ดูแบบคำตอบเดียว
  #119  
เก่า 17-02-2011, 11:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,356 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยเป็นฆราวาส ก่อนที่จะถือศีล ๘ อย่างจริงจัง อาตมาจะรักษาศีล ๘ ถวายในหลวงช่วงวันที่ ๕ ธันวาคม เป็นระยะเวลา ๓ วัน เพิ่งจะมาถือศีล ๘ อย่างเป็นหลักเป็นฐานก่อนบวชแค่ประมาณ ๒ ปีเท่านั้น เป็นการลดความอ้วนได้เด็ดขาด แค่ ๑ เดือนเท่านั้น น้ำหนักอาตมาหายไป ๙ กิโลครึ่ง ไม่น่าเชื่อจากน้ำหนัก ๖๓.๕ กิโลกรัม เหลือแค่ ๕๔ กิโลกรัม หลังจากบวชแล้วผ่านไป ๒๐ ปี ได้น้ำหนักคืนมา ๒ กิโลกรัม..!

ในเรื่องฉันอาหารในยามวิกาล สำหรับพระแล้ว ถ้าหลังปฐมยาม (หลัง ๓ ทุ่มไปแล้ว) นอกจากน้ำเปล่ากับไม้สีฟันแล้ว สิ่งอื่นห้ามล่วงทวารปากเข้าไป บาลีใช้คำว่า "มุขะ ทวารัง" ก็คือ ห้ามผ่านปากเข้าไป ถ้าเข้าไปปรับอาบัติว่าฉันอาหารในยามวิกาล ถือว่าศีลขาด

ต้องรอจนกว่าจะได้อรุณ รอแสงเงินแสงทอง แต่จริง ๆ แล้วควรเป็น "แสงทองแสงเงิน" เพราะฟ้าจะเหลืองขึ้นมาก่อน (สีทอง) หลังจากที่ฟ้าเปลี่ยนจากแดงเป็นขาว นั่นแหละคือแสงเงิน เพราะฉะนั้น..แสงทองจะมาก่อนแสงเงิน

ถ้าแสงเงินมา แปลว่าสว่างแล้ว ที่โบราณบอกว่า แบมือออกเห็นลายมือตนเองแล้ว หรือไม่ก็ มองยอดไม้แล้วสามารถที่จะแยกแยะใบอ่อนใบแก่ได้ ถ้าอย่างนั้นจึงถือว่าได้อรุณ เริ่มเป็นวันใหม่ จึงเริ่มฉันอาหารได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2011 เมื่อ 12:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา