ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 22-01-2018, 09:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่านิวรณ์ทั้ง ๕ เกิดขึ้นในใจของท่านทั้งหลาย ก็แปลว่าความชั่วได้เกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องหาทางระงับยับยั้ง ขับไล่ออกไปจากใจของเราให้ได้

วิธีที่จะระงับยับยั้ง ขับไล่นิวรณ์ออกไปจากใจของเราได้ ก็คือให้ความรู้สึกของเราอยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่กับอานาปานสติ หายใจเข้าพร้อมกับคำภาวนา หายใจออกพร้อมกับคำภาวนา ถ้าสภาพจิตของเราไม่หลุดไปจากตรงนี้ นิวรณ์ทั้งหลายก็เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ถ้าสภาพจิตหลุดออกไปเมื่อไร นิวรณ์ทั้งหลายก็จะเกาะกินเราทันที

ก็แปลว่าในเบื้องต้นของการชำระจิตใจให้สะอาดนั้น เราจะละทิ้งลมหายใจเข้าออกไม่ได้ เพราะว่าเป็นตัวสร้างกำลัง ช่วยกางกั้นไม่ให้กิเลสเข้ามาเกาะกินใจของเราได้ นอกจากนั้นยังเป็นพื้นฐานของปัญญาที่จะช่วยชำระสะสางกิเลสต่าง ๆ ในใจของเราอีกด้วย

ในส่วนของกิเลสที่ละเอียดยิ่งขึ้นไป ก็ต้องพิจารณาจากสังโยชน์ทั้ง ๑๐ ก็คือ สักกายทิฏฐิ เรามีความเห็นว่า ร่างกายนี้เป็นตัวเราของเราหรือไม่ ? วิจิกิจฉา เรามีความลังเลสงสัยไม่มั่นใจในคุณพระรัตนตรัยหรือไม่ ? สีลัพพตปรามาส เรารักษาศีลบ้าง ทำศีลขาดบ้างหรือไม่ ?

กามฉันทะ เรามีความพอใจในเรื่องระหว่างเพศ จนตัดไม่ได้ละไม่ได้หรือไม่ ? ปฏิฆะ กำลังใจของเราเมื่อกระทบกับรูป เสียง กลิ่น รสสัมผัส เราเกิดความไม่ยินดี ไม่พอใจได้ง่ายหรือไม่ ? รูปราคะ กำลังใจของเรายึดมั่นในสมาธิภาวนาของเรา โดยที่ไม่ได้เห็นว่าสมาธิภาวนาเป็นเพียงเครื่องพาเราก้าวข้ามกองทุกข์หรือไม่ ? อรูปราคะ กำลังในของเรายึดมั่นในอรูปฌานหรือในส่วนของฌานไร้รูปทั้งหลาย จนกระทั่งไม่ใส่ใจถึงทางพ้นทุกข์ไปสู่พระนิพพานหรือไม่ ?

มานะ เรามีความถือตัวถือตน แบกอยู่เต็มตัวหรือไม่ ? หลายคนแบกมานะอยู่โดยที่ไม่รู้ตัวก็มี แบกมานะอยู่ประเภทที่ว่า ถ้าครูบาอาจารย์ของฉันต้องคนนี้เท่านั้น คนอื่นไม่ใช่ หรือถ้าฉันจะเรียกหลวงพ่อ ต้องหลวงพ่อของฉันเท่านั้น พระรูปอื่นไม่ใช่ ลักษณะนี้เป็นการแบกมานะ คือความถือตัวถือตนอย่างเต็มเปี่ยม

อุทธัจจะ มีความฟุ้งซ่านอยู่หรือไม่ ? แม้กระทั่งฟุ้งในการทำความดีก็จัดเป็นความฟุ้งซ่านเช่นกัน อวิชชา ยังเป็นผู้ยินดียินร้ายในสิ่งต่าง ๆ โดยง่ายหรือไม่ ? ถ้ายินดีก็คือราคะ ยินร้ายก็คือโทสะ แปลว่าเราเสียท่าทั้งขึ้นทั้งล่อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2018 เมื่อ 09:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา