ดูแบบคำตอบเดียว
  #60  
เก่า 08-07-2013, 14:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,328 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลับแบบรู้ตัวเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ตัวหลับ แต่สภาพจิตตื่นอยู่

ถาม : อยู่ในฌานระดับไหน ?
ตอบ : อย่างน้อยต้องเป็นระดับปฐมฌานละเอียด เท่ากับหลับนั่นแหละ..เพียงแต่สภาพจิตไม่ได้หลับด้วย

ถาม : ฌานลึกกว่านี้ไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ลึกกว่านี้ไม่ได้ ได้..แต่ต่ำสุดต้องเป็นปฐมฌานละเอียด ตอนเราหลับมักจะเผลอสติ กิเลสจะกินเราตอนหลับได้ ดังนั้น...ควรพยายามประคองสติซักซ้อมให้มีความคล่องตัวในฌานไว้ พอซ้อมทำไปจนคล่องตัวมาก ๆ คราวนี้ไม่ต้องเสียเวลาประคอง จะกำหนดให้อยู่ระดับนั้นได้เลย

การฝึกเพื่อให้สภาพจิตอยู่ในสภาพของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จะลำบากที่สุดในช่วงแรกที่ต้องการจะให้ตื่นกับหลับแล้วมีสติรู้เท่ากัน เพราะว่าถ้าเผลอเมื่อไรจะตัดหลับเลย อาตมาเคยตามดูจิตตัวเอง เหมือนกับเปลวเทียนที่ค่อย ๆ หรี่ลง ๆ ๆ แล้วท้ายสุดจะเหลืออยู่นิดเดียว ถ้าเราสามารถหยุดไว้ตรงนั้นได้ ก็จะตื่นอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่ถ้าหยุดไว้ไม่ได้ เผลอนิดเดียวก็จะตัดหลับไปเลย

ตอนช่วงที่ฝึกอยู่ ซักซ้อมอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะรักษาเอาไว้ได้ บางคนตอนกลางวันประคับประคองรักษาศีล กาย วาจา ใจดีมาก พอเผลอหลับตอนกลางคืน บางทีดิ้นไปทั้งศาลาเลย กิเลสไปตีตอนหลับ

สภาพจิตอยู่กับรัก โลภ โกรธ หลงนั่นแหละ แต่สติไม่รับรู้ ก็เลยปล่อยให้ปรุงฟุ้งซ่านตามสบาย อย่างที่ปริศนาธรรมบอกว่า "กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นเปลว" ประเภทลุกไหม้เป็นราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ก็แปลว่ากิเลสกินใจเราทั้งหลับทั้งตื่น ถ้าสภาพจิตหลับกับตื่นรู้เท่ากัน เราก็ระวังกิเลสไม่ให้กินใจเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2013 เมื่อ 17:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา