ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 01-06-2010, 15:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าพระองค์ท่านหมดกำลัง ต้องนั่งพัก เพราะตอนที่รับบิณฑบาตจากนายจุนทะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเกิดปักขันธิกาพาธ คือถ่ายเป็นโลหิต กำลังท่านหมดไปเหมือนกับน้ำที่เทลงในตะกร้า คือ รั่วหมดจนไม่มีอะไรเหลือ..!

พระองค์ท่านเสด็จต่อไปไม่ไหว และกระหายน้ำมาก ขอให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาให้เสวยหน่อย พระอานนท์ถือบาตรเดินไป ปรากฏว่าเกวียน ๕๐๐ เล่ม เพิ่งจะลุยข้ามแม่น้ำไปหยก ๆ น้ำขุ่นคลั่กเลย ท่านจึงย้อนกลับมา กราบทูลว่าไม่มีน้ำ

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “ไปเถอะ..น้ำนั้นมีอยู่..” พระอานนท์ถึงจะเห็นอยู่คาตา แต่ความที่เชื่อว่า พระพุทธเจ้าตรัสคำไหนไม่เคยผิด จึงย้อนกลับไปใหม่ ปรากฏว่าน้ำนั้นใสเหมือนเดิม ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเวลาชั่วเดินมาและเดินกลับแค่นั้นเอง

พระพุทธเจ้าเมื่อได้เสวยน้ำแล้ว พระองค์ก็ตรัสบอกว่า ในอดีตชาติ มีอยู่ชาติหนึ่ง พระองค์ท่านเป็นลูกชาวนา ถึงเวลาพ่อไถนาเสร็จ ปลดควายออกจากคันไถได้ ก็ให้พระองค์ท่านพาควายไปกินน้ำ

ควายที่กระหายมาทั้งวัน เจอน้ำก็รี่เข้าใส่ พระองค์ท่านเห็นว่า น้ำที่ควายจะกินนั้นขุ่น จึงดึงควายไปอีกทางหนึ่งที่เป็นน้ำใส แค่ทำให้ควายกินน้ำช้าไปนิดเดียวเท่านั้น ถึงเวลาก่อนที่พระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน กรรมนี้ยังตามมาให้ผลได้

เราจะเห็นว่า แม้กรรมเพียงเล็กน้อยโดยเจตนาดี ก็ยังส่งผล แล้วไม่ใช่ส่งผลอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ แต่ส่งผลขนาดพระพุทธเจ้าเองยังต้องรับ ผมถึงได้บอกว่า อย่าประมาทว่ากรรมนั้นเล็กน้อยแล้วเราไปทำ แล้วก็อย่าประมาทว่าบุญแม้เล็กน้อยแล้วเราไม่ทำ

ทาน ศีล ภาวนา เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา*** ส่วนบุญอื่นอีก ๗ อย่างนั้น เป็นส่วนประกอบ แม้ว่ามีอานิสงส์มาก แต่ไม่มากเท่า ๓ อย่างนี้

ฉะนั้น ถ้าหากว่าเรามีกรรมหนัก นอกจากจะใช้วิธีทดแทน เช่น ปล่อยชีวิตสัตว์แล้ว ยังต้องใช้กำลังของ ทาน ศีล ภาวนา ช่วยให้บรรเทาเบาบางลงด้วย แม้ว่าจะไม่หายทีเดียว แต่ก็เบาลงไปบ้าง


หมายเหตุ :

*** ที.ปา. ๑๑/๒๒๘/๒๓๐ : องฺ.อฏฺฐก. ๒๓/๑๒๖/๒๔๕ : ขุ.อิติ. ๒๕/๒๓๘/๒๗๐
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2010 เมื่อ 16:29
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา