ความอดทนพากเพียรเพื่อให้ได้ธรรมมาสอนศิษย์ของหลวงปู่มั่น จึงเป็นแบบอย่างและกำลังใจแก่พระกรรมฐานรุ่นต่อ ๆ ไปได้อย่างไม่มีวันจืดจาง ย้อนมากล่าวถึงความจริงจังในการปฏิบัติของท่านเอง แม้จะทุกข์แสนทุกข์ แม้จะลำบากแทบเป็นแทบตาย บางครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ความที่จิตมีความเจริญขึ้น ๆ ท่านจึงยอมอดยอมทน.. ได้ความทุกข์ยากหลังจากการออกวิเวก
ในคราวหนึ่งเมื่อลงมาจากเขา พอกลับมาถึงวัดป่าบ้านหนองผือก็เข้ากราบหลวงปู่มั่น รูปลักษณ์ของท่านตอนนั้น ปรากฏว่ามีเนื้อตัวซีดเหลืองเหมือนทาขมิ้น ปานผู้ป่วยเป็นโรคดีซ่าน ทั้งร่างกายก็ซูบผอมยังเหลือแต่หนังห่อกระดูก จากเดิมคนหนุ่มอายุ ๓๐ กว่ากลับดูเหมือนคนแก่คนเฒ่า
หลวงปู่มั่นมองเห็นลูกศิษย์ในคราวนี้ ถึงกับตกตะลึงขนาดอุทานว่า
“โฮ้!.. ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ ?”
แต่ลูกศิษย์ก็ยังคงนิ่งอยู่ไม่ได้ตอบอะไร หลวงปู่มั่นเกรงศิษย์จะตกใจและเสียกำลังใจ ก็กลับพูดให้กำลังใจในทันทีนั้นว่า “มันต้องอย่างนี้ซิ จึงเรียกว่านักรบ”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-10-2013 เมื่อ 10:32
|