให้ระลึกนึกถึงความตายเอาไว้เสมอ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยงแต่ความตายเป็นของเที่ยง อารมณ์เศร้าหมองแม้แต่นิดเดียว ขอให้คิดดูตายแล้วจักไปไหน เข้าถึงพระนิพพานได้สมเจตนาที่ตั้งใจได้หรือไม่”

๒. “เวลานี้ผลของอกุศลกรรมเล่นงานเจ้าหนัก อย่าลืมแม้เหตุเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นกฎของกรรม” (ทรงหมายถึง เพื่อนผู้ร่วมปฏิบัติธรรมกับผม)

๓. “เจ้าจักเห็นได้ว่า การมีขันธ์ ๕ ทรงอยู่นั้น เป็นทุกข์ที่เจ้าต้องประสบกับความทุกข์อยู่ทุกวันนี้ เพราะความมัวเมาในขันธ์ ๕ เป็นเหตุ เห็นร่างกายของเรา เห็นร่างกายของเขา ก็มีความยึดมั่นถือมั่นว่ามีในเรา มีในเขา ทำให้เกิดอารมณ์พอใจและไม่พอใจในร่างกาย ทั้งภายในและภายนอกอยู่ตลอดเวลา เป็นอารมณ์โง่ ๆ ที่หลงอยู่ในร่างกาย และจิตมันก็หลอกอยู่ตลอดเวลาว่า ร่างกายนี้มันทรงตัวอยู่อย่างนั้น มันเสื่อมก็ไม่ยอมรับว่ามันเสื่อม มันแก่ก็ไม่ยอมรับว่ามันแก่ อารมณ์จิตมันหลอกตัวเองว่า ร่างกายนี้ทั้งภายนอกและภายใน จักอยู่กับเราตลอดกาลตลอดสมัย ทั้ง ๆ ที่ความจริงทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เที่ยง ร่างกายเราก็ดี ร่างกายเขาก็ดี มันไม่เที่ยง”

๔. “ตั้งแต่เกิดมานี่ เจ้าก็ประสบกับความพลัดพรากจากร่างกายของบุคคลอื่นก็มากแล้ว ไม่จากกันตอนเป็น ก็จากกันตอนตาย บุคคลใดเล่าที่จักสามารถอยู่ช่วยกิจการงานของเจ้าได้ตลอดกาลตลอดสมัย” (ก็ยอมรับว่า ไม่มี)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-12-2010, 14:22
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๕. “เพราะฉะนั้น จงอย่าหนักใจ เพราะนี่เป็นกฎของกรรม (กฎของธรรมดา) จงปลงสังขารร่างกายทั้งภายในและภายนอกลงเสีย เห็นมันเกิดขึ้นแล้วต้องเสื่อมไปในท่ามกลาง มีความสลายตัวไปในที่สุด กิจการงานก็เช่นกัน ทำได้แต่เฉพาะที่มีขันธ์ ๕ อยู่เท่านั้น ถ้าหมดร่างกายเจ้ายังปรารถนาอยากจักกลับมาทำกิจการงานเช่นนี้อีกหรือ” (ก็ตอบว่า ไม่ปรารถนา)

๖. “ก็จงตั้งใจไว้ว่า ภาระของร่างกายอันมีกิจการงานอย่างนี้เป็นต้น ถ้าหากข้าพเจ้าตายจากชาตินี้แล้ว จักไม่ขอกลับมามีร่างกายอีกต่อไป คิดเอาไว้อย่างนี้ให้เป็นประจำตั้งจิตตรงพระนิพพานเอาไว้เสมอ ๆ จักทำได้ไหม” (ก็รับว่า ทำได้)

๗. “อย่าเพิ่งเบื่อหน่ายในกิจการงาน ตราบใดที่ยังมีร่างกายทรงอยู่ ก็จงทำงานไปตามหน้าที่ อย่าให้บกพร่อง คำว่าไม่บกพร่องในที่นี้ คือ ตั้งใจทำเป็นชาติสุดท้าย รักษากำลังใจให้เต็ม เพราะกิจการงานทุกอย่าง เจ้าจงทำโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ นอกจากพระนิพพานจุดเดียว”
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-12-2010, 08:41
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๘. “คำว่ากิจการงาน เมื่อทำแล้ว คำว่าไม่เหน็ดเหนื่อยนั้นย่อมไม่มี แต่คนฉลาดเขาจักนำความเหน็ดเหนื่อยในการทำกิจการงานมาพิจารณาเข้าหาไตรลักษณ์ เข้าหาอริยสัจ หาประโยชน์จากการงาน เป็นวิปัสสนากรรมฐานได้ตลอดเวลาเรียกว่า รู้จักหาผลกำไรจากกิจการงาน” (ก็ขออาราธนาบารมีของพระองค์ ได้โปรดเมตตาคุมจิตให้คิดได้ตามนี้ด้วยเถิด)

๙. “ก่อนอื่นเจ้าจักต้องกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ควบคำภาวนาไว้เสมอ ๆ เป็นการระงับอารมณ์ฟุ้งซ่านไว้ก่อน เจริญอานาปานุสติให้จิตทรงตัวมีกำลังเข้าไว้ แล้วหมั่นกำหนดภาพพระเข้าไว้ อย่าทิ้งภาพพระท่าน จักเป็นองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ ทำจุดนี้ให้ได้ก่อน แล้วพระท่านก็จักมาสงเคราะห์เจ้าเองตามลำดับ อย่าเหลวไหล เที่ยวปล่อยอารมณ์ให้ฟุ้งซ่านตามเหตุที่เกิดผ่านไปแล้ว (เป็นอดีตแล้ว) จักขาดทุนเสียเปล่า ๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ยังแก้ไขอันใดไม่ได้ ก็จงอย่าเอาจิตไปผูกพันให้มากนัก เหตุเหล่านั้นเป็นความทุกข์ แต่การทรงจิตให้อยู่ในกรรมฐานนั้น เป็นเหตุแห่งการพ้นทุกข์”

