บางท่านก็สอนลูกสอนหลานว่า “เกิดอะไรขึ้นให้นับ ๑-๑๐ นะลูก ไม่ก็นับ ๑-๑๐๐ เอาไว้” นั่นก็คือลักษณะของการตั้งสติเสียก่อน กลับมาอยู่กับอารมณ์ปัจจุบันของเรา นับ ๑-๑๐ อาจจะตามช่วงลมหายใจเข้าออกก็ได้ นับ ๑-๑๐๐ บางทีก็รู้สึกว่านานไป แต่ก็ช่วยให้กำลังใจของเราเยือกเย็นลงได้มาก แปลว่าโบราณนั้นรู้จักการนำเอาหลักปฏิบัติกรรมฐานมาใช้ในชีวิตจริง แต่เราในปัจจุบันไม่ค่อยรู้จักนำหลักเหล่านี้มาใช้ในชีวิตของเรา
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ผลการปฏิบัติธรรมของเราจึงไม่บังเกิดผลอย่างแท้จริง เพราะไม่เคยเอาไปทดลองใช้ หรือว่าเอาไปใช้ก็แพ้ราบกลับมา ดังที่ได้กล่าวเมื่อครู่นี้ว่า สาเหตุใหญ่ก็คือเราขาดธัมมวิจยะ ไม่รู้ว่าตอนนี้สมาธิของเราดี กำลังใจของเราดีนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร ไม่รู้ว่าตอนนี้สมาธิของเราตก กำลังใจของเราตกนั้นเป็นเพราะสาเหตุอะไร
ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะรู้สาเหตุ ในเรื่องของความดีเราก็ไม่สามารถสร้างเหตุขึ้นมาได้ ในเมื่อสร้างเหตุไม่ได้ผลดีก็ไม่เกิด เราก็ต้องมาลำบากเดือดร้อนกับสภาพจิตที่ฟุ้งซ่านไปใน รัก โลภ โกรธ หลง ถ้าไม่รู้ว่าสมาธิของเราตกเพราะสาเหตุอะไร ไม่รู้ว่าความชั่วเข้ามาตอนไหน เราก็ไม่สามารถที่จะป้องกันใจของเราไม่ให้ความชั่วเล็ดลอดเข้ามาได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-06-2016 เมื่อ 20:21
|