๑๐. “ก็สุดแต่เจ้าจักเลือกเอา จักปฏิบัติทางไหนดี หวังว่าไม่ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งหาความโง่เข้าใส่ตัวนะเพราะเจ้าไม่เห็นธรรมดา ไม่ยอมรับความไม่เที่ยง จิตก็เลยทุกข์เพราะความไม่เที่ยงนั้น พิจารณาให้ดี ๆ วางอารมณ์จิตเสียใหม่ อย่าให้ขาดทุน คิดให้เป็น ทุกอย่างหนีกฏธรรมดาไปไม่พ้น ตั้งอารมณ์เสียใหม่ให้ได้ตามที่แนะนำมาแล้ว แล้วเจ้าจักบรรเทาทุกข์ทั้งปวงลงได้มาก”
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 30-12-2010, 09:49
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ธัมมวิจัยจากพระธรรมคำสอนเรื่องนี้ ขอแยกเป็นข้อ ๆ เพื่อจดจำได้ง่าย ดังนี้

๑. “อารมณ์ฟุ้งซ่านหรือฟุ้งเลว ออกนอกโอวาทปาฏิโมกข์ ๓ ข้อ คือ ให้ละกรรมชั่ว ให้ทำแต่กรรมดี ให้ทำจิตให้ผ่องใสอยู่เสมอ หากขัดแม้ข้อใดข้อหนึ่ง จัดเป็นฟุ้งเลวทั้งสิ้น”

๒. “การมีร่างกายหรือขันธ์ ๕ เป็นทุกข์อยู่แล้วด้วยกันทุกคน แต่โง่ไม่เห็น เช่น
  • ๒.๑ ภาราหะเว ปัญจักขันธา ภาระที่มีอยู่กับร่างกายเป็นภาระอันหนักยิ่ง มีภาระที่จะต้องเลี้ยงดูมันตลอดเวลา เหมือนคนเลี้ยงลูกอ่อน หรือคนติดคุกที่แสนจะสกปรกและไม่เที่ยง

  • ๒.๒ สัทธรรม ๕ คือ เกิดมาแล้วต้องแก่ ต้องป่วย ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบ มีความปรารถนาไม่สมหวัง และในที่สุดก็ต้องตาย ธรรมทั้ง ๕ ประการนี้ล้วนแต่เป็นทุกข์

  • ๒.๓ พระธรรมท่านแสดงธรรมให้เราเห็นตลอดเวลา

    ก) เรื่องทุกข์ เพราะความไม่เที่ยงของขันธ์ ๕ หรือร่างกายทั้งภายนอก คือ ร่างกายคนอื่น และทั้งภายใน คือ ร่างกายตนเอง

    ข) เรื่องไตรลักษณ์ คน สัตว์ วัตถุธาตุใด ๆ ในโลกมนุษย์ แม้เทวโลกและพรหมโลก และขันธโลก (ร่างกายหรือขันธ์ ๕) ก็ตกอยู่ภายใต้กฏของไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง ใครยึดถือก็เป็นทุกข์ เพราะในที่สุดล้วนเป็นอนัตตา หรือตาย หรือพัง หรือสลายตัวไปในที่สุด เหมือนกับจริง ๆ แล้วมันไม่มีตัวตนนั่นเอง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 04-01-2011, 09:09
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๓. คนฉลาดเมื่อพบความจริง หรืออริยสัจที่พระองค์ทรงตรัสไว้ ก็สามารถจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามากระทบทางอายตนะสัมผัสทั้งหก มาเป็นพระธรรมได้หมด โดยการพิจารณาเข้าหาทุกข์ หาไตรลักษณ์ หาวิปัสสนาญาณ ๙ โดยใช้อริยสัจ (กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ) เป็นหลักสำคัญในการแก้ปัญหาได้ทั้งทางโลกและทางธรรม

๔. หลักสำคัญในการปฏิบัติ คือ อานาปานุสติ ซึ่งเป็นฐานใหญ่ที่ทำให้จิตมีสติ สงบเป็นสุข (มีสมาธิหรือฌาน) และเกิดปัญญา พิจารณาตัดกิเลสให้ขาดได้ในที่สุด

๕. ทรงเน้นอานาปานุสติควบคำภาวนา เพื่อระงับอารมณ์ฟุ้งซ่าน และกำหนดภาพพระไว้เสมอ ด้วยความไม่ประมาทในความตาย จะคิด จะทำอะไร ให้คิดว่าอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายทั้งสิ้น คือ มีอานาปาควบมรณา ควบอุปสมานุสติไว้เสมอ หรือรู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน เป็นอุบายสั้น ๆ ย่อ ๆ แต่เป็นทางเข้าสู่พระนิพพานได้ง่าย ๆ

๖. ไม่มีใครสามารถทำงานทางโลกเสร็จ เพราะงานทางโลกเป็นไตรลักษณ์ คนฉลาดเขาคิดว่าขอทำเป็นครั้งสุดท้าย หากกายพังก็ขอไปพระนิพพานจุดเดียว

๗. จิตเป็นทุกข์เพราะไม่ยอมรับกฎของกรรม ไม่เห็นตัวธรรมดาของโลกภายนอก (กายผู้อื่น) ว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จิตที่ฟุ้งซ่านยิ่งดิ้นก็ยิ่งทุกข์ เหมือนกับลิงติดตัง


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:46



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว